ขอคำปรึกษาเรื่องตรวจรับบ้านค่ะ

เราวางเงินมัดจำซื้อบ้านกับโครงการ  ตอนตรวจรับบ้าน Consultant พบปัญหาหลายจุด จุดหลักๆได้แก่
     - น้ำซึมจากระเบียงชั้นสองลงหลังคาชั้น 1 บริเวณโรงจอดรถ
     - ปูนฉาบหลุดร่อนด้านนอกบ้านและรั้วบ้าน
     - กระเบื้องพื้นบ้านและกระเบื้องห้องน้ำร่อน (เคาะแล้วมีเสียงโปร่ง)
     - น้ำซึมที่ขอบหน้าต่าง
     - เบรกเกอร์สลับตำแหน่ง
จึงได้ให้โครงการแก้ตามจุดต่างๆที่ตรวจพบ. หลังจากนั้นโครงการโทรมาแจ้งว่าเแก้ไขงานเรียบร้อยแล้วเราจึงเข้าไปตรวจเองก่อนว่าได้แก้ตามจุดที่บกพร่องหรือไม่ ปรากฎว่าเกือบทั้งหมดไม่ได้แก้ไขอะไรเลย กระเบื้องก็มีเสียงโปร่งเหมือนเดิม  ที่เห็นได้ชัดว่าแก้คือส่วนของปูนฉาบที่ร่อน ส่วนน้ำซึมเราไม่ได้ตรวจเนื่องจาก  consultant จะมาตรวจรอบสองอยู่แล้ว. เราจึงแจ้งให้โครงการแก้ไขตามจุดที่ยังไม่แก้ สรุปว่าเข้าไปตรวจเอง 5 ครั้งก็ยังเป็นจุดเดิมๆที่ไม่ได้แก้ไข
        เรารู้สึกว่าโครงการไม่จริงใจในการแก้ปัญหาจึงโทรสอบถามเรื่องขอคืนบ้านและเงินมัดจำคืน ทางโคงการแจ้งว่าจะไม่คืนเงินมัดจำ เราจึงทางให้โครงการแก้ไขบ้านให้เรียบร้อย
        สุดท้ายเราตัดสินใจให้ consultant เข้าตรวจรอบที่2 (ตามสัญญาคือตรวจสองรอบ) ปรากฎว่ายังมีน้ำซึมขอบหน้าต่าง พื้นลามิเนตยวบ เบรกเกอร์ก็สลับตำแหน่งเหมือนเดิม กระจกช่องระบายอากาศบิ่นเป็นรอยแตกนิดหน่อยตรงมุม จึงให้ทางโครงการแก้ให้เสร็จ  และหลังจากเราทดลองฉีดน้ำเองก็ไม่พบน้ำซึมตามขอบหน้าต่างแล้ว จึงนัด Consultant เข้าตรวจรอบที่ 3 ในสองวันถัดมาปรากฎว่ายังมีน้ำซึมขอบหน้าต่าง(ตรวจเองไม่เจอ) พบกระเบื้องในห้องน้ำแผ่นใหม่ร่อนที่ไม่ใช่แผ่นเดิม
      
          ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างตรวจบ้านคือ
         1. พบกระเบื้องร่อนในจุดอื่นๆที่ไม่ใช่แผ่นเดิม ล่าสุดทางโครงการจะไม่แก้ให้เพราะไม่ใช่แผ่นเดิมที่ตรวจพบในครั้งแรก และแจ้งว่าให้แจ้งซ่อมหลังจากเซนต์รับบ้านแล้ว เรามีสิทธิ์ให้โครงการแก้ให้เรียบร้อยก่อนเซ็นต์รับบ้านไหมคะ
         2. น้ำยังซึมที่ขอบหน้าต่าง ทางโครงการบอกว่ามันก็ซึมได้อยู่แล้วเวลาฝนตกจริงๆก็ไม่เจอ เพราะเอาน้ำไปฉีดมันจึงซึม (เหมือนเค้าว่าเราว่าเรื่องมาก) เรารู้สึกไม่ไหวกับโครงการที่ไม่แก้ให้เสร็จเรียบร้อย มีวิธีคุยกับโครงการยังไงบ้างคะ
         3. การตรวจบ้านโดยใช้ Consultant รอบที่ 3 คนละบริษัทกับของเดิมเกิดปัญหามาก คือตอนแรกโครงการจะไม่ยอมให้ตรวจ  ทั้งๆที่เราโทรแจ้งโครงการก่อนแล้วว่าคนละบริษัทกัน ทางโครงการก็ไม่ได้ว่าอะไร  วันที่ตรวจเราก็บอกไปว่าถ้าตรวจเจอรายการอื่นๆ ที่นอกเหนือจากรายการเดิมทางโครงการไม่ต้องแก้ไขอะไร  เราจะแก้เองให้แก้เฉพาะจุดเดิมที่รายการซ้ำ เอกสารเราจะเซ็นต์เป็นหลักฐานให้ว่าไม่ต้องแก้ถ้าเจอจุดอื่นๆ จะให้แก้เฉพาะจุดเดิม (เพราะเราก็จะรีบรับบ้าน อีกอย่างเราอยากมีความสบายใจว่าพบอะไรเพิ่มเติม เราจะทำเองเพราะรู้ว่าทางโครงการมีปัญหาเรื่องแก้ไขบ้านเท่าที่เราตรวจบ้านผ่านๆ มาก็พอจะรู้ว่าเค้าแก้ได้ไม่จริง) ก่อนจะได้ตรวจบ้านเถียงกันอยู่นาน มีทั้งกิริยาวาจาคำพูดกระทบกระแทกสารพัด ช่างโครงการมาว่าเราว่าบ้านตัวเองแต่ต้องให้คนอื่นมาตรวจบ้าง ตรวจบ้านเยอะตรวจบ่อยบ้าง เอาวิศวะส่วนตัวเข้ามาบ้าง (คนที่มาตรวจพร้อมเราเป้นน้องแท้ๆ มาพร้อมพ่อกับแม่ และวันที่เข้ามาตรวจไม่ได้ทำไรเลยแค่เดินดู กับคุยกับช่าง เพราะบ้านไม่เสร็จกำลังพื้นปูลามิเนตอยุ่เลย ทั้งๆที่โครงการโทรมาเร่งให้เราไปตรวจเองแท้ๆ และทุกครั้งที่ตรวจก็เจอแต่ปัญหาเดิมๆที่ไม่แก้ให้เรียบร้อยทั้งนั้น) สรุปทางโครงการจะยอมให้consultant ตรวจเฉพาะรายการเดิม เราโชคดีที่ได้ consultant ใจดีและมีใจบริการจริง(บริษัท QCM) เค้าเห็นว่าเกิดปัญหาเถียงกันใหญ่โตจึงยอมตรวจตามจุดที่เราชี้ให้ ซึ่งปกติ consultant คนละบริษัทกันเค้าจะไม่ทำงานแบบก้าวก่ายกัน อยากรู้ว่าจริงๆเรามีสิทธิที่จะใช้บริการตรวจรับบ้านของบริษัทอื่นๆโดยตรวจครบทั้งหมดใหม่ไหมคะ โดยเราจะแก้ไขเฉพาะจุดเดิมที่พบปัญหาซ้ำ
             ** สาเหตุที่ไม่ใช้ consult เจ้าเดิมขอเก็บไว้เป็นเหตุผลส่วนตัวนะคะ ไม่อยากให้ discredit กัน มันมีเรื่องค่าตรวจและความคุ้มค่าที่ตัดสินใจเปลี่ยนบริษัท**
       4.ทางบริษัทส่งหนังสือมาแจ้งให้โอนภายในวันที่กำหนด หากไม่โอนภายในวันที่กำหนดจะให้เราจ่ายค่าส่วนกลางเอง (ตามโปรโมชั่นที่ซื้อคือฟรีค่าส่วนกลางสองปี) บริษัทมีสิทธิ์ที่จะทำแบบนี้ได้จริงไหมคะ
       5. มีวิธีอื่นๆ ที่พอเป็นทางออกได้ไหมคะ เรารู้สึกไม่อยากได้บ้านและไม่ปลอดภัยจริงๆ กับประสบการณ์ส่วนตัวที่พบเจอมาในโครงการนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่