สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
สำหรับดิฉัน ในความสัมพันธ์ เซ็กส์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
การที่ดิฉันจะต้องไปแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง แล้วจะต้องมีอะไรกับผู้ชายคนนั้นไปตลอดชีวิต คนเดียว อันนี้ดิฉันทำได้
แต่การที่ดิฉันยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ว่าเรื่องบนเตียงของผู้ชายที่ดิฉันจะนำมาเป็นสามี มันเป็นอย่างไร เขาสุขภาพดีหรือไม่
ผู้ชายบางคนล่มปากอ่าว เห็นแก่ตัวบนเตียง หรือหนักกว่านั้น บางคนมีจิตวิตถารกับเด็ก ซาดิส ฯลฯ
ถ้าดิฉันไปแต่งโดยไม่รู้อะไรเลย แล้วจะต้องมาให้ดิฉันทนกับอะไรแบบนี้ไปตลอดชีวิต ดิฉันคิดว่ามันสยองขวัญมากค่ะ
แต่เมื่อดิฉันอ่านสิ่งที่คุณพิมพ์ ก็รู้สึกสงสาร และเห็นใจคุณนะ คุณไม่ใช่ผู้หญิงซิงๆคนแรก ที่ต้องเจอสถานการณ์แบบนี้
เพราะมันก็ไม่มีอะไรยืนยันว่า การเก็บซิงไว้จนถึงหลังแต่งงาน จะทำให้สามีของคุณ "ไม่นอกใจ" และเห็นค่าในตัวคุณ
วัฒนธรรมไทยที่มีความรักนวลสงวนตัว สวยงาม อันนี้ดิฉันก็ เข้าใจ และเคารพในภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ
แต่อย่าลืมว่าเราก็ยังมีวัฒนธรรมที่กดขี่ผู้หญิง อาทิเช่นท่านขุนฯ "หลายเมีย" ผัวขายเมียเป็นทาส เห็นได้ตามหนังไทย
เรายังมี พระเครื่องขุนแผน อาบอบนวด ไซด์ไลน์ เต็มท้องถนน พร้อมๆไปกับค่านิยม "รักนวลสงวนตัว"
โรคติดต่ออย่างเอดส์ เราก็ไม่สามารถยืนยันได้อีกว่า สามีกลับบ้านจะไม่นำ "เชื้อเอดส์" มาติดภรรยา
สุดท้าย ดิฉันขออวยพรให้คุณมีความสุขค่ะ คุณคิดถูกแล้วค่ะที่ไม่คิดโทษตัวเอง
เพราะคุณยังมี "คุณค่า" ความเป็นคน เหมือนผู้หญิงซิง และไม่ซิงทุกประการ
ธรรมชาติสร้างผู้หญิงมาให้มีความสุขทางเพศได้ค่ะ
--ขอเพิ่มหน่อยค่ะ ก่อนที่ดิฉันจะโดนด่าไปมากกว่านี้
ที่ดิฉันพิมพ์มา ดิฉันไม่ได้โกรธเกลียดใคร รวมถึงไม่ได้มาต่อว่า หรือรณรงค์ให้ผู้หญิงทุกคนในกระทู้นี้ อย่าเก็บความบริสุทธิ์ไว้
ถ้าผู้หญิงคนไหนอยากจะเดินทางนี้ อยากจะบริสุทธิ์ ดิฉันก็ไม่ห้าม มันเป็นชีวิตและทางเลือกของคุณ
แต่ในโลกนี้มีประชากรพันล้านคน ร้อยพ่อพันแม่ คุณต้องเปิดพื้นที่ให้คนที่คิดต่างไปจากคุณเช่นกันค่ะ
การที่ทุกคนจะคิดเหมือนกัน มันเป็นไปไม่ได้ค่ะ ชีวิตคนไม่ใช่ตู้ปลา ที่เต็มไปด้วยปลาสีสันสวยงามที่คุณถูกใจ
ทำไมบรรพบุรุษของคนชาติอื่น ผู้ชายเป็นพันล้านคน เขาสามารถยอมรับได้กับผู้หญิงที่ไม่ซิง
และเขาก็แต่งงานมีลูกมีงานเจริญเติบโตกันมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งบางประเทศก็เจริญกว่าเรา เขาก็อยู่กันได้
การที่ดิฉันไม่ได้เดินตามบรรพบุรุษ ไม่ได้แปลว่าดิฉันเป็นหญิงร่านสวาทที่ไม่ดี
คุณธรรมและศีลธรรมของดิฉัน อาจจะเยอะกว่าผู้หญิงบริสุทธิ์นิสัยเสีย งี่เง่า ที่ดิฉันเห็นหลายคนก็ได้
ดิฉันแต่งงานกับสามี 10 ปี อยู่ก่อนแต่งมา 3 ปี และถึงจะมีเซ็กส์ ดิฉันก็คบทีละคน และไม่เคยนอกใจ นอนมั่วกับใคร
ย้อนเวลากลับไปดิฉันก็จะอยู่ก่อนแต่งอีกค่ะ เพราะคุณจะไม่มีวันรู้จักผู้ชายคนๆหนึ่งได้ดีพอ "ถ้าคุณไม่ลองใช้ชีวิตร่วมกัน"
ถ้ามันไม่ใช่ "คอนเซปต์ในชีวิตของคุณ" ก็ปล่อยผ่านไปค่ะ ไม่ต้องทำตามดิฉัน
แต่สำหรับสามีดิฉัน เขาไม่เคยต้องการเป็นคนแรกในชีวิตดิฉัน แต่เขาต้องการเป็นคนสุดท้าย มีลูก เลี้ยงหมา แมว แก่ตายไปด้วยกันสองผัวเมีย
การที่ดิฉันจะต้องไปแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง แล้วจะต้องมีอะไรกับผู้ชายคนนั้นไปตลอดชีวิต คนเดียว อันนี้ดิฉันทำได้
แต่การที่ดิฉันยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ว่าเรื่องบนเตียงของผู้ชายที่ดิฉันจะนำมาเป็นสามี มันเป็นอย่างไร เขาสุขภาพดีหรือไม่
ผู้ชายบางคนล่มปากอ่าว เห็นแก่ตัวบนเตียง หรือหนักกว่านั้น บางคนมีจิตวิตถารกับเด็ก ซาดิส ฯลฯ
ถ้าดิฉันไปแต่งโดยไม่รู้อะไรเลย แล้วจะต้องมาให้ดิฉันทนกับอะไรแบบนี้ไปตลอดชีวิต ดิฉันคิดว่ามันสยองขวัญมากค่ะ
แต่เมื่อดิฉันอ่านสิ่งที่คุณพิมพ์ ก็รู้สึกสงสาร และเห็นใจคุณนะ คุณไม่ใช่ผู้หญิงซิงๆคนแรก ที่ต้องเจอสถานการณ์แบบนี้
เพราะมันก็ไม่มีอะไรยืนยันว่า การเก็บซิงไว้จนถึงหลังแต่งงาน จะทำให้สามีของคุณ "ไม่นอกใจ" และเห็นค่าในตัวคุณ
วัฒนธรรมไทยที่มีความรักนวลสงวนตัว สวยงาม อันนี้ดิฉันก็ เข้าใจ และเคารพในภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ
แต่อย่าลืมว่าเราก็ยังมีวัฒนธรรมที่กดขี่ผู้หญิง อาทิเช่นท่านขุนฯ "หลายเมีย" ผัวขายเมียเป็นทาส เห็นได้ตามหนังไทย
เรายังมี พระเครื่องขุนแผน อาบอบนวด ไซด์ไลน์ เต็มท้องถนน พร้อมๆไปกับค่านิยม "รักนวลสงวนตัว"
โรคติดต่ออย่างเอดส์ เราก็ไม่สามารถยืนยันได้อีกว่า สามีกลับบ้านจะไม่นำ "เชื้อเอดส์" มาติดภรรยา
สุดท้าย ดิฉันขออวยพรให้คุณมีความสุขค่ะ คุณคิดถูกแล้วค่ะที่ไม่คิดโทษตัวเอง
เพราะคุณยังมี "คุณค่า" ความเป็นคน เหมือนผู้หญิงซิง และไม่ซิงทุกประการ
ธรรมชาติสร้างผู้หญิงมาให้มีความสุขทางเพศได้ค่ะ
--ขอเพิ่มหน่อยค่ะ ก่อนที่ดิฉันจะโดนด่าไปมากกว่านี้
ที่ดิฉันพิมพ์มา ดิฉันไม่ได้โกรธเกลียดใคร รวมถึงไม่ได้มาต่อว่า หรือรณรงค์ให้ผู้หญิงทุกคนในกระทู้นี้ อย่าเก็บความบริสุทธิ์ไว้
ถ้าผู้หญิงคนไหนอยากจะเดินทางนี้ อยากจะบริสุทธิ์ ดิฉันก็ไม่ห้าม มันเป็นชีวิตและทางเลือกของคุณ
แต่ในโลกนี้มีประชากรพันล้านคน ร้อยพ่อพันแม่ คุณต้องเปิดพื้นที่ให้คนที่คิดต่างไปจากคุณเช่นกันค่ะ
การที่ทุกคนจะคิดเหมือนกัน มันเป็นไปไม่ได้ค่ะ ชีวิตคนไม่ใช่ตู้ปลา ที่เต็มไปด้วยปลาสีสันสวยงามที่คุณถูกใจ
ทำไมบรรพบุรุษของคนชาติอื่น ผู้ชายเป็นพันล้านคน เขาสามารถยอมรับได้กับผู้หญิงที่ไม่ซิง
และเขาก็แต่งงานมีลูกมีงานเจริญเติบโตกันมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งบางประเทศก็เจริญกว่าเรา เขาก็อยู่กันได้
การที่ดิฉันไม่ได้เดินตามบรรพบุรุษ ไม่ได้แปลว่าดิฉันเป็นหญิงร่านสวาทที่ไม่ดี
คุณธรรมและศีลธรรมของดิฉัน อาจจะเยอะกว่าผู้หญิงบริสุทธิ์นิสัยเสีย งี่เง่า ที่ดิฉันเห็นหลายคนก็ได้
ดิฉันแต่งงานกับสามี 10 ปี อยู่ก่อนแต่งมา 3 ปี และถึงจะมีเซ็กส์ ดิฉันก็คบทีละคน และไม่เคยนอกใจ นอนมั่วกับใคร
ย้อนเวลากลับไปดิฉันก็จะอยู่ก่อนแต่งอีกค่ะ เพราะคุณจะไม่มีวันรู้จักผู้ชายคนๆหนึ่งได้ดีพอ "ถ้าคุณไม่ลองใช้ชีวิตร่วมกัน"
ถ้ามันไม่ใช่ "คอนเซปต์ในชีวิตของคุณ" ก็ปล่อยผ่านไปค่ะ ไม่ต้องทำตามดิฉัน
แต่สำหรับสามีดิฉัน เขาไม่เคยต้องการเป็นคนแรกในชีวิตดิฉัน แต่เขาต้องการเป็นคนสุดท้าย มีลูก เลี้ยงหมา แมว แก่ตายไปด้วยกันสองผัวเมีย
ความคิดเห็นที่ 16
มีลูกสาว สอนเสมอว่าตราบใดที่ผช ยังไม่ได้เรา เราถือไพ่เหนือกว่า
ถ้าเลิกก็ไม่เสียตัวและเสียใจ แต่ถ้าไปมีอะไรกัน ผช มันก็เห็นเป็นของตาย
เบื่อแล้วก็ถือว่าได้ของฟรี ผญ จะไปร้องไห้ให้กลับคืนมาก็ไม่ได้ เพราะมันเบื่อแล้ว
สรุป โบราณสอนไว้น่ะดีแล้ว เป็นผญ ถ้าเสียตัวให้ผช มีแต่เสียเปรียบ มันจะเอาจริงหรือเปล่า
มันจะคิดว่าเราง่ายกับมันก็คงง่ายกับคนอื่นมาแล้วแน่ๆ
ถ้าเลิกก็ไม่เสียตัวและเสียใจ แต่ถ้าไปมีอะไรกัน ผช มันก็เห็นเป็นของตาย
เบื่อแล้วก็ถือว่าได้ของฟรี ผญ จะไปร้องไห้ให้กลับคืนมาก็ไม่ได้ เพราะมันเบื่อแล้ว
สรุป โบราณสอนไว้น่ะดีแล้ว เป็นผญ ถ้าเสียตัวให้ผช มีแต่เสียเปรียบ มันจะเอาจริงหรือเปล่า
มันจะคิดว่าเราง่ายกับมันก็คงง่ายกับคนอื่นมาแล้วแน่ๆ
ความคิดเห็นที่ 2
ผมไม่ได้มองว่าการรักษาความบริสุทธิ์จนถึงวันแต่งงานเป็นเรื่องโบราณคร่ำครึ แต่การตัดสินคุณค่าของผู้หญิงจากความบริสุทธิ์เนี่ยเป็นเรื่องโคตรโบราณคร่ำครึที่ควรจะละทิ้งกันไปให้หมดได้แล้ว มันเป็นความคิดที่ตีค่าของคนเหมือนสิ่งของว่าของที่ใช้งานแล้วยังไงก็ไม่ดีเท่าของใหม่ซึ่งในสังคมยุคใหม่ที่ผู้หญิงกับผู้ชายเท่าเทียมกันเราไม่น่าจะไปยึดติดกับความคิดแบบนั้นอีกต่อไป
ความคิดเห็นที่ 12
ผญ ที่ไม่ซิง ไม่ใช่ผญที่ไม่ดี ผมเห็นด้วย
เพราะ ผช ดีๆ เค้าจะไม่ได้โฟกัสคุณค่า ผญ แค่เรื่องนั้น ผมไม่เห็นด้วย
ผมเปรียบเทียบง่ายๆนะ มี ผช คนนึงชอบใช้ของมือ 1 แปลว่าเค้าเป็นคนไม่ดีเหรอครับ
ผมผิดด้วยเหรอที่ผมชอบใช้ของมือ 1 มันเป็นรสนิยมรึเปล่าครับ
ถ้าผมมีงบ 6 แสน
ผมซื้อแค่ vios มือ 1 แล้วมีคนมาบอกว่า ทำไมไม่เอา camry มือ 2 / คุณเป็นคนไม่ดี ผมว่าไม่ไช่นะ
ใครจะโฟกัสที่อะไร มันเป็นรสนิยมของเค้า มันไม่ไช่เรื่องผิดถูก
เหมือนที่ ซิง ไม่ซิง มันไม่ไช่เรื่องผิดถูก
คนเรามีสิทธิ์ที่จะเลือก สิ่งที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับตัวเรา หรือ เหมาะที่สุดสำหรับตัวเรา
และ คนเรามีรสนิยมแตกต่างกันครับ การที่ใครมีรสนิยมยังไง (ถ้าไม่ผิด กฏหมาย จารีต ..... )
มันก็ไม่ไช่เรื่องผิดครับ
เพราะ ผช ดีๆ เค้าจะไม่ได้โฟกัสคุณค่า ผญ แค่เรื่องนั้น ผมไม่เห็นด้วย
ผมเปรียบเทียบง่ายๆนะ มี ผช คนนึงชอบใช้ของมือ 1 แปลว่าเค้าเป็นคนไม่ดีเหรอครับ
ผมผิดด้วยเหรอที่ผมชอบใช้ของมือ 1 มันเป็นรสนิยมรึเปล่าครับ
ถ้าผมมีงบ 6 แสน
ผมซื้อแค่ vios มือ 1 แล้วมีคนมาบอกว่า ทำไมไม่เอา camry มือ 2 / คุณเป็นคนไม่ดี ผมว่าไม่ไช่นะ
ใครจะโฟกัสที่อะไร มันเป็นรสนิยมของเค้า มันไม่ไช่เรื่องผิดถูก
เหมือนที่ ซิง ไม่ซิง มันไม่ไช่เรื่องผิดถูก
คนเรามีสิทธิ์ที่จะเลือก สิ่งที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับตัวเรา หรือ เหมาะที่สุดสำหรับตัวเรา
และ คนเรามีรสนิยมแตกต่างกันครับ การที่ใครมีรสนิยมยังไง (ถ้าไม่ผิด กฏหมาย จารีต ..... )
มันก็ไม่ไช่เรื่องผิดครับ
แสดงความคิดเห็น
ถึงผู้หญิงที่โลกสวย หัวโบราณ อ่อนต่อโลก อยากให้เข้ามาอ่าน โลกความจริงมักมีสีเทา ผช ก็อ่านได้
เริ่มแรก เราเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยหัวโบราณมากๆมาก่อน ทั้งครอบครัวและตัวเราเอง
มีคำสัญญากับตัวเองแน่ชัดว่า จะมีแฟนคนแรกตอนเรียนจบ ผู้ชายต้องดีมากๆ ต้องแต่งงานกันถึงจะมีอะไรกันได้
ต้องเก็บความบริสุทธิ์จนถึงวันแต่งงานเท่านั้น และมองว่าความซิงคือสิ่งที่มีค่ามากๆ ทำให้เราดูเป็นคนที่ีมีค่ามากๆ เป็นผู้หญิงที่ดีสุดๆ
เราเรียนหนังสือโรงเรียนผู้หญิงแต่เกิด บ้านค่อนข้างเคร่ง มีการศึกษาที่ดี อาจไม่ได้คุณหนูเพอเฟค แต่ก็ถือว่าไม่ได้แย่เลย
ตั้งแต่เล็กจนโต ไปไหนมาไหนต้องขออนุญาตพ่อแม่ เพื่อน ผช แทบไม่มี อยู่แต่บ้าน ไม่เที่ยวกลางคืน เรียนๆๆอย่างเดียว
เคยถึงขั้นมีทัศนะคติมองคนที่มีแฟน จับมือไร มีไรกันก่อนแต่งงาน ว่า ผญ คนนั้นใช้ไม่ได้ ไม่รักนวลสงวนตัวเลย (มันไม่ใช่ความคิดที่ดีนะ)
มา เข้าเรื่องกันเถอะ
วันหนึ่งชีวิตเราพลิกผัน มี ผช คนหนึ่ง เข้ามาในชีวิตเรา เค้าเข้ามาตอนเรากำลังจะเรียนจบ ตอนแรกก็เป็นเพื่อนกัน
ด้วยความสนิทสนมก็พัฒนามาเป็นแฟน แฟนคนแรกในชีวิตเลย ยอมรับว่าตอนนั้นคือไม่มีประสบการณ์เลย ทุกอย่างเหมือนอยู่ในนิยาย
ลาเวนเดอร์สุดๆ คบกันสักพักก็มีจับมือ หอมแก้ม แรกๆเราก็เขินอาย กลัวนู่นนี่ สุดท้ายก็จับมือกัน หอมแก้มกัน คบกันไปนานๆ ฝ่ายชายก็เริ่มขอนู่นนี่มากขึ้น ขอมีอะไรด้วย เราก็แสดงทัศนคติชัดเจนว่า ไม่ได้ เราไม่โอเค เค้าก็ยอมรับ ไม่ได้ขัดขืนใจเรา จนมาวันนึง เหมือนเวรกรรมตามสนอง ความคิดที่เคยมองคนอื่นไม่ดี เราพลาดมีอะไรกับเขา เพราะบรรยากาศพาไป เราไม่ได้ขัดขืนนะ ความคิดตอนนั้นคือขาดสติ เพราะความรัก ความที่โลกสวย คิดว่าคนคนนี้จะเป็นคนสุดท้าย เรามั่นใจกับคนๆนี้ เลยยอมให้ไป พออีกวันก็มาย้อนคิด ก็เสียใจนะ เราก็คบกันมาสักพัก ก็มีไรกันปกติ
จนวันหนึ่ง เราถูก ผช บอกเลิก บอกเลยว่าตอนนั้นคือชีวิตไปไม่เป็นมากๆ เหมือนโลกถล่มอ่ะ มันแย่มากๆ ด้วยความไม่เคยมี ปสก เลยแทบไปไม่เป็น
ไม่กล้าบอกพ่อแม่เรื่องนี้ ปรึกษาใครก็ไม่ได้ ไม่กล้าบอกคนอื่นว่าที่เสียใจมากๆเป็นเพราะเคยมีไรกับ ผช คิดมาตลอดว่าเค้าฟันแล้วทิ้ง กลัว่าถ้าไปเล่าให้คนรอบข้างฟัง โดยเฉพาะครอบครัว เค้าจะผิดหวังในตัวเรา จนวันหนึ่งเราก็ต้องบอก เราเสียใจมากๆที่เคยเป็นคนแบบนั้น เหมือนกับว่าล้มล้างความคิดของตัวเองเมื่อก่อนทั้งหมดอ่ะ เราแทบอยากฆ่าตัวตายเพราะคิดว่าตัวเองไร้ค่า เรายึดติดกับคำๆเดียวเลยคือเรื่องที่ว่า เราไม่ใช่ ผญ ที่บริสุทธิ์แล้ว กลัวอนาคต กลัวไปหมด ตอนนี้เราดีขึ้น เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ก็เลยอยากมาแชร์น้องๆ เพื่อนๆ หรือ ผู้ปกครอง ผู้ชาย ให้ฟัง เราอยากจะสอนว่า
การที่รักนวลสงวนตัวไม่ใช่เรื่องที่ผิด เป็นเรื่องที่ดีมากๆ แต่ทุกคนไม่มีทางรู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น เราไม่อยากให้ทุกคนมองว่า เยื่อบางๆแผ่นนั้นมันคือทุกอย่างในชีวิต อนาคตไม่แน่นอน อยากเตือนว่า การคบกัน เป็นแฟนกัน เรื่องมีอะไรกันในสมัยนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ (ไม่ได้สนับสนุนนะ) แต่ถ้าเราจะมีอะไรกับใคร ควรป้องกัน และคิดมั่นใจว่า ถ้าเราให้คนคนนี้เราจะไม่เสียใจทีหลัง เรายินยอมจริงๆ ดูผู้ชายให้ดี
มันไม่ใช่เรื่องที่แย่เพราะมันคือความตกลงปลงใจของทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าเป็นไปได้ ควรอยู่ในวัยที่รับผิดชอบตัวเองได้ เกิดพลาดพลั้ง ต้องรับความเสี่ยงได้
เรื่องอนาคตที่ไม่แน่นอนอ่ะ เรายกตัวอย่างนะ สมมุติเก็บความซิงจนวันแต่งงาน ผช ผญ ภูมิใจมากๆว่าได้คนบริสุทธิ์ เป็นเรื่องที่เราเคยฝันไว้เหมือนกัน แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดเลิกกันล่ะ ซึ่งสมัยนี้มีกรณีนี้เยอะแยะ ถ้ายึดติดเยื่อบางๆนั้นมากๆ เราจะไม่เสียใจจนเป็นบ้าเหรอ อยากให้คิดมุมนี้
****** อ่านตรงนี้สักหน่อย
ที่เรามาเขียนกระทู้ เราไม่ได้จะมาเปลี่ยนมุมมองให้ทุกคนชิงสุกก่อนห่ามนะ เราแค่อยากให้ ผญ โลกสวย อ่อนต่อโลก ครอบครัว หรือแม้กระทั่ง ผช ได้ลองมองมุมอื่นดู ว่ายุคสมัยนี้มันเปลี่ยนไป อย่าสอนลูกหลานให้อยู่แต่ในกรอบ เพราะจะทำให้เด็ก ผญ คนนั้นไม่ทันคน เกิดอะไรขึ้นมาจะรับไม่ได้ (แบบเรา) ควรสอนลูกในมุมมองสมัยใหม่บ้าง รักกัน มีไรกันได้ ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของตัวเอง รู้จักป้องกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ
อย่ามีทัศนะคติแง่ลบกับผู้อื่น เพราะถ้าเราไม่เจอสถานการณ์นั้น เราไม่มีทางเข้าใจ
เรื่องรักนวลสงวนตัวเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่ควรให้ค่ากับสิ่งๆนั้นมากเกินไป มากเกินกว่าความเข้าใจที่คนรักมีให้กัน ทัศนคติ ความคิดมีผลต่อคนรักกันมากกว่าเรื่องเซ็ก และเรื่องซิงไม่ซิง
ผญ ที่ไม่ซิง ไม่ใช่ผญที่ไม่ดี คุณค่าของ ผญ ไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น ทุกคนเคยผิดพลาดได้ ไม่มีใครอยากมีอะไรกับคนอื่นไปเรื่อยเปื่อยหรอก ที่ให้ตอนนั้นก็เพราะรักไง
ถ้ามี ผช ตัดสินคุณแค่ว่าคุณเป็น ผญ บริสุทธิ์ หรือจะเลิกคบคุณเพราะคุณไม่บริสุทธิ์แล้ว จงห่างจากเค้าซะ เพราะ ผช ดีๆ เค้าจะไม่ได้โฟกัสคุณค่า ผญ แค่เรื่องนั้น
ทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง ควรรักตัวเองมากๆ ก่อนทำอะไรคิดให้ดีๆ ทุกอย่างมันมีทั้งข้อดี ข้อเสีย หัดมองโลกให้กว้างขึ้น ทุกอย่างมีสีเทา
ที่สำคัญ ครอบครัวคือสิ่งสำคัญ พ่อแม่ควรเข้าใจลูกให้มากๆ ไม่ให้อยู่แต่ในกรอบ การมีแฟนไม่ใช่เรื่องผิด ควรทำให้ลูกอยากหันมาเล่าเรื่องแฟนมากกว่าหลบๆซ่อนๆ เพราะสุดท้ายครอบครัวคือที่พักพิงของเด็กๆ วัยรุ่น ถึงวัยกลางคน ทุกคนล้วนอยากได้ที่ปรึกษาจากครอบครัวที่อบอุ่นทั้งนั้น
*******ปล คนในกระทู้เริ่มหลงประเด็น กรณีเราไม่ได้มั่วนะคะ ย้ำว่าโตแล้ว ทำงานแล้ว ไม่ได้อยู่ในช่วงวัยรุ่นละค่ะ ไม่เคยไม่ป้องกันค่ะ เดี๋ยวไปประเด็นเรื่องโรค อีกอย่างไม่ได้อยู่ด้วยกันค่า ที่พลาดๆคือไปเที่ยวด้วยกันเด้อ เดี๋ยวเข้าใจผิดกันค่ะ