ความสุขของพวกคุณในชีวิตคืออะไร

สำหรับผมคือการได้อยู่บ้าน อยู่กับคุณแม่เป็นอะไรที่วิเศษมากๆ

แต่ตอนนี้ผมอายุเข้าเลข 3 สิ้นปี 2561 นี้ก็ 32 แล้วเพราะเกิดเดือน พ.ย.

ผมเป็นคนสมุทรปราการ เดิมที่เป็นอาสาสมัครทหารพรานเมื่อ ปี 2557 ทำงานที่จังหวัดปัตตานีตั้งใจไว้ว่าจะสอบทนายความให้ได้แล้วจะกลับไปเป็นทนายแถวบ้าน  และแล้วผมก็สอบทนายความได้จริงเมื่อกลางปี 2560 ผมจึงคิดว่าเป็นทหารพรานให้ครบ 5 ปีแล้วค่อยออกดีกว่าเพราะจะได้เงินตอบแทนประมาณ 30,000 บาทถ้าอยู่ครบ 5 ปี

ระหว่างนั้นผมยังไม่ได้ใบอนุญาตว่าความเพราะจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของสภาทนายความ ซึ่งออกให้ในวันที่ 5 เมษายน 2561 และในช่วงต้นปีมกราคม 2561 ทางกองร้อยผมได้ให้ผมเข้าสอบนายสิบ ปรากฎว่าสอบได้โดยในการสอบนี้ผมได้เขียนความสามารถไปว่ามีใบอนุญาตว่าความซึ่งสายที่ผมสอบนั้นเอาคนที่จบนิติเนื่องจากจะให้มาทำงานด้านฝ่ายกฎหมายเกี่ยวกับคดี ซึ่งมีคนสอบ 5 คน มีผมคนเดียวที่มีใบอนุญาตว่าความ แต่ก็สอบได้ 4 คน

ปัญหาของผมมีดังต่อไปนี้
1.ผมอยากทำงานทนายความที่บ้านโดยต้องเรียนรู้งานแม้จะไม่มีเงินเดือน ที่ สนง. แถวบ้านโดยทางบ้านคุณแม่ก็เปิดร้านถ่ายรูป ถ่ายเอกสาร
2.ตอนนี้ผมเป็นข้าราชการ ยศสิบตรี งานหลักๆตามคดีความมั่นคงและต้องทำรายงาน สรุป พ้อย อัพเดทข้อมูลตลอดของแต่ละคดีว่าถึงไหน
   ซึ่งผมมีความรู้สึกว่าอยากทำงานใกล้บ้านเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับคุณแม่และบ้านเราเพราะมันคือความสุข อีกทั้งมีกฎระเบียบและผมไม่ได้คิดตั้งใจจะเอา
   อีกทั้งผมไม่สามารถใช้สิทธิทนายความได้เพราะผมเป็นข้าราชการตามมารยาททนายความหากมีการตรวจสอบหรือคนแจ้งผมจะถูกตัดสิทธิการเป็น
   ทนายความ เพราะไม่ให้ข้าราชการทำหน้าที่ทนายความ

3.ตอนเป็น อส.ทพ. ทำงาน 33 วัน พัก 10 วัน วันไปไม่นับเริ่มนับคือวันถัดไป วันที่ครบ 10 วันคุณจะต้องมาถึงกองร้อย
   แต่ตอนนี้เป็นสิบตรี ผมทำ 45 วัน พัก 15 วัน วันไปไม่นับเช่นกัน
   แต่ถึงยังไงมันก็สู้อยู่ใกล้บ้านไปกลับดีกว่า ผมไม่อยากเอาชีวิตที่เกิดมาทั้งทีกว่าจะถึง ณ ตอนนี้ไปอยู่กับงานมากกว่า ขอเลือกแบบอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา
   กันอยู่กับคุณแม่ที่แสนอบอุ่น  ถ้าผมมีแฟนก็คงต้องใช้ชีวิตอยู่กับแฟนให้มากดีกว่า  (จริงปะ แต่ก็ยอมรับและนับถือคนที่ทำงานห่างไกลที่ทำงานเป็นเวลา
   นานกว่าจะได้พักกลับมาก็ไม่กี่วันไม่ว่าจะอาชีพอะไร  โดยเฉพาะทหาร )

4.ผมสงสัยมาก ว่าทหารโอนย้ายไปเป็นตำรวจได้หรือไม่ ที่รู้ว่าได้คือย้ายไปพวกเทศบาล อบต. ส่วนอื่นๆผมยังไม่รู้ว่ามีหน่วยงานใดบ้าง ผมมีอาแกเป็น ผู้
   กำกับ ที่ สน.บางพลี สมุทรปราการ

5.ผมคิดอยากไปเสียเงินเรียนอบรม บอดี้การ์ด เพื่อที่จะเป็นพาร์ททามได้บ้าง หากว่าผมทำทนาย เพราะยังไงก็ใส่สูทอยู่แล้วก็อยากให้ตัวเองมีคุณค่ามา
    หน่อยหรืออาจจะมากอันนี้ผมไม่ทราบและไม่มีประสบการณ์ทางด้านบอดี้การ์ด เพราะผมชอบทางด้านนี้ในการรักษาความปลอดภัย ผมจึงอยากโอนย้าย
   ไปเป็นตำรวจที่คอยขี่รถตรวจตราดูแลบ้านเมืองถ้าเกิดว่าย้ายไปได้จริง

ตอนแรกฝันผมใกล้เป็นจริงจะได้ออกจาก อส.ทพ. 30 เม.ย. 2562  ดันยิ้มได้นายสิบต้องมาทำงานในค่ายซึ่งมี ผบช. เยอะ ไม่เหมือนตอนแรกที่ผมเป็น อส.ทพ. ออกสนาม รปภ. เส้นทาง ครู นร. ตั้งด่าน เดินลาดตระเวนพบปะ ปชช. เหนื่อยกายพอได้พักมันก็หายเหนื่อย  หน้าที่หลักคือรักษาความปลอดภัยให้กับ ปชช. และไม่ให้เกิดเหตุ จุดนี้ทำแล้วมีความสุขเพราะผมชอบ
ไม่มี ผบช. ที่เราต้องคอยระแวง มีแต่หัวหน้าชุดและลูกน้องที่เป็นกันเองสนุกสนานเฮฮา


แล้วพวกคุณล่ะ ความสุขของพวกคุณคืออะไร  สิ่งที่ผมถามถ้าพวกคุณรู้ก็ขอรบกวนบอกหน่อยหรือแนะนำชี้ทางด้วย  ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่