ขอสอบถามแม่ๆที่มีประสบการณ์หน่อยค่ะ ลูกเราเข้าเรียนอนุบาลปีแรกที่โรงเรียนเอกชนมีชื่อขนาดใหญ่ในตัวจังหวัด ซึ่งตั้งแต่เปิดเทอมและเข้าเรียน ลูกได้ไปเรียนรวมๆไม่ถึง 30 วันเลยค่ะ คือแม่เข้าใจถึงคำว่าช่วงปรับตัวของเด็กที่พึ่งเข้าเรียนนะคะ ว่าน้องจะมีป่วยระยะนึง อาจจะ6เดือน-1ปี เป็นช่วงปรับภูมิ แต่ที่รร.คือระบาดทุกโรค เริ่มตั้งแต่ RSV ต่อด้วย ไข้หวัดใหญ่ ตามมาติดๆด้วยตาแดง และหนักสุดแบบควบคุมไม่ได้ขนาดที่ว่าเด็กแต่ละห้องเป็นเกิน5คน คือ มือ เท้า ปาก และเฮอแปงไจน่าคะ ( ลูกแม่ติดเฮอแปงไจน่ากลับมา 2 ครั้งภายใน 3 อาทิตย์ และติดกลับมาทุกโรคที่กล่าวมานะคะ ) แม่ได้โทรไปสอบถามข้อมูลและวิธีการที่สาธารณสุขจังหวัดว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะเข้ามาควบคุมโรคติดต่อให้คลีนให้หมด ทางรร.สมควรปิดแล้วทำความสะอาดและฆ่าเชื้อทั้งรร. ได้แล้วนะคะ คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ ทางสาธารณสุขไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้เพราะเป็นรร.เอกชนขนาดใหญ่และไม่ได้ขึ้นอยู่กับทางสาธารณสุขคะ แต่ทางสาธารณสุขได้ทำการลงพท.เข้าไปให้ข้อมูลแนะนำแนวทางการทำความสะอาดและระงับเชื้อโรคกับทางรร.แล้ว แต่ทางรร.ก็ไม่ได้ปิดทำการ และยังมีผู้ปกครองโทรเข้ามาร้องเรียนทุกๆวัน แต่ทางเราทำอะไรไม่ได้  เค้าบอกว่ารร.เอกชนเป็นธุรกิจคะ ไม่ได้ขึ้นกับทางจังหวัดที่จะสามารถเข้าไปมีบทบาทพอจะสั่งการปิดรร.เพื่อทำความสะอาดและคลีนพท.ได้ ให้แม่ทำใจเอาคะ คือถ้าอย่างนั้นรร.เอกชนทุกรร. ที่มีการเกิดโรคระบาดในเด็กเล็ก สาธารณสุขก็ไม่สามารถเข้าไปทำการควบคุมโรคได้หรอคะ พอได้คำตอบมาแบบนี้ แม่ไม่รู้จะหันไปทางไหนเลยคะ สงสัย + ช็อคกับคำตอบพอสมควร ทางสาธารณสุขก็แจ้งว่าให้เราสอนลูกเองเรื่องสุขอนามัยส่วนบุคคล หรือย้ายลูกไปเรียนรร.อื่นที่เป็นของรัฐแทนค่ะ สรุปแล้วการที่เราตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินมาเสียค่าเทอมให้กับรร.เอกชนมีชื่อ เพื่อแลกกับให้ลูกได้การศึกษาที่ดี สถานที่ที่ดี สะอาด มีสังคมที่ดี กลับกลายเป็นพาลูกไปอยู่ในที่ที่เพาะเชื้อต่อเนื่องแทนหรอคะนี่  รร.มีการทำความสะอาดคะ มีการตรวจเช็คความเสี่ยง (ดูมือ เท้า ปาก เด็กทุกวัน) แต่โรคทุกโรคมีระยะเพาะเชื้อใช่มั้ยคะ อาการไม่ได้ออกทันที ทำให้มีเด็กที่ติดกันวนไปวนมาอยู่แบบนั้น ไม่มีวิธีการแก้ปัญหาแบบไหนที่มันมีทางออกที่ดีกว่านี้แล้วหรอค่ะ ไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปเพื่อควบคุมได้เลยใช่มั้ยคะ ถ้าเป็นรร.เอกชน