วังวน "ครู" ยิ่งแก้ ยิ่งแย่ ยิ่งตกต่ำ

ผมจะไม่ขอเอ่ยถึงครูนิสัยเลวๆ ไม่ว่าจะโกงหวย, เอากะนักเรียน, เรียกเงินแลกเกรด ฯลฯ แต่ที่จะเอ่ยถึง คือวังวนแห่งการ "สอบบรรจุ"

"การสอบบรรจุครู" เกิดขึ้นทุกปีครับ ช่วงระยะเวลาก็แตกต่างกันไป แต่ "สิ่งหนึ่ง" ที่แมร่งไม่เคยจะมาบรรจบกัน ทำได้แค่เส้นขนานคู่กันไปยาวๆ ไม่เปลี่ยนองศานั้นคือ "การไม่มาคุยกัน ระหว่างรัฐและเอกชน"

ที่ผมว่าไม่เคยคุยกัน นั้นคือ "โรงเรียนเอกชน ส่วนใหญ่ ไม่มีนโยบายให้ครูที่มาทำงาน ไปสอบบรรจุ ถ้าคุณไปสมัครสอบ..ก็กลับมาทำเรื่องลาออกไปทันที" ส้นเตรียนอะไรกันครับ ?

ซึ่งตัวผมเองเข้าใจนะ ว่าการที่ครูทิ้งเด็กในช่วงกลางเทอม เป็นอะไรที่เชี่ยมากๆ สอนเด็กได้ 2 เดือน ครูลาออก เด็กเคว้งคว้างตามเพลงของโดม บางโรงเรียนขาดแคลนครูหาครูสอนแทนไม่ได้ โรงเรียนไหนมีครูเข้าสอนแทนก็ดีไป แต่เชื่อเหอะว่าร้อยละ 80 มันก็เป็นครูไก่ตาแตก ไม่รู้ว่าคนเก่าสอนยังไง สอนถึงไหน อยู่ๆ มาเสียบกลางเทอมก็แย่พอๆ กัน

แล้วทำไมกันครับ... ทำไมรัฐบาลกระทรวงศึกษาธิการ ไม่จัดสอบบรรจุครูในช่วงเด็กปิดเทอมใหญ่ในทุกๆ ปี เช่น ช่วงเดือนเมษายน เพราะเมษายน เด็กปิดเทอมใหญ่กันหมด (ที่ไม่เคยมีสอบช่วงนี้เพราะสงสัยห่วงเรื่องการเล่นน้ำมากกว่าการจัดหาบุคลากรครูดีๆละมั้ง) ตั้งวาระสอบกันไปสิช่วงนั้น สอบเสร็จรีบตรวจประกาศผลก่อนเปิดเทอมช่วงเดือนพฤษภาคม  ครูจะได้รู้ชะตาตัวเองว่าควรจะไปอยู่ตรงไหน โรงเรียนจะได้รู้ชะตาตัวเองว่าจะจัดแผนการสอนอย่างไร ไม่ใช่เดี๋ยวสอบกุมภาบ้าง, มีนาบ้าง, สิงหาบ้าง ฯลฯ พึงจัดสอบตามบุคลากรของท่านว่างประมาณนั้น

ซึ่งปัญหาตรงนี้ มันไปตกที่ครูอัตราจ้าง "เต็มๆ" เพราะครูที่ไปสมัครสอบ ต้องเตรียมพร้อมทำใจลาออกจากครูเอกชน ไม่ลาออก ก็โดนกดดันให้ออก พูดเหน็บแนม กดดันทุกวิถีทาง เพียงเพราะครูไปสมัครเตรียมสอบบรรจุ แล้วถ้าครูสอบไม่ติดก็ต้องตกงาน หางานไปสมัครครูที่ไหนต่อก็ไม่ได้ ที่เดิมก็ไล่ออก ที่ใหม่ก็ไม่รับ จะรับก็ต่อเมื่อจบภาคเรียนการศึกษา (แมร่งจะไปติดง่ายๆ ยังไงกัน สอบครูแต่ละที สมัครกันแต่ละวิชานับสิบนับร้อย แต่รับปีละ 1 คน 2 คน)

ปัญหาตรงนี้ ผมอยากให้ทางรัฐและโรงเรียนเอกชน หันมาคุยกันจริงๆ จังๆ เสียที ในแต่ละปี มีครูที่จบออกมานับหมื่น แต่ยอมรับกันเหอะว่าครูที่ได้สอบติดกันจริงๆ มีแค่หลักร้อย ครูหลายคนผันตัวเองไปเป็นครูเอกชน, ครูหลายคนไปทำงานขายก๋วยเตี๋ยว, ครูหลายคนทำงานออฟฟิต แม้แต่ร้านสะดวกซื้อก็ต้องยอมไปทำ เพราะมันสอบไม่ติด โอกาสชีวิตยังมาไม่ถึง แต่เราก็ออกข่าวกันโครมๆ ว่า "ครูขาดแคลน" ยิ่งล่าสุด ที่ให้คนที่ไม่ต้องจบครูก็ได้ ขอแค่จบ ป.ตรี มาสอบบรรจุ เพราะ "ครูขาดแคลน" ถ..ถ..ถ..ถุ้ย ครูขาดแคลน หรือ ท่านๆ ไม่มาดูแคลนกันแน่ ถามใจตัวเองดู

ที่เริ่มมาแค่น้ำจิ้ม... ต่อไปอาหารเมนคอร์สมาแล้ว ว่าด้วยเรื่อง "ข้อสอบ" การบรรจุ
คุณ คุณ คุณ เคยรู้กันหรือไม่... ว่าข้อสอบบรรจุครู ถูกแบ่งออกเป็นภาค ก. และ ภาค ข.
การสอบภาค ก. ว่าด้วยเรื่องทั่วๆ ไป ตั้งแต่ภาษาไทย อังกฤษ คณิต กฏหมายต่างๆ นาๆ
การสอบภาค ข. ว่าด้วยเรื่องวิชาหลักที่ตัวเองเรียนมา... ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ภาค ข. แต่มันอยู่ที่ภาค ก. นั้นแหละครับ

เพราะข้อสอบภาค ก. อัดแน่นไปด้วยคำถาม ที่ผมพูดได้เต็มปากกว่า "เป็นคำถามที่กรูจำเป็นจะต้องรู้ไม๊" รู้เพื่ออะไร ? รู้เพื่อได้รู้ รู้เพื่อไปสอนเด็กอีกที ? บางข้อเป็นคำถามที่ควรรู้ อันนี้เข้าใจ แต่คำถามบางข้อ มันเหมือนพยายามยัดเยียนให้รู้ในสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิต ก็เหมือนครูสอนพายอาร์มาให้ผมตั้งแต่เด็ก จนผมอายุจะ 40 อยู่แล้วไม่รู้จะเอาพายอาร์ไปใช้กับอะไร.. ถ้าพูดตามภาษาคอม ก็เหมือนแฟรสไดร์ที่ใส่อะไรที่ไม่จำเป็นมาให้มันเต็มเล่นๆ ซะงั้น
ผมขอยกตัวอย่างข้อสอบภาค ก. มาให้สัก 2 ข้อ

1) น้ำหนักบนดวงจันทร์จะหนักเป็น 0.05 เท่าของน้ำหนักที่ชั่งบนอังคาร และน้ำหนักบนดดวงอังคารจะหนัก 0.16 เท่าของนำหนักที่ชั่งบนโลก ถ้าน้ำหนักของยานโคลัมเบียบนโลกหนัก 12 ตัน ถ้านำไปชั่งบนดวงจันทร์จะหนักเท่าไร
ก.) 0.60 ตัน
ข.) 0.096 ตัน
ค.) 1.92 ตัน
ง.) 9.6 ตัน
....คือกรูจำเป็นต้องรู้น้ำหนักของดวงจันทร์หรือไม่...ถามใจหน่อย คำถามประเภทจรรยาบรรณของความเป็นครูละมีน้อย แต่เรื่องแบบนี้มันมีมาถาม ?

2) คนกินยานอนหลับมากกว่า 3 เม็ด คนจะตาย คนตาย ดังนั้น
ก.) คนกินยานอนหลับมากกว่า 3 เม็ด
ข.) คนสุขภาพไม่ดี
ค.) ยานอนหลับเป็นยาพิษ
ง.) ยังสรุปไม่ได้
นี่ก็อีกข้อ เหนื่อยใจกับการตั้งคำถามกับตอบคำถามกันบ้างไหม
คำถามนี้โดย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

และสิ่งเหล่านี้มักทำให้คิดว่า เราต้องการครูแบบไหนกันแน่ ครูที่รู้กฏหมาย รู้ว่าน้ำหนักดวงจันทร์เท่าไหร่ รู้ว่ากินยานอนหลับกี่เม็ดแล้วจะตาย หรือ... เราต้องการที่มีผลงาน มีความสามารถกันแน่ ??

ในความคิดผมนะ ผมอยากให้คนที่จบครูมาทั้งประเทศ ไม่ต้องไปมีมันแล้วการสอบ พอ..ยุติ กับการเสียเวลามาอ่านหนังสือสอบ ครูจะได้มุ่งมั่นสอนเด็ก ครูจะได้ไม่ต้องนอนดึก ครูจะได้ไม่ต้องเสียเงินไปอบรมไปติว (โคตรจะมหาแพง) ครูจะได้ไม่ต้องเอาตัวไปแลกตำแหน่ง (คิดเหรอว่าไม่มี ครูเส้นสายเยอะนะเดี๋ยวนี้)... แล้วจะทำไงละ ถึงจะถูกบรรจุ ????

ความคิดผมคือ
1. ให้คนที่จบครู ไปสร้างผลงานตามสาขาที่ตัวเองเรียนมาให้ได้อย่างน้อยปีละ 3 ชิ้นงาน นับตั้งแต่รอบงบประมาณแผ่นดิน (ต้นเดือนตุลาคม จนสิ้นเดือนกันยายน) โดยผลงานดังกล่าว ต้องเป็นที่ยอมรับในระดับเขต ระดับภาค ระดับจังหวัด หรือประเทศก็ได้ เช่นอยากเป็นครูดนตรีไทย คุณก็ไปประกวดงานอะไรสักอย่างสิ ในแต่ละปีมีงานประกวดโคตรจะเยอะแยะ ไปโล้ด, ครูสอนภาษาไทย โอยเยอะเลย สร้างผลงานทำตำรา ทำหนังสืออะไรก็ได้ ให้เป็นที่ยอมรับ หรือจะไปประกวดแต่งกลอน หรือจะทำอะไรก็ไป ให้ผู้ใหญ่เช่น ผู้ใหญ่บ้าน, นายอำเภอ เซ็นยอมรับผลงาน ก่อนที่จะส่งตรวจ... ทีนี้เราก็จะได้ครูที่มีผลงาน มีความมุ่งมั่น และไม่ใช่ครูที่เอาแต่ "เปิดหนังสือนะนักเรียน...อ่านตาม!!!" มันควรหมดยุคไปแหละ
2. ในช่วงเวลาที่ครูสร้างผลงาน ครูจะไปเป็นครูเอกชนก็ได้ ครูจิตอาสาก็ได้ ครูชุมชน ครู กศน. ก็ได้ แล้วแต่ แต่ให้มีนักเรียนที่ตัวเองสอน รับรองความเป็นครูอย่างน้อยๆ 200 ชื่อ (ครูค้ำประกันให้เด็กมาหลายเคสแล้ว ถึงเวลาที่เด็กจะต้องมาค้ำประกันฝีมือครูบ้าง ว่าครูคนนี้เหมาะสมกับความเป็นครูแค่ไหน)
3. ผลงานครบ, รายชื่อครบ ก็ส่งเข้าหน่วยงาน ใครส่งก่อนได้เปรียบ (ครูจะได้เร่งทำผลงานกัน ไม่ใช่ครูลอยชายไปวันๆ) ส่งเสร็จ คณะกรรมการตรวจเลย ว่าผลงานดังกล่าวโอเคไหม ถ้าโอเค 2 ใน 3 ก็ให้ไปเพิ่มมาอีก 1 ถ้าโอเค 3 สุ่มประเมินเด็ก 200 คนสัก 5-10 คน โทรเลย ถ้าโทรแล้วบอก หนูไม่รู้จักครูคนนี้คะ...จบเกมส์ ป้อมแหก ครูโดนเรื่องเอกสารปลอมกันไป แต่ถ้าโทรแล้ว เด็กชอบ ผู้ปกครองรับประกัน... เรียกสัมภาษณ์เลยจ้า แล้วถ้าโอเค บุคลิคภาพดี พูดจาดี แจ้งความจำนงค์เลยว่าอยากบรรจุที่ไหน ผมว่า แมร่งวินๆ ทั้งครู และ กระทรวงเลย

ทุกวันนี้ ครูดีมีเยอะ แต่ครูไม่ดีก็มีเยอะไม่ต่างกัน เพราะครูบางคนมีแต่ IQ แต่ EQ ไม่มี พวกคุณๆ ก็รู้ ก็เคยเจอนี่ ว่าคนบางคนแมร่งเรียนดี หัวดี ครูรัก ครูชอบ แต่นิสัยใช่ว่าแมร่งจะดี ถูกไหม ผมคนนึงละที่มีเพื่อนเรียนดีชิบ... ได้ที่ 1 ไม่ก็ที่ 2 ของห้อง แต่แมร่งชอบขี้แกล้ง แกล้งผมเนี้ยแหละเพราะผมเรียนไม่ดี ครูก็มองว่าผมเลวเพราะผมเรียนไม่ดี... คนเหล่านี้ หลุดไปเป็นครูไม่รู้กี่คนต่อกี่คนแล้ว ที่มุ่งมั่นอยากให้เด็กได้แต่เกรดดีๆ แต่ไม่เคยสนใจเลย ว่าเด็กอยากจะเรียน อยากจะเป็นอะไร โรงเรียนไหนมีเด็กเรียนดีก็ขึ้นป้ายโชว์หน้าโรงเรียน เด็กคนไหนเต้นเก่ง รำเก่ง ก็ไปตรบมือชื่นชมกันในห้องพอ เอาคนเกรดสวยๆ โชว์ดีกว่า ผู้ปกครองจะได้เอาลูกมาเรียนที่นี่.... -..-!

โพสนี้ ไม่มีทางดังไปถึงคนที่พอจะมีอำนาจได้ฉุคิดหรอก มันก็แค่โพสเล็กๆ อีกหนึ่งกระทู้ บนพื้นหลังสีน้ำเงิน ที่ผุดขึ้นนับพันในพันทิป แต่ผมอยากให้วังวนของครู ได้ยุติกับเรื่องที่ต้องวนเวียนกับการโดนไล่ออก ไม่จ่ายเงินเดือนอีกต่างหาก เพียงแค่ครูไปสมัครสอบ ครูดีๆ หลุดวงการการศึกษาไปเป็นอะไรๆ กันเยอะ ...อย่าบ่นว่าครูขาดแคลน ผมว่าเราขาดการเอาใจใส่เรื่องนี้กันมากกว่า

สอบ 18-19 สิงหาคม 2561 นี้ ผมขอเป็นกำลังใจให้ครูทุกคน สอบให้เต็มที่ละกันครับ และหลังจากสิ้นเดือนสิงหาคม ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ครูที่โดนไล่ออกเพราะแค่ไปสอบ แล้วดันสอบไม่ติด อย่าพึ่งคิดสั้นนะครับ หางานทำใหม่ให้ได้ไวๆ มุ่งมั่น และก้าวต่อไปด้วยหัวใจของคำว่า "ครู" ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่