[CR] รีวิวเที่ยวเกาหลี ตะลุยฮันกุกเช้ายันค่ำ 8-15 ธันวาคม 2560

สวัสดีค่า วันนี่เราจะมารีวิวทริปไปเกาหลีช่วง 8 - 15 ธันวา 2560 จริงๆเคยเขียนกระทู้ค้างไว้ แต่เพราะยุ่งมากก็ไม่มีเวลาเข้ามาเขียนต่อเลย จนไปเกาหลีรอบที่สองเมื่อตอนสงกรานต์ปีนี้ และกำลังจะไปอีกทีตุลาที่จะถึงนี้ เลยคิดอยากจะมาเขียนเล่าการเดินทางไปเที่ยวเกาหลีไว้เป็นข้อมูลต่อให้จบ ปล.กระทู้นี้เน้นเขียนเยอะ ภาพอาจจะไม่เยอะนะคะ ^ ^

1.วางแผน-เตรียมตัว
       เรามีแพลนมานานแล้วว่าจะต้องไปเกาหลีสักครั้งให้ได้ แต่ด้วยโอกาสและเวลาก็ยังไม่ได้ไปสักที จนในที่สุดก็สามารถลางานไปได้ในช่วง 8-15 ธ.ค. ซึ่งเป้นช่วงฤดูหนาว ก่อนไปเราเช็คอากาศอยู่ที่ 5 / -5 แต่พอไปถึงจริงๆ -3 ถึง -12 ทุกวัน ปีนั้นเกาหลีหนาวไว และหนาวมากกว่าทุกปีใครที่จะเดินทางไปช่วงนี้แนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าไปหนาๆเลยค่ะ  

- สายการบิน เราเลือกใช้บริการของแอร์เอเชียเอ๊กซ์ ไป-กลับ รวมน้ำหนักขากลับ 30 กิโล + อาหารทั้งขาไปและกลับอยู่ที่ 9,000 ต้นๆ

- ที่พัก ไปรอบนี้เราไม่ได้อยู่แค่ในโซลเท่านั้น ยังมีออกไปเที่ยวปูซาน เราจึงเลือกใช้บริการเกสเฮ้าท์ 3 ที่ ดังนี้

    คืนที่ 1
        24 guesthouse seoul city hall  เนื่องจากวันถัดไปเราต้องไปปุซานแต่เช้าจึงเลือกที่พักที่อยู่ใกล้สถานีโซล ที่พักอยู่ใกล้พระราชวังด็อกซูกุง ออกจากสถานี seoul city hall ทางออก 1 เดินเข้าซอยไปนิดนึงก็ถึงแล้วค่ะ

    คืนที่ 2
        24 guesthouse jagalchi วันที่ 2 เราเดินทางไปปูซาน ที่พักนี้อยู่ใกล้สถานี jagalchi ออกทางออก 4 เดินเลี้ยวซ้ายก็ถึงตึกเลย ตั้งอยู่ย่านช้อปปิ้งของปูซาน ใกล้ปูซานทาเวอร์ และตลาดปลา

   คืนที่ 3 - 7
       24 guesthouse seoul station หลังจากกลับจากปูซานเราเน้นเที่ยวในตัวเมืองโซล จึงเลือกที่พักที่ใกล้สถานีใหญ่คือ โซลสเตชั่นนั่นเอง ที่นี่เราเลือกพักห้องเดี่ยวเตียงสองชั้น นอนได้ 2 คน

- ซิม / อินเทอร์เน็ต
      สิ่งที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งในการตะลุยเกาหลีก็คืออินเทอร์เน็ตนั่นเองค่ะ ตอนแรกเราว่าจะเช่าพ็อกเก็ตไวไฟ แต่ไปเจอรีวิวซิมทูฟลายของเอไอเอส ที่ใช้ได้ 8 วันพอดี ก็เลยเลือกใช้บริการดู ถือว่าดีมากเลยค่ะ เน็ตแรงและเร็วแม้จะอยู่บนภูเขา หรือต่างจังหวัด โทรเข้าโทรออกสบายมาก วิธีใช้ก็ง่าย แค่ไปที่ช้อปซื้อซิมทูฟลาย ลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน ก่อนไปกดหมายเลขเปิดใช้บริการตามคำแนะนำคู่มือในซอง ใครที่จะใช้โทรก็เติมเงินล่วงหน้า หรือซื้อบัตรเติมเงินไปก็ได้ค่ะ

- ประกันเดินทาง
      อันนี้ก็สำคัญเช่นกันค่ะ แนะนำคนที่ไปเกาหลีหรือต่างประเทศแนะนำให้ทำประกันเดินทางไว้ เพราะหากเราเกิดอุบัติเหตุ หรือไม่สบาย ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสุงมากค่ะ กันไว้ก่อนเนอะ เราเลือกทำประกันของธนาคารกรุงไทย ราคาประมาณ 570 บาทค่ะ

- เสื้อผ้า
      แน่นอนว่าไปหน้าหนาว เสื้อผ้าต้องจัดเต็มแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าขี้หนาวขนาดไหน เราเป็นคนขี้หนาวค่ะ เลยใส่ลองจอน เสื้อไหมพรม เสื้อกันหนาวมีฮู้ดของยูนิโคล่ และทับด้วยฮู้ดอีกตัว ท่อนล่างก็ลองจอนหนาๆ แต่วันไหนหนาวมากๆ -10ขึ้นไปต้องทับด้วยเลกกิ้งหนาๆ อีก 1ชั้นค่ะ พวกลองจอน เสื้อไหมพรม เราซื้อจากไทยไป 2-3 ชุดค่ะที่เหลือไปหาซื้อที่เกาหลี ช่วยทุ่นน้ำหนักขาไปด้วย ส่วนที่สำคัญอีกก็คือ ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงเท้าหนาๆ หมวกไหมพรม มาส์กปิดปาก และที่สำคัญมากที่สุดที่ช่วยชีวิตเราไว้เลยคือ ถุงร้อนนั่นเอง มีทั้งแบบเขย่าใส่ไว้ในกระเป๋า กับแบบติดไว้ติดเท้าไม่ให้เท้าเย็นก็มีค่ะ ราคาประมาณ 1000 - 2000 วอน ซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปเลยค่ะ เราไปรอบนี้เสียเงินค่าถุงร้อนไปหลายบาทเลย 555+

- การแลกเงิน
      เราแลกที่ซูเปอร์ริชสีเขียวค่ะ เพราะเรทดีกว่าสีส้มนิดหน่อย  สามารถเช็คเรทได้ที่ https://www.superrichthailand.com/#!/en

- แอพที่จำเป็น
     การเดินทางในเกาหลี ถ้าในโซลก็จะเป็นรถไฟใต้ดินครอบคลุมแทบทุกพื้นที่ แอพพลิเคชั่นที่ควรมี subway korea app , naver map app(สำหรับคนที่รู้ภาษาเกาหลีค่ะ แต่แอพนี้ละเอียดมากมีบอกทั้งการเดินทางด้วยใต้ดิน หรือรถเมล์ ตอนนี้มีภาษาอังกฤษแล้ว)

- เอกสาร
    แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการผ่าน ตม. ที่เขาร่ำลือกันว่าโหดมาก เราจึงต้องเตรียมเอกสารไปให้ครบค่ะ เอกสารที่ควรเตรียมไปเผื่อไว้
1.ตั๋วเครื่องบินไป - กลับ
2.พาสปอร์ตที่ต้องมีอายุมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป
3.หนังสือรับรองการทำงาน / หนังสือรับรองการศึกษา
4.แพลนเที่ยว
5.ใบจองที่พัก


หลังจากที่วางแผน เตรียมตัว จองที่พักเสร็จเรียบร้อย วันเดินทางก็มาถึงค่า

วันที่ 1 ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง  8 ธ.ค.
       เราไปถึงสนามบินประมาณตีสี่ เพราะเครื่องจะออก 08.05 เค้าน์เตอร์เปิดให้เช็คอิน 05.05 ก่อนเครื่องออก 3 ชั่วโมง เค้าน์เตอร์ที่เช็คอินไปเกาหลีของสายการบินแอร์เอเชียคือเค้าน์เตอร์ 4 เราเช็คอินออนไลน์ไปแล้วก็เลยแค่ไปชั่งน้ำหนักกระเป๋าและรับบอร์ดดิ้งพาส ไปถึงคิวแรกเลยเสร็จเร็วประมาณ 10 นาทีก็เสร็จค่ะ

       หลังจากเช็คอินเรียบร้อยก่อนผ่าน ตม. เราก็เปลี่ยนซิมทูฟลายลองเช็คอีกครั้งว่าซิมไม่มีปัญหาอะไร หลังจากนั้นก็ผ่าน ตม. ไทย และไปนั่งรอที่หน้าเกทรอเครื่องออก ประมาณ 7 โมงครึ่ง พนักงานก็จะเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องค่ะ เราไม่ได้จองที่นั่งไป ได้นั่งที่ 43F บอกเลยว่าขาไปหลังแข็งมาก เพราะข้างหลังเราเป็นโอป้าเกาหลี 3 คน ขายาวมาก กดเอนเบาะไม่ได้เลย นั่งหลังแข็งไปเกือบ 5 ชั่วโมงกว่า ส่วนบริการอื่นๆ ของแอร์เอเชียเราก็ถือว่าโอเคนะ สมราคา อาหารที่สั่งไปเป็นข้าวหน้าไก่ ก็อร่อยเลยล่ะ (หรือหิวก็ไม่รู้ 555+) หลังจากนั้นแอร์ก็จะแจกใบ Arrival Card และ  ใบ Customs Declaration ก็กรอกไปตามความจริงให้ครบถ้วน ชื่ออะไร พักที่ไหน มาทำอะไร ถ้าเขียนผิดแนะนำให้ขอใบใหม่แอร์เลยค่ะ

       หลังจากนั่งหลังแข็งไป 5 ชั่วโมง กัปตันก็พาเรามาถึงสนามบินอินชอน เวลาที่เกาหลีเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง เราไปถึงอินชอน 15.40 เครื่องเลทไปเกือบ 20 นาที พอเดินลงจากเครื่องปุ๊ป สัมผัสแรกคืออาการเย็นมาก ยังไม่ได้ใส่โค้ทเลย เพราะยังไม่ได้ออกไปข้างนอก จากนั้นเราก็เดินลิ่วๆ ตามป้าย arrival ไป เพื่อนไปขึ้น shuttle train เพื่อไปผ่านด่าน ตม. สุดโหดกัน

        เมื่อมาถึงด่าน ตม. เราก็เดินเข้าช่อง  foreigner ก่อนเข้าก็ถามพนักงานเพื่อความชัวร์ จะมีพนักงานผู้หญิงใส่ชุดฮันบกคอยเช็คใบ  Arrival Card ก่อนไปถึงเค้าน์เตอร์ ตม. พอไปถึงเค้าน์เตอร์ ตม. ก็ยื่นพาสปอร์ต ใบ  Arrival Card และใบจองตั๋วเครื่องบินขากลับค่ะ เราเข้าช่อง ตม. ผู้หญิงที่ยังดูวัยรุ่นและท่าทางใจดี ก่อนหน้าเราเป็นฝรั่ง เจ้าหน้าที่ ตม. ยิ้มสดใสมาก 555 พอรับพาสปอร์ตเราไปและเปิดไปเจอไทยแลนด์นางแอบชะงักไปนิด และมองหน้าเรา เราก็มองกลับปกติค่ะ มองแบบมั่นใจมากว่าถามอะไรมา ฉันตอบได้ ฉันมาเที่ยว แม้ในใจจะแบบผ่านเถอะ มาเที่ยวจริงๆนะ ออนนี่ 555 สบตากัน 3 วิ ก็มีเสียงสวรรค์ภาษาไทยบอกให้สแกนนิ้วชี้ และมองกล้อง หลังจากนั้นนางก็ปั๊มปึ้ง เราแต้งกิ้วไป และรับพาสปอร์ต เดินออกมานี่แทบกรี๊ด ผ่านแล้ว ได้เที่ยวแล้วรีบไลน์บอกเพื่อนที่ไทยทันที

        หลังจากนั้นก็เดินลงบันไดเลื่อนมาเพื่อเอาใบ Customs Declaration ยื่นให้ศุลกากร และผ่านทางออกมา ด่านต่อไปคือนั่งรถเข้าโซลค่ะ เรามีบัตร t money อยู่แล้วก็แค่เอาไปเติมเงินที่ร้านสะดวกซื้อ ใครที่ไม่มีก็หาซื้อได้ตามร้าน CU หรือ G25 ที่สนามบินได้เลยค่ะ เราเติมมา 20,000 วอน และเดินลงไปชั้นใต้ดินเพื่อนั่ง Airport Railroad (AREX)  แบบ All Stop Train ไปลงสถานี โซล และเปลี่ยนไปนั่ง สาย 1 เพื่อไปลง city hall ค่ารถ 4,150 วอน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆค่ะ

         หลังจากที่นั่งรถไฟมาได้สักพักฟ้าก็เริ่มมืดแล้วค่ะที่เกาหลีช่วงหน้าหนาว พระอาทิตย์จะตกประมาณ 5 โมงกว่าๆ ค่ะ พอถึงสถานีโซลเราต้องไปเปลี่ยนเป็นสาย 1 เพื่อไปลง city hall พออกจากรถไฟมาเท่านั้นแหละค่ะ ความหนาวเย็นถาโถมมาก อากาศตอนนั้นคือ -2 ขนาดใส่เสื้อมา 3 ชั้น บอกเลยว่าเอาไม่อยู่ค่ะ และเป็นช่วงวันศุกร์ตอนเย็น คนเกาหลีกำลังเลิกงาน เรียกว่าถ้าหยุดเดินนี่ชนกระจายค่ะ หลังจากเปลี่ยนใส่เสื้อโค้ทเรียบร้อยเราก็นั่งไปลง city hall ออกทางออก 1 เดินเข้าซอยไปนิดนึงก็ถึงที่พักค่ะ เรามาถึงที่พักประมาณ 6โมงกว่า เก็บของเสร็จเรียบร้อย ก็ออกเดินสำรวจที่พักในอากาศติดลบกันเลย แต่ก่อนไปเดินต้องแวะเข้า G25 เพื่อซื้อถุงร้อนช่วยชีวิตไว้ก่อน เดี๋ยวจะเดินไม่ได้ไกล 555

       เราเดินผ่านพระราชวังด็อกซูกุงขึ้นมาตามถนนที่จะไปสี่แยกควังฮวามุน อากาศตอน 1 ทุ่มหนาวมาก ควันออกปากเหมือนในซีรีย์เลย แรกๆ ก็ตื่นเต้น หลังๆนี่เริ่มไม่ไหว 555 เราเดินไปสำรวจร้านหนังสือคโยโบมุนโก เพราะตั้งใจว่าก่อนกลับจะมาซื้อหนังสือที่นี่กลับไป ร้านใหญ่มากค่ะ มีหนังสือเยอะมาก เดินสำรวจอยู่สักพักท้องเริ่มหิว เราเลยเดินออกมาหาของกิน หลังจากเดินวนสักพักก็ไปจบที่ KFC แถวๆนั้น KFCที่นี่ใช้ไก่แทนแป้ง ไม่รู้ว่าเฉพาะเมนูที่เราสั่งหรือเปล่าแต่อร่อยและอิ่มมาก หลังจากทานเสร็จก็เดินกลับที่พัก ระหว่างทางกลับก็มีอีเว้นท์นิดหน่อย อยู่ดีๆ มีสองสาวน่าจะเป็นนักศึกษาเข้ามาทักเราค่ะ ตอนแรกทักเป็นอังกฤษ สักพักทักเป็นญี่ปุ่น เราเลยบอกไปว่าพูดเกาหลีได้ค่ะ หลังจากนั้นมาเต็มค่ะ 555+ เหมือนจะชวนไปเข้าร่วมไรสักอย่างเกี่ยวกับวัฒนธรรมเกาหลี แต่เราผู้ซึ่งคลุกคลีกับชาวเกาหลีมาหลายปี รู้ทันหรอกน่า จะพาไปเผยแพร่ศาสนาแน่นอน เราเลยปฎิเสธไปทันทีเลยค่ะ บอกว่าพรุ่งนี้ต้องไปปูซานแต่เช้า ตอนนี้หนาวมาก กลับที่พักก่อนนะ บ๊ายบาย และเดินดิ่วๆ กลับที่พักเลยค่ะ (ความจริงคือหนาวมากอยากกลับไปพักแล้ว555) หลังจากกลับมาถึงที่พักก็เตรียมตัวเก็บของไปปูซานพรุ่งนี้



ชื่อสินค้า:   รีวิวเที่ยวเกาหลี
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่