การฝังตัวตนในโลกไซเบ้อเป็นเรื่องดีหรือผิดวัตถุประสงค์การใช้งานกันแน่ ?

กระทู้คำถาม
ทุกวันนี้โซเซียลมีอิทธิพลกับสังคมยุคปัจจุบันมาก การใช้งานก็มีตั้งแต่ ติดต่อสื่อสาร พบปะพูดคุย ไปจนถึง การทำธุรกรรมต่างๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมีจุดประสงค์ในการใช้งานแบบไหน แต่ที่นิยมใช้งานกันมากที่สุดสำหรับทุกเพศทุกวัย ก็คือการสืบค้นหาสาระความรู้และติดตามความบันเทิงในหลากหลายรูปแบบ


การพูดคุยแลกเปลี่ยนในเรื่องต่างๆตามเวบบอร์ด ก็ถือเป็นความบันเทิงอีกรูปแบบนึงที่นิยมอย่างแพร่หลาย
จขกท เองว่างๆก็ชอบเสริชหาโน่นนี่ไปเรื่อย เลยมีโอกาศได้เข้าไปใช้งานเวบบอร์ดนู่นนี่กะเขาเหมือนกัน


ซึ่งจากภาพรวมของการใช้งานในสังคมบอร์ดทั่วๆไปที่ จขกท สังเกตเห็น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการนำเรื่องที่สนใจมาเปิดประเด็นพูดคุยกัน ต่างคนก็วิจารณ์ไปตามเรื่องตามประเด็น อาจมีกระทบกันบ้างในส่วนที่เห็นไม่ตรงกัน แต่หลักๆก็จะจบแค่ตรงนั้นโดยไม่มีการต่อเรื่องให้ยืดยาวกันเรย

ซึ่งผิดจากบางบอร์ดที่วันๆมีแต่เรื่อง เด้วคนโน้นเป็นแบบนั้น คนนั้นเป็นอย่างงี้ ส่วนใหญ่ก็เปนเรื่องภายนอกผสมในบอร์ดงุงิกันให้วุ่นวาย




ถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น ทั้งที่บอร์ดอื่นๆเขาแทบไม่มีปัญหาตรงนี้กันเรย ?




ที่ผมคิดออกประเด็นนึงก็คือ "จุดประสงค์ในการใช้งาน" นั่นเอง

เราเข้ามา ค้นหา ติดตาม พูดคุย กันในโลกไซเบอร์เพื่ออะไร ? ก็เพื่อความบันเทิงความรู้ ถ้านี่คือเป้าหมายของเราทุกอย่างก็จะฟินิชเมื่อเราได้รับประโยชน์ที่ต้องการตามจุดประสงค์

แต่ถ้าคุณฝังตัวตนของคุณลงไป การพูดคุยแลกเปลี่ยน การเสพรับความบันเทิงในด้านต่างๆที่ติดตามค้นหา ก็จะยกระดับความจริงจังขึ้นทันที 80 ริกเตอร์ และจุดประสงค์ในการใช้งานก็จะเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อคุณแทรกฟิลของตัวคุณเองเข้ามา


ขอยกตัวอย่างเรื่องคล้ายๆกันที่ผมเคยเจอมา เช่นในสังคมเกมเมอร์
ซึ่งถ้าใครเคยสัมผัสจะรู้ว่าไม่ค่อยมีการคุยกันเพราะมันจะมาเพื่อเล่นมันส์ๆมากกว่า ถ้าจะมีก็มีแต่ด่ากันเละเทะแบบถอนรากถอนโคนด่ากันทั้งวันทั้งคืน
(ส่วนใหญ่ผมจะเป็นฝ่ายโดนด่าเพราะเล่นเมพ อิอิ)


ตรงนี้เองถ้าเป็นในบางเวบบอร์ดก็คงมีประเด็นมาม่าลากยาวข้ามภพชาติ จนแทบลืมไปเรยว่าตอนแรกสุดนี่มันคือบอร์ดไรกันฟระ
แต่ในสังคมเกมเมอร์กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นเพราะจุดประสงค์ที่เข้ามาใช้งานของพวกเขาก้คือเสพรับความบันเทิงจากการเล่นนั่นเอง เมื่อฟินแล้วก็จบแค่ตรงนั้น ไม่มีลากยาวให้วุ่นวาย




ขนบประเพณีของสังคมเป็นสิ่งที่คนกำหนดขึ้นมาเมื่อตั้งรกรากอยู่รวมกัน ซึ่งไม่เชิงว่าเป็นรูปแบบของสังคมไซเบอร์ที่มีรูปแบบไม่ตายตัวในการท่องไปมาอย่างอิสระ จึงเป็นเรื่องยากจนแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ทุกคนเข้ามาอยู่ในกรอบที่ใครก็ไม่รู้กำหนดเอาไว้

สุดท้ายคงต้องย้อนไปถามตัวคุณเองดูว่าเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเพื่อไร เพื่อมาสิงบอร์ดหรือเพื่อมาเสพรับสาระความรู้ความบันเทิงเปนหลักกันแน่

แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ซีเรียสกันจุงเบย

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ช่วยเขียนให้ห้องติ๊ดชึ่งแกงค์แปลงร่างมันอ่านให้เข้าหัวนะ อยู่ห้องนั้นถามพวกยังก่อนเขียน  เขียนได้ดีครับ ตรงกับสภาพห้องติ๊ดชึ่งที่เอาชีวิตมาสิงบอร์ดทุกวัน ทุกเย็น วันดีคืนดีก็แปลงร่างด่าคนโน้นคนนี้  วันดีคืนดีอวยพรวันเกิดกลางบอร์ด

     แอ๊ะหรือลาออกละ ไม่น่าจะใช่ เขียนได้ตรงกับกลุ่มตัวเองดี เยี่ยม🤣
ความคิดเห็นที่ 8
เพราะถือ คติส่วนตัวว่า มาเล่นเพื่อความบันเทิง จึงขาดสำนึกรับผิดชอบ ใช้จิตสำนึกเด็กติดเกมส์มาเทียบกับจิตสำนึกผู้มีอุดมการณ์ รักความถูกต้อง ห่วงใยบ้านเมือง

เดิมห้องการเมือง คือห้องแลกเปลี่ยนแสดงความเห็น สำหรับผู้ที่มีจิตสำนึกต่อส่วนรวมสูง ผู้ที่สนใจ ห่วงใย ติดตามความเป็นไปของบ้านเมือง ที่ชุมนุมนักปราชญ์ราชบัณฑิต

เรื่องบางเรื่อง แม้จะห่างไกลตัวเอง
บางนโยบาย ก็ไม่ได้รับผลกระทบส่วนตัว
แต่คนห้องการเมืองก็เฝ้าติดตาม จับตา วิเคราะห์ วิจารณ์หาเหตุผล หาข้อมูลมาโต้แย้ง หักล้าง เพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่เพื่อความบันเทิงคลายเหงาส่วนตัว

เดิมสมาชิกห้องนี้มีมาตรฐานจริยธรรม บันทัดฐานความละอายใจสูง
หากรู้ตัวว่าผิดพลาดพลั้งเรื่องใด มักจะสำนึกและลงโทษตัวเองก่อนเสมอ ไม่ต้องรอให้ผู้อื่นมาเรียกร้อง

ต่างจากปัจจุบัน ที่แม้ผิด ก็ยังหาสำนึกรับผิดชอบไม่เจอ ยังคอยแต่ชี้นิ้วโทษผู้อื่นอยู่ร่ำไป

เด็กโข่งติดเกมส์ ต่างด้าวผิดกฏหมาย หรือนักพนันหยาบคายมากกว่า คือสิ่งแปลกปลอมของห้องการเมือง
ความคิดเห็นที่ 11
ยาจกย่อมไม่เข้าใจวิถีพระราชาฉันท์ใด
เด็กโข่งติดเกมส์ย่อมเข้าไม่ถึงจิตสำนึกผู้มีอุดมการณ์สาธารณะฉันท์นั้น

บันทัดฐานก็เป็นเรื่องที่ผู้เจริญเข้าใจตรงกันได้ง่ายๆ

ใครสิงบอร์ดไม่สิงบอร์ด ไม่ใช่ประเด็นสาระ
เป็นสิทธิ์ที่ทุกคนล้วนเลือกได้ตามความพอใจ

แต่การแสดงความเห็นในที่สาธารณะต่างหาก คือสำนึกที่ควรไตร่ตรอง
และแตกต่างระหว่างเด็กโข่งติดเกมส์ กับ วิญญูชน

ถนอมความเห็นไว้ก่อน
ไตร่ตรองให้ดีก่อนสู่สาธารณะ

แม้นักปราชญ์พิจารณาถี่ถ้วนแล้ว
ก็ยังอาจพลาดพลั้งผิดได้

ความแตกต่างระหว่างสิ่งแปลกปลอมของห้องการเมือง
จะปรากฏให้เห็นได้อีกครั้งตรงนี้
ตรงที่ว่า ใครเป็นผู้มีสำนึกรับผิดชอบ หรือ ใครที่ช่างมันฉันไม่เคยแคร์
ความคิดเห็นที่ 4
เราเข้ามาหาเพื่อนคุยครายเครียดไปวันๆระหว่างขายของ

หาความรู้ความบันเทิงมั่งตามอารมณ์และทรงผม

เราไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร แต่ถ้าใครมาเป็นพิษเป็นภัยเราจะถอยให้ห่าง

ทู้ที่เราตั้งแค่ต้องการไว้คุยเล่นกับเพื่อนๆ

เราไม่เคยอยากขึ้นทู้แนะนำ เพราะรู้ดีว่าทู้เราไม่มีประโยชน์กับการเมือง

ฝากไว้ตรงนี้แล้วกัน ใครอย่ามาแกล้งดันทู้เราขึ้นทู้แนะนำ

ความคิดเห็นที่ 2
ท่าน จขกท. จะรู้ตัวหรือไม่ว่า   ท่านได้เสพติดมาม่า ไปอีกรายแล้ว

ระวังถอนตัวไม่ขึ้นเหมือนผมนะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่