น้าน.... นานมาก ที่ไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ
น้าน.... นานมาก ที่ไม่ได้ไปในฐานะไกด์.... หรือที่ผ่านมาไม่เคยเป็นไกด์... หว่า....
เป็นตนวางแผน ..... ก็ควรเป็นคนนำเที่ยวด้วยซิ...... รุ่นพี่แฟนที่เป็นหัวหน้ากรุ๊ป พูดเปรยๆ....
อ่ะ... เอาจิงดิ.... 5555
ตอนที่ 2 เที่ยว เที่ยว เที่ยว ดีใจจัง ไปเที่ยวแย้ว
วางแผน..... แล้วก็เที่ยวตามแผน......
วางแผนตั้งครึ่งปี ชีวิตเที่ยวครั้งนี้ควร ชิล ชิล เนอะ
แต่..... เหอ เหอ เหอ....
ชีวิตหากเป็นไปตามแผน มันก็ไม่ใช่ชีวิตน่ะซิ....
ชีวิต คือ การแก้ปัญหา
แก้ไปเรื่อยๆ ทีละปัญหา ทีละปัญหา
เริ่มจากปัญหาตรงหน้าก่อน ปัญหาต่อไป และปัญหาต่อไป สักวันก็จะ ชินไปเอง 555
เหมือนเดิมครับ บอกเล่าก่อนอ่าน
สไตน์การเขียนของผม จะคล้ายการเขียนบ่น ไร้สาระ เขียนไปเรื่อย ถ้าไม่ชอบสไตล์นี้ ข้ามไปได้นะครับ ^_^)
เป็นการเขียนที่ ไม่ลงรายละเอียด เพราะจำไม่ค่อยได้ จึงไม่อาจเขียนได้ว่าทำโน่นทำนี่อย่างไร หรือเพราะอะไรถึงทำอย่างนั้น
จึงให้ได้แค่ข้อมูลดิบๆ ห้วนๆ และมีแทรกปัญหาที่ผมเคยพบเจอบ้าง
เพื่อที่ท่านผู้อ่าน จะได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของผม
เนื่องจากเป็นทริปไปต่างประเทศ และ ไม่ง้อทัวร์เป็นครั้งแรกในชีวิต ตื่นเต้นมาก
Broading แปดโมงเช้า ตื่นตั้งแต่ตีสามครึ่ง ออกจากบ้านตีห้า 555
อยากไป อยากเที่ยว อยากให้เป็นไปตามแผน
เช้า 6 โมง - ถึงดอนเมือง แวะรับ Pocket Wifi ทานอาหารเช้า
เช้า 7 โมง - Check in
เช้า 8 โมงกว่าๆ - Boarding
เช้า 9 โมงครึ่ง - เครื่องออก
บ่าย 5 โมง เวลาญี่ปุ่น - ถึงโอซาก้า ผ่าน ตม. เช็คอินโรงแรม
ค่ำ 1 ทุ่ม - เข้าเมืองโอซาก้า เพื่อถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะ ทานพิซซ่าญี่ปุ่นร้านดัง
ค่ำ 4 ทุ่ม - กลับเข้าที่พัก
กลัว...... ผิดแผน จึงตื่นตั้งแต่ตี 3
เหตุที่ตื่นตี 3 ครึ่ง ไม่ใช่ว่าตื่นเต้น
แต่เพราะสายการบินที่จอง ไม่มีบริการ Web Check in
และมีประวัติเรื่อง Overbooking
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลองสืบค้น “Overbooking” ในเว็ปพันทิปดูซิ... มีชื่อสายการบินนี้ขึ้นมาแน่
ประมาณว่า คนมาช้าอดขึ้นเครื่อง สิ่งชดเชยก็น้อยไม่คุ้ม
ถึงแม้ว่าช่วงหลังประวัติ Overbooking จะน้อยลง แต่ถือคติไม่ประมาทจะดีกว่า
แต่...... สุดท้ายก็ยังผิดแผนตั้งแต่วันแรก
จึงขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า
ตอนที่ 2 : Day 1 : “ถึงดอนเมือง 6 โมงเช้า ได้ขึ้นเครื่อง 6 โมงเย็น เครื่องบินสุด Late”
แต่จากการผิดแผนนี้ ทำให้ได้ประสบการณ์ของการวางเแผนเที่ยวในวันแรก
กับแนวทางการซื้อประกันท่องเที่ยว
ซึ่งจะกล่าวต่อไปครับ
ตอนจองเครื่องขาไป เที่ยวบิน DMK-Kansai มีให้เลือก 2 เวลา เช้า กับบ่าย คนล่ะสายการบิน
ลูกของรุ่นพี่แฟนเค้าจองเที่ยวบิน DMK-Kansai รอบเช้า ของสายการบินหนึ่ง เนื่องจาก.... เวลามันได้
คือ เที่ยวบินออกเช้า ถึง Kansai (Osaka) ช่วงเย็น มีเวลาแวะเที่ยวโอซาก้าช่วงค่ำได้อีกหน่อย
ก่อนบินจากคันไซ ไป ฮอกไกโดในตอนเช้าวันถัดไป.... Perfect เนอะ
ก่อนเดินทางหนึ่งสัปดาห์ เริ่มดูว่าสายการบินที่จอง มี Web-Check in หรือไม่ ปรากฎว่า.... ไม่มี
แต่ Search พบกระทู้ที่เพื่อนหลายๆท่าน ได้แชร์ความประทับใจไว้ เช่น
Overbooking
https://pantip.com/topic/34963278
กระเป๋า Delay
https://pantip.com/topic/36382133
มองโลกในแง่ดี ถ้าเราไปเช็คอินเร็ว ก็คงหลีกเลี่ยงปัญหา overbooking ได้เนอะ
ส่วนเรื่องกระเป๋า เราคงไม่โชคดีขนาดนั้นมั้ง
สรุป ตื่นแต่เช้า ออกจากบ้านตีห้า
สุดท้ายก็โชคร้าย เกิดปัญหาที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น.....
ลูกเรือป่วย.....
สายการบินแจ้ง เลื่อนเวลาออกเครื่อง เป็น ห้าโมงเย็น
สายการบิน มี Option ให้เลือก คือ
1. รอลูกเรือทดแทนบินมาจากสิงคโปร์ตอนบ่ายสองโมง เครื่องออกเวลาใหม่ คือ ห้าโมงเย็น
2. บินกับสายการบินอื่น โดยผู้โดยสารออกค่าใช้จ่ายส่วนต่างเอง ส่วนกระเป๋าจะส่งตามไปภายหลัง
กระทู้จากเพื่อนร่วม Flight เดียวกัน
https://pantip.com/topic/37138004
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เค้าตั้งกระทู้ด้วยความผิดหวัง หลังฟังข้อสรุปเรื่องกระเป๋าเดินทางที่ว่า
สายการบิน ไม่ยอมฟันธง ว่าจะนำกระเป๋าที่ Load แล้วออกมาให้กับผู้ที่ตัดสินใจเปลี่ยนเครื่อง ได้หรือไม่
ถ้าเอากระเป๋าที่ Load ออกมาให้เลือกแบบด่วนๆ ผมยังหวั่นๆ อยู่เลยว่า
จะมีใครหยิบกระเป๋าผิดไปบ้างหรือไม่ กระเป๋าหาย วุ่นตายเลย
โชคดีที่สายการบินไม่อนุญาตให้ Unload กระเป๋า แต่รับปากว่าส่งตามไปให้ภายหลัง สำหรับผู้ที่เปลี่ยนสายการบิน
สำหรับผู้ที่รอไปกับสายการบินเดิม รู้สึก โล่งใจ.... โฮ่ โฮ่ โฮ่
แต่ก็ยังหวั่นใจแทน คนที่เปลี่ยนเครื่องว่า เค้าใจได้กระเป๋าครบหรือไม่ และได้เม่ือไร
เพราะนอกจากราคาค่าตั๋ว ซื้อก่อนออกบินไม่กี่ชั่วโมง จะเป็นราคาเต็มและแพงกว่าซื้อล่วงหน้ามากพอสมควร
ยังต้องมากังวลเรื่องกระเป๋าอีก.....
เรื่องมันเกิดมานานแล้ว
ขอตัดประเด็นดราม่าออกไปนะครับ
เหลือแต่เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่ได้เรียนรู้จากเหตุครั้งนี้ ดังนี้
1. อุบัติเหตุ/การเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น หรอกเนอะ
เราจึงควรทำใจร่มๆ รับมือกับเหตุนั้น อย่างใจเย็นๆ
2. การเลือก Option เปลี่ยนเครื่องทำได้
ควรทำเมื่อมีกิจธุระจำเป็น หรือเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว หรืออยากผ่านประสบการณ์นี้เป็นครั้งแรก
เพราะต้องทำใจที่ มีโอกาสสูงที่กระเป๋าจะตามไปภายหลัง
แต่สำหรับเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไป นักท่องเที่ยวมือใหม่ (อย่างผม) ไม่ติดธุระอะไร การรอ ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว
3. กระเป๋าตามไปแน่
แต่จะตามไปที่โรงแรมคืนแรก โรงแรมคืนที่ 2 หรือที่เค้าท์เตอร์ ก็แล้วแต่โชค
เพื่อเพิ่มโอกาสโชคดีให้มากขึ้น 555
ควรวางแผนให้ ที่พัก โรงแรมคืนแรก กับคืนที่ 2 เป็นที่เดียวกัน
เพื่อลดความสับสนของสายการบิน ในการจัดส่งกระเป๋า หรือ
วางแผนให้ โรงแรมที่พักคืนแรก อยู่ใกล้สนามบิน จะได้ไปรับที่เค้าท์เตอร์เอง
4. สายการบินทุกสาย มีโอกาสพบเจอเหตุที่ไม่คาดคิดเสมอ แต่ไม่บ่อยหรอกครับ ผมเชื่อ....
แนะนำให้ศึกษาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตว่า แต่ละสายการบินรับมือกับเหตุอย่างไร มีอะไรชดเชยให้กับผู้โดยสารบ้าง
เลือกสายการบินที่เราพอใจครับ
แล้วต่อด้วยการ ซื้อประกันเดินทาง เพื่อให้มีการชดเชยกับค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นจากเหตุไม่คาดฝัน
5. ซื้อประกันเดินทาง น่ะ สำคัญนะ
การเลือกประกันเดินทาง ผมเทียบข้อมูลจาก website : gobear.com
สะดวกดีครับ เลือกบริษัทประกัน และแผนประกัน ตามที่ชอบได้เลย
การประกันความเสี่ยงข้างต้น อยู่ในหัวข้อ
ความคุ้มครองทรัพย์สินส่วนบุคคล กับ
ความคุ้มครองเที่ยวบินดีเลย์และการยกเลิกเดินทาง
ถ้าท่านถ่ายรูปของในกระเป๋าก่อนแพ็ก พร้อมกับรูปถ่ายกระเป๋า
หากท่านมีใบเสร็จแสดงราคา ของในกระเป๋า เก็บไว้ก็จะช่วยให้การเครมง่ายขึ้น (ถ้าต้องเครมกระเป๋าหาย)
6. เงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันเดินทาง ก็สำคัญน่ะ
ราคาประกันฯ ขึ้นกับจำนวนเงินเอาประกันภัย

อันนี้เป็นจำนวนเงินเอาประกันภัย ของที่ผมเลือก 843 บาทเอง ไม่แพงใช่ไหมครับ
นอกจากจะซื้อประกันเรื่องการเจ็บป่วยกับค่ารักษาพยาบาลแล้ว
ส่วนที่น่าสนใจ คือ การล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง (TA 24) กับ การล่าช้าของเที่ยวบิน (TA 32) จำนวนเงิน 2,500 บาทต่อรายการ
ถ้าดูในรายละเอียด ของ TA 24 ข้อ 1 คือ ประกันจะเริ่มจ่ายค่าคุ้มครอง เมื่อช้าเกิน 8 ชั่วโมง
หากช้าไม่เกิน 8 ชั่วโมง ตามเงื่อนไขประกันภัย ถึงว่าเบิกไม่ได้
ก็จะเดาเหตุผลที่ว่า ลูกเรือจากสิงคโปร์ ตั้งแต่บ่ายสองโมง แต่ทำไมเครื่องออกห้าโมงเย็น คือ
สายการบินเค้ากำลังสร้างเงื่อนไข เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเบิกประกันเดินทางได้นั่นเอง

วงเงินที่เอาประกันได้กรณีล่าช้า 8 ชั่วโมง คือ 20% ของวงเงินประกัน คือ 0.2 x 2500 = 500 บาทต่อรายการ
เห็นได้ว่า ได้แค่ เสื้อยืดหนึ่งตัว (กรณ๊กระเป๋าล่าช้า) กับ อาหารหนึ่งมื้อ (กรณีเที่ยวบินล่าช้า)
เครมได้แค่กรณีเดียวนะครับ คือ 500 บาท เพราะหากบินไปก่อนแล้วกระเป๋าตามไป จะได้กรณีกระเป๋าล่าช้า
แต่หากรอบินพร้อมกระเป๋า จะได้กรณีเที่ยวบินล่าช้าแทน
ขอเพิ่มข้อมูลกรณีกระเป๋าล่าช้านะครับ
ถ้าเป็นฤดูที่อากาศชิลๆ เสื้อผ้าที่เราใส่ไป หรือใส่ในกระเป๋าที่หิ้วขึ้นเครื่องพอ ก็ไม่เป็นไร
แต่หากเป็นฤดูหนาว หากเสื้อท่ีมีอยู่ไม่หนาพอ อย่าออกจากสนามบินเลยครับ ทรมาณ ไปได้ไม่ไกลหรอก ก็ต้องซื้อเสื้อหนาวเพิ่ม
ดังนั้น หากไปช่วงฤดูหนาว ควรพิจารณาเลือกแผนประกัน ที่ครอบคลุม 2 หัวข้อนี้มากสักหน่อย
หรือไม่ก็ไม่ควรไปไกลจากสนามบิน หรือไม่ก็ควรพักที่โรงแรมแรก อย่างน้อย 2 คืน
สรุปผมไม่ได้เครมนะครับ เพราะแผนประกันฯ ที่ผมซื้อราคาต่ำสุด ให้ความคุ้มครองเรื่อง delay แค่ 2,500 บาท เบิกได้ 20% คือ 500 บาท
แต่ถ้าท่านใดซื้อแผนที่วงเงินสูงกว่านี้ เช่น คุ้มครองเรื่อง delay 25,000 - 35,000 บาท delay เหมือนถูกหวย
อ้าว..... บ่นไปไกลเลย
ขอกลับมาหัวข้อเดิม
สรุปคือ วันนั้น ขึ้นเครื่อง 5 โมงเย็น
ก่อนขึ้นเครื่อง ทางสายการบินแจกเอกสารคนล่ะ 1 แผ่น ประกอบการเครมประกันฯ
เครื่องเริ่มออกจาก Gate ประมาณ 6 โมงเย็น ผู้โดยสาร เฮกันลั่น 555
ถึงสนามบิน Kansai ประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ตามเวลาที่ญี่ปุ่น
ตอนเดินออกจากเครื่อง มองเข้าไปใน Gate เห็นผู้โดยสารที่จะโดยสารสายการบินเดียวกันกลับดอนเมือง นั่งรออยู่เพียบ
และมาทราบภายหลังจากผู้ที่เข้ามา comment กระทู้ด้านบน ว่า การ late รอบนี้ กระทบทั้งขาไปจาก DMK และขากลับจาก Kansai
ขาไปยังดี ทราบเหตุผล ส่วนผู้โดยสารขากลับ ไม่ทราบแม้เกระทั่งหตุผล
ออกจาก ตม. ประมาณตีหนึ่งกว่า
เจ้าหน้าที่ ตม. เหมือนต้องทำงานล่วงเวลา เพราะเครื่อง late
ดูเซ็งๆและง่วงนอน เหมือนผู้โดยสาร.... ผ่านง่าย ไม่ถาม ไม่ขอดูเอกสารเพิ่มเติม สรุปเอกสารที่เตรียมเผื่อไป ไม่ได้ใช้เลย 555
ภาพสนามบินตอนตี 2 สิบห้า เหงาโครต
รถไฟเข้าเมืองปิดไปล่ะ ที่จริง.... ปิดไปตั้งนานล่ะ
ใครที่จองโรงแรมไว้ในเมือง Osaka ก็ไปไม่ได้ล่ะ
ทางเลือกแรก คือ นอนสนามบิน แต่ไม่รู้เค้าให้นอนมั้ย ถ้าจะแอบนอน เค้าคงไม่ว้ามั้ง น่าจะเห็นใจคนที่เครื่อง late เนอะ
ทางเลือกสอง คือ นอนโรงแรมสนามบิน น่าจะประมาณ คืนล่ะ 2,000 บาท

สำหรับก้วนผม ได้รับผลกระทบไม่มาก เพราะจองโรงแรมสนามบินอยู่แล้ว แค่ check in ช้าเท่านั้น
ทางเดินเชื่อมเข้าโรงแรมสนามบิน Hotel Nikko Kansai Airport

ถึงจะเหนื่อย ถึงจะหมดแรง
แต่ก็ต้องทำหน้าที่รีวิวเวอร์ที่ดี เก็บรูปห้องก่อนใช้.....
รูปของใช้ในห้องน้ำ ครบดีครับ

อันนี้ทางซ้าย เครื่องพ่นไอน้ำ สำหรับเพิ่มความชื้นในห้อง ไม่ให้ห้องแห้งเกินไปช่วงหน้าหนาว
ส่วนโทรศัพท์ทางขวา เป็น Handy Smartphone ใช้สำหรับควบคุมอุปกรณ์ภายในห้อง ซึ่งไม่ได้ใช้ และใช้ไม่เป็น 555
สรุปงานวันแรกตามนี้ครับ
มีผลพลอยได้ที่เกินค่าหมาย คือ ค่าใช้จ่ายในวันนี้เป็น ศูนย์ ประหยัดงบไปได้พันกว่าบาท...... 555
เพราะติดแหง็กอยู่ที่ดอนเมืองตลอดวัน
ส่วนอาหารกลางวัน กับเย็น ทางสายการบินรับผิดชอบ ให้ Coupon McDonald มา 2 ใบ มื้อล่ะใบ
[CR] เที่ยว ฮอกไกโด โอซาก้า ต้นหนาว 2017 วางแผนครึ่งปี เที่ยว 11 วัน กับชีวิตที่ไม่เป็นตามแผน by KOR_2012 ตอนที่ 2 Sapporo
น้าน.... นานมาก ที่ไม่ได้ไปในฐานะไกด์.... หรือที่ผ่านมาไม่เคยเป็นไกด์... หว่า....
เป็นตนวางแผน ..... ก็ควรเป็นคนนำเที่ยวด้วยซิ...... รุ่นพี่แฟนที่เป็นหัวหน้ากรุ๊ป พูดเปรยๆ....
อ่ะ... เอาจิงดิ.... 5555
ตอนที่ 2 เที่ยว เที่ยว เที่ยว ดีใจจัง ไปเที่ยวแย้ว
วางแผน..... แล้วก็เที่ยวตามแผน......
วางแผนตั้งครึ่งปี ชีวิตเที่ยวครั้งนี้ควร ชิล ชิล เนอะ
แต่..... เหอ เหอ เหอ....
ชีวิตหากเป็นไปตามแผน มันก็ไม่ใช่ชีวิตน่ะซิ....
ชีวิต คือ การแก้ปัญหา
แก้ไปเรื่อยๆ ทีละปัญหา ทีละปัญหา
เริ่มจากปัญหาตรงหน้าก่อน ปัญหาต่อไป และปัญหาต่อไป สักวันก็จะ ชินไปเอง 555
เหมือนเดิมครับ บอกเล่าก่อนอ่าน
สไตน์การเขียนของผม จะคล้ายการเขียนบ่น ไร้สาระ เขียนไปเรื่อย ถ้าไม่ชอบสไตล์นี้ ข้ามไปได้นะครับ ^_^)
เป็นการเขียนที่ ไม่ลงรายละเอียด เพราะจำไม่ค่อยได้ จึงไม่อาจเขียนได้ว่าทำโน่นทำนี่อย่างไร หรือเพราะอะไรถึงทำอย่างนั้น
จึงให้ได้แค่ข้อมูลดิบๆ ห้วนๆ และมีแทรกปัญหาที่ผมเคยพบเจอบ้าง
เพื่อที่ท่านผู้อ่าน จะได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของผม
เนื่องจากเป็นทริปไปต่างประเทศ และ ไม่ง้อทัวร์เป็นครั้งแรกในชีวิต ตื่นเต้นมาก
Broading แปดโมงเช้า ตื่นตั้งแต่ตีสามครึ่ง ออกจากบ้านตีห้า 555
อยากไป อยากเที่ยว อยากให้เป็นไปตามแผน
เช้า 6 โมง - ถึงดอนเมือง แวะรับ Pocket Wifi ทานอาหารเช้า
เช้า 7 โมง - Check in
เช้า 8 โมงกว่าๆ - Boarding
เช้า 9 โมงครึ่ง - เครื่องออก
บ่าย 5 โมง เวลาญี่ปุ่น - ถึงโอซาก้า ผ่าน ตม. เช็คอินโรงแรม
ค่ำ 1 ทุ่ม - เข้าเมืองโอซาก้า เพื่อถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะ ทานพิซซ่าญี่ปุ่นร้านดัง
ค่ำ 4 ทุ่ม - กลับเข้าที่พัก
กลัว...... ผิดแผน จึงตื่นตั้งแต่ตี 3
เหตุที่ตื่นตี 3 ครึ่ง ไม่ใช่ว่าตื่นเต้น
แต่เพราะสายการบินที่จอง ไม่มีบริการ Web Check in
และมีประวัติเรื่อง Overbooking
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถึงแม้ว่าช่วงหลังประวัติ Overbooking จะน้อยลง แต่ถือคติไม่ประมาทจะดีกว่า
แต่...... สุดท้ายก็ยังผิดแผนตั้งแต่วันแรก
จึงขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า
ตอนที่ 2 : Day 1 : “ถึงดอนเมือง 6 โมงเช้า ได้ขึ้นเครื่อง 6 โมงเย็น เครื่องบินสุด Late”
แต่จากการผิดแผนนี้ ทำให้ได้ประสบการณ์ของการวางเแผนเที่ยวในวันแรก
กับแนวทางการซื้อประกันท่องเที่ยว
ซึ่งจะกล่าวต่อไปครับ
ตอนจองเครื่องขาไป เที่ยวบิน DMK-Kansai มีให้เลือก 2 เวลา เช้า กับบ่าย คนล่ะสายการบิน
ลูกของรุ่นพี่แฟนเค้าจองเที่ยวบิน DMK-Kansai รอบเช้า ของสายการบินหนึ่ง เนื่องจาก.... เวลามันได้
คือ เที่ยวบินออกเช้า ถึง Kansai (Osaka) ช่วงเย็น มีเวลาแวะเที่ยวโอซาก้าช่วงค่ำได้อีกหน่อย
ก่อนบินจากคันไซ ไป ฮอกไกโดในตอนเช้าวันถัดไป.... Perfect เนอะ
ก่อนเดินทางหนึ่งสัปดาห์ เริ่มดูว่าสายการบินที่จอง มี Web-Check in หรือไม่ ปรากฎว่า.... ไม่มี
แต่ Search พบกระทู้ที่เพื่อนหลายๆท่าน ได้แชร์ความประทับใจไว้ เช่น
Overbooking https://pantip.com/topic/34963278
กระเป๋า Delay https://pantip.com/topic/36382133
มองโลกในแง่ดี ถ้าเราไปเช็คอินเร็ว ก็คงหลีกเลี่ยงปัญหา overbooking ได้เนอะ
ส่วนเรื่องกระเป๋า เราคงไม่โชคดีขนาดนั้นมั้ง
สรุป ตื่นแต่เช้า ออกจากบ้านตีห้า
สุดท้ายก็โชคร้าย เกิดปัญหาที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น.....
ลูกเรือป่วย.....
สายการบินแจ้ง เลื่อนเวลาออกเครื่อง เป็น ห้าโมงเย็น
สายการบิน มี Option ให้เลือก คือ
1. รอลูกเรือทดแทนบินมาจากสิงคโปร์ตอนบ่ายสองโมง เครื่องออกเวลาใหม่ คือ ห้าโมงเย็น
2. บินกับสายการบินอื่น โดยผู้โดยสารออกค่าใช้จ่ายส่วนต่างเอง ส่วนกระเป๋าจะส่งตามไปภายหลัง
กระทู้จากเพื่อนร่วม Flight เดียวกัน https://pantip.com/topic/37138004
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องมันเกิดมานานแล้ว
ขอตัดประเด็นดราม่าออกไปนะครับ
เหลือแต่เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่ได้เรียนรู้จากเหตุครั้งนี้ ดังนี้
1. อุบัติเหตุ/การเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น หรอกเนอะ
เราจึงควรทำใจร่มๆ รับมือกับเหตุนั้น อย่างใจเย็นๆ
2. การเลือก Option เปลี่ยนเครื่องทำได้
ควรทำเมื่อมีกิจธุระจำเป็น หรือเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว หรืออยากผ่านประสบการณ์นี้เป็นครั้งแรก
เพราะต้องทำใจที่ มีโอกาสสูงที่กระเป๋าจะตามไปภายหลัง
แต่สำหรับเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไป นักท่องเที่ยวมือใหม่ (อย่างผม) ไม่ติดธุระอะไร การรอ ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว
3. กระเป๋าตามไปแน่
แต่จะตามไปที่โรงแรมคืนแรก โรงแรมคืนที่ 2 หรือที่เค้าท์เตอร์ ก็แล้วแต่โชค
เพื่อเพิ่มโอกาสโชคดีให้มากขึ้น 555
ควรวางแผนให้ ที่พัก โรงแรมคืนแรก กับคืนที่ 2 เป็นที่เดียวกัน
เพื่อลดความสับสนของสายการบิน ในการจัดส่งกระเป๋า หรือ
วางแผนให้ โรงแรมที่พักคืนแรก อยู่ใกล้สนามบิน จะได้ไปรับที่เค้าท์เตอร์เอง
4. สายการบินทุกสาย มีโอกาสพบเจอเหตุที่ไม่คาดคิดเสมอ แต่ไม่บ่อยหรอกครับ ผมเชื่อ....
แนะนำให้ศึกษาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตว่า แต่ละสายการบินรับมือกับเหตุอย่างไร มีอะไรชดเชยให้กับผู้โดยสารบ้าง
เลือกสายการบินที่เราพอใจครับ
แล้วต่อด้วยการ ซื้อประกันเดินทาง เพื่อให้มีการชดเชยกับค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นจากเหตุไม่คาดฝัน
5. ซื้อประกันเดินทาง น่ะ สำคัญนะ
การเลือกประกันเดินทาง ผมเทียบข้อมูลจาก website : gobear.com
สะดวกดีครับ เลือกบริษัทประกัน และแผนประกัน ตามที่ชอบได้เลย
การประกันความเสี่ยงข้างต้น อยู่ในหัวข้อ
ความคุ้มครองทรัพย์สินส่วนบุคคล กับ
ความคุ้มครองเที่ยวบินดีเลย์และการยกเลิกเดินทาง
ถ้าท่านถ่ายรูปของในกระเป๋าก่อนแพ็ก พร้อมกับรูปถ่ายกระเป๋า
หากท่านมีใบเสร็จแสดงราคา ของในกระเป๋า เก็บไว้ก็จะช่วยให้การเครมง่ายขึ้น (ถ้าต้องเครมกระเป๋าหาย)
6. เงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันเดินทาง ก็สำคัญน่ะ
ราคาประกันฯ ขึ้นกับจำนวนเงินเอาประกันภัย
นอกจากจะซื้อประกันเรื่องการเจ็บป่วยกับค่ารักษาพยาบาลแล้ว
ส่วนที่น่าสนใจ คือ การล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง (TA 24) กับ การล่าช้าของเที่ยวบิน (TA 32) จำนวนเงิน 2,500 บาทต่อรายการ
ถ้าดูในรายละเอียด ของ TA 24 ข้อ 1 คือ ประกันจะเริ่มจ่ายค่าคุ้มครอง เมื่อช้าเกิน 8 ชั่วโมง
หากช้าไม่เกิน 8 ชั่วโมง ตามเงื่อนไขประกันภัย ถึงว่าเบิกไม่ได้
ก็จะเดาเหตุผลที่ว่า ลูกเรือจากสิงคโปร์ ตั้งแต่บ่ายสองโมง แต่ทำไมเครื่องออกห้าโมงเย็น คือ
สายการบินเค้ากำลังสร้างเงื่อนไข เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเบิกประกันเดินทางได้นั่นเอง
วงเงินที่เอาประกันได้กรณีล่าช้า 8 ชั่วโมง คือ 20% ของวงเงินประกัน คือ 0.2 x 2500 = 500 บาทต่อรายการ
เห็นได้ว่า ได้แค่ เสื้อยืดหนึ่งตัว (กรณ๊กระเป๋าล่าช้า) กับ อาหารหนึ่งมื้อ (กรณีเที่ยวบินล่าช้า)
เครมได้แค่กรณีเดียวนะครับ คือ 500 บาท เพราะหากบินไปก่อนแล้วกระเป๋าตามไป จะได้กรณีกระเป๋าล่าช้า
แต่หากรอบินพร้อมกระเป๋า จะได้กรณีเที่ยวบินล่าช้าแทน
ขอเพิ่มข้อมูลกรณีกระเป๋าล่าช้านะครับ
ถ้าเป็นฤดูที่อากาศชิลๆ เสื้อผ้าที่เราใส่ไป หรือใส่ในกระเป๋าที่หิ้วขึ้นเครื่องพอ ก็ไม่เป็นไร
แต่หากเป็นฤดูหนาว หากเสื้อท่ีมีอยู่ไม่หนาพอ อย่าออกจากสนามบินเลยครับ ทรมาณ ไปได้ไม่ไกลหรอก ก็ต้องซื้อเสื้อหนาวเพิ่ม
ดังนั้น หากไปช่วงฤดูหนาว ควรพิจารณาเลือกแผนประกัน ที่ครอบคลุม 2 หัวข้อนี้มากสักหน่อย
หรือไม่ก็ไม่ควรไปไกลจากสนามบิน หรือไม่ก็ควรพักที่โรงแรมแรก อย่างน้อย 2 คืน
สรุปผมไม่ได้เครมนะครับ เพราะแผนประกันฯ ที่ผมซื้อราคาต่ำสุด ให้ความคุ้มครองเรื่อง delay แค่ 2,500 บาท เบิกได้ 20% คือ 500 บาท
แต่ถ้าท่านใดซื้อแผนที่วงเงินสูงกว่านี้ เช่น คุ้มครองเรื่อง delay 25,000 - 35,000 บาท delay เหมือนถูกหวย
อ้าว..... บ่นไปไกลเลย
ขอกลับมาหัวข้อเดิม
สรุปคือ วันนั้น ขึ้นเครื่อง 5 โมงเย็น
ก่อนขึ้นเครื่อง ทางสายการบินแจกเอกสารคนล่ะ 1 แผ่น ประกอบการเครมประกันฯ
เครื่องเริ่มออกจาก Gate ประมาณ 6 โมงเย็น ผู้โดยสาร เฮกันลั่น 555
ถึงสนามบิน Kansai ประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ตามเวลาที่ญี่ปุ่น
ตอนเดินออกจากเครื่อง มองเข้าไปใน Gate เห็นผู้โดยสารที่จะโดยสารสายการบินเดียวกันกลับดอนเมือง นั่งรออยู่เพียบ
และมาทราบภายหลังจากผู้ที่เข้ามา comment กระทู้ด้านบน ว่า การ late รอบนี้ กระทบทั้งขาไปจาก DMK และขากลับจาก Kansai
ขาไปยังดี ทราบเหตุผล ส่วนผู้โดยสารขากลับ ไม่ทราบแม้เกระทั่งหตุผล
ออกจาก ตม. ประมาณตีหนึ่งกว่า
เจ้าหน้าที่ ตม. เหมือนต้องทำงานล่วงเวลา เพราะเครื่อง late
ดูเซ็งๆและง่วงนอน เหมือนผู้โดยสาร.... ผ่านง่าย ไม่ถาม ไม่ขอดูเอกสารเพิ่มเติม สรุปเอกสารที่เตรียมเผื่อไป ไม่ได้ใช้เลย 555
ภาพสนามบินตอนตี 2 สิบห้า เหงาโครต
รถไฟเข้าเมืองปิดไปล่ะ ที่จริง.... ปิดไปตั้งนานล่ะ
ใครที่จองโรงแรมไว้ในเมือง Osaka ก็ไปไม่ได้ล่ะ
ทางเลือกแรก คือ นอนสนามบิน แต่ไม่รู้เค้าให้นอนมั้ย ถ้าจะแอบนอน เค้าคงไม่ว้ามั้ง น่าจะเห็นใจคนที่เครื่อง late เนอะ
ทางเลือกสอง คือ นอนโรงแรมสนามบิน น่าจะประมาณ คืนล่ะ 2,000 บาท
สำหรับก้วนผม ได้รับผลกระทบไม่มาก เพราะจองโรงแรมสนามบินอยู่แล้ว แค่ check in ช้าเท่านั้น
ทางเดินเชื่อมเข้าโรงแรมสนามบิน Hotel Nikko Kansai Airport
ถึงจะเหนื่อย ถึงจะหมดแรง
แต่ก็ต้องทำหน้าที่รีวิวเวอร์ที่ดี เก็บรูปห้องก่อนใช้.....
รูปของใช้ในห้องน้ำ ครบดีครับ
อันนี้ทางซ้าย เครื่องพ่นไอน้ำ สำหรับเพิ่มความชื้นในห้อง ไม่ให้ห้องแห้งเกินไปช่วงหน้าหนาว
ส่วนโทรศัพท์ทางขวา เป็น Handy Smartphone ใช้สำหรับควบคุมอุปกรณ์ภายในห้อง ซึ่งไม่ได้ใช้ และใช้ไม่เป็น 555
สรุปงานวันแรกตามนี้ครับ
มีผลพลอยได้ที่เกินค่าหมาย คือ ค่าใช้จ่ายในวันนี้เป็น ศูนย์ ประหยัดงบไปได้พันกว่าบาท...... 555
เพราะติดแหง็กอยู่ที่ดอนเมืองตลอดวัน
ส่วนอาหารกลางวัน กับเย็น ทางสายการบินรับผิดชอบ ให้ Coupon McDonald มา 2 ใบ มื้อล่ะใบ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น