10 ข้อควรรู้ก่อนไปอเมริกา
ถ้าจะมาอเมริกาสิ่งที่ต้องเตรียมตัว 10 อย่างคืออะไร
1 ประกันสุขภาพ
ก็คืออยากให้เพื่อนเพื่อนซื้อประกันสุขภาพมาค่ะ เพราะว่าถ้าต้องเข้าโรงพยาบาลเนี่ยค่ะค่าใช้จ่ายที่นี่สูงมากๆนะคะ เพราะฉะนั้นแนะนำเลยให้ซื้อประกันสุขภาพ จากเมืองไทยมานะคะ
แต่ว่าถ้าเกิดเป็นหวัดหรือเป็นไข้โรคอะไรที่แบบเบสิคเบสิค เราสามารถหาซื้อยาได้ตามร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปนะคะ ไม่จำเป็นจะต้องแบกมา
เพราะว่ายาบางอย่างเนี่ยเค้าอาจจะไม่อนุญาตให้เข้าเอามาที่อเมริกาก็ได้
อันนี้ต้องไปศึกษานะคะว่า ยาอันไหนเค้าอนุญาต ยาอันไหนไม่อนุญาต หรือว่าเราจะต้องใช้ใบรับรองแพทย์หรือเปล่า สำหรับคนที่อาจจะมีโรคประจำตัว อย่างเช่นต้องฉีดยาอินซูลิน อะไรพวกนี้อ่ะค่ะ เช็คว่ายาอันไหนเค้าอนุญาตเข้าอเมริกา
https://help.cbp.gov/app/answers/detail/a_id/1160/~/traveling-with-medication
2 เที่ยวที่ไหน
รีเสิร์ชง่ายง่าย จากทริปแอดไวเซอร์ TripAdvisor.com นะคะ
เข้าไปดูนะคะจะมีทั้งภาพและคนรีวิว ว่าสถานที่นั้น เป็นอย่างไร เราสามารถ สกรีนดูก่อนได้เข้าคร่าวๆว่า เป็นจุดที่เราอยากไปหรือเปล่านะคะ
3 แผนการเดินทาง
เมื่อเราทราบแล้วว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เราก็ทำแผนการเดินทางได้เลยค่ะ
เพราะเดี๋ยวนี้สะดวกมากๆเรามี Google Maps เราสามารถใส่จุดที่เราอยากไปเที่ยว ไปตามจุดต่างๆเพื่อเรา
จะได้วางแผนโรงแรมและการเดินทางของเราด้วยนะคะ เราจะได้เผื่อเวลาถูกด้วยว่า
วันหนึ่งเราจะเที่ยวได้กี่ที่
และเราจะใช้เวลานะจุด นั้นนานเท่าไหร่
อยากจะให้เพื่อนเพื่อนเผื่อเวลาอย่างน้อยซัก 1 ชั่วโมง เผื่อมีการอะไรผิดพลาด
พอศึกษาเส้นทางแล้วนะคะ มันจะทำให้เรารู้ว่าเราจะต้องเช่า รถหรือเปล่า เพราะว่าแต่ละรัฐมีความแตกต่างกันนะคะ บางรัฐเราสามารถเดินทางด้วยตัวเอง โดยใช้รถบัสหรือว่ารถไฟฟ้า ถใต้ดิน Uber หรือ Lyft
ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเที่ยวบริเวณไหน บางบริเวณก็ไม่จำเป็น ต้องใช้รถ บางบริเวณก็ต้องใช้รถ เพราะฉะนั้นการศึกษาเส้นทาง ล่วงหน้าจะเป็น ส่วนหนึ่งทำให้เราตัดสินใจถูกว่า เราจะเช่ารถกี่วันหรือเราจะไม่ต้องเช่ารถเลยนะคะ ใช้ใบขับขี่สากลที่อเมริกาได้ค่ะ
4 อาหารน่าลอง
เราอยากจะทานอาหารที่ไหนทำไมเพราะว่า ถ้าสมมุติว่าเราไปที่ที่นั่นแล้วเนี่ย อาจจะมีอาหารพื้นเมืองที่มันน่าลอง เราจะได้ไม่พลาด ทีนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีอะไรที่น่าทานบ้าง
แอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ อีกอันหนึ่งที่นุ้ยแนะนำเลยนะคะ ที่เวิร์คมากๆสำหรับนุ้ยก็คือ Yelp.com ค่ะ
เพื่อนเพื่อนสามารถใส่ ชนิดของร้านอาหารอย่างเช่น อยากทานอาหารญี่ปุ่นก็ใส่ Japanese food และเมืองที่เราจะไป
ถ้าเราไม่รู้ว่าเราอยากทานอาหารอะไร เราก็แค่ใส่ชื่อเมือง ที่เราจะไปนะคะ ก็สามารถรีเสิร์ชคร่าวๆได้ว่า แถวนั้นมีอะไรน่าทานได้นะคะ แล้วเราก็สามารถจัดงบ ได้ด้วยค่ะ เพราะว่าเค้าจะบอกว่า ราคาของแต่ละร้านจะอยู่ ประมาณเท่าไหร่ ถ้าเราไม่อยากทานแพงมันก็จะเป็นแค่ $
5 ต้องเช็คอุณหภูมิ
ว่าสถานที่ที่เราจะไปอุณหภูมิเป็นอย่างไร อยากจะให้เช็คล่วงหน้าและตอนที่ใกล้จะไป เพราะว่าอุณหภูมิสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และแต่ละรัฐหรือว่า แต่ละส่วนพื้นที่ อย่างเช่นแคลิฟอร์เนียถ้าเราไปส่วนใต้จะร้อนกว่าส่วนเหนือ อุณหภูมิก็จะต่างกันไปเพราะฉะนั้น ควรจะเช็คเป็นเมืองเมือง ไปเลยค่ะ ว่าอุณหภูมิเป็นอย่างไร
ตอนเช้าอุณหภูมิเท่าไหร่
กลางวันอุณหภูมิเท่าไหร่
และตอนกลางคืนอุณหภูมิเท่าไหร่
เพื่อที่ว่าเราจะได้จัดเสื้อผ้าได้อย่างถูกต้อง
ที่ซักผ้าที่อเมริกาก็ค่อนข้างสะดวก ส่วนใหญ่ทุกโรงแรมจะมีเครื่องซักผ้า เราสามารถซักผ้าที่นั่นก็ได้ เราไม่จำเป็นจะต้องแบกเสื้อผ้ามาเยอะแยะมากมาย
เสื้อผ้าของนุ้ยรวมถึงรองเท้าด้วยนะคะ สำคัญมากๆถ้าเกิดเรามาหน้าฝน แต่เราใส่รองเท้าที่เป็นผ้าเนี่ย แล้วเท้าเราเปียก มันก็จะทำให้ เท้าเราหนาวและเที่ยวไม่สนุก
6 ภาษา
จำเป็นไหมจะต้องรู้ภาษาอังกฤษเพื่อ เที่ยวอเมริกา นุ้ยรู้สึกว่าจำเป็นนะคะอาจจะเป็นประโยคที่ใช้บ่อยบ่อย
สั้นสั้นง่ายง่ายที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันสั่งน้ำเครื่องดื่ม หรือว่าอาหาร หรือว่าถามทางค่ะ แต่ทางค่อนข้างง่ายเพราะหากว่าเราหลงเราสามารถใช้
Google Maps ได้เพราะตอนนี้ ค่อนข้างแม่นยำมาก
ความรู้สึกนุ้ยคนอเมริกันค่อนข้างใจดีค่ะ เค้าก็จะพยายาม ทำความเข้าใจกับเรา
7เตรียมตอบคำถามตม.
เท่าที่นุ้ยผ่านมาเนี่ย คำถามที่ทางตมจะถามนะคะ สำหรับคนที่ภาษาไม่แข็งแรงนุ้ยคิดว่า เราควรจะเตรียมคำตอบไปนะคะ ส่วนใหญ่ที่เค้าจะถามเลยง่ายง่ายก็คือ
มาจากไหน
มากี่วัน
ไปที่ไหนบ้าง
พักที่ไหนบ้าง
เรามาทำอะไรที่อเมริกา เรามาเที่ยว มาทำงาน มาสัมมนา
บางทีเค้าอาจจะถามอาชีพเราด้วย
ส่วนใหญ่คำถามจะมีอยู่ประมาณแค่นี้นะคะ ไม่เยอะมาก
ถ้าเกิดสมมุติว่าเรารู้สึกไม่มั่นใจในภาษาของเรานะคะง่ายง่ายเลย เขียนเอาไว้ในกระดาษ
เป็นคำตอบเบสิคพวกนี้นะคะ มาทำอะไร พักที่ไหน ถ้ามาอยู่กับญาติชื่ออะไรที่อยู่อะไร พวกนี้น่ะค่ะเขียนเป็นภาษาอังกฤษยื่นให้เขาเลยก็ได้ค่ะ
เพราะอันนี้เวลาคุณแม่สามีนุ้ยมานะคะ สิ่งที่พวกเราทำก็คือ เขียนให้เลยแล้วก็ให้เค้ายืนให้กับ ตรวจคนเข้าเมือง เค้าก็ผ่านง่ายง่ายแบบนี้นะคะ ไม่ต้องกลัวไม่ต้องเกร็งนะคะ ตรวจคนเข้าเมืองที่นี่บางทีหน้าเค้าอาจจะเก๊กๆนิดนึง แต่ลึกลึกเค้าเป็นคนใจดีค่ะ (คิดเอง55) ไม่ต้องกลัวค่ะ
8 กรอกฟอร์ม US Custom Declaration
เตรียมตัวในการกรอกฟอร์มเราสามารถกรอกเอาไว้ล่วงหน้าได้ด้วยนะคะ
เพราะว่าจะสามารถดาวน์โหลดฟอร์มตัวอย่างจากอินเตอร์เน็ตไว้ แล้วพอมีฟอร์มของแท้เราแค่ก๊อปปี้ลงไป Custom Declaration formนะคะ ว่าเรานำอะไรเข้ามาบ้าง
ถ้านำเงินสดเข้ามาเกิน 10,000 เหรียญเราต้องแจ้งด้วย ถ้าต่ำกว่านั้นเราไม่จำเป็นต้องแจ้ง
ของที่เราเอามานุ้ยแนะนำให้แจ้งให้หมดจริงๆนะคะ พยายามอย่าเอาอะไรที่เค้าห้ามเข้ามาเพราะว่าจะถูกปรับ
แล้วถ้าเกิดเอาเข้ามาแล้วไม่แจ้งแล้วเค้าจับได้เค้าก็สามารถปรับได้ด้วย แต่ส่วนใหญ่เค้าก็จะโยนทิ้งไปค่ะ เพราะฉะนั้นนุ้ยแนะนำให้ซื่อสัตย์ค่ะให้บอกไปเลยว่าเอาอะไรมาบ้าง
แล้วก็สามารถไปศึกษาที่เวบไซด์ได้นะคะว่า อะไรที่เขาอนุญาตเอาเข้ามาไม่ได้บ้าง
https://www.cbp.gov/travel/us-citizens/know-before-you-go/prohibited-and-restricted-items
9 แผนผังสนามบิน
อยากให้ศึกษาว่าสนามบิน ที่เราจะไปมีลักษณะแบบไหน สนามบินแต่ละรัฐจะมีความแตกต่างกัน
ยกตัวอย่างของรัฐวอชิงตัน เค้าให้โหลดกระเป๋าเข้าช่องช่องหนึ่งแล้วมันจะไปโผล่ อีกจุดหนึ่งที่เราจะต้องไปเอาและนอกจากนั้น ยังมีรถไฟภายในด้วยค่ะ ที่เราจะต้องขึ้น เพื่อที่จะไปอีกจุดหนึ่งทางออก
เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่เคยมาเลย หรือถ้าเราไม่คล่องภาษาอังกฤษแล้วอาจจะงงได้
เราสามารถศึกษาในเว็บไซต์เขาก่อนได้นะคะว่าสนามบินมีลักษณะเป็นอย่างไร เมื่อเรามาถึงแล้วเราจะได้ไม่ต้องตื่นตระหนกมากนะคะ
10 แลกเงิน
แลกเงินเงินมาให้เพียงพอค่ะเพราะที่นี่การแลกเงินค่อนข้างไม่สะดวก แต่ร้านส่วนใหญ่จะรับเครดิตคาร์ดหรือเดบิตคาร์ดนะคะ ถ้าลืมแลกเงินมาหรือเงินไม่พอนะคะ ก็สามารถใช้บัตรเอทีเอ็มไปกดเงินได้ในเครือที่แบงค์ของเราเป็นเครือข่ายอยู่นะคะ อาจจะมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อยค่ะ
นุ้ยยหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนเพื่อนนะคะ เวลามาอเมริกาจะได้รู้สึก สนุกและเอ็นจอยกับทริปนะคะ ขอบคุณมากๆนะคะ

10 ข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยวอเมริกา เตรียวตัวตอบคำถามตม.อเมริกา(ตรวจคนเข้าเมือง) ข้อต้องห้าม แต่งตัว แผนเที่ยว กิน
ถ้าจะมาอเมริกาสิ่งที่ต้องเตรียมตัว 10 อย่างคืออะไร
1 ประกันสุขภาพ
ก็คืออยากให้เพื่อนเพื่อนซื้อประกันสุขภาพมาค่ะ เพราะว่าถ้าต้องเข้าโรงพยาบาลเนี่ยค่ะค่าใช้จ่ายที่นี่สูงมากๆนะคะ เพราะฉะนั้นแนะนำเลยให้ซื้อประกันสุขภาพ จากเมืองไทยมานะคะ
แต่ว่าถ้าเกิดเป็นหวัดหรือเป็นไข้โรคอะไรที่แบบเบสิคเบสิค เราสามารถหาซื้อยาได้ตามร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปนะคะ ไม่จำเป็นจะต้องแบกมา
เพราะว่ายาบางอย่างเนี่ยเค้าอาจจะไม่อนุญาตให้เข้าเอามาที่อเมริกาก็ได้
อันนี้ต้องไปศึกษานะคะว่า ยาอันไหนเค้าอนุญาต ยาอันไหนไม่อนุญาต หรือว่าเราจะต้องใช้ใบรับรองแพทย์หรือเปล่า สำหรับคนที่อาจจะมีโรคประจำตัว อย่างเช่นต้องฉีดยาอินซูลิน อะไรพวกนี้อ่ะค่ะ เช็คว่ายาอันไหนเค้าอนุญาตเข้าอเมริกา
https://help.cbp.gov/app/answers/detail/a_id/1160/~/traveling-with-medication
2 เที่ยวที่ไหน
รีเสิร์ชง่ายง่าย จากทริปแอดไวเซอร์ TripAdvisor.com นะคะ
เข้าไปดูนะคะจะมีทั้งภาพและคนรีวิว ว่าสถานที่นั้น เป็นอย่างไร เราสามารถ สกรีนดูก่อนได้เข้าคร่าวๆว่า เป็นจุดที่เราอยากไปหรือเปล่านะคะ
3 แผนการเดินทาง
เมื่อเราทราบแล้วว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เราก็ทำแผนการเดินทางได้เลยค่ะ
เพราะเดี๋ยวนี้สะดวกมากๆเรามี Google Maps เราสามารถใส่จุดที่เราอยากไปเที่ยว ไปตามจุดต่างๆเพื่อเรา
จะได้วางแผนโรงแรมและการเดินทางของเราด้วยนะคะ เราจะได้เผื่อเวลาถูกด้วยว่า
วันหนึ่งเราจะเที่ยวได้กี่ที่
และเราจะใช้เวลานะจุด นั้นนานเท่าไหร่
อยากจะให้เพื่อนเพื่อนเผื่อเวลาอย่างน้อยซัก 1 ชั่วโมง เผื่อมีการอะไรผิดพลาด
พอศึกษาเส้นทางแล้วนะคะ มันจะทำให้เรารู้ว่าเราจะต้องเช่า รถหรือเปล่า เพราะว่าแต่ละรัฐมีความแตกต่างกันนะคะ บางรัฐเราสามารถเดินทางด้วยตัวเอง โดยใช้รถบัสหรือว่ารถไฟฟ้า ถใต้ดิน Uber หรือ Lyft
ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเที่ยวบริเวณไหน บางบริเวณก็ไม่จำเป็น ต้องใช้รถ บางบริเวณก็ต้องใช้รถ เพราะฉะนั้นการศึกษาเส้นทาง ล่วงหน้าจะเป็น ส่วนหนึ่งทำให้เราตัดสินใจถูกว่า เราจะเช่ารถกี่วันหรือเราจะไม่ต้องเช่ารถเลยนะคะ ใช้ใบขับขี่สากลที่อเมริกาได้ค่ะ
4 อาหารน่าลอง
เราอยากจะทานอาหารที่ไหนทำไมเพราะว่า ถ้าสมมุติว่าเราไปที่ที่นั่นแล้วเนี่ย อาจจะมีอาหารพื้นเมืองที่มันน่าลอง เราจะได้ไม่พลาด ทีนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีอะไรที่น่าทานบ้าง
แอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ อีกอันหนึ่งที่นุ้ยแนะนำเลยนะคะ ที่เวิร์คมากๆสำหรับนุ้ยก็คือ Yelp.com ค่ะ
เพื่อนเพื่อนสามารถใส่ ชนิดของร้านอาหารอย่างเช่น อยากทานอาหารญี่ปุ่นก็ใส่ Japanese food และเมืองที่เราจะไป
ถ้าเราไม่รู้ว่าเราอยากทานอาหารอะไร เราก็แค่ใส่ชื่อเมือง ที่เราจะไปนะคะ ก็สามารถรีเสิร์ชคร่าวๆได้ว่า แถวนั้นมีอะไรน่าทานได้นะคะ แล้วเราก็สามารถจัดงบ ได้ด้วยค่ะ เพราะว่าเค้าจะบอกว่า ราคาของแต่ละร้านจะอยู่ ประมาณเท่าไหร่ ถ้าเราไม่อยากทานแพงมันก็จะเป็นแค่ $
5 ต้องเช็คอุณหภูมิ
ว่าสถานที่ที่เราจะไปอุณหภูมิเป็นอย่างไร อยากจะให้เช็คล่วงหน้าและตอนที่ใกล้จะไป เพราะว่าอุณหภูมิสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และแต่ละรัฐหรือว่า แต่ละส่วนพื้นที่ อย่างเช่นแคลิฟอร์เนียถ้าเราไปส่วนใต้จะร้อนกว่าส่วนเหนือ อุณหภูมิก็จะต่างกันไปเพราะฉะนั้น ควรจะเช็คเป็นเมืองเมือง ไปเลยค่ะ ว่าอุณหภูมิเป็นอย่างไร
ตอนเช้าอุณหภูมิเท่าไหร่
กลางวันอุณหภูมิเท่าไหร่
และตอนกลางคืนอุณหภูมิเท่าไหร่
เพื่อที่ว่าเราจะได้จัดเสื้อผ้าได้อย่างถูกต้อง
ที่ซักผ้าที่อเมริกาก็ค่อนข้างสะดวก ส่วนใหญ่ทุกโรงแรมจะมีเครื่องซักผ้า เราสามารถซักผ้าที่นั่นก็ได้ เราไม่จำเป็นจะต้องแบกเสื้อผ้ามาเยอะแยะมากมาย
เสื้อผ้าของนุ้ยรวมถึงรองเท้าด้วยนะคะ สำคัญมากๆถ้าเกิดเรามาหน้าฝน แต่เราใส่รองเท้าที่เป็นผ้าเนี่ย แล้วเท้าเราเปียก มันก็จะทำให้ เท้าเราหนาวและเที่ยวไม่สนุก
6 ภาษา
จำเป็นไหมจะต้องรู้ภาษาอังกฤษเพื่อ เที่ยวอเมริกา นุ้ยรู้สึกว่าจำเป็นนะคะอาจจะเป็นประโยคที่ใช้บ่อยบ่อย
สั้นสั้นง่ายง่ายที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันสั่งน้ำเครื่องดื่ม หรือว่าอาหาร หรือว่าถามทางค่ะ แต่ทางค่อนข้างง่ายเพราะหากว่าเราหลงเราสามารถใช้
Google Maps ได้เพราะตอนนี้ ค่อนข้างแม่นยำมาก
ความรู้สึกนุ้ยคนอเมริกันค่อนข้างใจดีค่ะ เค้าก็จะพยายาม ทำความเข้าใจกับเรา
7เตรียมตอบคำถามตม.
เท่าที่นุ้ยผ่านมาเนี่ย คำถามที่ทางตมจะถามนะคะ สำหรับคนที่ภาษาไม่แข็งแรงนุ้ยคิดว่า เราควรจะเตรียมคำตอบไปนะคะ ส่วนใหญ่ที่เค้าจะถามเลยง่ายง่ายก็คือ
มาจากไหน
มากี่วัน
ไปที่ไหนบ้าง
พักที่ไหนบ้าง
เรามาทำอะไรที่อเมริกา เรามาเที่ยว มาทำงาน มาสัมมนา
บางทีเค้าอาจจะถามอาชีพเราด้วย
ส่วนใหญ่คำถามจะมีอยู่ประมาณแค่นี้นะคะ ไม่เยอะมาก
ถ้าเกิดสมมุติว่าเรารู้สึกไม่มั่นใจในภาษาของเรานะคะง่ายง่ายเลย เขียนเอาไว้ในกระดาษ
เป็นคำตอบเบสิคพวกนี้นะคะ มาทำอะไร พักที่ไหน ถ้ามาอยู่กับญาติชื่ออะไรที่อยู่อะไร พวกนี้น่ะค่ะเขียนเป็นภาษาอังกฤษยื่นให้เขาเลยก็ได้ค่ะ
เพราะอันนี้เวลาคุณแม่สามีนุ้ยมานะคะ สิ่งที่พวกเราทำก็คือ เขียนให้เลยแล้วก็ให้เค้ายืนให้กับ ตรวจคนเข้าเมือง เค้าก็ผ่านง่ายง่ายแบบนี้นะคะ ไม่ต้องกลัวไม่ต้องเกร็งนะคะ ตรวจคนเข้าเมืองที่นี่บางทีหน้าเค้าอาจจะเก๊กๆนิดนึง แต่ลึกลึกเค้าเป็นคนใจดีค่ะ (คิดเอง55) ไม่ต้องกลัวค่ะ
8 กรอกฟอร์ม US Custom Declaration
เตรียมตัวในการกรอกฟอร์มเราสามารถกรอกเอาไว้ล่วงหน้าได้ด้วยนะคะ
เพราะว่าจะสามารถดาวน์โหลดฟอร์มตัวอย่างจากอินเตอร์เน็ตไว้ แล้วพอมีฟอร์มของแท้เราแค่ก๊อปปี้ลงไป Custom Declaration formนะคะ ว่าเรานำอะไรเข้ามาบ้าง
ถ้านำเงินสดเข้ามาเกิน 10,000 เหรียญเราต้องแจ้งด้วย ถ้าต่ำกว่านั้นเราไม่จำเป็นต้องแจ้ง
ของที่เราเอามานุ้ยแนะนำให้แจ้งให้หมดจริงๆนะคะ พยายามอย่าเอาอะไรที่เค้าห้ามเข้ามาเพราะว่าจะถูกปรับ
แล้วถ้าเกิดเอาเข้ามาแล้วไม่แจ้งแล้วเค้าจับได้เค้าก็สามารถปรับได้ด้วย แต่ส่วนใหญ่เค้าก็จะโยนทิ้งไปค่ะ เพราะฉะนั้นนุ้ยแนะนำให้ซื่อสัตย์ค่ะให้บอกไปเลยว่าเอาอะไรมาบ้าง
แล้วก็สามารถไปศึกษาที่เวบไซด์ได้นะคะว่า อะไรที่เขาอนุญาตเอาเข้ามาไม่ได้บ้าง
https://www.cbp.gov/travel/us-citizens/know-before-you-go/prohibited-and-restricted-items
9 แผนผังสนามบิน
อยากให้ศึกษาว่าสนามบิน ที่เราจะไปมีลักษณะแบบไหน สนามบินแต่ละรัฐจะมีความแตกต่างกัน
ยกตัวอย่างของรัฐวอชิงตัน เค้าให้โหลดกระเป๋าเข้าช่องช่องหนึ่งแล้วมันจะไปโผล่ อีกจุดหนึ่งที่เราจะต้องไปเอาและนอกจากนั้น ยังมีรถไฟภายในด้วยค่ะ ที่เราจะต้องขึ้น เพื่อที่จะไปอีกจุดหนึ่งทางออก
เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่เคยมาเลย หรือถ้าเราไม่คล่องภาษาอังกฤษแล้วอาจจะงงได้
เราสามารถศึกษาในเว็บไซต์เขาก่อนได้นะคะว่าสนามบินมีลักษณะเป็นอย่างไร เมื่อเรามาถึงแล้วเราจะได้ไม่ต้องตื่นตระหนกมากนะคะ
10 แลกเงิน
แลกเงินเงินมาให้เพียงพอค่ะเพราะที่นี่การแลกเงินค่อนข้างไม่สะดวก แต่ร้านส่วนใหญ่จะรับเครดิตคาร์ดหรือเดบิตคาร์ดนะคะ ถ้าลืมแลกเงินมาหรือเงินไม่พอนะคะ ก็สามารถใช้บัตรเอทีเอ็มไปกดเงินได้ในเครือที่แบงค์ของเราเป็นเครือข่ายอยู่นะคะ อาจจะมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อยค่ะ
นุ้ยยหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนเพื่อนนะคะ เวลามาอเมริกาจะได้รู้สึก สนุกและเอ็นจอยกับทริปนะคะ ขอบคุณมากๆนะคะ