India in my dreams ตอน Delhi ❤ Again ❤ Alone

สวัสดีค่ะ เพื่อนชาวพันทิป ทู๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกคน
กลับมากับงานเขียนชุด India in my dreams อีกครั้ง  กระทู้นี้ ชมจะพาไปเที่ยว นิวเดลี เจาะๆลงไปเลย
ค้างคาใจกับครั้งที่แล้วที่ ไปแล้วไปโดนทัวร์หลอกขายวันเดย์ทริปแบบ ทัวร์ชะโงกมาก ไอ่ทีอยากไปไม่ได้ไปเลยในครั้งที่แล้ว
ครั้งนี้เลยกลับไปใหม่ ขออนุญาตเรียกตัวเองว่า ชม เพราะเราชื่อชมพู่ เป็นเจ้าของเพจ แบกกล้องชิวเที่ยวคนเดียว สาเหตุที่กลับไปอีกรอบ เนี่ยมี 2 สาเหตุ คือ 1 บอกไปแล้วมะกี้คือ พลาดโดนทัวร์หลอกขายทัวร์ และ 2 คือ ครั้งที่แล้วกระทู้ได้ขึ้นเพจบลูเพนเน็ตหมดยกเว้นกระทู้เดลี เอาใหม่เอาให้ได้ขึ้น ฮ่าๆๆ มันใช่หรอ ฮ่าๆๆๆ ไม่ใช่หรอกครั้งที่แล้วเที่ยวน้อยมันออกมาทางเรื่องส่วนตัว เล่าถึงผู้ (ผู้ชายเยอะไป) คร่าวนี้เอาใหม่ เน้นๆเรื่องเที่ยวอาจจะพูดถึงผู้บ้าง แต่จะไม่เยอะ โอเค๊


มาถึงตรงนี่หลายๆคนอาจจะ เอ้า หัวกระทู้ไปคนเดียว อะโลน แล้วทำไมมีผู้ ก็ผู้ว่างพาเที่ยวแค่ 3 วัน ที่เหลือก็โซ่โล่เดี่ยวอ่ะนะ แล้วทริปนี้คือเป็นทริปแรกที่เริ่มทำตามฝัน คือเดินทางคนเดียวแหระ ตอนอยู่สนามบินนี้ นั่งไม่ติดเลยตื่นเต้นมาก




เอา ข้อมูลรายละเอียดแบบจริงจังก่อนเลยนะ
- ซิม : ใช้ sim 2 Fly
- แลกเงิน : superish TH (สีเขียว) // และไปแลกเพิ่มที่สนามบินอีก แลกกับ SCB
  ที่ชอบแลกกับซุปเปอร์ริชเพราะว่า เขาสามารถหาแบงก์ย่อยหั้ยได้พอสมควร สำหรับการไปอินเดีย พ่อค้าแม่ค้ามักจะมีมุขว่า ไม่มีเงินทอน ไม่ทอนนะ เอ้าเห้ย!! ซะงั้น ก็นั้นละจ้า เวลาแลกเลยระบุว่าขอแบงก์ย่อยเยอะๆ หลักๆเลยชอบแลกกับซุปเปอร์ริชนี้ละ

- สายการบิน : jet airways
   สายการบินเจ็ทแอร์เวย์ส เป็น สายการบิน หลักของอินเดียที่ตั้งอยู่ใน เมืองมุมไบ เป็นสายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอินเดีย
   สำหรับเจ็ทเเอร์เวย์หลายๆคนอาจจะกังวลเวลาต้องเดินทางกับแขกทั้งลำ ก็ไม่ทั้งลำขนาดนั้นหรอก แค่ 90% เป็น แขก ฮ่าๆๆๆ พูดเพื่อ ?? เอาเป็นว่าไม่แย่คะ กลิ่นทุกคนอาจจะกังวลกลิ่นตัว ไม่แรงเพราะส่วนใหญ่เขาเป็นคนที่มาทำงานในไทย ก็ค่อนข้างดูดี ดูภูมิฐาน ไม่ได้ดูซกมก สกปรก แล้วสำหรับผู้หญิงไปกับแขกทั้งลำละ ทำใจนร้าาาาา 90% เป็นผู้ชาย ตอนลงไปเกท เจ้าหน้าที่ฉีกบัตรอุทานตอนฉีกบัตรเราว่า อุ้ย ตั้งแต่ยืนตรงนี้มา เพิ่งเห็น ผู้หญิง .....=..= จ้าาา ตอนนั้น ชะงักเหมือนกัน ความคิดแล่นปรี๊ดขึ้นมาเลย หรือ กรู จะเป็นผู้หญิงคนเดียววะ แต่ก็ไม่ใช่ ก็มีครอบครัวที่เขามาแบบสามี-ภรรยา คนไทยไปเป็นแก๊งส์ก็มีอยู่ ถ้านับรวมทั้งลำ หญิง - สาว2 ไฟท์ของชมในวันนั้นน่าจะมี น่าจะประมาณ 20 คนได้  ก็ไม่แย่นะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสตรองค์เข้าไว้คะ อย่าไปกลัว จริ๊งจริง แขกไม่น่ากลัวขนาดนั้น แขกที่น่ากลัวคือ พ่อค้า จ้าาาาา

- ไฟท์ขาไป คือ 9w 065 วันที่ 26 กรกฎาคม 2561 เวลา 08.35 น. (เช็คอินเปิดเวลา 05.00น//เกทเปิด 7.00 น.)
  ขาไปรู้สึกเครื่องลำเล็กกว่าขากลับ ที่นั่งฟิก สะโพกใหญ่ หรือสาวอวบอ้วน อึดอัดแน่นอน จ้าาาเราอ้วน ขยับตัวทีเกรงใจคนข้างๆเลย ตกหลุมอากาศทีสั่นทั้งลำแต่โดยรวมโอเค ไม่แย่
- ไฟท์ขากลับ คือ 9w 064 วันที่ 30 กรกฎาคม 2561 เวลา 23.00 น. (เช็คอินเปิดเวลา 20.00น//เกทเปิด 22.00 น.)
   สำหรับไฟท์ขากลับคือโอเคเลย เครื่องดูดี ช่วงเก้าอี้ที่นั่งกว้าง นั่งสบาย มีจอมอนิเตอร์ดูหนังฟังเพลง (ขาไปไม่มี) ใช้ได้นะ รู้สึกว่าดีเลยละ สำหรับเจ็ทแอร์เวย์ สำหรับเรา เต็ม 10 เราให้ 7 ละกัน



Day 1 : 25 ก.ค
ชม ไปสนามบิน คืนวันที่ 25 ก.ค เพราะบ้านไกลมาก รถตู้มีเช้าสุดเวลา 06.00 น. ไม่ทันแน่นวลลลล เลยไปนอนสนามบินมันซะเลย
พอไปถึงสนามบินก็จัดการไปลงทะเบียนซิมกับ ช็อป AIS ก่อนเลย เราซื้อซิมมาก่อนแล้วแต่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ก็นำบัตรประชาชนไปลงทะเบียนกับช็อปได้เลยง่ายๆ หลังจากนั้นก็ไปหาอะไรหม่ำๆ เจอกาแฟแก้วละ 79 หงายท้องตึง คือถ้ามันเป็นพวกคาเฟ่กาแฟคงไม่รู้สึกอะไร ที่ร้านข้าวชั้น B สั่งมาพร้อมข้าวอ่ะแหระ ก็เน๊อะ อาหารสนามบินก็ต้องทำใจ ราคามันต้องสูงเป็นธรรมดา


นั่งไม่ค่อยติด เดินไปเดินมา เดินไปเดินมา ก็ขึ้นเครื่องคนเดียวครั้งแรกอ่ะ ตื่นเต้น งงงวยกับ การดูเคาว์เตอร์เช็คอิน บอกตรงๆเอาแบบบ้านนอกๆเลยนะ ไม่รู้ว่าจอด้านในของแถวเคาว์เตอร์เช็คอินนะ คือ คนละแบบกับด้านหน้า ด้านหน้าคือดูเคาว์เตอร์เช็คอิน ด้านหลังคือเกทของไฟท์บิน แล้วไง ไปดูด้านหลังเพราะไปเข้าห้องน้ำ มันขึ้น มา G1 จาก โซน P เดินลิ้นห้อยไป  แล้วเดินไปถึง อ่าววว G ช่อง 1 มันคือ สไปรท์เจ็ทนี้หว่า เอ๋หรือไฟท์เราเช็คอินปิดแล้ว อ่าว! แล้วไงๆ บ้าไปเลย วิ่งไปเช็คที่จุดประชาสัมพันธ์ เข้าบอกด้านหลังเป็นเกทคะ ต้องเช็คเคาว์เตอร์เช็คอินด้านหน้า (โถ่วววววว นังชมบ้า) โอเค ได้ความว่ายังไงก็เช็คอินที่ P ก็เดินกลับไป ขุ่นพระ ขาลากก่อนถึงอินเดียอีกจ้า


ก็รอจนถึงเวลา อันสมควร ก็เข้าไปเช็คอิน มีคำถามที่อยากรู้ว่าทำไม พนักงานบางคนชอบเปลี่ยนที่นั่งเรา ทั้งๆ ที่เราระบุตอนบุ๊คมาแล้ว ครั้งที่แล้วก็เหมือนกัน กลับจากเดลี พนักงานก็บอกเราว่าเรากับเพื่อนจองที่นั่งแยกกันมา เขาจะจะจัดที่นั่งติดกันแถวกลางให้ (ที่จองแยกเพราะจะนั่งริมหน้าต่างทั้งคู่ -..- )

ครั้งนี้นางก็จะเปลี่ยนของเราไปนั่งแถวกลางอีก แต่เราไม่ยอม เลยบอกว่าเราเลือกริมหน้าต่างมาตอนบุ๊คตั๋วอ่ะ เขาถามว่า บุ๊คผ่านเว็ปอะไร เราบอกกับเจ็ทแอร์เวย์เลย เว็ปของสายการบินเลย เขาก็ไปเช็คๆๆๆๆ แล้วหันไปถามคนข้างๆว่า เอาที่นั่งนี้ขายไปหั้ยใคร ปรากฎว่าพนง.ข้างๆ เอาที่นั่งเราไปขายกับ 2สามีภรรยาอินเดีย เราก็พูดแค่ว่าเราระบุมาตอนบุ๊คแล้วว่าจะนั่งตรงนี้ สุดท้ายก็ได้คืนมา เย้ๆๆ หลังจากนั้นก็รอเกทเปิดแล้วบินกันเถอะ


Day 2 : 26 ก.ค
4 ชั่วโมงที่รู้สึกว่ามันยาวนาน และเราปวดตูดมากกกกก ก็นั่งมาทั้งคืนที่สนามบิน มานั่งที่ที่นั่งแคปๆ(สำหรับเรา) เป็นวันที่รู้สึกอยากยืน อยากเดินมากกกกๆ เออ!!! จะบอกว่า สจ๊วต (ถ้าผู้หญิงเรียกแอร์ฯ ผู้ชายสจ๊วตถูกแล้วใช่มั้ย) สจ๊วตไฟท์ 9w065 คืองานดีมากกก หล่อมาก ตอนเดินออกจากเครื่อง กัปตันก็ออกมายืนขอบคุณใช่มั้ย กัปตันก็หล่อแกกกกกกกกกก สเปคเราจะเป็นแบบผช เข้มๆ มีหนวดมีเคราอ่ะนะ (ไม่งั้นคงไม่มาได้ผู้อยู่อินเดีย ฮ่าๆๆ) โอเคเข้าเรื่องต่อ ก็ไปจัดการตามกระบวนการของสนามบิน

ความเอ๋อแรก มาก็เคยมาแล้วนะ แต่ลืมไปว่า ต.ม. วีซ่าปกติ กับ e-visa มันแยกกันเข้ามันช่องวีซ่าปกติแม่มเลย หน้าแตกซิคะ ครั้งที่แรวต.ม. ไม่ถามอะไรเลย ครั้งนี้ ถามเยอะไปหมด ไม่ได้ถามแบบจริงๆจังซีเรียสนะมันออกแนวกวนๆ แกล้งๆมากกว่า
ต.ม. : คุณชื่อสุภมาส (ยัวเนมสุภมัส)
เรา : เยส (yes)
ต.ม. : คุณมาทำอะไรที่อินเดีย (ว็อทดูยูดูอินอินเดีย) ธุรกิจ หรือท่องเที่ยว (บิสิเนส ออ ทราฟเวล)
เรา : มาท่องเที่ยว (ทู ทราฟเวอร์ลิ่ง)
ต.ม. : เมืองที่คุณจะไป  (วิช ซิตี้แดสยูโก)
เรา : นิวเดลี
ต.ม. : แล้ว (แอนด์เดน??)
เรา : แค่เดลี (อองลีเดลี)
ต.ม. : แล้วคุณทำอะไรที่เดลี (ว็อทดูยูดูอินเดลี/ แล้วขำกรุ้มกริบ)
เรา :  (มันต่างจากคำถามว่ามาทำอะไรที่อินเดีย ก็มาเที่ยวอินเดียเที่ยวเดลีไงฟร๊ะ)  มาท่องเที่ยวไง
ต.ม. : (ขำ และส่ายหัวสไตล์คนอินเดีย)

และสุดท้ายก็ปั้มตราประทับ และ ผ่านเข้าสู่เดลี อย่างเรียบร้อย เอาละ จะพาเข้าไปชม นิวเดลี จริงๆจังๆละนะ เราเลือกการเข้าเมืองด้วยเมโท ใครไปหลายคนจะแชร์ค่าแท็กซี่กันก็ได้นะ แต่ถ้าเน้นประหยัดก็เมโท เลย สำหรับเดลีคือเที่ยวง่ายมาก ถ้าคุณไม่ติดหรู หรือขี้กลัว หรือมองลบจนมากเกินไป เพราะเมโททั่วถึงทั้งเดลีมาก แต่!! อย่าลืมว่า คนอินเดียเขากระแสนิยม เขานิยมชาวต่างชาติ ชอบมอง ชอบยิ้ม ชอบจ้อง ผู้หญิงอาจจะกลัวหรือเขิน ผู้ชายอาจจะรู้สึกรำคาญที่ต้องถูกจ้องมอง เขามองเพราะเราแปลกตา ผิวก็ไม่เหมือน ยิ่งทำสีผมยิ่งดูไนท์ ดูแฟชั่น เขาก็ยิ่งมอง ยิ่งสวยยิ่งหล่อยิ่งถูกจับตามอง แต่มันไม่ได้น่ากลัวเขาไม่ได้คิดร้ายอะไร (คนดีก็มีเยอะ คนไม่ดีก็มีอยู่แต่อย่าตัดสินเขาแบบเหมารวม) ถ้าไม่ซีเรียส สตรองค์พอ เฟรนลี่พอ ก็ไปโล๊ดดดดดด (นี้คุยได้กับทุกคน ได้ทุกคนเลย สนุกสนานไปกับเขาหมด จนผู้บอกว่ายูเฟรนลี่มากเกินไปน้าาาา =..= )


แล้วเราก็มาถึง สถานี นิวเดลี แล้ว หลังจากนี้ก็คือ นั่งริชชอร์ (หรือที่เขาเรียกกันว่า ออโต้ หรือตุ๊กๆในบ้านเรานั้นแหระ) ไปที่พัก จริงๆมันเดินได้นะ แต่เหนื่อย และง่วงแล้ว เลยไม่เดินละ

หลังจากเข้าที่พักเราก็ อาบน้ำ รีแลกซ์แปป พอฝนซาก็ไป เคาว์เนอร์เพลส ย่านใจกลางเดลี ช๊อปปิ่ง อาหาร ที่นี้ โอเค รสชาติกลางๆ ไม่แขกมาก จริงๆ อาหารสตรีทฟู๊ด หรือ อินเดียขนานแท้เราก็กินได้นะ แต่เวลาไปร้านแบบนั้น มันมักจะมีแต่ผู้ชายเต็มร้าน เลยเลือกร้านแบบนี้ แต่มันจะแพงหน่อยนะ แน่นอนว่า มื้อแรก โหยหา ชิ้กเก้นเคอร์รี่มากกกกกกก ก็ต้องชิ้กเก้น เคอร์รี่เลย ขอบอกก่อนเลยว่า จริงๆลิสรายชื่ออาหารแบบnon veg ไปนะ แต่ผู้มันไม่กิน non veg มันไม่กินเนื้อสัตว์ แล้วทุกมื้อมันจ่าย เลยตามใจมัน กิน Veg เจ้าคร้าาาา โนเนื้อสัตว์ไปอีก นี้เป็นเมนูแรกที่เป็นเนื้อสัตว์ หลังจากนี้จะโนเนื้อสัตว์ละนะ

เราออกจากที่พัก เดินหาร้านอาหาร ส่องริชชอร์ที่น่าไว้ใจ แต่โดนตามตื้อ คือ เขาบอกว่า ตรงนี้มีที่ที่เราควรไป เขาคิด 10 รูปี ตรงนั้นจะมีทุกอย่างที่เราหา มันคือ เดลีฮัท ตามตื้อนานมาก เลยไปๆให้สิ้นเรื่องก็คิดว่าตัวเอาเก๋าเกอยู่พอตัว เลยไป จ้าาาา แบบเดิมแป๊ะ อะไรก็ตามที่เขาคิดราคาเราเท่าคนอินเดีย หรือราคาต่ำแสนต่ำ ให้รู้ไว้ว่า เขากำลังลงทุนน้อยเพื่อหากำไรมาก คนพวกนี้หากำไรจากการพาเราไป ช๊อปปิ้ง ถ้าเราซื้อตามร้านที่คนขับตุ๊กๆพวกนี้พาไป เขาจะได้เปอร์เซ็นจากราคาที่เราซื้อจากร้านค้า เปอร์เซ็นพวกนี้มาจากไหน คุณคิดว่าร้านจะแบ่งให้เขาหรอ ก็ไม่ใช่ มันมาจากการบวกเพิ่มใน Vat ในภาษีท้องถิ่นไง และใครเป็นคนจ่ายราคานั้น ก็คุณไง คุณซื้อของจ่ายร้าน และจ่ายคนขับของคุณ

เรารู้ข้อนี้ดีมาก และเราไม่ใช่ขาช๊อป แน่นอนว่าเราไม่ลงจากตุ๊กๆ จ้า เราบอก ฟู๊ด เขาบอก หั้ยไปนี้ก็ก่อนค่อยกิน (ก็กูหิวตอนนี้)
เรา : ฉันไม่ต้องการซื้ออะไรทั้งนั้น
คนขับตุ๊กๆ : ลองลงดูก่อน มันมีเสื้อผ้า เยอะแยะมากมาย
เรา : ไม่ ไอหิว พาฉันไปเคาว์เนอร์เพลส พลีส
คนขับตุ๊กๆ : ลองดูก่อน ในนั้นมีหลายอย่างมากมาย
เรา : ไม่ ไม่ต้องการช๊อปปิ้ง
พนักงานหน้าร้านเดลีฮัท : (เดินมาที่รถ) ฮัลโหลมาดาม ลองดูก่อน
เรา : ไอ ดอนว็อท (นาทีนี้ไม่สนใจเรื่องมารยาทแล้วครัฟ ไม่ซื้อโว่ยยยยไม่ดู หิว!) พอเราพูดแบบนี้ พนักงานคนนั้นก็เดินกลับไป
คนขับตุ๊กๆ : (ไม่พูดอะไรแต่มองหน้าเรานิ่งๆ )
เรา : คุณจะพาฉันไปเคาว์เนอร์เพลสมั้ย
คนขับตุ๊กๆ : ทำไมคุณไม่ลองเลือกดู
เรา : (สิทธิ์ของฉันไม่ละ) ฉันไม่ชอบช๊อปปิ้ง เอาละฉันจะจ่ายสิบรูปี แล้วไปเคาว์เนอร์เพลงด้วยตัวเอง โอเค๊ (เอาเซ่ เอาไง)
คนขับตุ๊กๆ : โอเค 100 รูปี
เรา : โอเค๊
เรารู้ว่านางต้องพาไป เพราะนี้มันผิดแผนนาง ถ้านางไม่ไปเท่ากับนางได้แค่ 10รูปี เปอร์เซ็นอะไรก็ไม่ได้ แต่ถ้าพาไปก็ได้ 100 อย่างน้อยก็ได้กำไร จ้า นางพาไป แล้วเราก็หาร้านหม่ำๆ ตามที่ต้องการ เย้ๆ

ชิกเก้นเคอร์ คือแกงไก่เผ็ดร้อน กินกับแป้งนานโรตี อร่อยมาก

ต่อๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่