สวัสดีค่ะ วันนี้จะขอมาแชร์วิธีรักษาหูดค่ะ

เมื่อ 5 ที่แล้ว เป็นตุ่มๆ ขึ้นที่นิ้วโป้ง ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นอะไร ผ่านมาซัก 1 ปี แฟนบอกเป็นหูด จึงไปคลินิก ผ่าหูดออก
วิธีการผ่าหูด คือ​ ฉีดยาชาที่ใกล้ๆ บริเวณที่เป็นหูด เจ็บมากเพราะเป็นที่นิ้ว ซึ่งเป็นปลายประสาท ผ่าเสร็จก็ต้องล้างแผลทุกวัน โดนน้ำไม่ได้ ซักเดือนนึงแผลหาย แล้วก็เห็นว่ายังมีตุ่มเล็กๆ หลงเหลืออยู่คือการผ่าออกไม่หมดนั่นเอง มันเลยแบ่งเซลล์ มันขึ้นมาได้อีก

ผ่านไปอีก 3 ปี ไม่ได้สนใจมันเลย เพราะมีลูก ไม่อยากไปผ่าอีกกลัวจะเลี้ยงลูกไม่สะดวก เคยไปจี้เย็น โดยใช้ Nitrogen เหลว ก็ไม่หาย, ทั้งธูปจี้, ตัดแล้วเอากระเทียมโปะ, เอาเทปพลาสติกมาพันๆ ไว้  สรุป ไม่ได้เรื่องเลย  จากที่เป็นจุดเดียวตรงนิ้วโป้ง ลามไปทั้งมือซ้ายและขวา รวมๆ กว่า 7 เม็ด  เม็ดใหญ่สุด อยู่ข้างๆ เม็ดแรก ใหญ่เกือบ 3 มิล

ณ ตอนนั้น คือ ไม่ไหวละ ชิวิตจะเดินต่อไปทางไหนดี กลัวติดลูกก็กลัว เลยหาข้อมูล แล้วก็สรุปได้ว่า เอาวะ!!! รักษาไนโตรเจนเหลวอีกทีละกัน คราวนี้ไปที่ ศิริราช ตึกใหม่  ไปหา 5 ครั้ง ค่าหมอต่อครั้งอยู่ที่ 1100 บาท ไม่รวมค่ายา และค่ารักษาอื่นๆ  ไปทุกครั้งที่หมอนัด โดนไปประมาณ หมื่นกว่าบาท ตอนนี้หายแล้วค่ะ

วิธีการรักษาโดย ไนโตรเจนเหลว คือ หมอจะเอาไนโตรเจนมาฉีดตรงบริเวณที่เป็น  ไม่เจ็บมาก จะออกแนวจี๊ดๆ นิดๆ เพราะมันเย็นมาก อารมณ์เหมือนจับของเย็นมากๆ จะชา แต่ถ้าทำบ่อยๆ จะชินไปเอง ทำเสร็จหมอให้ยามาทา เพื่อให้เนื้อที่ตายแล้วลอกออก  พอหนังที่ตายลอกหมดแล้ว ตรงนี้ล่ะสำคัญ ถ้ายังเห็นว่าเจ้าหูดยังอยู่ ผิวยังไม่เรียบๆ ให้รีบไปซ้ำ เพราะถ้าปล่อยไว้ มันจะแบ่งตัวเร็วมาก  ถ้าหูดเล็กๆ จี้ทีนึงก็น่าจะหาย  เม็ดใหญ่สุดของเราต้องจี้ 5 รอบ  รอบสุดท้ายเหลือเม็ดนิสนึง เราบอกหมอว่าให้จี้นานๆ เลย  แล้วก็ไม่ต้องนัดเราแล้ว เพราะเราไม่อยากเจอหมอแล้ว หมอหัวเราะแล้วบอกว่าเช่นกันค่ะ

ข้อดีของการจี้เย็น คือ ไม่เป็นแผล โดนน้ำได้ ใช้ชีวิตได้ปกติ อาจจะระบมหน่อยแต่ทนได้
ข้อเสียคือ แพง555

โรงพยาบาลที่เราทราบว่ามีบริการจี้เย็น คือ โรงบาลศิริราช ปิยะมหาราชการุณย์. โรงพยาบาลเซนหลุยส์ และ โรงพยาบาลจุฬา คลินิกนอกเวลาค่ะ ลองสอบถามราคาก่อนไปนะคะ

สุดท้ายนี้ถ้ารู้ตัวว่าเป็นหูดรีบรักษานะคะ อย่าตัดเพราะมันจะลาม อย่าปล่อยไว้นานเพราะจะยิ่งรักษายาก เหมือนเรา เป็นมา 5  ปี ลาขาดละค่ะ บ๊าย บายหูด