ภาพจาก Kimberly A. Wood / Cascadia Research
ทีมนักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ ค้นพบลูกครึ่งวาฬ-โลมาสายพันธุ์ผสม ชนิดที่หาพบได้ยากยิ่ง และเพิ่งพบเป็นครั้งแรก ! โผล่ขึ้นมาอวดความน่ารักน่าเอ็นดูกลางมหาสมุทรในฮาวาย
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2561 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เผยรายงานว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์จากโครงการ Cascadia Research Collective ซึ่งดูแลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเล จากรัฐวอชิงตัน สหรัฐฯ ค้นพบลูกครึ่งวาฬ-โลมาสายพันธุ์ผสม ชนิดที่หาพบได้ยาก โผล่ขึ้นมาเหนือมหาสมุทร ที่บริเวณนอกชายฝั่งของเกาะคาไว ในหมู่เกาะฮาวาย
รายงานเผยว่า ทางทีมสำรวจได้พบสัตว์กลุ่มนี้ครั้งแรก เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2560 โดยในครั้งนั้น ได้มีการติดแท็กไว้ที่โลมาและวาฬหลากหลายชนิดด้วยกัน ตั้งแต่สายพันธุ์ที่พบได้ทั่วไป เช่น โลมาฟันห่าง (Rough-toothed Dolphin) และสายพันธุ์ที่หาพบได้ยากมากขึ้น อย่าง วาฬหัวแตงโม (Melon-headed whale)
อย่างไรก็ดี เมื่อไม่นานมานี้ ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตว่า สัตว์หนึ่งตัวในกลุ่มที่ติดแท็กว่าเป็นวาฬหัวแตงโม โดยพิจารณาจากลักษณะของครีบหลัง แต่มันกลับมีรอยแต้มที่ลำตัว และส่วนหน้าผากที่ลาดลง แบบเดียวกับลักษณะของโลมาฟันห่าง ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า แท้จริงแล้วมันคือสายพันธุ์ใดกันแน่
กระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผลการตรวจสอบตัวอย่างพันธุกรรมของมันได้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระบุยืนยันว่า มันคือ ลูกครึ่งวาฬ-โลมา ระหว่างสายพันธุ์วาฬหัวแตงโม และโลมาฟันห่าง ซึ่งเพิ่งจะมีการพบเป็นครั้งแรก
การผสมข้ามสายพันธุ์ฟังดูเป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาด แต่ตามข้อเท็จจริงแล้วมีความเป็นไปได้ เนื่องจาก วาฬหัวแตงโม แท้จริงแล้วไม่ใช่วาฬ แต่อยู่ในตระกูลของโลมามหาสมุทร ซึ่งรวมถึง วาฬเพชฌฆาต (Orcas) และวาฬนำร่อง (Pilot Whales) 2 สายพันธุ์ นอกจากนี้ ครั้งนี้ยังไม่ใช่การพบลูกครึ่งวาฬ-โลมาครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้เคยมีการพบพันธุ์ผสมระหว่างโลมาปากขวดกับวาฬเพชฌฆาตแปลง ซึ่งถูกเรียกง่าย ๆ ว่า วอลฟินส์ (Wolphins) จากการนำคำว่า Whales และ Dolphin มารวมกัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีการยืนยันการค้นพบ ลูกครึ่งวาฬ-โลมา พันธุ์ผสมระหว่าง วาฬหัวแตงโม และโลมาฟันห่าง ซึ่งนับว่าเป็นการค้นพบที่น่าตื่นเต้น โดยทางทีมนักวิจัยเผยว่า สายพันธุ์ผสมใหม่นี้ ไม่ใช่ชนิดที่จะหาพบได้ง่าย ๆ โรบิน แบร์ด หนึ่งในทีมนักวิจัยของทางโครงการ เผยว่า ในขณะที่การผสมข้ามสายพันธุ์ สามารถทำให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา แต่ที่ผ่านมา มีเพียงลูกครึ่งวาฬ-โลมาแบบเดียวที่พบ
นอกจากนี้ ทีมสำรวจยังพบความแปลกประหลาดว่า ลูกครึ่งวาฬ-โลมา พันธุ์ผสมระหว่างวาฬหัวแตงโม และโลมาฟันห่างตัวนี้ ว่ายน้ำเดินทางเป็นคู่กับ วาฬหัวแตงโมเพียงตัวเดียว ท่ามกลางฝูงโลมาฟันห่าง ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก เนื่องจากตามปกติแล้ว วาฬหัวแตงโมจะอยู่รวมตัวเป็นฝูงใหญ่ 200-300 ด้วยเหตุนี้ ทำให้ทีมวิจัยตั้งข้อสันนิษฐานว่า วาฬหัวแตงโมตัวเดียวที่เป็นคู่หูของเจ้าลูกครึ่งวาฬ-โลมาตัวนี้ น่าจะเป็น แม่ของมัน
ทางทีมวิจัยเตรียมกลับมาที่เกาะคาไว ในสัปดาห์หน้าเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติม โดยหวังว่าจะสามารถยืนยันทฤษฎีของพวกเขาได้
"ถ้าเราโชคดีพอที่จะพบคู่อีกครั้ง เราจะพยายามหาตัวอย่างเนื้อเยื่อของวาฬหัวแตงโม ตัวที่เป็นคู่หูของเจ้าลูกครึ่งวาฬ-โลมาตัวนี้ เพื่อพิสูจน์ว่ามันเป็นแม่ของมันจริง ๆ หรือไม่ รวมทั้งจะทำการถ่ายภาพใต้น้ำของลูกครึ่งวาฬ-โลมาตัวนี้มาด้วย เพื่อประเมินความแตกต่างทางรูปลักษณะและโครงสร้างจากสายพันธุ์ต้นกำเนิดของมันได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น" โรบิน แบร์ด กล่าว
ภาพจาก Kimberly A. Wood / Cascadia Research
ข่าวจาก : กระปุกดอทคอม
https://hilight.kapook.com/view/176024
ตื่นเต้น พบลูกครึ่งวาฬ-โลมา สายพันธุ์ผสมหายาก และเพิ่งพบเป็นครั้งแรก
ภาพจาก Kimberly A. Wood / Cascadia Research
ทีมนักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ ค้นพบลูกครึ่งวาฬ-โลมาสายพันธุ์ผสม ชนิดที่หาพบได้ยากยิ่ง และเพิ่งพบเป็นครั้งแรก ! โผล่ขึ้นมาอวดความน่ารักน่าเอ็นดูกลางมหาสมุทรในฮาวาย
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2561 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เผยรายงานว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์จากโครงการ Cascadia Research Collective ซึ่งดูแลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเล จากรัฐวอชิงตัน สหรัฐฯ ค้นพบลูกครึ่งวาฬ-โลมาสายพันธุ์ผสม ชนิดที่หาพบได้ยาก โผล่ขึ้นมาเหนือมหาสมุทร ที่บริเวณนอกชายฝั่งของเกาะคาไว ในหมู่เกาะฮาวาย
รายงานเผยว่า ทางทีมสำรวจได้พบสัตว์กลุ่มนี้ครั้งแรก เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2560 โดยในครั้งนั้น ได้มีการติดแท็กไว้ที่โลมาและวาฬหลากหลายชนิดด้วยกัน ตั้งแต่สายพันธุ์ที่พบได้ทั่วไป เช่น โลมาฟันห่าง (Rough-toothed Dolphin) และสายพันธุ์ที่หาพบได้ยากมากขึ้น อย่าง วาฬหัวแตงโม (Melon-headed whale)
อย่างไรก็ดี เมื่อไม่นานมานี้ ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตว่า สัตว์หนึ่งตัวในกลุ่มที่ติดแท็กว่าเป็นวาฬหัวแตงโม โดยพิจารณาจากลักษณะของครีบหลัง แต่มันกลับมีรอยแต้มที่ลำตัว และส่วนหน้าผากที่ลาดลง แบบเดียวกับลักษณะของโลมาฟันห่าง ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า แท้จริงแล้วมันคือสายพันธุ์ใดกันแน่
กระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผลการตรวจสอบตัวอย่างพันธุกรรมของมันได้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระบุยืนยันว่า มันคือ ลูกครึ่งวาฬ-โลมา ระหว่างสายพันธุ์วาฬหัวแตงโม และโลมาฟันห่าง ซึ่งเพิ่งจะมีการพบเป็นครั้งแรก
การผสมข้ามสายพันธุ์ฟังดูเป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาด แต่ตามข้อเท็จจริงแล้วมีความเป็นไปได้ เนื่องจาก วาฬหัวแตงโม แท้จริงแล้วไม่ใช่วาฬ แต่อยู่ในตระกูลของโลมามหาสมุทร ซึ่งรวมถึง วาฬเพชฌฆาต (Orcas) และวาฬนำร่อง (Pilot Whales) 2 สายพันธุ์ นอกจากนี้ ครั้งนี้ยังไม่ใช่การพบลูกครึ่งวาฬ-โลมาครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้เคยมีการพบพันธุ์ผสมระหว่างโลมาปากขวดกับวาฬเพชฌฆาตแปลง ซึ่งถูกเรียกง่าย ๆ ว่า วอลฟินส์ (Wolphins) จากการนำคำว่า Whales และ Dolphin มารวมกัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีการยืนยันการค้นพบ ลูกครึ่งวาฬ-โลมา พันธุ์ผสมระหว่าง วาฬหัวแตงโม และโลมาฟันห่าง ซึ่งนับว่าเป็นการค้นพบที่น่าตื่นเต้น โดยทางทีมนักวิจัยเผยว่า สายพันธุ์ผสมใหม่นี้ ไม่ใช่ชนิดที่จะหาพบได้ง่าย ๆ โรบิน แบร์ด หนึ่งในทีมนักวิจัยของทางโครงการ เผยว่า ในขณะที่การผสมข้ามสายพันธุ์ สามารถทำให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา แต่ที่ผ่านมา มีเพียงลูกครึ่งวาฬ-โลมาแบบเดียวที่พบ
นอกจากนี้ ทีมสำรวจยังพบความแปลกประหลาดว่า ลูกครึ่งวาฬ-โลมา พันธุ์ผสมระหว่างวาฬหัวแตงโม และโลมาฟันห่างตัวนี้ ว่ายน้ำเดินทางเป็นคู่กับ วาฬหัวแตงโมเพียงตัวเดียว ท่ามกลางฝูงโลมาฟันห่าง ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก เนื่องจากตามปกติแล้ว วาฬหัวแตงโมจะอยู่รวมตัวเป็นฝูงใหญ่ 200-300 ด้วยเหตุนี้ ทำให้ทีมวิจัยตั้งข้อสันนิษฐานว่า วาฬหัวแตงโมตัวเดียวที่เป็นคู่หูของเจ้าลูกครึ่งวาฬ-โลมาตัวนี้ น่าจะเป็น แม่ของมัน
ทางทีมวิจัยเตรียมกลับมาที่เกาะคาไว ในสัปดาห์หน้าเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติม โดยหวังว่าจะสามารถยืนยันทฤษฎีของพวกเขาได้
"ถ้าเราโชคดีพอที่จะพบคู่อีกครั้ง เราจะพยายามหาตัวอย่างเนื้อเยื่อของวาฬหัวแตงโม ตัวที่เป็นคู่หูของเจ้าลูกครึ่งวาฬ-โลมาตัวนี้ เพื่อพิสูจน์ว่ามันเป็นแม่ของมันจริง ๆ หรือไม่ รวมทั้งจะทำการถ่ายภาพใต้น้ำของลูกครึ่งวาฬ-โลมาตัวนี้มาด้วย เพื่อประเมินความแตกต่างทางรูปลักษณะและโครงสร้างจากสายพันธุ์ต้นกำเนิดของมันได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น" โรบิน แบร์ด กล่าว
ภาพจาก Kimberly A. Wood / Cascadia Research
ข่าวจาก : กระปุกดอทคอม
https://hilight.kapook.com/view/176024