ติดตามรีวิวใหม่ๆ ก่อนใครได้ที่ : https://www.Facebook.com/23SCENES
feature film, romcom
เรื่อง: App War แอปชนแอป (ยรรยง คุรุอังกูร, 2561)
คะแนน: 8/10
เรื่องราวเกี่ยวกับ บอมบ์ และ จูน สองหัวหน้าทีมทำแอปหน้าใหม่ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการประกวด Startup เวทีไหนมาก่อนเลย วันหนึ่งพวกเขาได้เจอกันโดยบังเอิญ เมื่อได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นก็พบว่าต่างคนต่างก็ชอบอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน จนคุยกันถูกคอ และเกิดเป็นความรู้สึกดีๆ ขึ้น ค่ำคืนนั้นทำให้บอมบ์ได้แรงบันดาลใจและปิ๊งไอเดียแอป แอปหนึ่งขึ้นมา แต่หลังจากเปิดตัวแอปได้ไม่นาน ก็มีอีกแอปหนึ่งเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งไอเดียและคอนเซปต์ของแอปคล้ายของเขาจนแทบจะเรียกได้ว่า “ก๊อบ” กันออกมาทีเดียว และเมื่อสืบถึงตัวเจ้าของแอป ก็พบว่า แอปนั้นเป็นของ จูน นั่นเอง ทั้งบอมบ์และจูนได้เจอกันอีกครั้ง แต่เป็นในฐานะคู่แข่ง เมื่อต่างคนต่างก็เชื่อมั่นว่าตัวเองเป็นเจ้าของไอเดียแอปนี้ และไม่มีใครยอมรับว่าตัวเองเป็นฝ่าย “ก๊อบ” แถมเวลาของการแข่ง Startup ครั้งใหม่ก็กำลังจะมาถึง และครั้งนี้มันคือการเดิมพันด้วยอนาคตของทั้งสองทีม โดยมีการระดมทุนระดับร้อยล้านเป็นเดิมพัน ทั้งสองทีมต่างต้องเอาตัวรอด พวกเขาเริ่มคิดวิธีตุกติก ยิ่งเวลาดำเนินไป แผนการล้วงลับแอปคู่แข่งของทั้งสองต่างก็เริ่มเลยเถิด และอยู่นอกเหนือการควบคุมมากขึ้นทุกขณะ
.
สำหรับเรา App War เป็นหนังที่เราคาดหวังไว้ค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นหนังที่มี plot น่าสนใจ นักแสดงมากฝีมือ อีกทั้งยังเป็นผลงานกำกับของพี่เสือ ซึ่งเคยทำให้เราประทับใจมากๆ มาแล้วใน 2538 อัลเทอร์มาจีบ ซึ่งพอได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว เราต้องยอมรับเลยว่าเป็นหนังที่เล่าเรื่องได้สนุกมากจริงๆ เราชอบเส้นเรื่องที่หนังค่อยๆ ปูความสัมพันธ์ตัวละครให้ค่อยๆ ไป romance ก่อนจะกระโดดเข้า drama โดยที่เราไม่ทันตั้งตัว ซึ่งในท้ายที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะสนุก และเป็นเส้นเรื่องที่เราชอบ แต่จนแล้วจนรอด หนังมันก็เล่าไม่สุดในทางของมัน
.
ในส่วนของงาน production ประทับใจในส่วนของงาน visual และการเลือก location ต่างๆ มากพอสมควร แต่ในด้านของงานภาพ เรากลับพบว่ามันไม่ได้หวือหวาหรือน่าประทับใจอะไรเท่าที่เราคิดไว้ อีกทั้งจังหวะลำดับภาพยังมีขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง จนทำให้มันขัดอารมณ์กันเอง
.
อีกสิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกได้คือ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้เป็นหนังแนว romcom นั่นหมายความว่า หนังเรื่องนี้ต้องเป็นหนังตลก แต่สิ่งทีเรารู้สึกคือ ตลกแต่แป้ก แป้กอย่างสิ้นเชิงเลย หลายๆ ครั้งเรารู้สึกว่ามันพยายามมากไป ตลอดระยะเวลาที่หนังฉาย เราขำไปแค่ครั้งสองครั้งเท่านั้น เราเลยไม่ได้รู้สึกว่ามันเน้น comedy อะไรขนาดนั้น
.
นักแสดงหลักทุกคนคือสิ่งที่ดีงามของหนังเรื่องนี้มากๆ ไม่ชมไม่ได้เลย ทุกคนล้วนเติมเต็มสีสันให้แก่กันและกัน อีกทั้งนักแสดงสมทบทุกคนที่เรียกได้ว่าคือนักแสดงหน้าใหม่ (ซึ่งอาจจะไม่ค่อยใหม่สำหรับเราเท่าไหร่) ก็ยังมีความเฟรซที่เยอะมากๆ นั่นเลยทำให้หนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่มีนักแสดงสดใสคับคั่งจริงๆ ในขณะเดียวกัน อีกหนึ่งนักแสดงที่หลายๆ คนจับตามอง 1 ในสมาชิกวงไอดอลแห่งยุค BNK48 อย่าง อร ก็เป็นหนึ่งตัวละครที่ค่อนข้างน่าสนใจ น่ารัก และเหนือความคาดหมายเหมือนกัน เอาจริงๆ ถึงแม้เราจะโอชิอร และชอบอรมากแค่ไหน แต่สำหรับหนังเรื่องนี้ เรากลับรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ประทับใจอะไรขนาดนั้น แต่หากมองในแง่ของการแสดงหนังเรื่องแรกแล้ว เรากลับพบว่า เป็นการแสดงที่ค่อนข้างดีเลย
.
ชอบที่ตัวหนังเลือกเล่าความธรรมดาที่สามารถจับต้องง่ายๆ แบบนี้มากๆ การพยายามทำตามความฝัน การสร้างเป้าหมาย การสร้างเนื้อสร้างตัวในแบบฉบับของเด็กยุคใหม่ มันคือสิ่งที่เราหลายๆ คนล้วนเป็นกันอยู่แล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าตัวหนังมันจะพูดถึง startup ซึ่งมันก็คือหนึ่งในอาชีพยุคใหม่เช่นเดียวกัน นั่นจึงทำให้ App War เป็นหนังที่เลือกเล่าเรื่องความธรรมดา บนโลกปัจจุบันให้เข้าถึงได้ง่ายมากๆ
.
วัตถุดิบเรื่องของ startup เป็นสิ่งที่น่าสนใจและใหม่มากๆ สำหรับบ้านเรานะ น่าจะเป็นหนังเรื่องแรกเลยที่นำประเด็นเรื่องนี้มาพูด แต่ในขณะเดียวกัน ตัวหนังก็ยังคงเน้นในส่วนของความสัมพันธ์ตัวละครต่างๆ ในเรื่องอยู่ นั่นจึงทำให้ start up เหมือนเป็นสิ่งที่ดึงให้ผู้ชมและตัวละครได้ทำความรู้จักกันเท่านั้น ส่วนที่เหลือคือการทำความเข้าใจในคาแรคเตอร์และเรื่องราวของแต่ละคน ซึ่งเรามองว่าตรงนี้มันดีมากๆ เลย
.
เพราะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว มันไม่ได้แยกกันง่ายขนาดนั้น เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ค่อนข้าง touch กับเรามากๆ คือพอมันเป็นเรื่องของการแข่งธุรกิจ ซึ่งมันไม่แปลกหากมันจะมาซ้อนทับกับความสัมพันธ์ส่วนตัว และเราต่างก็รู้ว่ามันคือสิ่งที่ไม่ดี แต่ก็นั่นแหละ ใครมันจะไปแยกได้ง่ายๆ ล่ะ นั่นจึงเป็น conflict หลักของหนังที่จับต้องได้ง่ายจริงๆ ซึ่งเราคิดว่าผู้ชมทุกๆ คน ก็คง touch กับเรื่องนี้ได้ไม่ต่างกัน
.
ในระหว่างการเดินทาง เราอาจจะหมกมุ่นอยู่กับเป้าหมาย จนลืมจุดเริ่มต้นไปก็ได้ ว่าเราเริ่มออกเดินทางคืออะไร เป็นอีกสิ่งที่ตัวหนังค่อนข้างเตือนสติหลายๆ คนได้ดีมากๆ รวมทั้งตัวเราด้วย หลายครั้งเราก็หลงลืมไปเหมือนกัน ว่าเราเริ่มต้นสิ่งที่ทำอยู่เพราะอะไร และหลายอย่างที่มันหายไประหว่างเดินทาง ซึ่งประเด็นนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งความ romance ของหนังมากๆ
.
เอาจริงๆ เรารู้สึกว่าตัวหนังปูเรื่องมาได้ค่อนข้างดี แต่มาตายเอาองก์สุดท้ายของหนัง ที่หลายๆ อย่างมันขาดความ make sens ไปซะหมด ยิ่งพอมันเลือก way จบแบบนี้ เราเลยยิ่งไม่ประทับใจ และค่อนข้างมั่นใจมากๆ ว่าองก์สุดท้ายของหนังคือสิ่งที่มีปัญหาขั้นร้ายแรงเลยจริงๆ
.
โดยรวม App War แอปชนแอป เป็นหนังไทยคุณภาพที่เล่าเรื่องได้สนุก ดูได้เพลินๆ ตัวหนังมันบันเทิงมากเลยนะ ถ้าไม่ติดว่าองก์สุดท้ายของหนังมีปัญหา และเราค่อนข้างคาดหวังไว้สูงเกินไป
[SR] Movie Review : App War แอปชนแอป [8/10]
feature film, romcom
เรื่อง: App War แอปชนแอป (ยรรยง คุรุอังกูร, 2561)
คะแนน: 8/10
เรื่องราวเกี่ยวกับ บอมบ์ และ จูน สองหัวหน้าทีมทำแอปหน้าใหม่ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการประกวด Startup เวทีไหนมาก่อนเลย วันหนึ่งพวกเขาได้เจอกันโดยบังเอิญ เมื่อได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นก็พบว่าต่างคนต่างก็ชอบอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน จนคุยกันถูกคอ และเกิดเป็นความรู้สึกดีๆ ขึ้น ค่ำคืนนั้นทำให้บอมบ์ได้แรงบันดาลใจและปิ๊งไอเดียแอป แอปหนึ่งขึ้นมา แต่หลังจากเปิดตัวแอปได้ไม่นาน ก็มีอีกแอปหนึ่งเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งไอเดียและคอนเซปต์ของแอปคล้ายของเขาจนแทบจะเรียกได้ว่า “ก๊อบ” กันออกมาทีเดียว และเมื่อสืบถึงตัวเจ้าของแอป ก็พบว่า แอปนั้นเป็นของ จูน นั่นเอง ทั้งบอมบ์และจูนได้เจอกันอีกครั้ง แต่เป็นในฐานะคู่แข่ง เมื่อต่างคนต่างก็เชื่อมั่นว่าตัวเองเป็นเจ้าของไอเดียแอปนี้ และไม่มีใครยอมรับว่าตัวเองเป็นฝ่าย “ก๊อบ” แถมเวลาของการแข่ง Startup ครั้งใหม่ก็กำลังจะมาถึง และครั้งนี้มันคือการเดิมพันด้วยอนาคตของทั้งสองทีม โดยมีการระดมทุนระดับร้อยล้านเป็นเดิมพัน ทั้งสองทีมต่างต้องเอาตัวรอด พวกเขาเริ่มคิดวิธีตุกติก ยิ่งเวลาดำเนินไป แผนการล้วงลับแอปคู่แข่งของทั้งสองต่างก็เริ่มเลยเถิด และอยู่นอกเหนือการควบคุมมากขึ้นทุกขณะ
.
สำหรับเรา App War เป็นหนังที่เราคาดหวังไว้ค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นหนังที่มี plot น่าสนใจ นักแสดงมากฝีมือ อีกทั้งยังเป็นผลงานกำกับของพี่เสือ ซึ่งเคยทำให้เราประทับใจมากๆ มาแล้วใน 2538 อัลเทอร์มาจีบ ซึ่งพอได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว เราต้องยอมรับเลยว่าเป็นหนังที่เล่าเรื่องได้สนุกมากจริงๆ เราชอบเส้นเรื่องที่หนังค่อยๆ ปูความสัมพันธ์ตัวละครให้ค่อยๆ ไป romance ก่อนจะกระโดดเข้า drama โดยที่เราไม่ทันตั้งตัว ซึ่งในท้ายที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะสนุก และเป็นเส้นเรื่องที่เราชอบ แต่จนแล้วจนรอด หนังมันก็เล่าไม่สุดในทางของมัน
.
ในส่วนของงาน production ประทับใจในส่วนของงาน visual และการเลือก location ต่างๆ มากพอสมควร แต่ในด้านของงานภาพ เรากลับพบว่ามันไม่ได้หวือหวาหรือน่าประทับใจอะไรเท่าที่เราคิดไว้ อีกทั้งจังหวะลำดับภาพยังมีขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง จนทำให้มันขัดอารมณ์กันเอง
.
อีกสิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกได้คือ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้เป็นหนังแนว romcom นั่นหมายความว่า หนังเรื่องนี้ต้องเป็นหนังตลก แต่สิ่งทีเรารู้สึกคือ ตลกแต่แป้ก แป้กอย่างสิ้นเชิงเลย หลายๆ ครั้งเรารู้สึกว่ามันพยายามมากไป ตลอดระยะเวลาที่หนังฉาย เราขำไปแค่ครั้งสองครั้งเท่านั้น เราเลยไม่ได้รู้สึกว่ามันเน้น comedy อะไรขนาดนั้น
.
นักแสดงหลักทุกคนคือสิ่งที่ดีงามของหนังเรื่องนี้มากๆ ไม่ชมไม่ได้เลย ทุกคนล้วนเติมเต็มสีสันให้แก่กันและกัน อีกทั้งนักแสดงสมทบทุกคนที่เรียกได้ว่าคือนักแสดงหน้าใหม่ (ซึ่งอาจจะไม่ค่อยใหม่สำหรับเราเท่าไหร่) ก็ยังมีความเฟรซที่เยอะมากๆ นั่นเลยทำให้หนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่มีนักแสดงสดใสคับคั่งจริงๆ ในขณะเดียวกัน อีกหนึ่งนักแสดงที่หลายๆ คนจับตามอง 1 ในสมาชิกวงไอดอลแห่งยุค BNK48 อย่าง อร ก็เป็นหนึ่งตัวละครที่ค่อนข้างน่าสนใจ น่ารัก และเหนือความคาดหมายเหมือนกัน เอาจริงๆ ถึงแม้เราจะโอชิอร และชอบอรมากแค่ไหน แต่สำหรับหนังเรื่องนี้ เรากลับรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ประทับใจอะไรขนาดนั้น แต่หากมองในแง่ของการแสดงหนังเรื่องแรกแล้ว เรากลับพบว่า เป็นการแสดงที่ค่อนข้างดีเลย
.
ชอบที่ตัวหนังเลือกเล่าความธรรมดาที่สามารถจับต้องง่ายๆ แบบนี้มากๆ การพยายามทำตามความฝัน การสร้างเป้าหมาย การสร้างเนื้อสร้างตัวในแบบฉบับของเด็กยุคใหม่ มันคือสิ่งที่เราหลายๆ คนล้วนเป็นกันอยู่แล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าตัวหนังมันจะพูดถึง startup ซึ่งมันก็คือหนึ่งในอาชีพยุคใหม่เช่นเดียวกัน นั่นจึงทำให้ App War เป็นหนังที่เลือกเล่าเรื่องความธรรมดา บนโลกปัจจุบันให้เข้าถึงได้ง่ายมากๆ
.
วัตถุดิบเรื่องของ startup เป็นสิ่งที่น่าสนใจและใหม่มากๆ สำหรับบ้านเรานะ น่าจะเป็นหนังเรื่องแรกเลยที่นำประเด็นเรื่องนี้มาพูด แต่ในขณะเดียวกัน ตัวหนังก็ยังคงเน้นในส่วนของความสัมพันธ์ตัวละครต่างๆ ในเรื่องอยู่ นั่นจึงทำให้ start up เหมือนเป็นสิ่งที่ดึงให้ผู้ชมและตัวละครได้ทำความรู้จักกันเท่านั้น ส่วนที่เหลือคือการทำความเข้าใจในคาแรคเตอร์และเรื่องราวของแต่ละคน ซึ่งเรามองว่าตรงนี้มันดีมากๆ เลย
.
เพราะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว มันไม่ได้แยกกันง่ายขนาดนั้น เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ค่อนข้าง touch กับเรามากๆ คือพอมันเป็นเรื่องของการแข่งธุรกิจ ซึ่งมันไม่แปลกหากมันจะมาซ้อนทับกับความสัมพันธ์ส่วนตัว และเราต่างก็รู้ว่ามันคือสิ่งที่ไม่ดี แต่ก็นั่นแหละ ใครมันจะไปแยกได้ง่ายๆ ล่ะ นั่นจึงเป็น conflict หลักของหนังที่จับต้องได้ง่ายจริงๆ ซึ่งเราคิดว่าผู้ชมทุกๆ คน ก็คง touch กับเรื่องนี้ได้ไม่ต่างกัน
.
ในระหว่างการเดินทาง เราอาจจะหมกมุ่นอยู่กับเป้าหมาย จนลืมจุดเริ่มต้นไปก็ได้ ว่าเราเริ่มออกเดินทางคืออะไร เป็นอีกสิ่งที่ตัวหนังค่อนข้างเตือนสติหลายๆ คนได้ดีมากๆ รวมทั้งตัวเราด้วย หลายครั้งเราก็หลงลืมไปเหมือนกัน ว่าเราเริ่มต้นสิ่งที่ทำอยู่เพราะอะไร และหลายอย่างที่มันหายไประหว่างเดินทาง ซึ่งประเด็นนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งความ romance ของหนังมากๆ
.
เอาจริงๆ เรารู้สึกว่าตัวหนังปูเรื่องมาได้ค่อนข้างดี แต่มาตายเอาองก์สุดท้ายของหนัง ที่หลายๆ อย่างมันขาดความ make sens ไปซะหมด ยิ่งพอมันเลือก way จบแบบนี้ เราเลยยิ่งไม่ประทับใจ และค่อนข้างมั่นใจมากๆ ว่าองก์สุดท้ายของหนังคือสิ่งที่มีปัญหาขั้นร้ายแรงเลยจริงๆ
.
โดยรวม App War แอปชนแอป เป็นหนังไทยคุณภาพที่เล่าเรื่องได้สนุก ดูได้เพลินๆ ตัวหนังมันบันเทิงมากเลยนะ ถ้าไม่ติดว่าองก์สุดท้ายของหนังมีปัญหา และเราค่อนข้างคาดหวังไว้สูงเกินไป
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้