ขอความช่วยเหลือเพื่อน ๆ ครับ ปู่ขายที่ดิน(เสียชีวิตแล้ว) ที่ดินเกิดพิพาท พ่อเป็นจำเลยแทน(มีลูกหลายคน)

เนื่องด้วยปู่ของผม(เสียชวิตแล้ว) กับกับนาย ก (เสียชีวิตเช่นเดียวกัน) ได้ร่วมกันซื้อที่ดินมือเปล่ากับนางวัน ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขายทั่วไป ซึ่งภายหลังปู่ได้ขายที่ดินส่วนหนึ่งให้กับนาย ข และได้ขึ้นทะเบียนที่ดินเป็น นส 3 ก โดยที่ดินออกให้

ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือในช่วงนั้นสำนักงานที่ดินได้ออก นส3 ก   ได้กินพื้นที่ข้างๆ ของนาย ก ซึ่งเวลาต่อมาก็ได้มาขึ้นที่ดินเป็น นส 3 ก เช่นเดียวกัน ทำให้เกิดพื้นที่ทับซ้อน  


ปัญหาที่จะสอบถามคือมีการฟ้องร้องศาลการขึ้น

*ทายาทของนาย ก เป็นโจทก์ฟ้องต่อศาลโดยมีจำเลยดังต่อไปนี้
จำเลยที่ 1  อธิบดีกรมที่ดิน
จำเลยที่ 2   พ่อของผม ซึ่งเป็นลูกของปู่ที่เสียชีวิตไปแล้ว (เจ้าของที่ดินเดิมก่อนขายให้นาย ข)
จำเลยที่ 3  นาย ข
จำเลยที่ 4  ธนาคารออมสิน(ฟ้องด้วยสาเหตุที่ว่าทุจริตรับจำนองที่ดินของนาย ข หรือจำเลยที่ 3)


สิ่งที่ผมอยากจะถามเพื่อนๆก็คือ
1.พ่อของผมตกเป็นจำเลยที่ 2  ซึ่งปู่ของผมเองก็มีลูกหลายคน ในกรณีนี้ลูกทุกคนจะต้องรับผิดชอบพร้อมกันไหมครับผมถ้าเกิดว่าที่ดินนี้มีพิพาทกัน ซึ่งผมเองได้สอบถามไปทางทนายฝ่ายโจทก์เขาบอกว่าเลือกที่จะเป็นพ่อผมเพราะลูกคนอื่นนั้นเป็นข้าราชการ ส่วนพ่อผมนั้นมีอาชีพทำสวนทั่วไป
2.ในกรณีนี้นั้น ถ้าเกิดฝ่ายโจทก์ชนะคดีขึ้นมา ขอบเขตความรับผิดชอบของพ่อผมนั้นคืออะไรบ้าง จะต้องรับผิดชอบค่าทนายฝ่ายโจทก์ด้วยไหม เพราะในใบฟ้องนั้น แจ้งว่าหากฝ่ายโจทก์ชนะคดีขึ้นมานั้นจำเลยทั้ง 4 จะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายค่าทนายค่าของศาลต่างๆ และค่าเสียเวลา
3.หน้าที่ของพ่อเพิ่มนั้นจะต้องรับผิดชอบหรือว่าต้องเซ็นเป็นตัวแทนแทนปู่เลยหรือไม่

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับพ่อผม
มีประวัติการรักษาในโรงพยาบาลจิตเวชนั้นสามารถที่จะมาเป็นข้ออ้าง อะไรได้หรือไม่ และการตัดสินใจอะไรต่างๆนั้นจะต้องได้รับความยินยอมจากลูกทุกคนของปู่หรือไม่

ขอบคุณเพื่อนๆมากๆนะครับผม