ยายได้ยินเรื่อวการอนุโมทนาบุญจากท่านอ.วรภัทร แล้วรู้สึกว่าเป็นประโยชน์เลยอยากเอามาบอกต่อ คุยกันก่อนอันนี้เล่าในแง่มุมที่ยายเข้าใจ มิได้คัดลอกคำพูดมาทุกคำนะจ๊ะ คือ การทำบุญนั้นจะรู้ว่าได้บุญหรือไม่ให้ดูที่หัวใจ ถ้าเกิดความปิติ อิ่มเอิม นั้นก็โอเค ถือว่าได้บุญแล้วในทันที เคยได้ยินไหมว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ นั้นแหละ ท่านว่าพระองค์ใด ๆ หรือ เจดีย์องค์ใด ๆ แท้จริงล้วนอยู่ที่ใจทั้งสิ้น ดังนี้แล้วในการทำสิ่งใด ๆ ในแต่ละครั้ง เมื่อเราเกิดความอิ่มเอิบในใจ ยายนับว่าได้บุญทั้งสิ้น ไม่จำเป็นต้องไปวัดอย่างเดียว ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร ก็ได้ทั้งนั้น กระทั่ง ยืน เดิน นั่ง นอน ถ้าจิตใจสงบ จนกระทั่งรู้สึกใจโปร่งสบาย ยายก็นับว่าได้เหมือนกัน เป็นดังนี้ ก็นับว่าเราสามารถทำบุญได้ตลดเวลาไม่ต้องรอว่างแล้วค่อยไปวัด หรือ รอกำลังทรัพย์ พร้อมแล้วค่อยทำ ไม่จำเป็น มีลมหายใจอยู่ก็ทำได้เลย
ทีนี้มาว่า เรื่องอนุโมทนากันดีกว่า ยายว่าคงเคยได้ยินกันมามั้งแล้วแหละว่า ถ้าเราเห็นใคร หรือสิ่งใดแล้วเกิดร่วมยินดีในบุญนั้น ๆ ก็ถือว่าเป็นบุญได้ ในเบื้องต้นมันเป็นความเข้าใจในแง่มุมของ"การอยากได้บุญ" ร่วมกับเค้า แต่เมื่อฟังท่านอาจารย์อธิบายแล้วทำให้ตั้งความคิดใหม่ว่า การร่วมอนุโมทนาใด ๆ นั้น เป็นการเติมพลัง หรือ ตั้งจิตเราให้เป็นกุศลต่างหาก มิได้เกี่ยวกับการ "อยากได้" ใด ๆ ทั้งสิ้นเรย
อย่างเช่น ท่านว่า เมื่อผ่านพระพุทธรูปที่มีคนสร้างถวายวัด ก็ตั้งจิตอนุโมทนาว่า ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญกับนาย ก. ที่สร้างพระพุทธรูปถวายวัด ข. เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของผู้คน เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่โปรดแสดงธรรมโปรดเวไนยสัตว์ให้พ้นทุกข์ เพื่อธำรงพระพุทธศาสนาสืบต่อไป บลา บลา ว่าไป ... สาธุ
คือคำอนุโมทนา ไม่ตายตัวขอแค่เป็นการตั้งจิตระลึกในทุกแง่มุมที่ดีงามเป็นใช้ได้ ทำได้หมด ทั้งวัด เจดีย์ โรงพยาบาล คนทำบุญ คนให้ข้าวหมาแมว ... ไม่จำกัดทำได้ทั้งสิ้น 😇
I heard about the congrats with every good thing from Arjan Worrapat and feel that it's very useful so I want to share it in my understand and opinion. When we make a merit , we can feel that my heart be fulfill with some happiness. Thai Motto said that we can find the heaven and hell inside our mind , Arjan said that we can find Buddha or Pagoda inside our mind too we can make a merit everywhere all the time , walking sitting , anything that we feel good and peaceful with it , we just calmly breathing in - breathing out , that it.
The Congrats with every merits , in beginning I do like this too but I had a wrong purpose , I just want to share a merit from them but now I understand that I need to have a correct purpose first , I need to deeply recollect about the causes or results from these merits and congrats with them.
Such as , we found Buddha statue was create by Mr.A so we can congrats with him by mental prayer that we glad with him to create the Buddha statue to be useful for other , to recollect to our Buddha to teaching us to find a way to stop our suffer , to inherit our Buddhism ... Bla bla
The congrats words have not any pattern , just set up our mind to deeply joyful with Temple , Pagoda , Hospital , Donation , every good things is OK.
การอนุโมทนา ในความคิดของฉัน
ยายได้ยินเรื่อวการอนุโมทนาบุญจากท่านอ.วรภัทร แล้วรู้สึกว่าเป็นประโยชน์เลยอยากเอามาบอกต่อ คุยกันก่อนอันนี้เล่าในแง่มุมที่ยายเข้าใจ มิได้คัดลอกคำพูดมาทุกคำนะจ๊ะ คือ การทำบุญนั้นจะรู้ว่าได้บุญหรือไม่ให้ดูที่หัวใจ ถ้าเกิดความปิติ อิ่มเอิม นั้นก็โอเค ถือว่าได้บุญแล้วในทันที เคยได้ยินไหมว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ นั้นแหละ ท่านว่าพระองค์ใด ๆ หรือ เจดีย์องค์ใด ๆ แท้จริงล้วนอยู่ที่ใจทั้งสิ้น ดังนี้แล้วในการทำสิ่งใด ๆ ในแต่ละครั้ง เมื่อเราเกิดความอิ่มเอิบในใจ ยายนับว่าได้บุญทั้งสิ้น ไม่จำเป็นต้องไปวัดอย่างเดียว ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร ก็ได้ทั้งนั้น กระทั่ง ยืน เดิน นั่ง นอน ถ้าจิตใจสงบ จนกระทั่งรู้สึกใจโปร่งสบาย ยายก็นับว่าได้เหมือนกัน เป็นดังนี้ ก็นับว่าเราสามารถทำบุญได้ตลดเวลาไม่ต้องรอว่างแล้วค่อยไปวัด หรือ รอกำลังทรัพย์ พร้อมแล้วค่อยทำ ไม่จำเป็น มีลมหายใจอยู่ก็ทำได้เลย
ทีนี้มาว่า เรื่องอนุโมทนากันดีกว่า ยายว่าคงเคยได้ยินกันมามั้งแล้วแหละว่า ถ้าเราเห็นใคร หรือสิ่งใดแล้วเกิดร่วมยินดีในบุญนั้น ๆ ก็ถือว่าเป็นบุญได้ ในเบื้องต้นมันเป็นความเข้าใจในแง่มุมของ"การอยากได้บุญ" ร่วมกับเค้า แต่เมื่อฟังท่านอาจารย์อธิบายแล้วทำให้ตั้งความคิดใหม่ว่า การร่วมอนุโมทนาใด ๆ นั้น เป็นการเติมพลัง หรือ ตั้งจิตเราให้เป็นกุศลต่างหาก มิได้เกี่ยวกับการ "อยากได้" ใด ๆ ทั้งสิ้นเรย
อย่างเช่น ท่านว่า เมื่อผ่านพระพุทธรูปที่มีคนสร้างถวายวัด ก็ตั้งจิตอนุโมทนาว่า ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญกับนาย ก. ที่สร้างพระพุทธรูปถวายวัด ข. เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของผู้คน เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่โปรดแสดงธรรมโปรดเวไนยสัตว์ให้พ้นทุกข์ เพื่อธำรงพระพุทธศาสนาสืบต่อไป บลา บลา ว่าไป ... สาธุ
คือคำอนุโมทนา ไม่ตายตัวขอแค่เป็นการตั้งจิตระลึกในทุกแง่มุมที่ดีงามเป็นใช้ได้ ทำได้หมด ทั้งวัด เจดีย์ โรงพยาบาล คนทำบุญ คนให้ข้าวหมาแมว ... ไม่จำกัดทำได้ทั้งสิ้น 😇
I heard about the congrats with every good thing from Arjan Worrapat and feel that it's very useful so I want to share it in my understand and opinion. When we make a merit , we can feel that my heart be fulfill with some happiness. Thai Motto said that we can find the heaven and hell inside our mind , Arjan said that we can find Buddha or Pagoda inside our mind too we can make a merit everywhere all the time , walking sitting , anything that we feel good and peaceful with it , we just calmly breathing in - breathing out , that it.
The Congrats with every merits , in beginning I do like this too but I had a wrong purpose , I just want to share a merit from them but now I understand that I need to have a correct purpose first , I need to deeply recollect about the causes or results from these merits and congrats with them.
Such as , we found Buddha statue was create by Mr.A so we can congrats with him by mental prayer that we glad with him to create the Buddha statue to be useful for other , to recollect to our Buddha to teaching us to find a way to stop our suffer , to inherit our Buddhism ... Bla bla
The congrats words have not any pattern , just set up our mind to deeply joyful with Temple , Pagoda , Hospital , Donation , every good things is OK.