กลับมาอีกครั้งกับผู้กำกับหนังยอดเยี่ยมจากออสการ์อย่าง Moonlight (2016) และผู้ชนะรางวัลออสการ์สาขาบทดัดแปลงยอดเยี่ยมอย่าง Barry Jenkins มาครั้งนี้กับบทที่โหดกว่าเดิมจากมือเขียนบทและนักเคลื่อนไหวแอฟริกัน-อเมริกันชื่อดังอย่าง James Baldwin ที่พึ่งจะหัวข้อเรื่องราวในสารคดีที่เข้าชิงออสการ์อย่าง I Am Not Your Negro (2016) เจ้าของนิยาย If Beale Street Could Talk กับเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวแอฟริกัน-อเมริกันอย่าง Fonny และ Tish ที่ความรักนี้แยกและปกป้องพวกเขาจากครอบครัวที่แสนห่วย และโลกภายนอกที่แสนโหดร้าย จนกระทั่ง Fonny ถูกจับเข้าคุกข้อหาข่มขืน แต่ Tish กลับพบว่าเธอตั้งท้องกับ Fonnyอยู่ เธอและครอบครัวของเธอจึงต้องจากทนายและหาหลักฐานที่สามารถช่วย Fonny ออกมาจากคุยให้ทันเวลา ก่อนที่ลูกพวกเขาจะเกิดมา
กลับมาครั้งนี้พร้อมกับมือตัดต่อ (Joi McMillon และ Nat Sanders) และตากล้อง (James Laxton) ที่เข้าชิงออสการ์พร้อม Moonlight (2016) แต่กลับมาครั้งนี้กับค่าย Annapurna Pictures ที่จับมือมากับ ค่าย Plan B แสดงนำโดยนักแสดงหน้าใหม่เอี่ยม Kiki Layne รับบท Tish, Stephan James นักแสดงนำจาก Race (2016) รับบท Fonny, Teyonah Parris จากซีรีส์ดังอย่าง Mad Men รับบทพี่สาวของ Tish, ผู้ชนะรางวัล Emmy จากซีรีส์ American Crime อย่าง Regina King รับบทเป็นแม่ของ Tish และผู้เข้าชิงรางวัล Tony อย่าง Colman Domigo รับบทพ่อของ Tish นอกจากนี้ยังมี Michael Beach, Dave Franco, Diego Luna, Pedro Pascal, Ed Skreinและ Brian Tyree Henry ร่วมสมทบ ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าจะหนักกว่า Moonlight (2016) น่าสนใจว่ามันจะออกมาดีเหมือนกันไหม
จากตัวอย่าง มีกลิ่นอายแบบ In the Mood for Love ออกมาเลย
ตัวอย่างแรกของ If Beale Street Could Talk, Barry Jenkins เปิดโหมดหว่างกาไวอีกรอบ
กลับมาครั้งนี้พร้อมกับมือตัดต่อ (Joi McMillon และ Nat Sanders) และตากล้อง (James Laxton) ที่เข้าชิงออสการ์พร้อม Moonlight (2016) แต่กลับมาครั้งนี้กับค่าย Annapurna Pictures ที่จับมือมากับ ค่าย Plan B แสดงนำโดยนักแสดงหน้าใหม่เอี่ยม Kiki Layne รับบท Tish, Stephan James นักแสดงนำจาก Race (2016) รับบท Fonny, Teyonah Parris จากซีรีส์ดังอย่าง Mad Men รับบทพี่สาวของ Tish, ผู้ชนะรางวัล Emmy จากซีรีส์ American Crime อย่าง Regina King รับบทเป็นแม่ของ Tish และผู้เข้าชิงรางวัล Tony อย่าง Colman Domigo รับบทพ่อของ Tish นอกจากนี้ยังมี Michael Beach, Dave Franco, Diego Luna, Pedro Pascal, Ed Skreinและ Brian Tyree Henry ร่วมสมทบ ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าจะหนักกว่า Moonlight (2016) น่าสนใจว่ามันจะออกมาดีเหมือนกันไหม
จากตัวอย่าง มีกลิ่นอายแบบ In the Mood for Love ออกมาเลย