ทริปวัด ไหว้พระ จังหวัดนครศรีธรรมราช

ด้วยความตั้งใจที่จะไปห่มผ้าพระธาตุที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ทำให้พวกเราจัดทริปนี้ขึ้น ด้วยความที่ผู้ร่วมทริปของเรามีผู้สูงอายุ ใช้รถเข็น ทำให้เราเลือกที่จะเดินทางไป-กลับ ด้วยเครื่องบิน และไปเช่ารถที่สนาบินนครศรีธรรมราช สำหรับเดินทางภายในจังหวัด และค้างคืนเพียง 1 คืน เนื่องด้วยท่านแม่ไม่ค่อยชอบนอนที่อื่นนอกจากบ้าน ออกเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ไฟลท์ 06.40 น. ซึ่งมีไฟลท์เช้ากว่านี้ แต่ไฟลท์นี้ก็ต้องตื่นก่อนตี 3 เพื่อทำการออกจากบ้านตั้งแต่ตี 4 แล้ว ถ้าเอาเช้ากว่านี้ สงสัยจะไม่ต้องได้นอนกันครับ เพื่อความสบายของท่านแม่ เราจึงเลือกซื้อที่นั่ง Hot seat ของทางแอร์เอเชีย เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการวางขา จะได้ไม่ต้องนั่งห้อยขานานๆ และสายการบินแอร์เอเชียให้บริการ โหลดรถเข็นใต้เครื่องฟรีครับ โดยทำการแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตอนเช็คอินได้เลย

                หลังจากขึ้นเครื่องใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงดี เราก็มาถึงที่สนามบินนครศรีธรรมราชครับ รอบขาไปนักบินคนขับเป็นผู้หญิงด้วยครับ ต้องบอกว่า เพิ่งเคยได้นั่งนักบินเป็นผู้หญิง แต่ไม่ทราบว่ารันเวย์ของสนามบินไม่ดี หรือว่าอะไรอย่างไร แต่ตอนลงนี่ กระแทกค่อนข้างแรงเลยครับ ให้ความรู้สึกยิ่งกว่ากำลังนั่งบนรถทัวร์ไปตามถนนลูกรังบนถนน ถึงแม้เราจะใช้บริการเลือกที่นั่ง Hot seat ด้านหน้า ได้ขึ้นเครื่องบินก่อน แต่พวกเราเลือกที่จะลงทีหลังครับ ด้วยเพราะต้องการที่จะรอให้รถเข็นใต้ท้องเครื่องออกมาพร้อมให้ใช้งานตอนลงจากเครื่องบิน และท่านแม่จะได้สะดวกในการค่อยๆเดินลงมาจากบันได ไม่ต้องมีผู้โดยสารท่านอื่นๆ ยืนกดดันรอครับ



               หลังจากลงมาเหยียบพื้นดิน เดินอีกไม่ไกลเราก็จะพบกับประตูทางเข้าสนามบินนครศรีธรรมราชครับ เดินเข้าไปก็จะพบกับสายพานลำเลียงกระเป๋าเดินทาง และก็ประตูทางออกไปสู่ด้านในของตัวอาคารสนามบินแล้วครับ ด้วยเป็นสนามบินขนาดไม่ใหญ่มาก ทำให้หาเคาน์เตอร์รถเช่าหลากหลายยี่ห้อ และรถแท๊กซี่ ได้ไม่ยากเลยครับ เดินออกมาก็เห็นแล้ว เราได้ทำการจองรถล่วงหน้า เป็นรถมิตซูบิชิ ปาเจโร กับทาง ThaiRent a car สาเหตุที่เลือกรถขนาดใหญ่เพราะเราต้องแบกกระเป๋าสัมภาระค่อนข้างเยอะ และมีรถเข็นผู้สูงอายุด้วย แต่เนื่องจากรถปาเจโรไม่ว่าง ทำให้เราได้เป็น โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์มาแทนครับ ก็ถือว่าเป็นรถในระดับเดียวกัน แค่คนละยี่ห้อ


               หลังจากทำการติดต่อเป็นที่เรียบร้อย กรอกเอกสารและรูดบัตรเครดิตกันวงเงิน 5,000 บาท น้องพนักงานก็ทำการส่งซองเอกสารที่บรรจุใบเช่ารถ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ให้ติดต่อ โทรเข้ามาแจ้งตอนเวลาคืนรถ เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับรถให้กับลูกค้าที่ด้านหน้าทางเข้าตัวอาคารสนามบินได้เลยพร้อมกับให้น้ำดื่มตราสิงห์มาจำนวน 4 ขวด เรียกว่าให้เท่ากับจำนวนผู้โดยสารที่มาครับ จากนั้นนน้องพนักงานจะทำการขับรถมาส่งให้เราที่ด้านหน้าทางเข้า รถจะเติมน้ำมันมาเต็มถังเรียบร้อยครับ หลังจากอธิบายการใช้งานรถเบื้องต้น และแจ้งว่ารถคันนี้เติมน้ำมันดีเซล ก็เรียบร้อยสามารถออกเดินทางกันได้เลยครับ

           รถเช่าที่ได้รับมา สภาพรอบคันก็มีรอยบ้างตามการใช้งาน ด้านในก็สะอาดดีครับ น้องพนักงานกำชับมาแล้วว่า ห้ามสูบบุหรี่ภายในตัวรถ และห้ามนำทุเรียนขึ้นรถ ไม่อย่างนั้นจะมีค่าปรับ แต่ด้วยท่านแม่ผู้เคยชินกับการใช้รถตู้เป็นประจำ ทำให้ค่อนข้างลำบากเหมือนกัน กับการก้าวขึ้น-ลงรถ ที่มีที่ให้จับเพียงด้านบนอย่างเดียว สำหรับการเดินทาง ถึงแม้จะพยายามหาท่านั่งที่สบาย ด้วยความที่ไม่มีที่วางเท้าทำให้หนีไม่พ้นการต้องนั่งห้อยขา พวกเราจึงพยายามเดินทางแต่ละที่ ให้สั้นที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องห้อยขานานๆ ให้เท้าบวมครับ ด้วยความที่เดินทางด้วยเครื่องบิน เราจึงตัดสินใจมาซื้อของสังฆทานกันที่นครศรีธรรมราช แต่ก็ติดถุงผ้าแพรสีทองมาจากกรุงเทพฯ หลังซื้อของเสร็จจึงแวะไปรับผ้าห่มพระธาตุและผ้าแพร 7 สี ที่โรงแรม และทำการจัดสังฆทานกันในห้องพัก


      ออกจากโรงแรม ใช้เวลาประมาณ 5 นาที เราก็มาถึงตัววัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารในเวลาประมาณ 11 โมงกว่า ด้วยความคิดว่า น่าจะเลยเวลาพระฉันเพลแล้ว ลานจอดรถมีที่ให้จอดค่อนข้างมากนะครับ มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกช่วยหาที่จอดรถ พร้อมช่วยโบกรถจนเป็นที่เรียบร้อย เราได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตรงลานจอดรถ ว่าต้องไปแจ้งกับพระรูปไหน ด้วยผ้าห่มพระธาตุที่นำมา เป็นผ้าเกรดจีวร หลังจากถอดออกมาจากที่ห่มฐานพระธาตุ สามารถนำมาตัดเป็นจีวรพระต่อได้


              เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้เรา โดยการพาไปพบกับพระอาจารย์ด้านในวัด ตรงทางขึ้นไปด้านบนพระธาตุ เพื่อทำการถวายสังฆทาน และทำการกล่าวประกาศนำผ้าห่มพระธาตุ โดยพระอาจารย์กำลังจะฉันเพล แต่ด้วยความเมตตา ท่านจึงให้กล่าวคำถวายสังฆทานและกล่าวประกาศคำอธิษฐานกันก่อน และให้พรจนเสร็จ ท่านบอกกล่าวว่า ถ้าต้องการห่มที่พระธาตุด้านบน ต้องเป็นปีหน้า เนื่องด้วยทางวัดกำลังบูรณะปฏิสังขรณ์อยู่ มิสเตอร์ทีที่ได้โทรมาสอบถามทางวัดก่อนเตรียมผ้ามาจำนวน 111 หลา จึงกล่าวว่า ขอห่มที่ฐานพระธาตุ และบอกถึงความประสงค์ของเนื้อผ้าที่นำมาว่าสามารถนำไปทำเป็นจีวรต่อได้

               พระอาจารย์ตอบด้วยความเมตตาว่า ถึงจะปลดออกมาแล้ว ก็ไม่สามารถนำไปทำเป็นจีวรได้ เนื่องจากผ้าบางส่วนจะยับ และร้านรับตัดผ้าบางที่ ไม่รีดให้ แต่สามารถนำไปทำเป็นอังสะได้ ท่านให้ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่บริเวณห่มผ้าที่ฐานพระธาตุได้เลย


                 ก่อนออกไปห่มผ้า ก็กราบสักการะ องค์จตุคามด้านหน้าประตูทางขึ้นพระธาตุกันก่อน พร้อมทำบุญปัจจัยหยอดใส่ตู้ทำบุญต่างๆ จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปที่ ด้านฐานของพระธาตุ ตามป้ายสถานที่ปิดทองกันเลยครับ เมื่อเรามาถึง เป็นเวลาเที่ยงนิดหน่อย ซึ่งเจ้าหน้าที่ น่าจะไปพักทานข้าว พวกเราจึงทำการกราบพระ เดินสำรวจเส้นทางห่มผ้าและปิดทองรอเจ้าหน้าที่


                ตรงนี้จะสังเกตุได้ว่า การห่มผ้าที่ฐานพระธาตุ ไม่ต้องใช้เข็มกลัดนะครับ สามารถวางพาดทับด้านบน แล้วเดินวนต่อไปได้โดยรอบฐานพระธาตุ



                  เมื่อเจ้าหน้าที่ทางวัดมาถึง มิสเตอร์ทีก็ทำการแจ้งความประสงค์ในการห่มผ้าฐานองค์พระธาตุด้วยผ้าที่พวกเรานำมาเอง เจ้าหน้าที่ให้ทำการวางอธิษฐานต่อองค์พระธาตุ แล้วจึงแจ้งให้ขึ้นบันไดไปเตรียมห่มผ้า โดยเจ้าหน้าที่จะช่วยถือม้วนผ้านำหน้ากลิ้งบนราวไปให้ และให้พวกเราตั้งจิตอธิษฐาน หรือจะสวดภาวนา พุทโธ-อิติปิโส ระหว่างเดินห่มผ้ารอบพระธาตุ ตามแต่ใจชอบ ด้วยท่านแม่ไม่สะดวกในการเดินวนรอบ พวกเราจึง นำรถเข็นขึ้นไปให้ท่านแม่นั่งร่วมจับปลายผ้าอธิษฐานที่จุดเริ่มต้น และนั่งรออยู่ตรงจุดนี้ จนกว่าพวกเราจะทำการห่มผ้าพระธาตุเสร็จเป็นที่เรียบร้อย



                  ระหว่างทางที่เดินห่มผ้าพระธาตุ ก็มีสาธุชนเข้ามาร่วมจับห่มผ้าพระธาตุไปกับพวกเราครับ ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วย ตรงนี้เป็นความยินดี ที่ทุกๆท่านเข้ามาร่วมบุญกันนะครับ หลังจากจับผ้าห่มให้ตรง และตึงสวยงามแล้ว เจ้าหน้าที่ก็บอกให้เรากราบที่ผ้า 3 ครั้ง และตั้งจิตอธิษฐานผลบุญนี้ พร้อมกับแผ่ส่วนกุศลให้เจ้าเทวดา เจ้ากรรมนายเวร ญาติสนิทมิตรสหาย และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นอันเสร็จพิธีครับ


                   จากนั้นเราจะไปที่วิหารพระแอด ซึ่งมีความเชื่อว่า ท่านใดที่มีอาการบาดเจ็บ ปวดเมื่อยต่างๆ มาตั้งจิตอธิษฐานขอพรกับพระแอด แล้วไปนำไม้มาแตะตามร่างกายที่ปวด จากนั้นนำไปวางที่ด้านหลังของพระแอด จะสามารถบรรเทาอาการปวดจนถึงหายจากอาการปวดดังกล่าวได้ครับ





          ขณะกำลังจะออกจากวัด ก็ได้ยินเสียงประกาศจากทางวัด ว่ากำลังจะมีพิธีแห่เทียนพรรษาพระราชทานในเวลาประมาณบ่าย 2 โมง และด้านหน้าเริ่มมีการปิดถนนแล้ว เรียกว่าโชคดีของพวกเราครับ ที่สักการะเสร็จก่อนเวลาพิธีเริ่ม สถานที่ต่อไป ก็เป็นศาลหลักเมืองครับ ขาออกจากวัด ก็มีหลายเส้นทางที่เริ่มปิด และมีการตั้งขบวนดุริยางค์และขบวนแห่เทียนกันบ้างแล้ว ทำให้เราต้องขับอ้อมเส้นทาง แต่ก็ใช้เวลาไม่นานครับ ประมาณ 7-8 นาที จากวัดพระธาตุ เราก็มาถึง ศาลหลักเมือง



          สำหรับที่จอดรถหาได้ตามข้างทาง ตรงข้ามกับศาลหลักเมืองนะครับ จอดรถแล้วก็เดินข้ามฝั่งมาที่ศาลหลักเมือง ด้านในทางขวามือ จะมีที่ให้บูชาดอกไม้ ธูป เทียนครับ เราไปถึงในเวลาประมาณบ่ายโมง ดอกไม้หมดแล้วครับ แต่ก็ยังมีธูปเทียนให้บูชา จุดธูปเทียนด้านนอก จากนั้นจึงเข้าไปกราบด้านใน


         เมื่อก่อนที่เคยมา ด้านในจะมีโต๊ะไว้บริการ ให้เราบูชาผ้าแพร และมีเก้าอี้ให้ยืมนั่งได้ แต่ไปครั้งนี้ไม่มีให้บริการแล้วนะครับ แต่พวกเราก็เตรียมผ้าแพร 7 สี มาเองจากทางกรุงเทพฯอยู่แล้ว เมื่อไม่มีเก้าอี้ให้ท่านแม่นั่ง ก็เริ่มจากการยืนพิงเสา จากนั้นก็ลงนั่งกับพื้นครับ เพราะกว่าจะอธิษฐานกันเสร็จ และผูกผ้าแพรอีก น่าจะใช้เวลานานพอสมควร ก่อนจะทำการสิ่งใด มิสเตอร์ทีเดินไปสอบถามเจ้าหน้าที่ด้านนอกก่อนครับ ว่าสามารถผูกผ้าแพรที่เสาในศาลหลักเมืองได้เลยหรือไม่ เมื่อได้รับคำตอบว่า สามารถทำได้เลย ก็เริ่มการผูกผ้ากันครับ เริ่มจากจับชุดผ้า ให้เรียงครบ 7 สี





         หลังผูกผ้าแพรเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เราก็เริ่มปิดทองกันครับ ขณะกำลังปิดทองที่ปากของพระพุทธรูปคู่ด้านหน้าของเสาหลักเมือง เจ้าหน้าที่ก็เดินเข้ามาพอดี พร้อมกับแจ้งพวกเราว่า อย่าปิดทองที่ปาก จมูก ตา หู ของท่าน เพราะเคยมีคนฝันว่า ท่านมาเข้าฝันบอกว่า ปิดตา ปิดหู ท่านไม่เห็นและไม่ได้ยินความเดือดร้อนของลูกหลาน จากนั้นคนฝันที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางศาลเลย ก็โทรมาแจ้งทางเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ พอเปิดประตูศาลเข้ามาก็พบว่า มีทองปิดอยู่ตรงจุดที่คนฝันโทรเข้ามาแจ้งพอดี จากนั้นมาก็เป็นความเชื่อกันครับ ว่าจะไม่ปิดทองตรงจุดดังกล่าว

สามารถติดตามรีวิวสถานที่อื่นๆได้ที่
http://www.facebook.com/j2ctravel
http://www.jaaechoun.blogspot.com
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่