[CR] รีเซตชีวิตที่มัลดีฟส์ Constance Halaveli นี่แหละคือการพักผ่อนที่แท้จริง

อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การไปพักผ่อนที่มัลดีฟส์ ช่วงวันหยุดที่ผ่านมาให้กับทุกคนที่สนใจค่ะ เผื่อมีใครที่กำลังตัดสินใจเลือกที่พัก

เราเลือกในช่วงวันที่ 25 - 29 กรกฎาคม 2561

การเดินทางไปมัลดีฟส์นั้น มีสายการบินให้เลือกเยอะอยู่ แต่ที่สะดวกที่สุดก็จะเป็น Bangkok Airways กับ AirAsia จะบินตรงถึงสนามบินมาเล่เลย (MLE เป็นชื่อย่อของสนามบินมาเล่) ตอนแรกเราจอง Bangkok airways แต่มีอุบัติเหตุทางธุรกิจนิดหน่อย จำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินขาไป แล้วจองตั๋วใหม่เป็นสายการบิน Cathay Pacific ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ๆค่ะ ด้วยเหตุจำเป็นจึงต้องบินไปพักเครื่องที่ฮ่องกงก่อนแล้วค่อยมาถึงสนามบินมาเล่ตอน 20.45 ที่นี่จะใช้เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐนะคะ


หมายเหตุ : สำหรับใครที่จองตั๋วไป-กลับ แล้วต้องการจะยกเลิกตั๋วขาไป จำเป็นจะต้องโทรแจ้งสายการบินก่อนนะคะ ไม่งั้นตั๋วขากลับก็จะถูกยกเลิกไปด้วย

มาถึง MLE (สนามบินมาเล่) ตอนสองทุ่มกว่า เวลาที่มาเล่จะช้ากว่าที่ไทย 2 ชั่วโมง รอผ่านด่านเข้า ตม สบายๆค่ะ สนามบินค่อนข้างเล็กมาก ผ่าน ตม มาหยิบกระเป๋าแล้วก็ออกมาเจอเคาน์เตอร์ของโรงแรมมากมาย แต่ด้วยความที่เรามาถึงมืดมาก โรงแรมที่เราจองไว้ต้องเดินทางด้วย seaplane ซึ่งไม่มีบินตอนดึกนะคะ ว่าแล้วก็เดินออกมาซื้อ sim card ก่อนเลยค่ะ เป็นของ dhiraagu เขียนว่า Data Traveler 15GB ราคา 22 USD ใครที่ใช้แอนดรอย จะต้องใส่ VPN ใหม่นะคะ ทางเจ้าหน้าที่เค้าจะคอยถามเราตอนยื่นซิมมาให้ ถ้า iPhone สามารถเอาซิมใส่เครื่อง ปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่ก็ใช้ได้เลยค่ะ


ว่าแล้วก็เดินออกมาจากสนามบินเลี้ยวซ้ายรอรถเพื่อไปที่พักใกล้ๆสนามบินค่ะ (ถามทางจากเจ้าหน้าที่ที่ขายซิม) เราเลือกที่พักเป็นโรงแรม Lonuveli (จองผ่าน Bookings) เห็นว่าถูกดี มีบริการมาส่งที่สนามบิน แล้วก็นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมง พอขึ้นรถมาเราก็เปิด google maps ไปด้วย เพื่อจะได้ไม่หลงทาง รถบัสจะจอดที่ป้ายแรก ให้ลงเลยค่ะ แล้วเดินมาที่ Lonuveli ซึ่งอยู่ติดริมหาด หากใครลืมของอะไรก็ตาม ตรงป้ายรถบัสจะมี Supermarket ให้เลือกซื้อได้


บรรยากาศในตัวเมืองถือว่าค่อนข้างเงียบมากค่ะ มาถึง Lonuveli ก็มีเครื่องดื่มต้อนรับให้ เป็นน้ำมะม่วง แล้วมีพนักงานยกกระเป๋าไปไว้ที่ห้องให้ เราได้ห้องชั้น 2 ที่นี่ไม่มีลิฟต์นะคะ เป็นโรงแรมเล็กๆ อารมณ์เป็นตึกแถวอะ ก่อนขึ้นห้องเราก็ได้ข้อความจากเอเจนซี่ว่าพรุ่งนี้ seaplane จะออกตอน 7.30 ดังนั้นเราต้องไปถึงสนามบิน 6.30 (เราขอบินรอบเช้าที่สุดค่ะ อยากใช้เวลาบนรีสอร์ตเยอะๆ)

ขึ้นมาถึงห้องพักที่ Lonuveli ตกใจมาก เปิดประตูปุ๊บ เจอเตียงเลยค่ะ ปลายเตียงแทบจะชนกับประตูแล้ว ห้องเล็กมาก เล็กกว่าที่ญี่ปุ่น เล็กกว่าที่ฮ่องกงอีกค่ะ ห้องน้ำก็เล็ก แต่นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงค่ะ นอน!!!



ตอนเช้ามีรถตู้มารอรับไปส่งที่สนามบิน พอถึงสนามบิน เราก็เดินมาที่เคาน์เตอร์เบอร์ 13 ซึ่งเป็นของ Constance Halaveli นั่นเองจ้า ตื่นเต้นมาก อยากไปขึ้น seaplane เจ้าหน้าที่ก็พาเราไปชั่งน้ำหนักกระเป๋าและออกตั๋ว seaplane โดยน้ำหนักกระเป๋าห้ามเกิน 20 kg นะคะ ไม่งั้นต้องจ่ายเพิ่ม ของเราไม่เกิน พอได้ตั๋วแล้วก็จะมีรถตู้ของรีสอร์ตมารอรับเราไปที่เลานจ์ของรีสอรตที่อยู่ติดกับท่า seaplane ภายในเลานจ์มีขนมปัง มีเครื่องดื่ม มี wifi ให้นะคะ ระหว่างรอ seaplane รอประมาณชั่วโมงนึงก็จะมีพนักงานพาเราไปขึ้น seaplane ค่ะ โดยเค้าจะให้เราดูสัมภาระให้เรียบร้อยก่อนเราขึ้น พร้อมแล้วก็ไปค่ะ นั่งบน seaplane ก็จะมองเห็นเกาะต่างๆที่เค้าเรียกว่า Atoll สวยงามมาก บินประมาณ 25 นาทีก็มาลงที่โป๊ะกลางน้ำ น้ำทะเลที่นี่เป็นสีฟ้าแบบ ฟ้ามาก เหมือนน้ำในสระว่ายน้ำอะค่ะ ช่วงน้ำลึกก็เป็นสีฟ้าเข้มๆ ไม่เหมือนทะเลบ้านเรา เราเคยไปหลีเป๊ะน้ำทะเลจะออกเขียวๆ แต่ที่นี่มันคือฟ้า ฟ้า ฟ้ามากๆ เหมือนมันคือสระน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก พอลงที่โป๊ะแล้วจะมีเรือของรีสอร์ตมารับเราพร้อมกับพนักงานดูแล ทุกคนยิ้มแย้ม ทักทายอย่างเป็นกันเองมากๆ







ถึงแล้วค่ะ Constance Halaveli เวลาที่นี่จะเร็วกว่าที่มาเล่ 1 ชั่วโมง มาถึงเค้าจะมี Welcome drink ให้ รสชาติเป็นน้ำอัญชันมะนาวค่ะ จากนั้นจะมีพนักงานพาเราไปที่ Water Villa พร้อมแนะนำสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นห้องอาหาร เมนูอาหาร การลงเล่นน้ำ กิจกรรมต่างๆ หากมีข้อสงสัยก็ถามได้ทันที ห้องที่เราได้เป็นห้องหมายเลข 86 อยู่แทบจะปลายสุดของมางเดิน อยู่ฝั่ง sunset ซึ่งเราเป็นคน request กับทางเอเจนซี่ (เราจองจาก maldivespackage) ว่าอยากได้ห้องที่วิวสวย มีความเป็นส่วนตัว พอเห็นห้องแล้วก็ประทับใจมากๆค่ะ วิวสวยและมีความเป็นส่วนตัวมากๆ ภายในห้องจะมีขนมและเครื่องดื่มไว้ให้ ถ้ามาแบบ All inclusive ก็หยิบกินได้หมดเลยจ้า แต่เรามาแบบ Breakfast อย่างเดียว ถ้าหยิบกินก็จะต้องจ่ายเงินนะจ้ะ (ทั้งนี้ทั้งนั้น เค้าจะมีราคาเขียนบอกไห้ว่าแต่ละชิ้นนั้นเท่าไหร่) นอกจากนี้ในห้องจะมี mac mini ให้เราใช้งาน สามารถเชื่อมต่อกับมือถือผ่าน AirPlay ได้ มีช่องทีวี HBO FOX และอื่นๆให้ดูมากมาย มีหนังให้เลือกดูอีกหลายเรื่องมากๆ สุดยอดจริงๆ ห้องน้ำกับห้องนอนจะแนกส่วนออกจากกัน ห้องน้ำจะมีตู้เสื้อผ้าให้สองฝั่ง มีอ่างน้ำให้แช่ตัว มีไดร์เป่าผมให้ มี rain shower ขนาดใหญ่ พอเปิดประตูออกมาที่ระเบียงจะเจอกับสระน้ำส่วนตัวที่ไม่ลึกมาก เดินลงมาจากสระน้ำจะเจอทางลงไปยังทะเล แต่เนื่องจากคลื่นค่อนข้างแรง หากจะลงเล่นน้ำในทะเล ควรใส่ชูชีพซึ่งทางรีสอร์ตมีเตรียมไว้ให้ในห้องพักเลยจ้า อากาศดีมากๆ ลมเย็น ไม่มีไอร้อนเลย ไม่เหนียวตัวด้วย เราไม่เจอฝนตกเลยแม้จะมาในช่วง low season ถือว่าโชคดีสุดๆ


แผนผังสำหรับ Constance Halaveli










อยู่ในสระส่วยตัวมองออกไปก็จะอารมณ์นี้เลย ชิวมาก


บางทีก็จะมองเห็น seaplane บินผ่านไป


ตอนกลางวันก็จะเป็นแบบนี้ อาบแดดซะหน่อย


น้ำใสยิ่งกว่าน้ำในสระว่ายน้ำ


เวลาพระอาทิตย์ตกก็จะได้อารมณ์แบบนี้เลย

เนื่องด้วยวิลล่าที่พักกับหาดจะอยู่ห่างกันพอสมควร เราสามารถโทรเรียกรถให้มารับ-ส่งได้ตลอดเวลา รอไม่นาน


ห้องอาหารของที่ Constance Halaveli แบ่งเป็น 3 ที่ โดยแต่ละห้องอาหารจะมีวันเปิด-ปิด ดูได้จากตารางที่อยู่ในห้องพัก
1. Jahaz restarant เป็นห้องอาหารหลัก ไว้กิน Buffet แต่ถ้าใครอยากสั่งแบบจานเดี่ยวก็มีเมนูให้เลือกเช่นกัน Dinner Buffet ของที่นี่จะเปลี่ยน theme ของอาหารทุกวัน เช่น Japanese Buffet, Middle East Buffet, European Buffet เป็นต้น
2. Jing restaurant เป็นห้องอาหารกลางน้ำ เป็นแนวอาหารเอเชียฟิวชั่น
3. Meeru restaurant จะอยู่ติดกับ Jahazz restaurant เป็นแนวซีฟู้ด ปิ้งย่าง

อาหารส่วนใหญ่เป็นแป้งและเครื่องเทศ อกไก่ แกง เนื้อวัว ประมาณนี้ บางอย่างเราก็เห็นบ่อยแต่เรียกไม่ถูก เอาเป็นว่าถ้าคุณมาแบบ All inclusive ก็ไปกิน buffet ทั้งมื้อ เช้า กลางวัน เย็น แบบไม่ต้องคิดมาก แต่เราก็คิดเยอะหน่อย เพราะราคาอาหารก็ไม่ได้ถูก อีกทั้งเวลาสั่งเครื่องดื่ม มันไม่รวมอยู่ในราคา Buffet นะ มื้อแรกที่มาถึงเรากิน Lunch Buffet แล้วเราคิดว่าราคา Buffet มันรวมเครื่องดื่มเลยสั่ง coke มาสามขวด พอบิลออกมาก็เลยช้อคหน่อยๆ น้ำเปล่าก็ไม่รวมในราคา buffet นะ! แล้วราคาที่เค้าบอกมาจะไม่รวม service charge 10% และภาษีท้องถิ่นด้วยนะ



มื้อแรกเป็น Lunch Buffet อาหารก็จะประมาณนี้


มื้อเย็นมากินที่ Jing restaurant


มื้อกลางวันสั่งมากินที่ห้องชิวๆ


มื้อเย็นมาดินเนอร์ที่ Meeru restaurant


มื้อกลางวันลองชิม sushi bar รสชาติไม่โอเค 555



มื้อเย็นลองซะหน่อยกับอาหารตะวันออกกลาง

กิจกรรมที่ Constance Halaveli มีไห้เลือกมากมาย แต่หลายๆสิ่งจะเสียเงินเพิ่มมาก เราเลยไม่ได้ทำกิจกรรม เพราะจุดประสงค์ของเราคือมาพักผ่อน กิจกรรมที่เห็นก็จะเป็น นั่งเรือไปดูโลมา นั่งเรือไปดูพระอาทิตย์ตก ไปดำน้ำดูเต่า ไปดำน้ำลึก แต่กิจกรรมที่ไม่เสียเงินก็มีนะ เช่นการให้อาหารปลา (Fish Feeding) ปลาในที่นี้คือปลาฉลาม!!! ไปดูรูปกันเลย ปลาฉลามเยอะมาก ฉลามที่นี่จะเป็นฉลามครีบดำ ส่วนที่เห็นตัวดำๆในรูปจะเป็น Jack Fish ดุร้ายกว่าฉลาม รวดเร็วกว่าฉลาม งับเหยื่อขาดกระจุยเลย




มาที่นี่ไม่ต้องกลัวฉลามนะ ฉลามที่นี่ค่อนข้างเป็นมิตรและกลัวคน พนักงานบอกว่าถ้าเราดำน้ำ เล่นน้ำปกติ ฉลามจะไม่ยุ่งกับเรา แต่ถ้าเราไปจับ ไปทำร้ายเค้าก่อน นั่นแหละเป็นเรื่อง! จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ลงไปเล่นน้ำมาก็เป็นอย่างนั้นค่ะ เราว่ายน้ำอยู่ก็มีฉลามว่ายมา เราจะหนีขึ้นฝั่งละ พอเราขยับ ฉลามก็ว่ายหนีไป เหมือนเค้าจะกลัวเรามากกว่า นอกจากฉลามแล้ว ที่นี่จะเห็นปลากระเบนบ่อยมาก เห็นถี่ๆเลยแหละ

มีต่อนะคะ . . .
ชื่อสินค้า:   มัลดีฟ (Maldives) ท่องเที่ยว constance halaveli พักผ่อน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่