สวัสดีค่ะ ทริปนี้เป็นทริปแรก ที่ตัดสินใจชวนแม่เที่ยวเมืองนอก ก่อนหน้านี้ไม่กล้า เพราะกลัวนางไม่ไหวบ้าง กลังนางจะไม่สนุกบ้าง ลองชวนเล่นๆนางกลับตกลงที่จะไป งานหนักจึงตกอยู่ที่เรา เลือกญี่ปุ่นเพราะการเดินทางที่สะดวก และทุกอย่างเหมาะกับพาผู้สูงอายุเที่ยว ตอนจัดทริป เห็นละว่าเที่ยวหลายเมือง เปลี่ยนที่พักทุกคืน ด้วยความที่อยากให้นางเที่ยวสบายๆ ไม่เหนื่อย เลยคิดกันว่าควรจะเช่ารถ เพื่อขับเที่ยว หาข้อมูลเวปที่จองรถ ก็ตัดสินใจจองรถกับเวป
https://www2.tocoo.jp/en/ เวปรวมทุกเจ้าที่ให้เช่ารถ แต่จะมีโปรโมชั่นเพิ่มมาให้นิดหน่อย รถที่เลือกเป็นขนาด 7 ที่นั่ง เพราว่าต้องเก็บกระเป๋าทั้งหมด 4 ใบ และต้องซื้อการ์ดทางด่วน Hokkaido Expressway Pass Plan(HEP) ทั้งหมด 6 วัน พอทุกอย่างลงตัว ก็ลุยกันเลยยยยย
เราอออกเดินทางคืนวันพุธ สายการบิน Air Asia เที่ยวบิน XJ620 ถึงที่ Hokkaido ตอน 8.40 น ใช่แล้วต้องนอนบนเครื่องหลายชั่วโมง ด้วยการมองการไกลของเรา จึงเลือกที่นั่ง Hot Seat ที่ติดทางขึ้น กว้าง และเข้าห้องน้ำง่าย เพื่อให้ๆ คุณมี้ๆนอนหลับสบายตลอดคืน แต่ๆๆ ถามว่านางหลับมั้ย No Nooo สงสัยนางจะตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ฮ่า
เมื่องถึงสนามบิน Shin Chitose เดินออกจากเครื่องแปร๊บเดียวก็ถึง ตม. ตอนแรกก็กังวลนะว่ามี้จะผ่านมั้ย จะโดนเรียกมั้ย แต่ก็ผ่านได้สบายโลดด พี่ ตม. เค้าใจดี...ผ่าน ตม. มาแล้ว ก็จัดการชีวิด ซักแห้ง ล้างหน้าล้างตา แล้วเดินตรงไปฝั่ง Domestic ผ่านร้านของฝาก และจะเจอลิฟท์ตรงกลาง อย่าลงไปเด็ดขาด ให้เดินตรงไปอีก จะเจอบันไดเลื่อนทางลงไปชั้น 1 เค้าเตอร์เช่ารถจะอยู่ฝั่ง Domestic ชั้น 1 พอถึงเค้าเตอร์ก็ยื่นเอกสาร แล้วรับบัตรคิว รอขึ้น Bus เพื่อไปรับรถอีกที่ ไม่ห่างจากสนามบินมาก ประมาณ 10 นาที ไปถึงที่รับรถก็รอคิวกันต่อไป บัตรคิวที่ได้มาตอนแรกอย่าเพิ่งทิ้งนะจ๊ะ เพราะต้องใช้ที่นี่ด้วย ตอนเราไปถึงคนเริ่มเยอะ เลยรอนานนิดหน่อย ได้รถแล้ว ก็เดินดูสภาพรถรอบๆ คัน แล้วก็ฟังเจ้าหน้าที่เค้าอธิบายแล้วก็ Start เครื่องไปกันได้เลย Go..Gooo
Plan ของเราจะเที่ยวกันเป็นวงกลม เริ่มจาก เมือง Noboribetsu > Hakodate > Otaro > Furano/Biei > Sapporo
Day 1 Noboribetsu มาถึงที่เมืองนี้ช่วงบ่าย ท้องร้องกันเลยที่เดียว ก็ตรงดิ่งไปที่ ร้าน Sobadokorofukuan กินเมนูเด็ดคือ ข้าวหน้าเท็มปุระ พอท้องขยายใหญ่ก็ขับรถไปเดินย่อยที่ หุบเขานรก JIGOKUDANI ที่พี่เต๋อ กะ น้องมิวมาเดินจีบกันในหนังแฟนเดย์ ตอนแรกก็คิดว่ากลิ่นกำมะถันจะแรง แต่จริงๆ แล้วก็ไม่เท่าไหร่นะ เดินเล่น สบายๆ แต่หามุมถ่ายรูปยาก เพราะมหาชนพลุกพล่านสุดๆ วันแรกทริปจะเบาๆ เพราะเพลียจากการเดินทางมาเยอะ เราจึงขับรถเข้าที่พักเลย คืนนี้เราไปนอนที่ Hakodate (smile hotel hakodate)
Day 2 Hakodate ตื่นเช้ามา ไม่มีอะไรร่ำร้องได้ดีกว่าท้องที่หิว ช้าอยู่ทำมัย ไปเดินเล่นตลาดเช้า Hakodate Asaichi เพื่อกินอาหารทะเลสดๆ หวานๆ ร้าน Tabiji สดและดีย์ มาก อิ่มแล้วไปต่อกันที่ หอคอยชมเมือง Goryokaku Tower ดูสวนรูปดาว และวิวมุมสูงของเมือง Hakodate เดินวลๆ ซักพักเราก็ไปรับลมทะเลต่อที่ Red Brick อย่าลืมไปถ่ายรูปที่เนิน Hachimansaka เป็นถนนที่มองลงมาเห็นปากอ่าว สวยมากๆ อ่อ พี่เต๋อ กับน้องมิวเค้าก็มาถ่ายที่นีอีกละนะ เที่ยงนี้เราฝากท้องไว้กับเบอร์เกอร์ร้านดังมองเมืองนี้ ร้าน Lucky Pierrot รสชาติพอใช้ ราคาดีย์ นั่งพักพุงซักแปร๊บ ก็ไปขึ้นกระเช้า Mt. Hakodate Ropeway ชมวิวมหาชล ข้างบนลมแรงมากๆ มีความหนาว ชมวิวได้แปร๊บเดียวไม่ไหวละ สั่นสะท้านไปทั้งตัว พอๆๆ กลับๆๆ คืนนี้เราไปนอนกันที่ Sheraton Hokkaido Kiroro Resort ซึ่งเป็นทางผ่านที่จะไปเที่ยว Otaru พรุ่งนี้พอดี
Day 3 Otaru เช้าวันที่ 3 ตื่นมาชมวิวป่า เขาที่โรงแรมซักพัก ก็ออกเดินทางไปต่อที่ Otaru Canal เดินชมวิวรอบคลองถ่ายรูปให้หนำใจ แนะนำไปเช้าๆ คนไม่ค่อยเยอะจะได้รูปสวยๆ แล้วเดินไปถนนคนเดิน Sakaimachi ซื้อขนม ของกินเล่น ปลาหมึกร้านดัง อร่อยมากๆนะเธอ ไม่เหนียวเลย หาของกินไปตามทาง ตอนแรกในแพลนว่าจะกินเค้กร้านดัง LeTAO แต่ท้องมันแน่นมาก เลยได้แต่เกาะกระจกมองหน้าร้าน ถนนนี้เดินไปเรื่อยๆสุดทาง จะไปเจอนาฬิกาไอน้ำ และพิพิธพันธ์กล่องดนตรี เข้าไปเดินดูมา ถามว่าซื้ออะไรได้มั้ย ไม่เลยค่ะ ราคาค่อนข้างแรงพอตัว อย่างเราต้องสายกินเท่านั้น เพราะงั้นมื้อเย็นเราไปจัดไก่ทอด ร้าน Naruto Honten เซทของนางจะมีข้าวกับไก่ ครึ่งตัว โอ๊ยยๆ ชิ้นใหญ่มาก แม่ๆ ชอบกันมาก บอกไม่อมน้ำมัน หนังบาง เนื้อนุ่ม ดีย์สุด อิ่มท้องก็ขึ้นไปย่อยต่อบนรถ เพราวันนี้เราจะเดินทางไกลไปที่เมื่อง Furano (Pension Ressha House)
Day 4 Furano/Biei/ Ashibetsu วันนี้เราออกเช้าสุด เพราะโปรแกรมเราเยอะมาก เริ่มต้นจากขับรถชมวิวไปที่เมือง Biei เมื่องของสายธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยภูเขาและทุ่งนาอันกว้างใหญ่ ขับรถไปตาม Patchwork Road โอ๊ยคุณ ทุ่งข้าวสีเหลืองทองสลับกับต้นไม้สีเขียวๆ มันเป็นวิวที่แบบว่า งดงามตระการตามากค่ะ อิ่มเอมกับวิวงามๆ แล้ว เราไปต่อกันที่ Shirogane Blue Pond เป็นบ่อน้ำสีฟ้า แต่ตอนช่วงที่เราไปมีฝนตกมาก่อนหน้า เลยกลายเป็นฟ้าขุ่นๆ แหะๆ กิจกรรมที่แม่ๆ อยากทำมากที่สุดในเมืองนี้คือการไปชิมเชอร์รี่ที่สวน Ohashi Cherry Farm ที่เมือง Ashibetsu ค่าเข้าคนละ 1500 เยน กินได้ไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา หรือจะเด็ดกลับบ้านก็ได้นะ ในราคา 100 กรัม 200 เยน ตอนแรกก็กินกันแบบบ้าคลั่ง พอหลังๆเท่านั้นแหละ ปากซีดปากเปื่อยกันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ หลังจากกินหวานเราต้องไปต่อของคาว ด้วยนาเบะร้อนๆ ร้าน Kumagera น้ำซุปดีย์มาก อร่อยมาก แม่ๆซดกันคล่องคอเลยที่เดียว ตกบ่ายๆ เราไปเดินย่อย ชมสวนลาเวนเดอร์ที่ Farm Tomita ช่วงไปดอกยังไม่บานเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าถ่ายรูปออกมาสวยใช้ได้ แล้วก็ไม่ลืมที่จะกินไอติม ลาเวนเดอร์สุดฮิท ถามว่าอร่อยมั้ย พี่ได้แต่ส่ายหัวเบาๆ เอามาถ่ายรูปลง IG เก๋ๆ พอได้ค่ะคุณ วันนี้ใชเพลังงานไปเยอะ เราต้องขับรถกลับเข้าเมือง Sapporo (APA Hotel) กันอีก มาถึงก็ดึกแล้วเราเลนหาร้านข้าวใกล้ๆ ที่พักกิน แต่ๆ แม่มโคตรอร่อย อย่างนึกไม่ถึง เนื้อดีย์ หมูดีย์ มากๆ ร้าน なんこう園 南7条店 (ก๊อปไปวางแล้วหาเอา เพราะไม่มีชื่อร้านภาษาอังกฤษเลย)







Day 5 Sapporo วันนี้ไม่มีไรมาก เป็นวันที่เรารอคอย คือวันแห่งการช๊อปปิ้งนั่นเองง อ่อแต่ไม่ลืมรองท้องด้วยอาหารทะเลสดๆ ที่ ตลาด Nijo Fish Market กินข้าวไข่เม่น ร้าน ดมบุริชายะ (Donburi chaya) แล้วแวะเดินเล่นตลาดซักนิดก่อนลุยช๊อปปิ้งที่ Mitsui Outlet Park ถือว่าเป็น Outlet ที่ใหญ่พอสมควร ร้านเยอะราคาดีย์ เดินแบบไฮโซกันแล้วก็กลับมาช๊อปแบบข้างทาง ที่ถนน Tanukikoji Shopping พวกเครื่องสำอางที่โดนฝากซื้อกันมา หาได้ที่นี่หมดเจ้าค่ะ เราช็อปกันเพลินจนถึงเวลาอาหารเย็นที่รอคอย คือการกินปูนึ่ง ร้าน Ebi Kani Gassen ร้านอยู่ในตึก F-45 ชั้น 12 ถ้าไปร้านเปิด ไม่ต้องจอง แต่ถ้ามาหลัง 19.00 แนะนำว่าควรจองมาก่อน เพราะปูเค้าเด็ดมาก เราเลือกแบบบุฟเฟ่ หัวละ 7000 เยน กินปุได้ 3 ชนิด King crabs, Snow Crabs, Kagani Crabs หรือปูขนนั่นเอง กินอิปูขน 3 ตัวก็คุ้มแล้วค่ะคุณ เอาข้าวคลุกมันปูนะเริดมากๆๆ เราแอบพกน้ำจิ้มซีฟู้ดส์เข้าไปเอง โอ๊ยแซปหลาย เนื้อปูดีย์มาก หวานๆ ไม่เค็มเหมือนปูร้านบุฟเฟ่ทั่วไปนะ ต้องไปโดนดีจริงๆ จบค่ำคืนสุดท้ายด้วยปูนึ่ง คืนนี้เราไปนอนที่พักใกล้สนามบิน (QUEEN'S HOTEL CHITOSE) เพราะบินช่วงเช้า กลัวตื่นไม่ทัน และต้องเผื่อเวลาคืนรถอีกนิดหน่อย อ่อ เรื่องคืนรถ เอาไปคืนที่จุดรับรถตอนแรก แล้วนั่ง Bus กลับมาที่สนามบินเหมือนเดิม เพราะงั้นเผื่อเวลาดีๆ เดี๋ยวจะพลาดตกเครื่องเอาได้นะจ๊ะ







ค่าใช้จ่ายตลอดทริปต่อ 1 คน (ผู้ร่วมทริป 4 คน)ไม่รวมค่าช็อปปิ้ง
ค่าตั๋วเครื่องบิน 14,290
ที่พัก 5 คืน 4,423
ประกันเดินทาง 338
ค่าซิมโทรศัพท์ 399
ค่าเช่ารถ 6 วัน 4,723
ค่าน้ำมัน 6 วัน 1,155
ค่ากิน ค่าที่จอดรถ ค่าอื่นๆ 12,195
จบการรีวิวท่องเที่ยว 6 วัน 5 คืน ทริปแบกกระเตงพาแม่ๆ เที่ยว ไม่เหนื่อยมาก เหมาะกับวัยผู้สูงอายุ ถ้าใครอยากได้ Plan ฉบับเต็ม เข้าไปขอได้ที่
https://www.facebook.com/MyVactionWorld/ ยินดีแจกให้ฟรีๆ จร้า
*** รูปรถที่เราใช้ตลอดทริป ขนาด 7 ที่นั่ง วางกระเป๋าได้ 4 ใบ สบายๆ ****
[CR] #พาแม่เปรี้ยวเที่ยวฮอกไกโด #RoadTrip #หน้าร้อน #แจกแพลน
เราอออกเดินทางคืนวันพุธ สายการบิน Air Asia เที่ยวบิน XJ620 ถึงที่ Hokkaido ตอน 8.40 น ใช่แล้วต้องนอนบนเครื่องหลายชั่วโมง ด้วยการมองการไกลของเรา จึงเลือกที่นั่ง Hot Seat ที่ติดทางขึ้น กว้าง และเข้าห้องน้ำง่าย เพื่อให้ๆ คุณมี้ๆนอนหลับสบายตลอดคืน แต่ๆๆ ถามว่านางหลับมั้ย No Nooo สงสัยนางจะตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ฮ่า
เมื่องถึงสนามบิน Shin Chitose เดินออกจากเครื่องแปร๊บเดียวก็ถึง ตม. ตอนแรกก็กังวลนะว่ามี้จะผ่านมั้ย จะโดนเรียกมั้ย แต่ก็ผ่านได้สบายโลดด พี่ ตม. เค้าใจดี...ผ่าน ตม. มาแล้ว ก็จัดการชีวิด ซักแห้ง ล้างหน้าล้างตา แล้วเดินตรงไปฝั่ง Domestic ผ่านร้านของฝาก และจะเจอลิฟท์ตรงกลาง อย่าลงไปเด็ดขาด ให้เดินตรงไปอีก จะเจอบันไดเลื่อนทางลงไปชั้น 1 เค้าเตอร์เช่ารถจะอยู่ฝั่ง Domestic ชั้น 1 พอถึงเค้าเตอร์ก็ยื่นเอกสาร แล้วรับบัตรคิว รอขึ้น Bus เพื่อไปรับรถอีกที่ ไม่ห่างจากสนามบินมาก ประมาณ 10 นาที ไปถึงที่รับรถก็รอคิวกันต่อไป บัตรคิวที่ได้มาตอนแรกอย่าเพิ่งทิ้งนะจ๊ะ เพราะต้องใช้ที่นี่ด้วย ตอนเราไปถึงคนเริ่มเยอะ เลยรอนานนิดหน่อย ได้รถแล้ว ก็เดินดูสภาพรถรอบๆ คัน แล้วก็ฟังเจ้าหน้าที่เค้าอธิบายแล้วก็ Start เครื่องไปกันได้เลย Go..Gooo
Day 1 Noboribetsu มาถึงที่เมืองนี้ช่วงบ่าย ท้องร้องกันเลยที่เดียว ก็ตรงดิ่งไปที่ ร้าน Sobadokorofukuan กินเมนูเด็ดคือ ข้าวหน้าเท็มปุระ พอท้องขยายใหญ่ก็ขับรถไปเดินย่อยที่ หุบเขานรก JIGOKUDANI ที่พี่เต๋อ กะ น้องมิวมาเดินจีบกันในหนังแฟนเดย์ ตอนแรกก็คิดว่ากลิ่นกำมะถันจะแรง แต่จริงๆ แล้วก็ไม่เท่าไหร่นะ เดินเล่น สบายๆ แต่หามุมถ่ายรูปยาก เพราะมหาชนพลุกพล่านสุดๆ วันแรกทริปจะเบาๆ เพราะเพลียจากการเดินทางมาเยอะ เราจึงขับรถเข้าที่พักเลย คืนนี้เราไปนอนที่ Hakodate (smile hotel hakodate)
Day 2 Hakodate ตื่นเช้ามา ไม่มีอะไรร่ำร้องได้ดีกว่าท้องที่หิว ช้าอยู่ทำมัย ไปเดินเล่นตลาดเช้า Hakodate Asaichi เพื่อกินอาหารทะเลสดๆ หวานๆ ร้าน Tabiji สดและดีย์ มาก อิ่มแล้วไปต่อกันที่ หอคอยชมเมือง Goryokaku Tower ดูสวนรูปดาว และวิวมุมสูงของเมือง Hakodate เดินวลๆ ซักพักเราก็ไปรับลมทะเลต่อที่ Red Brick อย่าลืมไปถ่ายรูปที่เนิน Hachimansaka เป็นถนนที่มองลงมาเห็นปากอ่าว สวยมากๆ อ่อ พี่เต๋อ กับน้องมิวเค้าก็มาถ่ายที่นีอีกละนะ เที่ยงนี้เราฝากท้องไว้กับเบอร์เกอร์ร้านดังมองเมืองนี้ ร้าน Lucky Pierrot รสชาติพอใช้ ราคาดีย์ นั่งพักพุงซักแปร๊บ ก็ไปขึ้นกระเช้า Mt. Hakodate Ropeway ชมวิวมหาชล ข้างบนลมแรงมากๆ มีความหนาว ชมวิวได้แปร๊บเดียวไม่ไหวละ สั่นสะท้านไปทั้งตัว พอๆๆ กลับๆๆ คืนนี้เราไปนอนกันที่ Sheraton Hokkaido Kiroro Resort ซึ่งเป็นทางผ่านที่จะไปเที่ยว Otaru พรุ่งนี้พอดี
Day 3 Otaru เช้าวันที่ 3 ตื่นมาชมวิวป่า เขาที่โรงแรมซักพัก ก็ออกเดินทางไปต่อที่ Otaru Canal เดินชมวิวรอบคลองถ่ายรูปให้หนำใจ แนะนำไปเช้าๆ คนไม่ค่อยเยอะจะได้รูปสวยๆ แล้วเดินไปถนนคนเดิน Sakaimachi ซื้อขนม ของกินเล่น ปลาหมึกร้านดัง อร่อยมากๆนะเธอ ไม่เหนียวเลย หาของกินไปตามทาง ตอนแรกในแพลนว่าจะกินเค้กร้านดัง LeTAO แต่ท้องมันแน่นมาก เลยได้แต่เกาะกระจกมองหน้าร้าน ถนนนี้เดินไปเรื่อยๆสุดทาง จะไปเจอนาฬิกาไอน้ำ และพิพิธพันธ์กล่องดนตรี เข้าไปเดินดูมา ถามว่าซื้ออะไรได้มั้ย ไม่เลยค่ะ ราคาค่อนข้างแรงพอตัว อย่างเราต้องสายกินเท่านั้น เพราะงั้นมื้อเย็นเราไปจัดไก่ทอด ร้าน Naruto Honten เซทของนางจะมีข้าวกับไก่ ครึ่งตัว โอ๊ยยๆ ชิ้นใหญ่มาก แม่ๆ ชอบกันมาก บอกไม่อมน้ำมัน หนังบาง เนื้อนุ่ม ดีย์สุด อิ่มท้องก็ขึ้นไปย่อยต่อบนรถ เพราวันนี้เราจะเดินทางไกลไปที่เมื่อง Furano (Pension Ressha House)
Day 4 Furano/Biei/ Ashibetsu วันนี้เราออกเช้าสุด เพราะโปรแกรมเราเยอะมาก เริ่มต้นจากขับรถชมวิวไปที่เมือง Biei เมื่องของสายธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยภูเขาและทุ่งนาอันกว้างใหญ่ ขับรถไปตาม Patchwork Road โอ๊ยคุณ ทุ่งข้าวสีเหลืองทองสลับกับต้นไม้สีเขียวๆ มันเป็นวิวที่แบบว่า งดงามตระการตามากค่ะ อิ่มเอมกับวิวงามๆ แล้ว เราไปต่อกันที่ Shirogane Blue Pond เป็นบ่อน้ำสีฟ้า แต่ตอนช่วงที่เราไปมีฝนตกมาก่อนหน้า เลยกลายเป็นฟ้าขุ่นๆ แหะๆ กิจกรรมที่แม่ๆ อยากทำมากที่สุดในเมืองนี้คือการไปชิมเชอร์รี่ที่สวน Ohashi Cherry Farm ที่เมือง Ashibetsu ค่าเข้าคนละ 1500 เยน กินได้ไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา หรือจะเด็ดกลับบ้านก็ได้นะ ในราคา 100 กรัม 200 เยน ตอนแรกก็กินกันแบบบ้าคลั่ง พอหลังๆเท่านั้นแหละ ปากซีดปากเปื่อยกันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ หลังจากกินหวานเราต้องไปต่อของคาว ด้วยนาเบะร้อนๆ ร้าน Kumagera น้ำซุปดีย์มาก อร่อยมาก แม่ๆซดกันคล่องคอเลยที่เดียว ตกบ่ายๆ เราไปเดินย่อย ชมสวนลาเวนเดอร์ที่ Farm Tomita ช่วงไปดอกยังไม่บานเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าถ่ายรูปออกมาสวยใช้ได้ แล้วก็ไม่ลืมที่จะกินไอติม ลาเวนเดอร์สุดฮิท ถามว่าอร่อยมั้ย พี่ได้แต่ส่ายหัวเบาๆ เอามาถ่ายรูปลง IG เก๋ๆ พอได้ค่ะคุณ วันนี้ใชเพลังงานไปเยอะ เราต้องขับรถกลับเข้าเมือง Sapporo (APA Hotel) กันอีก มาถึงก็ดึกแล้วเราเลนหาร้านข้าวใกล้ๆ ที่พักกิน แต่ๆ แม่มโคตรอร่อย อย่างนึกไม่ถึง เนื้อดีย์ หมูดีย์ มากๆ ร้าน なんこう園 南7条店 (ก๊อปไปวางแล้วหาเอา เพราะไม่มีชื่อร้านภาษาอังกฤษเลย)
Day 5 Sapporo วันนี้ไม่มีไรมาก เป็นวันที่เรารอคอย คือวันแห่งการช๊อปปิ้งนั่นเองง อ่อแต่ไม่ลืมรองท้องด้วยอาหารทะเลสดๆ ที่ ตลาด Nijo Fish Market กินข้าวไข่เม่น ร้าน ดมบุริชายะ (Donburi chaya) แล้วแวะเดินเล่นตลาดซักนิดก่อนลุยช๊อปปิ้งที่ Mitsui Outlet Park ถือว่าเป็น Outlet ที่ใหญ่พอสมควร ร้านเยอะราคาดีย์ เดินแบบไฮโซกันแล้วก็กลับมาช๊อปแบบข้างทาง ที่ถนน Tanukikoji Shopping พวกเครื่องสำอางที่โดนฝากซื้อกันมา หาได้ที่นี่หมดเจ้าค่ะ เราช็อปกันเพลินจนถึงเวลาอาหารเย็นที่รอคอย คือการกินปูนึ่ง ร้าน Ebi Kani Gassen ร้านอยู่ในตึก F-45 ชั้น 12 ถ้าไปร้านเปิด ไม่ต้องจอง แต่ถ้ามาหลัง 19.00 แนะนำว่าควรจองมาก่อน เพราะปูเค้าเด็ดมาก เราเลือกแบบบุฟเฟ่ หัวละ 7000 เยน กินปุได้ 3 ชนิด King crabs, Snow Crabs, Kagani Crabs หรือปูขนนั่นเอง กินอิปูขน 3 ตัวก็คุ้มแล้วค่ะคุณ เอาข้าวคลุกมันปูนะเริดมากๆๆ เราแอบพกน้ำจิ้มซีฟู้ดส์เข้าไปเอง โอ๊ยแซปหลาย เนื้อปูดีย์มาก หวานๆ ไม่เค็มเหมือนปูร้านบุฟเฟ่ทั่วไปนะ ต้องไปโดนดีจริงๆ จบค่ำคืนสุดท้ายด้วยปูนึ่ง คืนนี้เราไปนอนที่พักใกล้สนามบิน (QUEEN'S HOTEL CHITOSE) เพราะบินช่วงเช้า กลัวตื่นไม่ทัน และต้องเผื่อเวลาคืนรถอีกนิดหน่อย อ่อ เรื่องคืนรถ เอาไปคืนที่จุดรับรถตอนแรก แล้วนั่ง Bus กลับมาที่สนามบินเหมือนเดิม เพราะงั้นเผื่อเวลาดีๆ เดี๋ยวจะพลาดตกเครื่องเอาได้นะจ๊ะ
ค่าใช้จ่ายตลอดทริปต่อ 1 คน (ผู้ร่วมทริป 4 คน)ไม่รวมค่าช็อปปิ้ง
ค่าตั๋วเครื่องบิน 14,290
ที่พัก 5 คืน 4,423
ประกันเดินทาง 338
ค่าซิมโทรศัพท์ 399
ค่าเช่ารถ 6 วัน 4,723
ค่าน้ำมัน 6 วัน 1,155
ค่ากิน ค่าที่จอดรถ ค่าอื่นๆ 12,195
จบการรีวิวท่องเที่ยว 6 วัน 5 คืน ทริปแบกกระเตงพาแม่ๆ เที่ยว ไม่เหนื่อยมาก เหมาะกับวัยผู้สูงอายุ ถ้าใครอยากได้ Plan ฉบับเต็ม เข้าไปขอได้ที่ https://www.facebook.com/MyVactionWorld/ ยินดีแจกให้ฟรีๆ จร้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น