สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
ที่บ้านมีฟาร์มเป็ดค่ะ เกือบสองหมื่น พ่อแก่เกษียณแล้ว
มีคนงานบ้าง แต่ส่วนใหญ่มีพ่อกับแม่ทำ
บ้านดิฉันเกือบสี่ร้อยตารางเมตร ติดแอร์สองเครื่อง(ห้องดิฉันไม่มีคนอยู่)
มีแค่พ่อกับแม่อยู่บ้านสองคน ถ้าสนใจส่งหลังไมล์มานะคะ
ดิฉันจะเป็นคนจ่ายเงินเดือนเอง ดิฉันเรียนจบกฎหมาย ราม
แต่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศค่ะ. แม่ใจดีมาก
ปล. บ้านอยู่ขอนแก่น มาอยู่ด้วยกันไหมคะ ดิฉันจะส่งเสียเรียนเอง
มีคนงานบ้าง แต่ส่วนใหญ่มีพ่อกับแม่ทำ
บ้านดิฉันเกือบสี่ร้อยตารางเมตร ติดแอร์สองเครื่อง(ห้องดิฉันไม่มีคนอยู่)
มีแค่พ่อกับแม่อยู่บ้านสองคน ถ้าสนใจส่งหลังไมล์มานะคะ
ดิฉันจะเป็นคนจ่ายเงินเดือนเอง ดิฉันเรียนจบกฎหมาย ราม
แต่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศค่ะ. แม่ใจดีมาก
ปล. บ้านอยู่ขอนแก่น มาอยู่ด้วยกันไหมคะ ดิฉันจะส่งเสียเรียนเอง
ความคิดเห็นที่ 9
คำแนะนำคือส่งน้องไปทำงานโรงงานที่จังหวัดอื่นชั่วคราวก่อนมั้ยคะ เด็กยังไม่ต้องบอกพ่อแม่ที่เก็บมาเลี่ยง
ค่อยๆทะยอยขนเสื้อผ้ากับของใช้จำเป็นออกมาไว้ที่บ้านแฟนคุณ อย่าขนมาทีละเยอะ อย่ากระโตกกระตาก
อีกทีพอเด็กแพ็คของจากบ้านแฟนคุณไปทำงานโรงงาน คือพ่อแม่ตามเด็กไม่ได้ แฟนคุณก็ไม่ต้องรับผิดค่ะ พูดกับบ้านนั้นไปว่า “เด็กเอาของมาฝากเฉยๆ อยู่ดีๆเอากลับไปแล้ว ก็นึกว่าดีกันแล้ว” ... โบ้ยโยนขี้ไปเลย
จากนั้นคือ ให้แฟนคุณ คอยติดต่อน้องเรื่อยๆ ... โรงงานไม่ใช่ที่ๆจะให้น้องปักหลักไปตลอดชีวิต ... แต่หลังจากนั้น เด็กคนนี้ต้องเริ่มหางานพาร์ทไทม์ ควบคู่กับเรียนกศน. เพื่อที่จะได้เรียนปริญญา ไม่ก็วุฒิบัตรสายอาชีพ แล้วไปประกอบอาชีพต่อ
น้องเค้าเกิดมาในสถาพแวดล้อมไม่ดี ไม่ได้หมายความว่าน้องสมควรมีชีวิตพังๆ
เราอยากเห็นน้องคนนี้โตไปเป็นเชฟกระทะเหล็ก ต่อให้เราไม่รู้จักน้องเค้าก็เถอะ
สปอยล์ส่วนนี้ชีวิตเราค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดท้ายคือเรามองว่า ทุกชีวิตที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ไม่มีใครที่ไม่สมควรที่จะถูกบีบให้หายไปจากโลก เราจึงเห็นใจน้องเค้า และอยากส่งกำลังใจตรงนี้ค่ะ
ค่อยๆทะยอยขนเสื้อผ้ากับของใช้จำเป็นออกมาไว้ที่บ้านแฟนคุณ อย่าขนมาทีละเยอะ อย่ากระโตกกระตาก
อีกทีพอเด็กแพ็คของจากบ้านแฟนคุณไปทำงานโรงงาน คือพ่อแม่ตามเด็กไม่ได้ แฟนคุณก็ไม่ต้องรับผิดค่ะ พูดกับบ้านนั้นไปว่า “เด็กเอาของมาฝากเฉยๆ อยู่ดีๆเอากลับไปแล้ว ก็นึกว่าดีกันแล้ว” ... โบ้ยโยนขี้ไปเลย
จากนั้นคือ ให้แฟนคุณ คอยติดต่อน้องเรื่อยๆ ... โรงงานไม่ใช่ที่ๆจะให้น้องปักหลักไปตลอดชีวิต ... แต่หลังจากนั้น เด็กคนนี้ต้องเริ่มหางานพาร์ทไทม์ ควบคู่กับเรียนกศน. เพื่อที่จะได้เรียนปริญญา ไม่ก็วุฒิบัตรสายอาชีพ แล้วไปประกอบอาชีพต่อ
น้องเค้าเกิดมาในสถาพแวดล้อมไม่ดี ไม่ได้หมายความว่าน้องสมควรมีชีวิตพังๆ
เราอยากเห็นน้องคนนี้โตไปเป็นเชฟกระทะเหล็ก ต่อให้เราไม่รู้จักน้องเค้าก็เถอะ
สปอยล์ส่วนนี้ชีวิตเราค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดท้ายคือเรามองว่า ทุกชีวิตที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ไม่มีใครที่ไม่สมควรที่จะถูกบีบให้หายไปจากโลก เราจึงเห็นใจน้องเค้า และอยากส่งกำลังใจตรงนี้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ผมจะช่วยเด็กผู้หญิงคนนี้ยังไงดี ?
เด็กคนนี้เหมือนจะโดนเก็บมาเลี้ยงครับ
ครอบครัวที่เลี้ยงทำอาชีพขายอาหาร ผมเห็นเด็กคนนี้เดินเสร์ฟอาหารทั้งวัน
ตั้งแต่เล็ก ๆ ตอนนั้นก็นึกชื่นชมเขาหละครับว่ารู้จักช่วยพ่อแม่ทำงาน เพราะยังได้ไปโรงเรียนอยู่
แต่พอขึ้นมัธยมเหมือนเขาจะได้ไปเรียนแค่เทอมกว่า ๆ ก็ไม่เห็นไปเรียนอีก ถามพ่อแม่เด็ก อ้างว่าเขาไม่ตั้งใจเรียน
เลยให้ออก คราวนี้เด็กได้ทำงานแบบฟูลไทม์เลยหละครับ ตั้งแต่แปดโมงเช้า กว่าจะเลิกงานบางวันสี่ทุ่ม ค่าแรงได้
วันละยี่สิบบาท แล้วด้วยความที่ไม่ใช่ลูกเขาจึงถูกกดขี่สารพัด วันไหนทำอะไรไม่ถูกใจ คนเป็นแม่ดุด่าแบบแรง ๆ
วันไหนหนักหน่อยก็โดนตี ทั้งมือทั้งไม้ ได้ไปห้ามไว้ก็หลายหน
มีครั้งนึงแฟนผมทนไม่ไหวเคยโทรไปร้องเรียน พม. เรื่องใช้แรงงานเด็ก เขาส่งเจ้าหน้าที่มานะครับ
แต่มาถามหาคนร้องเรียนกับคนละแวกนั้น ดีว่าคนที่เขาไปถามไม่ใช่พ่อแม่เด็ก ไม่งั้นเรื่องคงยาว แฟนผมเลยเลิกยุ่งไปพักนึง
เด็กคนนี้ก็โดนโขกสับมาเรื่อย ๆ มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่สถานการณ์ แต่งานก็ยังทำหนักเหมือนเดิม คือทั้งเตรียมของ
เสิร์ฟ เก็บโต๊ะ ล้างจาน แล้วลักษณะร้านคือคล้าย ๆ ศูนย์อาหารซึ่งกว้างพอสมควรแล้วเขาเป็นคนงานคนเดียวของร้าน พ่อแม่เขาผัดกับข้าวอย่างเดียว คิดดูว่าเขาจะเดินไกลแค่ไหนในแต่ละวัน วันหยุดไม่มี คือขายเกือบทุกวัน ปีนึงผมเห็นหยุด เฉพาะเทศกาล กับเขามีธุระจริง ๆ เขากลับมาผมก็ถามว่าไปเที่ยวไหน ทุกครั้งจะได้คำตอบเดิม ๆ คือ "พ่อแม่เขาก็ไปเที่ยวของเขา หนูอยู่ทำงานบ้าน กับทำความสะอาดบ้านไว้รอเขา " ผมกับแฟนก็ได้แต่สงสารแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็มีเรียกให้ทานขนมทานข้าวบ้าง บางวันน้องอยากกินขนมต้องรอให้แม่เขาไม่อยู่ค่อยกล้าซื้อกินก็มี
จนน้องเขาโตขึ้นเรื่อย ๆ คือเริ่มเป็นสาวหละตอนนี้คือน้องอายุ 18 สถาณะการณ์ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แต่เด็กมันคงโตขึ้น อาจจะด้วยฮอโมนหรืออะไรก็ไม่รู้ เขาเริ่มมาบ่นกับแฟนผมว่าเขาทนไม่ไหวแล้ว ไม่อยากทนอยากจะหนีออกจากบ้านแล้ว อยากไปหางานทำที่กรุงเทพ แฟนผมก็บอกให้เขาใจเย็น ๆ
หรือถ้ามันไม่ไหวจริง ๆ ก็ให้บอกกันว่าจะไปไหน ตอนนี้ก็ได้แต่แนะนำให้ไปหาบัตรมาติดตัวไว้ เพราะเขาเคยเล่าให้ฟังว่าแม่เขาเก็บเอกสารพวกนี้ไว้หมดเลย ล่าสุดน้องเขาโดนตีโดนด่าแล้วก็โดนไล่ให้ออกจากบ้านคือวันนั้นจะไม่อยู่แล้วมาลาแฟนผม แฟนผมก็ปลอบพร้อมกับบอกให้ทนเดี๋ยวเขาจะลองหาที่ฝากงานให้ จะได้ไม่อยู่ไกลหูไกลตา ตอนนั้นคืออยากให้น้องเขาใจเย็น ๆลงด้วยแหละ
ทีนี้แฟนก็มาปรึกษาผมว่าจะช่วยน้องเขายังไงดี ใจจริงแฟนอยากรับน้องมาอยู่ที่บ้านด้วยเลย แต่ติดตรงบ้านผมกับร้านนี้คือไกล้กันมาก มีเรื่องมีราวแน่ ๆ แล้วแม่ของเด็กนี้ก็ปากร้ายสุด ๆ เป็นที่รู้กันดีของคนแถวนั้น
คือที่ผมคิดไว้คือ ฝากงานให้เขาที่ร้านอาหารของเพื่อนที่ต่างอำเภอ ได้ค่าแรงได้โอ มีที่อยู่ให้ มีวันหยุด แล้วเพื่อนก็รับปากกับผมแล้วว่าจะให้น้องมันได้เรียน กศน. ต่อ เพื่อนคนนี้ผมมั่นใจว่ามันเป็นคนดีคนหนึ่ง น้องไม่หนีเสือปะจรเข้แน่นอน แล้วครอบครัวผมกับเพื่อนก็ไปมาหาสู่กันบ่อย ๆ คือน้องน่าจะยังอยู่ในสายตา
อีกทางนึงคือ จะส่งน้องไปอยู่กับแม่ผมที่อีกจังหวัดนึง แม่ผมเป็นข้าราชการเกษียณแล้วอยู่บ้านเลี้ยงหลาน แล้วค่อยหางานให้เขาทำแถวนั้น
แต่ปัญหาตอนนี้คือ แม่ของน้องเขาเริ่มระแคะระคายเรื่องพวกนี้แล้ว เพราะหลัง ๆ น้องเขาชอบมาคุยกับแฟนผมบ่อย ๆ ครั้งละนาน ๆ แล้วกลับไปทุกคร้ังก็จะซักว่ามาคุยเรื่องอะไร (เหมือนเริ่มจะรู้ตัว) ถ้าน้องเขาหายไปต้องมาระรานบ้านผมแน่ ๆ
มาวันนี้น้องเขาวิ่งเอาบัตรประชาชนมาให้แฟนผมเก็บไว้ให้แล้วแววตานี่คือไม่ไหวแล้วมากๆ
ผมควรทำไงดีครับ? ตอนนี้ที่คิดได้คือ ไม่ให้เขาหนีออกจากบ้านแต่ให้เดินไปบอกพ่อแม่เขาเลยว่าไม่ไหวแล้วจะไปหางานทำที่อื่นซึ่งแบบนี้ผมสามารถช่วย
ได้แบบสบายใจเลย เพราะไมได้พาเขาหนี แต่แฟนผมก็ว่าทำแบบนี้น้องมันโดนตีตาย ไม่งั้นก็โดนขังลืมแน่ ๆ
ตอนนี้กลุ้มใจมาก ๆ ครับ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องตัวเองแท้ ๆ บางทีก็คิดนี่เราหาเรื่องใส่ตัวรึเปล่าเนี่ย