จากใจคนที่เคยเป็นHaterมิวสิค จนกลับมาโอชิมิวสิคอีกครั้ง (เอามาเล่าเฉยๆ ไร้สาระนะ55)

สวัสดีค่ะ เหมือนเป็นกระทู้สารภาพบาป555 อยากเล่าประสบการณ์ความรู้สึกที่มีต่อมิวสิคbnk48ตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้าคุณพระอาทิตย์ วันที่รู้สึกไม่ดีกับมิวสิค แล้วก็วันที่กลับมาตกหลุมรักอีกครั้งค่ะ

(ขออนุญาตไม่ได้เรียกมิวสิคว่าน้องนะคะ เพราะอายุเท่ากัน มันเขินๆอะ)

ช่วงแรกเราชื่นชอบBNK48มากๆ โอชิมิวสิค ปัญ พิเฌอ เยอะมากๆ สมัยที่bnkยังไม่มีเพลงคุกกี้เลยค่ะ

ต่อมาพอมีเพลงคุกกี้ กระแสของวงนี้ก็ดังขึ้น ความนิยมของสาวๆก็เยอะตามไปด้วย โดยเฉพาะ4จตุรเทพ ในช่วงแรกๆที่มีดราม่าเรื่องกฎ แล้วก็โอตะบางคน(ย้ำว่าบางคนนะคะ) ที่ใช้คำพูดจาไม่สุภาพ ทำให้บางครั้งอ่านคอมเม้นท์ของโพสต์ที่เกี่ยวกับBNK ก็จะเจอบางคอมเม้นท์ใช้วาจาหยาบคาย โดยเฉพาะข่าวแตะตัวอะไรนั่น เราก็เริ่มเพลียๆเลยตามอยู่ห่างๆ


พอมาถึงช่วงเลือกตั้ง เราได้เห็นคลิปหาเสียงของมิวสิค เลยเข้าไปดู แล้วอยู่ๆก็รู้สึกไม่ชอบขึ้นมาซะอย่างนั้น (อ้าวเฮ้ย5555) ตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจตัวเองตอนนั้นเลยค่ะ คงประมาณว่าประจำเดือนมา แล้วเจอเสียง2ของมิวๆเข้าไปเลยหงุดหงิด แต่เข้าใจว่าคุณพระอาทิตย์พยายามเรียกคะแนนเสียง เพราะการเลือกตั้งของไทยยากกว่าฝั่งญี่ปุ่น แล้วหลังจากนั้นอะไรดลใจให้เรารู้สึกไม่อยากเห็นหน้ามิวสิค ไม่อยากอ่าน ไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้น รวนไปถึงระบบความคิดทำให้เรา 'อคติ' กับมิวสิคไปเลย

คืองงตัวเองมาก แบบ..เขาไม่ได้ผิดอะไรเลยอะ แล้วนี่ไปเกลียดอะไรเค้า5555

พอเริ่มอคติ จิตใจเราก็ไม่เปิดรับอะไรที่เกี่ยวกับมิวสิคแล้วค่ะ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปด่าหรือระรานนะ ถ้าเราไม่ชอบก็แค่อยู่เฉยๆ ไม่ต้องรับข่าวสารพอ แค่มันรู้สึกอยู่ในใจ

จนผ่านมาเมื่อสัปดาห์ก่อน เจอคลิปมิวสิค เจอวิธีการพูดที่ดูต่างจากสมัยแรกๆแบบเห็นได้ชัด จนแบบ เฮ้ย..ไม่ได้ตามแปปเดียว สกิลการพูดพัฒนาขึ้นเยอะเลย ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เกร็งๆเวลาอยู่หน้ากล้องเหมือนสมัยแรกๆ

สุดท้ายเป็นไงคะ?

โดนตกแบบไม่ลืมหูลืมตาอีกครั้งค่ะ

พอกลับมาโอชิอีกครั้งรู้สึกเหมือนได้รับพลังงานบวก บอกไม่ถูกเหมือนกันนะ แต่มันรู้สึกได้เอง ยิ่งดูคลิปที่คุณหมู่นุ่มดีดเยอะๆแล้ววันนั้นจะแฮปปี้มากๆ


สุดท้ายนี้จริงๆอยากขอโทษมิวสิคที่ไม่รู้ว่าทำไมถึงอคติแบบไร้เหตุผล ซึ่งตอนนี้ก็โดนมิวสิคลากกลับเข้ามาอีกครั้งค่ะ


...กลับมาเสียเงินอีกแล้วสิ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
มิวสิค เป็นคนที่ผมตามตั้งแต่เดบิวท์ จนมาถึงตอนนี้
สิ่งนึงที่สัมผัสได้ คือเป็นเด็กที่มีความตั้งใจสูง ทุ่มเทให้กับสิ่งที่รักอย่างเต็มที่ มิวสิค เป็นคนที่รักและชอบการเต้นมากๆ การที่เธอเข้ามาในBNK48  ก็เพราะว่าเธอชอบและรักAKB48 มากๆ สาเหตุก็เพราะเป็นคนชอบดูอนิเมะ และไปดูอนิเมะเรื่อง AKB0048 เข้า ซึ่งมันทำให้คนที่อินกับเจแปนอยู่แล้วอินกับไอดอลตามไปด้วย ค่อนข้างหายาก เด็กผู้หญิงที่เสพติดวัฒนธรรมญี่ปุ่นและใช้มันเป็นแรงผลักดันขับเคลื่อนในการดำเนินชีวิต ซึ่งความพยายามที่เธอได้เรียนรู้จากวัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านการ์ตูนและไอดอลนี่แหละ ทำให้เธอใช้มันเป็นแรงขับดัน เป็นแนวทางในการทำเป้าหมายให้สำเร็จ เริ่มจากเด็กขี้อายไม่กล้าแสดงออก ก็มาเข้าวงเต้นคัพเวอร์ คอสเพลย์และก้าวมาสู่ BNK48  เรียกว่าก้าวอัพสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ในขณะที่เด็กวัยเดียวกันหลายๆคนบ้างก็มีท้อและล้มเลิกไป แต่มิวสิคไม่ได้เป็นอย่างนั้น เธอไม่ได้มีพรสวรรค์เกิดมาเพื่อเป็นดาราหรือคนวงการบันเทิง เธอแค่อยากร้อง อยากเต้น ทำในสิ่งที่เธอรักและชอบคือเป็นไอดอลได้เต้นเพลงของ AKB48 ซึ่งถ้าเธอตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง เธอจะทำมันจนกว่าจะสำเร็จ นี่แหละคือ พลังของมิวสิคล่ะ

แต่เธอก็มีจุดเปราะบางอยู่เหมือนกัน คือความกดดัน และความกังวลจากสิ่งรอบตัว เธอไม่ได้คิดว่าการเป็นไอดอล จะต้องพบเจอแรงกดดันมากมายขนาดนี้ แน่นอนว่าการที่เธอเข้าใจวัฒนธรรมของไอดอล 48G เธออาจย่อมรู้ดีถึงอุปสรรคต่างๆที่ผ่านเข้ามา เช่น แอนตี้ แฟนคลับ ความผิดหวัง การแข่งขัน ฯลฯ แต่ปัญหาคือการรับมือกับความรู้สึกของตัวเองนี่แหละ เมื่อเจอเข้ากับตัวเองจริงๆ เธอก็เหมือนจะวางตัวลำบากอยู่ไม่น้อย สังเกตุได้ว่า มิวสิค เป็นคนที่พยายามไม่ทำให้ตัวเองโดดเด่น ที่เธอทำเพียงแค่เซอร์วิสแฟนๆของเธอเท่านั้น เธอจะพยายามมองหาแฟนคลัปที่เรียกร้องและคอยยิ้มให้ การแสดงของเธอ อายคอนแท็ค ทุกอย่างมาจากความต้องการเดียว คือทำให้คนที่มาชม ได้รับความสุขกลับไป
ดังนั้น การพยายามทำให้คนอื่นมาสนใจ เช่นทำให้ยอด SNS เพิ่มขึ้นเร็วๆ หรือการทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองนั่นไม่ใช่มิวสิค ไม่แปลกที่เราจะเห็นเธอไม่ค่อยแย่งคนอื่นพูด ไม่แย่งสัมภาษณ์ หรือพยายามอัพSocialรัวๆ เพราะเจ้าตัวบอกว่าพูดไม่ทันเพื่อนๆก็เลยเลือกที่จะไม่พูดซะงั้น มิวสิคแทบไม่เคยคิดตกคนนอกหรืออย่างน้อยก็พยายามทำอย่างจริงจัง เพราะที่เธอทำทุกวันนี้คือการรักษาแฟนๆที่อยู่กับเธอมาตั้งแต่ต้น และปราถนาให้พวกเค้ายังอยู่กับเธอต่อไป ด้วยความรักและเข้าใจในตัวตนของมิวสิค เธอจึงแทบไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องโซเชียลมากมายนัก ไม่ได้อัพทุกวัน มีนานๆจะอัพสักที และไม่เคยวางแผนว่าจะอัพเมื่อไหร่ อย่างไร แต่เมื่อไหร่ที่แฟนคลับถามหา เธอก็จะมาตอบสนองแทบทุกครั้ง ยิ่งในงานจับมือเธอก็พยายามจะจำแฟนคลับให้ได้ และคอยเซอร์วิสแฟนคลัปอยู่เสมอ นั่นคือการเอาใจใส่

ตรงนี้ผมมองว่า มันเป็นเสน่ห์นะ เป็นเสน่ห์ที่ทำให้แฟนคลับตกหลุมรักเด็กคนนี้ ไม่ใช่คนที่พยายามให้ตัวเองเป็นที่หนึ่ง แต่เป็นคนที่พยายามทำสิ่งที่ตัวเองรักและปราถนา เพื่อขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดแต่ก็สามารถเดินเคียงข้างไปกับเพื่อนๆไปด้วยกันอย่างมีความสุข นั่นคือการได้ร้องได้เต้นกับเพื่อนๆ ได้ทำกิจกรรมด้วยกันแต่ลึกๆก็ไม่อยากละทิ้งเป้าหมายตัวเอง บางครั้งผมก็มองเห็นความรู้สึกที่ย้อนแย้งในตัวของเธอคนนี้ อยากจะ Support และเป็นกำลังใจให้เด็กคนนี้ เพื่อให้เธอสามารถหาจุดยืนของตัวเองได้โดยที่เธอไม่ต้องรู้สึกอึดอัด กดดัน ลำบากใจ กับจุดยืนของตัวเอง


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่