เมื่อเรามองเห็นอนาคต เป็นความรู้สึกที่ทรมานมาก

ความรู้สึกนี้ผุดขึ้นมาหลายปีแล้ว ปีละสองถึงสามครั้ง ในตอนแรกคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ หรือคิดไปเอง แต่เมื่อมาครั้งล่าสุด ได้ไปงานฌาปนกิจเพื่อนร่วมรุ่น ก็มั่นใจว่า สิ่งต่างๆที่เคยเกิดขึ้นมาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

หลายปีก่อน เห็นหน้าคนๆหนึ่งในฝันหลายครั้ง แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ใบหน้านั้นชัดเจน ผิวขาว รูปร่างท้วม ใส่แว่น  ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร  แต่แล้วก็ประหลาดใจ เมื่อสองปีให้หลัง ได้เจอคนๆนั้นจริงๆ ในงานสัมมนาแห่งหนึ่ง เหมือนในฝันทุกประการ และคุยกันอย่างสนิทสนมราวกับรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก

และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ไปงานฌาปนกิจเพื่อนคนหนึ่ง  ซึ่งมั่นใจว่า ไม่เคยเห็นภรรยาเพื่อนมาก่อน และไม่เคยเห็นรูปภาพด้วย เพราะตั้งแต่เรียนจบมานานมากก็ไม่ค่อยได้พบเจอกันอีกเลย  แต่แล้ว ภาพบรรยากาศงาน  บรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ญาติและภรรยาของเพื่อน เราจำได้อย่างแม่นยำเลยว่า เคยเห็นมาก่อนแล้ว เหมือนได้ไปงานนั้นซ้ำอีกครั้ง  ไม่ได้คิดไปเอง และไม่เกิดจากอาการทางจิต เพราะตัวเราเองก็ไม่ค่อยเชื่อเหลือเหนือธรรมชาติ ไม่อย่างนั้นคงสะดุดตั้งแต่เห็นอนาคตครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน  

       หลายครั้งเรารู้สึกว่าสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง เราเคยมาแล้ว แม้แต่ในต่างประเทศ เราก็คิดว่าอาจเผลอไปดูในรูป ในข่าว หรือภาพยนตร์ แล้วคิดไปเอง  แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเป็นสามมิติ ไม่ใช่สองมิติอย่างในรูป  เราก็ไม่อยากคิดว่าเห็นอนาคต เพราะกลัวคนอื่นจะว่าบ้า  และเรื่องนี้เราก็ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง นี่เป็นครั้งแรก

หลายคนอาจบอกว่า เห็นอนาคตแบบนี้ก็ดีสิ แค่รู้ว่า งวดหน้าหวยออกเลขอะไรก็รวยแล้ว  แต่ปัญหาคือ อนาคตที่เห็นไม่ได้กำหนดวันเวลา ว่าจะเจอเมื่อไหร่ อาจเป็นปีหน้า อีกห้าปี อีกสิบปี ฯลฯ ทำให้การรู้อนาคตนั้นไม่มีประโยชน์อะไร และเหตุการณ์ที่เห็น  อาจจะไม่เกิดขึ้นทั้งหมด เพียงแต่ ถ้าเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น ความทรงจำจะไปขยายความรู้สึกที่เคยเห็นออกมา ส่วนเหตุการณ์ที่ไม่เกิดก็จะลืมๆไป

ช่วงไหนปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ  ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นบ่อยขึ้น จากเฉลี่ยปีละครั้ง กลายเป็นเดือนละครั้ง ซึ่งสร้างความทรมานให้กับเรา เพราะเราไม่อยากรู้  ชีวิตก็เหมือนภาพยนตร์ ที่การรู้เรื่องก่อนจะทำให้หมดสนุก  จนทำให้เราไม่อยากนั่งสมาธิ หรือฝึกจิตอีก  เรารู้ว่า ถ้าปฏิบัติจริงจัง อย่างต่อเนื่อง ภาพที่เห็นน่าจะชัดขึ้น และอาจรู้วันเวลาที่แน่นอนขึ้น แต่เราไม่ต้องการตรงนั้น

คำถามที่เราอยากรู้ทั้งจากมุมมองทางธรรมะและวิทยาศาสตร์ ก็คือ อนาคตเป็นสิ่งที่กำหนดไว้แล้วหรือ  ถ้าอย่างนั้นเราจะขยันไปทำไม สวย รวย ไปทำไม ในเมื่อเราจะเป็นอะไร แต่งงานกับใคร ประสบความสำเร็จหรือไม่ จะตายเมื่อไหร่   ถูกกำหนดไว้แล้ว  ถ้าคำตอบคือ อนาคตไม่ได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า แล้วสิ่งที่เราเห็นล่ะ ทำไมมันตรง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่