ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า รีวิวนี้ เพิ่งถูกเขียนขึ้น โดยส่วนตัวแล้ว จขกท. เดินทางไปอาร์เจนตินาเมื่อปี 2004 -2005 ค่ะ ดังนั้น บางสิ่งบางอย่างอาจจะเปลี่ยนไปบ้างตามกาลเวลา เช่น ปัจจุบัน สถานที่ ผู้คน อาจจะหลากหลายขึ้น

พูดถึงชีวิตนักเรียนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เมื่อก่อนนี้ฮิตกันมาก พอสมัครและมีสิทธิสอบก็ดีใจมากละ จนถึงวันประกาศผลการสอบ ประเทศที่เลือกไว้ไม่ได้ (แห้วตามเคย) แต่ทางโครงการเสนอประเทศอาร์เจนตินา และประเทศลัตเวีย มาให้ ไม่ได้ตัดสินใจเองด้วย พ่อกับแม่ล้วนๆ อาร์เจนติน่า อยู่ที่ไหน? เป็นยังไง พูดภาษาอะไร? กินอยู่ยังไง? จะอยู่ได้มั้ย? คำถามวนๆเวียนๆอยู่ในหัว แต่ขึ้นชื่อว่าต่างประเทศ ไปก็ไป....วันเดินทางมีเด็กไทยที่ไปด้วยกัน 2 คน โชคดีว่าเพื่อนร่วมทางเป็นผู้หญิง คุยกันง่ายอยู่ง่ายกินง่าย
เราใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 วันเต็มๆ เพราะต้อง Transit เครื่อง กว่าจะถึงนี่ทุลักทุเลพอสมควร..เดินทางจากดอนเมืองไปยังสนามบินฮ่องกง ต่อเครื่องจากฮ่องกงไปลงที่อังกฤษ (ช่วงที่ไปเป็นช่วงที่มีวิกฤตการวางระเบิด) ผู้โดยสารทั้งหมดจึงโดนตรวจทั้งหมด รวมถึงล๊อคกระเป๋าเจ้ากรรมดันเปิดไม่ออกตอนเจ้าหน้าที่ขอตรวจ ก็โดนคัตเตอร์กรีดตรงซิบ..เปิดออกมามองๆ แล้วก็ให้ผ่านไป (คืออะไร?)

โครงการ AFS ที่ไป จะมีค่ายละลายพฤติกรรมก่อนจะแยกย้ายนักเรียนแลกเปลี่ยนทั้งหมด ไปยัง host family ต่างๆ ประสบการณ์แรกที่เหยียบกรุง บัวโนสไอเรส คือ โดนกรีดกระเป๋าเป้!!! แต่ยังโชคดีของไม่หาย ไม่ได้อะไรไป อาจเป็นเพราะเค้าเห็นเราลอคแน่หนาหรือเปล่านะ เลยคิดว่าต้องมีของมีค่าแน่ๆ..
หลังจากเข้าค่าย 3วันเสร็จสิ้นได้เวลา แยกย้ายไปอยู่ตาม hose family ต่างๆ เค้าจะเลือกครอบครัวให้ใกล้เคียงกับครอบครัวเราที่เมืองไทยที่สุดค่ะ เช่น พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน มีพี่น้องสองคน หรือแม้กระทั่งว่าทานเนื้อสัตว์หรือไม่ ครอบครัวที่ไปอยู่น่ารักมาก เป็นครอบครัว มีกันอยู่ 4 คน รวมถึง host mom หรือคุณแม่ แต่อยู่ที่บ้าน คือ คุณแม่ อยู่เป็นบางวัน เพราะที่ทำงานห่างจากบ้านค่อนข้างไกลค่ะ พี่สาว น้องสาว แม่ครัว แมว 2 ตัว หมา 1 ตัว (จะบอกว่าที่บ้านก็ไม่ได้มีเยอะขนาดนี้นะ ) นี่คงใกล้เคียงสุดแล้วค่ะ ห้องนอนจะต้องแชร์ห้องกับน้องสาวด้วยการเป็นลูกคนเดียว อาจจะทำใจลำบากในช่วงแรก เพราะทุกอย่างที่เรามี ใช้หมดเลย โดยไม่ได้ขอ เสื้อผ้าตัวไหนใส่ได้ คือใส่เลย

(มองบนแป๊บ) แต่ก็เป็นเรื่องปกตินะคะ เพราะแต่ละประเทศมีความเป็นเอกลักษณ์ต่างๆกันไป ยิ่งบ้านที่เพื่อนไปอยู่ มีน้องเล็กๆ นอนไม่ได้โดนแกล้งจนต้องขอย้ายครอบครัวเลยก็มี..
โรงเรียน

เป็นที่หนึ่งที่ค่อนข้างจะกังวลว่าจะเรียนรู้เรื่องมั้ย จขกท.ได้โรงเรียนเทคนิค คือ มีเด็กที่เรียนสายอาชีพ ตั้งแต่อายุ 13 เรียน คอมพิวเตอร์ คือเรียน จริงจังเขียนโปรแกรม บังคับหุ่นยนต์ ฯลฯ น่าสนใจ แต่วิชาที่ชอบที่สุดตอนนั้นคือ วิชาจิตวิทยา อาจารย์พูดสอนติ๊ดมาก อารมณ์ดี น่ารัก และค่อนข้างเก่ง เหมือนจบฉพาะทาง วิชาที่เรียน เริ่มต้นด้วยการ เขียนเกี่ยวกับตัวเอง อยากอธิบายหรือบอกอะไรกับตัวเอง ตั้งความหวังอะไรไว้ และทำสำเร็จแล้วไปกี่อย่าง...เขียนกันไปค่ะ เขียนๆๆๆๆๆ แล้วอาจารย์ก็เก็บไว้ พอถึงสิ้นเทอม ก่อนสอบ อาจารย์จะแจกคืนอีกครั้ง และให้วิเคราะห์ว่าสิ่งที่ตั้งใจไว้ สิ่งที่หวังไว้ สำเร็จหรือเปล่า ถ้าไม่สำเร็จ ตั้งความหวังไว้ที่กี่ปี มารู้ตอนหลังว่า วิชานี้ เป็นวิชาบังคับทุกคนต้องได้เรียน และวิธีการสอนก็คล้ายๆกัน คือพยายาม ผลักดันให้เด็กได้คิด วิเคราะห์ หาข้อดี ข้อเสียของตัวเอง และพร้อมที่จะเอาไปปรับปรุง อาจารย์บอกว่าดูเหมือนจะเป็นวิชาการ แต่ทุกคนควรจะได้เรียนรู้และหาทักษะเพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเอง เป็นยังไงหล่ะคะ ฟังแล้ว มีแรงฮึดทันที...
ช่วงแรกที่ไปอยู่ อยากจะกลับบ้านมาก สื่อสารไม่รู้เรื่อง host พี่สาวคอยช่วยเรื่องภาษาสเปนมาโดยตลอด ถ้าไม่ได้พี่สาวคงสื่อสารกันไม่ได้ถึงทุกวันนี้ สองเดือนแรก ใครไปที่บ้านจะพบกับปฏิมากรรมชั้นเลิศ มีสติ๊กเกอร์ติดเต็มบ้านไปหมด ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยในการจำว่าสิ่งของต่างๆเรียกว่าอะไร ทุกวันก็จะเรียนรู้ทีละคน จนเข้าเดือนที่สาม เริ่มเข้าใจและสื่อสารตอบโต้ด้วยภาษาสเปนได้ด้วยตัวเอง น่าทึ่ง ใช่มั้ยคะ ทั้งนี้เป็นเพราะสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราต่างหากค่ะ ที่บังคับให้เราต้องปรับตัวเข้าหาให้ได้ และธรรมชาติก็สร้างความอัศจรรย์ใจอีกครั้ง เมื่อภาษาสเปนกลายเป็นส่วนหนึ่งการทำงานช่วงแรกๆ พร้อมกับเรียนไปด้วย น้องๆที่อยากจะเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนหรือผู้ปกครองที่อ่านแล้ว คงจะมีกำลังใจอีกเยอะนะคะที่ลูกของท่านไม่ได้ไปในประเทศใหญ่ๆ ที่เค้าอยกาไปกันเช่น อเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น อังกฤษ ฯลฯ แต่เชื่อเถอะค่ะ ไม่ว่าจะประเทศไหน ถ้าเราพร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆแล้ว มักจะเกิดผลดีเสมอๆ
ช่วงกลางๆ โปรแกรม ทางโครงการจะจัดทริปรวมเด็กนักเรียน แลกเปลี่ยนทั้งหมดที่อยู่ในประเทศอาร์เจนตินามารวมกัน และทำกิจกรรม หนึ่งในนั้นคือการไปทัศนศึกษา กิจกรรมนี้แหละค่ะที่ทุกคนเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ ทีแรกก็คิดนะ ไม่อยากไป จะไปทำไม แล้วจะสนุกหรอ 2 อาทิตย์ กับกับทัศนศึกษา ครั้งนี้ได้เรียนรู้อะไรอีกเยอะแยะ ชีวิตมีความเสี่ยงค่ะ เสี่ยงที่นั่งรถบัสอยู่ แล้วเกือบตกเขา เสี่ยงที่ตัดสินใจลงเรือเพื่อเข้าไปลมน้ำตกอีกัวซู พอขึ้นรถบัสได้ เจ้าหน้าที่บอกว่า เนี่ยรู้มั้ย อาทิตย์ก่อนมีนักท่องเที่ยวลงเรือไปแบบนี้แหละ แล้วเรือล่ม อ้าว!!! ทำไมเพิ่งมาบอก??? ถ้าบอกตั้งแต่แรกหน่ะ ไม่ลงแล้ว...
พูดถึงอาหารและเครื่องดื่ม เมืองที่ไปอยู่คือ Resistencia Provincia de Chaco ดังนั้น เมืองนี้ไม่ค่อยมีร้านอาหารเท่าไหร่ (เมื่อปี 2004) ปัจจุบันอาจจะมีอยู่รอบเมืองไปหมด ปกติทั่วไปแล้ว คนอาร์เจนตินาจะท่านข้าวกันที่บ้าน ออกบ้านจะเฉพาะวันพิเศษหรือวันสำคัญ เคยมีโอกาสได้สั่งพิซซ่าจากร้านมาทาน รสชาติไม่ต่างกับที่เอามาทำเองค่ะ เนื่องจากตามซุปเปอร์มาเก็ต จะมีแป้งพิซซ่าสำเร็จรูปขาย มีหลายแบบ เพราะฉะนั้นพูดถึงพิซซ่าแล้วส่วนมากทำทานเองค่ะ ที่ host family จะทานมังสวิรัต ม่ค่อยทานเนื้อสัตว์ ดังนั้น อาหารหลักๆ จะเป็นพายผักโขม กับ สลัดผัก ไข่เจียวสเปน พิซซ่าหรือ แอมปานาด้าไส้ต่างๆค่ะ ที่จริงไส้พวกนี้ใส่เนื้อวัวสับ เนื้อหมู แฮม ชีส ข้าวโพด ผักโขม ฯลฯ อารมเหมือนกะหรี่ปั๊บบ้านเราค่ะ แต่อาร์เจนติน่าเด่นเรื่องเนื้อวัวค่ะ ที่นี่ถ้าเป็นสเต๊กเนื้อวัวแล้ว (ตามภาพ) ทานกันแบบล้มวัวเป็นตัวๆ ในโอกาสวันสำคัญ เช่น วันขึ้นปีใหม่ วันคริสมาต์
ส่วนเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่แล้วอาร์เจนติน่า จะนิยมดื่ม Mate ค่ะ คล้ายๆใบชาแห้ง บดละเอียดใส่น้ำร้อน ค่ะ ช่วงหน้าร้อนเค้าจะใส่น้ำแข็งแทนเรียกว่าTerere เต เด เด ค่ะ ชื่อเหมือนจะไม่ใช่เครื่องดื่มใช่มั้ยคะ แต่มันคือเครื่องดื่มที่นิยมกันมาก

เคยหาข้อมูลเจอว่าเดี๋ยวนี้เค้าพัฒนาโดยการเอามาบรรจุกระป๋องขายกันแล้ว...ล้ำหน้าไปอีก




สิ่งที่ควรระวัง เนื่องจากช่วงปี 2004-2005 วิกฤตเรื่องการเงินของอาร์เจนตินา ส่งผลให้มีคนไร้บ้านอยู่กับทั่วไปๆค่ะ ทุกเช้าและทุกเย็นจะมีเด็ก หรือบางทีก็ผู้ใหญ่มากดกริ่งหน้าบ้าน เพื่อขอน้ำ หรืออาหาร ตามธรรมเนียมแล้ว ก็ให้ผลไม้ไปค่ะ แต่ต้องระมัดระวังหากเดินช่วงค่ำๆ ก็เหมือนกับทุกที่ค่ะ บ้านเราก็มีทั้งส่วนที่ปลอดภัย และ ไม่ปลอดภัย ดังนั้น ระวังตัวเป็นดีที่สุดค่ะ
จขกท. จะเข้ามาอัพเรื่องราวให้เรื่อยๆนะคะ เนื่องจากช่วงไหนว่างก็จะรีบอัพ ส่วนรูปนั้น ก่อนหน้านี้ยังไม่ใช้กล้อง digital ทำให้บางภาพอาจจะต้องขอหยิบยืมมาเพื่อเป็นตัวอย่างค่ะ เพื่อนๆคนไหนต้องการไปอาร์เจนตินา หากไปไม่เกิน 90 วันตอนนี้ไม่ต้องขอวีซ่าให้ยุ่งยากแล้วนะคะ มีรายละเอียดตรงไหนอยากทราบเพิ่มเติม คอมเม้นต์ไว้ได้เลยจ้า...
[CR] รีวิว ชีวิตนักเรียนแลกเปลี่ยนในอาร์เจนตินา เมื่อ 14 ปีที่แล้ว
พูดถึงชีวิตนักเรียนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เมื่อก่อนนี้ฮิตกันมาก พอสมัครและมีสิทธิสอบก็ดีใจมากละ จนถึงวันประกาศผลการสอบ ประเทศที่เลือกไว้ไม่ได้ (แห้วตามเคย) แต่ทางโครงการเสนอประเทศอาร์เจนตินา และประเทศลัตเวีย มาให้ ไม่ได้ตัดสินใจเองด้วย พ่อกับแม่ล้วนๆ อาร์เจนติน่า อยู่ที่ไหน? เป็นยังไง พูดภาษาอะไร? กินอยู่ยังไง? จะอยู่ได้มั้ย? คำถามวนๆเวียนๆอยู่ในหัว แต่ขึ้นชื่อว่าต่างประเทศ ไปก็ไป....วันเดินทางมีเด็กไทยที่ไปด้วยกัน 2 คน โชคดีว่าเพื่อนร่วมทางเป็นผู้หญิง คุยกันง่ายอยู่ง่ายกินง่าย
เราใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 วันเต็มๆ เพราะต้อง Transit เครื่อง กว่าจะถึงนี่ทุลักทุเลพอสมควร..เดินทางจากดอนเมืองไปยังสนามบินฮ่องกง ต่อเครื่องจากฮ่องกงไปลงที่อังกฤษ (ช่วงที่ไปเป็นช่วงที่มีวิกฤตการวางระเบิด) ผู้โดยสารทั้งหมดจึงโดนตรวจทั้งหมด รวมถึงล๊อคกระเป๋าเจ้ากรรมดันเปิดไม่ออกตอนเจ้าหน้าที่ขอตรวจ ก็โดนคัตเตอร์กรีดตรงซิบ..เปิดออกมามองๆ แล้วก็ให้ผ่านไป (คืออะไร?)
โครงการ AFS ที่ไป จะมีค่ายละลายพฤติกรรมก่อนจะแยกย้ายนักเรียนแลกเปลี่ยนทั้งหมด ไปยัง host family ต่างๆ ประสบการณ์แรกที่เหยียบกรุง บัวโนสไอเรส คือ โดนกรีดกระเป๋าเป้!!! แต่ยังโชคดีของไม่หาย ไม่ได้อะไรไป อาจเป็นเพราะเค้าเห็นเราลอคแน่หนาหรือเปล่านะ เลยคิดว่าต้องมีของมีค่าแน่ๆ..
หลังจากเข้าค่าย 3วันเสร็จสิ้นได้เวลา แยกย้ายไปอยู่ตาม hose family ต่างๆ เค้าจะเลือกครอบครัวให้ใกล้เคียงกับครอบครัวเราที่เมืองไทยที่สุดค่ะ เช่น พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน มีพี่น้องสองคน หรือแม้กระทั่งว่าทานเนื้อสัตว์หรือไม่ ครอบครัวที่ไปอยู่น่ารักมาก เป็นครอบครัว มีกันอยู่ 4 คน รวมถึง host mom หรือคุณแม่ แต่อยู่ที่บ้าน คือ คุณแม่ อยู่เป็นบางวัน เพราะที่ทำงานห่างจากบ้านค่อนข้างไกลค่ะ พี่สาว น้องสาว แม่ครัว แมว 2 ตัว หมา 1 ตัว (จะบอกว่าที่บ้านก็ไม่ได้มีเยอะขนาดนี้นะ ) นี่คงใกล้เคียงสุดแล้วค่ะ ห้องนอนจะต้องแชร์ห้องกับน้องสาวด้วยการเป็นลูกคนเดียว อาจจะทำใจลำบากในช่วงแรก เพราะทุกอย่างที่เรามี ใช้หมดเลย โดยไม่ได้ขอ เสื้อผ้าตัวไหนใส่ได้ คือใส่เลย
โรงเรียน
ช่วงแรกที่ไปอยู่ อยากจะกลับบ้านมาก สื่อสารไม่รู้เรื่อง host พี่สาวคอยช่วยเรื่องภาษาสเปนมาโดยตลอด ถ้าไม่ได้พี่สาวคงสื่อสารกันไม่ได้ถึงทุกวันนี้ สองเดือนแรก ใครไปที่บ้านจะพบกับปฏิมากรรมชั้นเลิศ มีสติ๊กเกอร์ติดเต็มบ้านไปหมด ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยในการจำว่าสิ่งของต่างๆเรียกว่าอะไร ทุกวันก็จะเรียนรู้ทีละคน จนเข้าเดือนที่สาม เริ่มเข้าใจและสื่อสารตอบโต้ด้วยภาษาสเปนได้ด้วยตัวเอง น่าทึ่ง ใช่มั้ยคะ ทั้งนี้เป็นเพราะสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราต่างหากค่ะ ที่บังคับให้เราต้องปรับตัวเข้าหาให้ได้ และธรรมชาติก็สร้างความอัศจรรย์ใจอีกครั้ง เมื่อภาษาสเปนกลายเป็นส่วนหนึ่งการทำงานช่วงแรกๆ พร้อมกับเรียนไปด้วย น้องๆที่อยากจะเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนหรือผู้ปกครองที่อ่านแล้ว คงจะมีกำลังใจอีกเยอะนะคะที่ลูกของท่านไม่ได้ไปในประเทศใหญ่ๆ ที่เค้าอยกาไปกันเช่น อเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น อังกฤษ ฯลฯ แต่เชื่อเถอะค่ะ ไม่ว่าจะประเทศไหน ถ้าเราพร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆแล้ว มักจะเกิดผลดีเสมอๆ
ช่วงกลางๆ โปรแกรม ทางโครงการจะจัดทริปรวมเด็กนักเรียน แลกเปลี่ยนทั้งหมดที่อยู่ในประเทศอาร์เจนตินามารวมกัน และทำกิจกรรม หนึ่งในนั้นคือการไปทัศนศึกษา กิจกรรมนี้แหละค่ะที่ทุกคนเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ ทีแรกก็คิดนะ ไม่อยากไป จะไปทำไม แล้วจะสนุกหรอ 2 อาทิตย์ กับกับทัศนศึกษา ครั้งนี้ได้เรียนรู้อะไรอีกเยอะแยะ ชีวิตมีความเสี่ยงค่ะ เสี่ยงที่นั่งรถบัสอยู่ แล้วเกือบตกเขา เสี่ยงที่ตัดสินใจลงเรือเพื่อเข้าไปลมน้ำตกอีกัวซู พอขึ้นรถบัสได้ เจ้าหน้าที่บอกว่า เนี่ยรู้มั้ย อาทิตย์ก่อนมีนักท่องเที่ยวลงเรือไปแบบนี้แหละ แล้วเรือล่ม อ้าว!!! ทำไมเพิ่งมาบอก??? ถ้าบอกตั้งแต่แรกหน่ะ ไม่ลงแล้ว...
พูดถึงอาหารและเครื่องดื่ม เมืองที่ไปอยู่คือ Resistencia Provincia de Chaco ดังนั้น เมืองนี้ไม่ค่อยมีร้านอาหารเท่าไหร่ (เมื่อปี 2004) ปัจจุบันอาจจะมีอยู่รอบเมืองไปหมด ปกติทั่วไปแล้ว คนอาร์เจนตินาจะท่านข้าวกันที่บ้าน ออกบ้านจะเฉพาะวันพิเศษหรือวันสำคัญ เคยมีโอกาสได้สั่งพิซซ่าจากร้านมาทาน รสชาติไม่ต่างกับที่เอามาทำเองค่ะ เนื่องจากตามซุปเปอร์มาเก็ต จะมีแป้งพิซซ่าสำเร็จรูปขาย มีหลายแบบ เพราะฉะนั้นพูดถึงพิซซ่าแล้วส่วนมากทำทานเองค่ะ ที่ host family จะทานมังสวิรัต ม่ค่อยทานเนื้อสัตว์ ดังนั้น อาหารหลักๆ จะเป็นพายผักโขม กับ สลัดผัก ไข่เจียวสเปน พิซซ่าหรือ แอมปานาด้าไส้ต่างๆค่ะ ที่จริงไส้พวกนี้ใส่เนื้อวัวสับ เนื้อหมู แฮม ชีส ข้าวโพด ผักโขม ฯลฯ อารมเหมือนกะหรี่ปั๊บบ้านเราค่ะ แต่อาร์เจนติน่าเด่นเรื่องเนื้อวัวค่ะ ที่นี่ถ้าเป็นสเต๊กเนื้อวัวแล้ว (ตามภาพ) ทานกันแบบล้มวัวเป็นตัวๆ ในโอกาสวันสำคัญ เช่น วันขึ้นปีใหม่ วันคริสมาต์
ส่วนเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่แล้วอาร์เจนติน่า จะนิยมดื่ม Mate ค่ะ คล้ายๆใบชาแห้ง บดละเอียดใส่น้ำร้อน ค่ะ ช่วงหน้าร้อนเค้าจะใส่น้ำแข็งแทนเรียกว่าTerere เต เด เด ค่ะ ชื่อเหมือนจะไม่ใช่เครื่องดื่มใช่มั้ยคะ แต่มันคือเครื่องดื่มที่นิยมกันมาก
สิ่งที่ควรระวัง เนื่องจากช่วงปี 2004-2005 วิกฤตเรื่องการเงินของอาร์เจนตินา ส่งผลให้มีคนไร้บ้านอยู่กับทั่วไปๆค่ะ ทุกเช้าและทุกเย็นจะมีเด็ก หรือบางทีก็ผู้ใหญ่มากดกริ่งหน้าบ้าน เพื่อขอน้ำ หรืออาหาร ตามธรรมเนียมแล้ว ก็ให้ผลไม้ไปค่ะ แต่ต้องระมัดระวังหากเดินช่วงค่ำๆ ก็เหมือนกับทุกที่ค่ะ บ้านเราก็มีทั้งส่วนที่ปลอดภัย และ ไม่ปลอดภัย ดังนั้น ระวังตัวเป็นดีที่สุดค่ะ
จขกท. จะเข้ามาอัพเรื่องราวให้เรื่อยๆนะคะ เนื่องจากช่วงไหนว่างก็จะรีบอัพ ส่วนรูปนั้น ก่อนหน้านี้ยังไม่ใช้กล้อง digital ทำให้บางภาพอาจจะต้องขอหยิบยืมมาเพื่อเป็นตัวอย่างค่ะ เพื่อนๆคนไหนต้องการไปอาร์เจนตินา หากไปไม่เกิน 90 วันตอนนี้ไม่ต้องขอวีซ่าให้ยุ่งยากแล้วนะคะ มีรายละเอียดตรงไหนอยากทราบเพิ่มเติม คอมเม้นต์ไว้ได้เลยจ้า...
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้