[CR] จ ะ พ า เ ที่ ย ว - Ep.3 Ba Na Hills French Village ดานัง เวียดนาม ฉบับงบน้อย แต่เที่ยวเพลิน

Ep.3 - Ba Na Hill Da Nang -

Ep.1 Ho Chi Minh City     https://pantip.com/topic/37858792
Ep.2 Mui Ne'                https://pantip.com/topic/37864056

หลังจากที่เมื่อ 2 ep. ที่แล้ว " จ ะ พ า เ ที่ ย ว " ได้พาทุกคนไปยัง โฮจิมินห์ และ มุยเน่
ครั้งนี้จะนำทุกท่านไปพบกับ ความสวยงามที่ซ่อนอยู่ภายใน เวียดนามกลาง
นั่นก็คือ Ba Na Hills เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม



“Ba Na Hills” เมืองดานังแห่งนี้ ถือเป็นที่พักตากอากาศดีที่สุดของเวียดนาม และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งด้วย อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวนิยมนั่งกระเช้าเพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติระหว่างทางไปเทือกเขาบาน่า โดยกระเช้าของที่นี่ได้รางวัล Guinness World Records ว่าเป็นกระเช้าที่ยาวที่สุดถึง 5,042 เมตร (ไม่หยุดระหว่างทาง) และกระเช้าที่สูงที่สุด 1,291  เมตร
เครดิตข้อความ :https://travel.mthai.com/hotel-review/135693.html

ด้านบนมีทั้งโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร สปา บาร์ สวนสนุก วัด สวนดอกไม้ พูดง่ายๆก็เป็นเมืองเมืองนึงนั่นเอง โดยสิ่งก่อสร้างได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมู่บ้านของฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 และเราจะใช้เวลา 1 วันเต็มๆใช้ชีวิตอยู่กันที่นี่



เวลาประมาณ 04.30 น. เรากำลังจะเคลื่อนตัวเพื่อไปยังดานัง
ลูกเจ้าของโรงแรม Mekong Hotel & Restaurant สุดหล่อ (ไม่มั่นใจ แต่จินตนาการเอง 555+)


ได้มอบของที่ระลึก พร้อมเรียก Grab ให้เรา ดีมากกกกกกก



ดูแลเราตั้งแต่เชคอิน จนกระทั้ง เชคเอาท์ และเราก็ออกเดินทางกันต่อ


เริ่มด้วยการเดินทางในวันที่สามของเรา วันนี้เราใช้บริการของสายการบิน Jet Star เที่ยวบินที่ BL580
ออกเดินทางจากาอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต โฮจิมินห์ เวลา 06.00น
ถึงท่าอากาศยานนานาชาติดานัง เวลา 07.35 (โดยประมาณ)


สำหรับการเดินทางไป  Ba Na Hills อันแสนง่าย ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยเรียกรถแท็กซี่ให้
วันนี้เราได้ใช้บริการของแท็กซี่สีฟ้าๆ ยี่ห้อ Hang Khong ตามรูป


เครดิตภาพจาก Google

ถ้าคนขับพอพูดภาษาอังกฤษได้ ก็ให้บอกเลยว่าเราจะไป Ba Na Hills เค้าก็จะพาไป
แต่ถ้าพูดไม่คล่องก็ยื่นแผนที่ให้เค้า บอกว่าเราจะไปที่นี่ (แนะนำว่าถ้าคนขับพูดได้หรือไม่ได้ ก็ยื่นแผนที่ให้เค้าดู แม่นสุด)
ระหว่างทางเค้าก็จะคอยชี้โน้น นี่ นั่น ให้เราดูบรรยากาศโดยรอบ


พอถึงจุดใกล้ๆถึงโรงแรม คนขับก็จะถามเราว่าได้ซื้อ Cable Car  หรือยัง??
ถ้าเราซื้อแล้วก็บอกเค้าไป (แนะนำว่า ไปซื้อที่จุดขึ้นกระเช้าดีกว่า)

เราใช้เวลาประมาณ 30 นาที (การจราจรเมืองเค้า ไม่ว่าคุณจะรีบแค่ไหน เค้าจำกัดความเร็ว 60 Km/Hr)
พอใกล้ถึง แท็กซี่จะถามเราว่า ไปยังโรงแรมเลย หรือ ไปยังจุดซื้อตั๋วขึ้นกระเช้า (สำหรับลูกค้าโรงแรมและลูกค้าทั่วไปจะมีจุดขึ้นไม่เหมือนกัน)


เนื่องจากเราได้ทำการจองโรงแรมไว้แล้ว ก็เลยมา Reception ของ Mercure Danang French Village Bana Hills
เพื่อติดต่อขึ้น Cable Car ให้พาเราขึ้นเขาไปยัง  Ba Na Hills


ค่าใช้จ่ายในการขึ้น Cable Car
ลูกค้าโรงแรม             400,000 VND/คน
ลูกค้าทั่วไป               650,000 VND/คน

และ Cable Car จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 จุด (เยอะมากกกกกกก)

เจ้าหนัาที่โรงแรมก็ได้ให้แผนที่ Cable Car , แผนที่เมือง Bana Hills
และสิ่งที่ลูกค้าโรงแรมได้
1.ขึ้นกระเช้าแบบไม่จำกัดรอบ เพื่อลงมาเยี่ยมชมสวน LE JARDIN D’AMOUR
2.บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า
3.เล่นเครื่องเล่นภายในสวนสนุกของ Ba Na Hills ทุกชิ้นแบบไม่จำกัดรอบ
4.บัตรดื่มเบียร์ฟรีคนละ 1 แก้ว ก่อน 16.00น. (ปล.เราไม่ได้ใช้นะ ใครจะไปติดต่อรับได้ ไม่ได้ระบุวันที่ 555+)
5.Fitness Center & Swimming Pool
6.Alpine Coaster  (พลาดไม่ได้ 555+)
และอื่นๆอีกมากมาก


ซื้อตั๋ว Cable Car พร้อมรับเอกสารต่างๆ ในการขึ้นไปเชคอินด้านบนครบแล้ว
ก็เดินไปยังจุดขึ้น Cable Car (แอบมีความพิเศษเล็กน้อยเพราะไม่ต้องต่อคิวยาวๆ เดินขึ้นแบบสวยๆได้เลย คน 1 กระเช้า กระเป๋าอีก 1 กระเช้า อิอิ)



และนี่ก็คือบรรยากาศการขึ้น Cable Car ของเรา






พอขึ้นไปยังด้านบน ก็จะมีพนักงานมาต้อนรับ เพื่อพาเราไปยังเคาท์เตอร์เช็คอิน
เวลาที่เราถึงคือ 09.00 น. แต่เช็คอินได้ตอน 14.00 น.เป็นต้นไป เราเลยติดต่อเพื่อฝากกระเป๋าก่อน

และเราก็เริ่มตะลุยเมือง Bana Hills กันเล๊ยยยยยยยยยยยยย



มีการแสดงโชว์สุดอลังการ



โดนชวนออกไปเต้นด้วย


หิวแล้วววววว เที่ยงนี้เราฝากท้องไว้กับขนมปังฮอตด็อก แสนอร่อย



อาหารและน้ำข้างบนราคาจะสูงหน่อย
หลังจากที่เราหาอะไรกินเรียบร้อย ก็ออกเดินชมเมืองต่อ คราวนี้เราจะพาลงมาเยี่ยมชมสวน LE JARDIN D’AMOUR กัน


ต่อกระเช้าอีกจุดเพื่อลงไปยังกลางเขา

และเมื่อมาถึงจุดลงกระเช้า เราก็เดินมาอีกนิดเพื่อนั่งรถราง (Funicular) ไปยังสวน



จากนั้นเราก็เดินไปอีกนิดก็ถึงสวน LE JARDIN D’AMOUR กันแล้ว












พอเมื่อเราชมความสวยงามของสวนดอกไม้ และ บรรกากาศโดยรอบแล้ว
เราก็ต่อกระเช้า ขึ้นไปยังบน Ba Na Hills เพื่อไปเดินเล่นกันต่อ

และที่นี่ เค้ายังมีสวนสนุกให้เราเล่นอีกด้วย บรรยากาศด้านในก็เป็นสวนสนุกในร่ม
เล่นฟรีแบบไม่จำกัดรอบ ตัวอย่างเครื่องเล่น เช่น Tower Drop ,บ้านผีสิง ,เกมส์4D , 5D
เยอะแยะมากมายเล่นกันไม่หวาดไม่ไหว อยากให้ลองไปดูเอง






เล่นกันจนเหนื่อย พวกเราก็พากันไปเช็คอินเพื่อเข้าไปยังที่พักของ Mercure Danang French Village Bana Hills


จะบอกว่า ถ้าใครพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง ไม่ต้องกังวลใจเลย
เพราะว่าที่นี่ เค้าจะมีพนักงานรองรับทุกภาษา สบายใจได้
ในระหว่างเช็คอิน พนักงานก็จะบอกสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับเรา
มีเยอะมากกกกกกกกกกกก ไม่รอช้า พอได้คีย์การ์ด เราก็เดินตัวปลิวตามพนักงานไปยังห้องพักเลย
ส่วนกระเป๋า พนักงานจะไปส่งให้ภายหลัง



ในส่วนของห้องพัก จะกระจายกันอยู่ตามตึกใน French Village

และห้องพักของเราเป็นห้องพักแบบ Family Room with Bunk Beds
1 ห้องมี 4 เตียง สิ่งอำนวยความสะดวกครบ อารมณ์แบบมาตัวเปล่า ก็อยู่ได้ 555+





สภาพห้องก็จะเละเทะนิดหน่อย
จากนั้นเราก็เปลี่ยนเสื้อผ้า ลงไปถ่ายรูปในช่วงเย็นกัน 555+ (ทุ่มเทมาก)


มีบรรยากาศโดยรอบด้วย