เริ่มต้นทริปวันแรกกันในตัวเมืองปารีส เนื่องจากเราเลือกที่พักใจกลางเมือง การเดินทางส่วนใหญ่ก็ใช้ Metro train จริงๆ เราขับรถมากันเองนะคะ แต่ที่นี้ที่จอดรถหายาก เสียเงินด้วย เลยใช้บริการขนส่งมวลชนดีกว่า
สำหรับค่าเดินทางแม่หมีซื้อตั๋ววันนะคะ ผู้ใหญ่ 12 ยุโร เด็ก6ยุโร ใบเดียวไปได้ทั้ง Metro tain รถบัสค่ะ โดยเราจำเป็นต้องเขียนชื่อ และวันที่ลงในตั๋วโดยสารของเราด้วยนะคะ
สถานีรถไฟที่นี้บางสถานีก็ไม่มีบันไดเลื่อน แต่ถ้าสถานีใหญ่ๆก็จะมีบันไดเลื่อนให้เราเที่ยวแบบสายแม่ลูกอ่อนก็จะมีรถเข็น ตรงไหนเป็นบันไดก็ให้ลูกลงเดินก่อน ดีที่รถเข็นเราเบาเพราะซื้อแบบเพื่อการท่องเที่ยวมา(Gb Thailand) เลยสบายๆไม่เกาะกะค่ะ
สถานที่แรกแวะไป ฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees) ถนนสายช็อปปิ้งที่แพงที่สุดแห่งนึงของโลก อย่าถามเลยว่าช็อปอะไรไปบ้าง บุญพาวาสนาส่งอาจได้กลับมาช็อปอีก555
ถนนเส้นนี้มีร้านแบรนเนมเยอะมาก นักท่องเที่ยวก็เยอะเช่นกัน สิ่งที่อยากแนะนำคือ ให้ระวังทรัพสินส่วนตัวให้ดีๆ เพราะเอเชียหัวดำๆอย่างเรานี่แหละเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ ส่วนตัวแม่หมีก่อนออกจากบ้าน จะไม่พกเงินเยอะนะคะ แล้วก็แบ่งซอยเงินไว้หลายๆที่ในตัวค่ะ
ช็อปปิ้งไม่ได้ ก็เลยนั่งกินข้าวเช้ากันสวยๆ มื้อนี้หมดไป85ยูโร ค่อนข้างแพงนะคะ แต่ก็คือปรกติของถนนสายนี้
กินข้าวเสร็จ เดินมาถ่ายรูปที่ประตูชัย (Arc de Triomphe) ประตูนี้เป็นประตูหินใหญ่ๆ ตั้งอยู่กลางแยก หรือที่เรียกว่าจัตุรัสชาร์ล เดอ โกล (Place Charles de Gaulle) สร้างขึ้นเพื่อสดุดีแก่ทหารที่เข้าร่วมรบเพื่อประเทศโดยเฉพาะในสงครามนโปเลียนค่า
ที่ประตูชัย คนเยอะมากๆไม่ต้องหวังเลยจะได้รูปแบบไม่มีคนอื่นมาแจม 555 ตรงนี้เหมือนจุดรวมทัวริสเพราะมีท่าขึ้นรสบัส2 ชั้นชมเมืองด้วยนั่นเอง
กินข้าวเสร็จก็ลงMetro trainไปหอไอเฟล คนเยอะอีกเหมือเดิม นักท่องเที่ยวสามรถขึ้นไปชมบนหอได้ะคะ มีลิฟท์บริการและแอบเห็นคนเดินกันด้วย แต่คิวยาวมาก ช่วงนี้มันฤดูท่องเที่ยว เราก็เลยเดินบัดออกไปที่สวน ถ่ายรูปทำแลนมาร์ค 555 เสร็จแล้วพาคริสตัลไปเล่นสนามเด็กเล่นในสวนแปปนึง ส่วนคุณยายปล่อยให้นั่งพักอยู่กับเพื่อนที่ใต้ต้นไม้ในสวนค่ะ
ตอนขึ้นจากสถานีรถไฟ เราจะเจอคนขายของที่ระลึกแบบหาบเร่นะ ขายพวกพวงกุญแจหอไอเฟล ซึ่งราคาถูกมาก 5 อัน 1 ยูโร ใครอยากได้ของฝากแนะนำว่า ซื้อจากหาบเร่ถูกกว่าตามซุ้มค่ะ
จากนั้นเราก็ขึ้นรถบัสแวะไปพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) เดินชมแต่ข้างนอกนะ ไม่ได้เข้าข้างใน แวะมาดูปิรามิดกลับหัว ถ้าใครมีเวลาลูฟว์เป็นที่ๆน่าสนใจมาก ข้างในใหญ่มากนะคะ ต้องใช้เวลาเป็นวันๆ ถึงจะคุ้ม ใครอยากแวะไปสบตาโมนาลิซ่า ก็จดไว้ในรายการท่องเที่ยวได้เลยค่า
ได้เวลากินข้าวเที่ยง ตกลงใจกันว่าจะกินอาหารเวียดนาม เสริชดูมีร้านใกล้ๆแค่500 เมตรก็เดินไปกัน ที่เลือกอาหาเวียนามคือ ส่วนใหญ่จะราคาไม่แพง เฝอนี่ชามใหญ่มากๆ และรสชาติกลางๆ กินได้ ปรุงได้ ถ้าอาหารไทยจะราคาสูงและเสี่ยงกับรสชาติไม่ถูกปาก เพราะเราคนไทยย่อมชินกับอาหารตัวเองเนอะ จบมื้อเที่ยงไป 65 ยุโรค่า
ไม่ไกลจากร้านเวียดนามมี Paris Louvre Duty-Free KAMS แวะมาดู้ำหอม เครื่องสำอางค์ กระเป๋าได้ ที่ร้านนี้มีพนักงานคนไทยสบายใจเรื่องซื้อของได้เลย สินค้าก็จะลดจากป้าย 10-20 % แล้วแต่ชนิด มีลดเยอะสุดก็ 40%แล้วแต่โปรโมชั่นช่วงที่เราไปนะคะ และถ้านักท่องเที่ยวที่มีวีซ่าทองเที่ยว ซื้อของในร้าน 170 ยูโรขึ้นไป สามารถแจ้งขอรับ tax refund ได้อีก12% โดยแลกคืนที่สนามบินวันกลับค่ะ (สามารถแจ้งได้ว่าจะรับคืนเป็นเงินหรือตัดเข้าบัตรนะคะ)
ใช้เวลาที่ดูตี้ฟรีไม่นานเพราะลูกเริ่มงอแง ได้น้ำหอมมา3ขวดกับแบบของฝากเล็กน้อย ก็กลับมาพักที่ห้องพักก่อน แดดที่ปารีสร้อนมากๆ สิ่งที่ห้ามขาดเลยคือ #น้ำดิ่ม แนะนำพกไปจากบ้านได้ หมดแล้วก็หาก็อกเติมได้ทั่วไปค่ะ น้ำประปาที่นี้กินได้ ถ้าซื้อก็1-2 ยูโรสำหรับขวดเล็ก และ #ครีมกันแดด ห้ามขาดเลย #หมวก #พัด พกเลยค่ะเพราะ metro train และรถบัส ไม่มีแอร์นะจ๊ะ
พักกินหายเหนื่อยแล้วก็ออกไปกินข้าวเย็นกัน ตอนแรกจะไปร้านที่มีชื่อเสียง แต่มันต้องต่อคิว เรามีเด็กไม่สะดวก เลยเสริชหาร้านท้องถิ่น ใกล้ที่พัก ราคาไม่แพง อาหารฝรั่งเศส เอาจริงๆ เราก็ไม่เคยกินหรอก แต่ก็อยากลองให้รู้นิดๆหน่อยๆ ร้านที่เราเลือกไม่ได้หรูหราอะไร แต่ก็นั่งกินสบายๆ ไม่ต้องเขอะเขิน(สำหรับคนไม่เคย) ราคาต่อคอร์ส 19.90 ยูโร มีอาหารเรียกน้ำย่อย / จานหลัก และของหวาน น้ำเปล่าฟรีค่ะ คุณตาบริการดีมากๆ สำหรับการให้ทิป ถ้าเราแฮปปี้กับการบริการ ก็คิดง่ายๆว่าให้10%จากค่าอาหารนะคะ แต่แม่หมีก็ไม่ได้ให้ทุกร้านนะ ให้เฉพาะร้านที่อยากให้เหมือนกัน
จบวันแรก เป็นยังไงบ้างค่ะ เที่ยวกับแม่หมี อาจไม่มีอะไรตื่นเต้น หวือหวา ก็ตามประสาแม่ลูกอ่อนเนอะ
ยังมีรูปสำหรับทริปวันแรกอีกในเพจนะคะ ใครอยากชมเพิ่มเติมแวะไปดูได้ค่า
https://www.facebook.com/Momdetails/ 
1วันในตัวเมืองปารีสแบบทัวร์แม่ลูกอ่อน
สำหรับค่าเดินทางแม่หมีซื้อตั๋ววันนะคะ ผู้ใหญ่ 12 ยุโร เด็ก6ยุโร ใบเดียวไปได้ทั้ง Metro tain รถบัสค่ะ โดยเราจำเป็นต้องเขียนชื่อ และวันที่ลงในตั๋วโดยสารของเราด้วยนะคะ
สถานที่แรกแวะไป ฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees) ถนนสายช็อปปิ้งที่แพงที่สุดแห่งนึงของโลก อย่าถามเลยว่าช็อปอะไรไปบ้าง บุญพาวาสนาส่งอาจได้กลับมาช็อปอีก555
ถนนเส้นนี้มีร้านแบรนเนมเยอะมาก นักท่องเที่ยวก็เยอะเช่นกัน สิ่งที่อยากแนะนำคือ ให้ระวังทรัพสินส่วนตัวให้ดีๆ เพราะเอเชียหัวดำๆอย่างเรานี่แหละเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ ส่วนตัวแม่หมีก่อนออกจากบ้าน จะไม่พกเงินเยอะนะคะ แล้วก็แบ่งซอยเงินไว้หลายๆที่ในตัวค่ะ
ช็อปปิ้งไม่ได้ ก็เลยนั่งกินข้าวเช้ากันสวยๆ มื้อนี้หมดไป85ยูโร ค่อนข้างแพงนะคะ แต่ก็คือปรกติของถนนสายนี้
กินข้าวเสร็จ เดินมาถ่ายรูปที่ประตูชัย (Arc de Triomphe) ประตูนี้เป็นประตูหินใหญ่ๆ ตั้งอยู่กลางแยก หรือที่เรียกว่าจัตุรัสชาร์ล เดอ โกล (Place Charles de Gaulle) สร้างขึ้นเพื่อสดุดีแก่ทหารที่เข้าร่วมรบเพื่อประเทศโดยเฉพาะในสงครามนโปเลียนค่า
ที่ประตูชัย คนเยอะมากๆไม่ต้องหวังเลยจะได้รูปแบบไม่มีคนอื่นมาแจม 555 ตรงนี้เหมือนจุดรวมทัวริสเพราะมีท่าขึ้นรสบัส2 ชั้นชมเมืองด้วยนั่นเอง
กินข้าวเสร็จก็ลงMetro trainไปหอไอเฟล คนเยอะอีกเหมือเดิม นักท่องเที่ยวสามรถขึ้นไปชมบนหอได้ะคะ มีลิฟท์บริการและแอบเห็นคนเดินกันด้วย แต่คิวยาวมาก ช่วงนี้มันฤดูท่องเที่ยว เราก็เลยเดินบัดออกไปที่สวน ถ่ายรูปทำแลนมาร์ค 555 เสร็จแล้วพาคริสตัลไปเล่นสนามเด็กเล่นในสวนแปปนึง ส่วนคุณยายปล่อยให้นั่งพักอยู่กับเพื่อนที่ใต้ต้นไม้ในสวนค่ะ
ตอนขึ้นจากสถานีรถไฟ เราจะเจอคนขายของที่ระลึกแบบหาบเร่นะ ขายพวกพวงกุญแจหอไอเฟล ซึ่งราคาถูกมาก 5 อัน 1 ยูโร ใครอยากได้ของฝากแนะนำว่า ซื้อจากหาบเร่ถูกกว่าตามซุ้มค่ะ
จากนั้นเราก็ขึ้นรถบัสแวะไปพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) เดินชมแต่ข้างนอกนะ ไม่ได้เข้าข้างใน แวะมาดูปิรามิดกลับหัว ถ้าใครมีเวลาลูฟว์เป็นที่ๆน่าสนใจมาก ข้างในใหญ่มากนะคะ ต้องใช้เวลาเป็นวันๆ ถึงจะคุ้ม ใครอยากแวะไปสบตาโมนาลิซ่า ก็จดไว้ในรายการท่องเที่ยวได้เลยค่า
ได้เวลากินข้าวเที่ยง ตกลงใจกันว่าจะกินอาหารเวียดนาม เสริชดูมีร้านใกล้ๆแค่500 เมตรก็เดินไปกัน ที่เลือกอาหาเวียนามคือ ส่วนใหญ่จะราคาไม่แพง เฝอนี่ชามใหญ่มากๆ และรสชาติกลางๆ กินได้ ปรุงได้ ถ้าอาหารไทยจะราคาสูงและเสี่ยงกับรสชาติไม่ถูกปาก เพราะเราคนไทยย่อมชินกับอาหารตัวเองเนอะ จบมื้อเที่ยงไป 65 ยุโรค่า
ไม่ไกลจากร้านเวียดนามมี Paris Louvre Duty-Free KAMS แวะมาดู้ำหอม เครื่องสำอางค์ กระเป๋าได้ ที่ร้านนี้มีพนักงานคนไทยสบายใจเรื่องซื้อของได้เลย สินค้าก็จะลดจากป้าย 10-20 % แล้วแต่ชนิด มีลดเยอะสุดก็ 40%แล้วแต่โปรโมชั่นช่วงที่เราไปนะคะ และถ้านักท่องเที่ยวที่มีวีซ่าทองเที่ยว ซื้อของในร้าน 170 ยูโรขึ้นไป สามารถแจ้งขอรับ tax refund ได้อีก12% โดยแลกคืนที่สนามบินวันกลับค่ะ (สามารถแจ้งได้ว่าจะรับคืนเป็นเงินหรือตัดเข้าบัตรนะคะ)
ใช้เวลาที่ดูตี้ฟรีไม่นานเพราะลูกเริ่มงอแง ได้น้ำหอมมา3ขวดกับแบบของฝากเล็กน้อย ก็กลับมาพักที่ห้องพักก่อน แดดที่ปารีสร้อนมากๆ สิ่งที่ห้ามขาดเลยคือ #น้ำดิ่ม แนะนำพกไปจากบ้านได้ หมดแล้วก็หาก็อกเติมได้ทั่วไปค่ะ น้ำประปาที่นี้กินได้ ถ้าซื้อก็1-2 ยูโรสำหรับขวดเล็ก และ #ครีมกันแดด ห้ามขาดเลย #หมวก #พัด พกเลยค่ะเพราะ metro train และรถบัส ไม่มีแอร์นะจ๊ะ
พักกินหายเหนื่อยแล้วก็ออกไปกินข้าวเย็นกัน ตอนแรกจะไปร้านที่มีชื่อเสียง แต่มันต้องต่อคิว เรามีเด็กไม่สะดวก เลยเสริชหาร้านท้องถิ่น ใกล้ที่พัก ราคาไม่แพง อาหารฝรั่งเศส เอาจริงๆ เราก็ไม่เคยกินหรอก แต่ก็อยากลองให้รู้นิดๆหน่อยๆ ร้านที่เราเลือกไม่ได้หรูหราอะไร แต่ก็นั่งกินสบายๆ ไม่ต้องเขอะเขิน(สำหรับคนไม่เคย) ราคาต่อคอร์ส 19.90 ยูโร มีอาหารเรียกน้ำย่อย / จานหลัก และของหวาน น้ำเปล่าฟรีค่ะ คุณตาบริการดีมากๆ สำหรับการให้ทิป ถ้าเราแฮปปี้กับการบริการ ก็คิดง่ายๆว่าให้10%จากค่าอาหารนะคะ แต่แม่หมีก็ไม่ได้ให้ทุกร้านนะ ให้เฉพาะร้านที่อยากให้เหมือนกัน
จบวันแรก เป็นยังไงบ้างค่ะ เที่ยวกับแม่หมี อาจไม่มีอะไรตื่นเต้น หวือหวา ก็ตามประสาแม่ลูกอ่อนเนอะ
ยังมีรูปสำหรับทริปวันแรกอีกในเพจนะคะ ใครอยากชมเพิ่มเติมแวะไปดูได้ค่า
https://www.facebook.com/Momdetails/