ตอนนี้ที่บ้านเราก็เป็นอย่างนี้ ความยุติธรรมไม่มีอยู่จริง น้าสาวทำมาหากินมาคนเดียวทั้งชีวิต แต่พอเส้นเลือดในสมองแตก สามีอ้างเป็นคนหาเงินฟ้องแบ่งทรัพย์สินทั้งหมด กระทั่งเงินติดบัญชีไว้รักษาตัวยามป่วยก็ฟ้องแบ่ง ตอนนี้พยามจะตาย ไม่ยอมทานข้าวทานยา พยายามเล่าว่า ผู้ชายไม่เคยหากิน ติดเหล้า ติดการพนัน มีลูกกับผู้หญิงอื่นแล้ว แต่พอน้าเราป่วยพูดไม่ได้ เข้ามายืดทุกอย่างในชีวิตน้าเรา ทั้งกิจการ บ้าน รถ เอาปืนขู่คนป่วยที่เดินไม่ได้ พูดไม่ได้ น้าเราพยายามสื่อสารจนญาติเข้าใจ ใช้เวลาหลายวันมาก คิดแล้วแสนจะเศร้า ยิ่งกว่าระคร
ขึ้นศาลแทนน้า ศาลบอกเราเป็นเพียงพยานบอกเล่า ก็น้าพูดไม่ได้เส้นเลือดในสมองแตกอะ แต่เรื่องในครอบครัวทุกคนก็ต้องรู้ปะ ขอให้ใครมาเป็นพยานบอกกลัว เพราะอยู่ในพื้นที่ใกล้กัน กลัวเป็นอันตราย มีคนรับปากบอกหนูไม่กลัวจะมาเป็นพยานให้ พอใกล้วัน ลูกเขาโทรมาร้องไห้บอกหนูยังอยากมีแม่อยู่ สามีพยานโทรมาขอร้องบอกให้ช่วยอย่างอื่นเถอะ ทุกคนรู้ความจริง แต่กลัวอันตรายถึงชีวิต แล้วที่บ้านเรามีแต่ผู้หญิงแก่ กับ คนป่วย เราแจ้งในศาลแล้วว่าเค้ามีโฉนด และ เอกสารอื่นๆ เพราะ เค้าเอาปืนขู่น้าสาวเราที่พูดและเดินไม่ได้ เราจึงต้องรีบออกมา โดนเอาอะไรออกมาไม่ได้เลย กระทั้งบัตรประชาชนน้า หรือ แพทเพ็ทสักชิ้นเดียว
คือเราอยากจะบอกว่า เราเข้าใจความรู้สึกของคุณลุงเลย เราเองก็เกือบจะเป็นแบบคุณลุงแล้ว ตอนที่ทนายฝ่ายตรงข้าม รู้ว่าน้าเรามีปัญหาเรื่องการสื่อสาร เค้าพยายามให้น้าเราพูด ตามที่เค้าต้องการ พอน้าเรารู้ตัวว่าตัวเองพูดผิดแต่สื่อสารไม่ได้ ก็ร้องไห้ดังมาก พูดแต่

เอ้ย

เอ้ย ซ้ำๆ จนศาล ต้องบันทึกไว้ เราเสียใจมากที่ช่วยน้าเราไม่ได้ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่า น้าอยากพูดอะไร แต่ศาลห้ามเราส่งเสียง น้าเราได้แต่พูดไปมองหน้าเราไป ส่งสายตาให้เราช่วย แต่เราทำไม่ได้ จนเราทนดูไม่ไหว เห็นพวกเค้าทำร้ายคนพิการกัน เราจึงออกมา อดีตสามีน้าสาวเราเดินตามออกมา ตบมือหัวเราะดีใจ บอกจบแล้ว ชนะแล้ว ตอนนั้นเราอยากโดดลงจากหน้าต่างศาลมาก แต่มาได้สติ ว่าถ้าเราตายไปใครจะดูน้าเรา พ่อแม่เรา และถ้าไม่ตายยังจะมาเป็นภาระ พวกเขาอีกต่างหาก ตอนเราเห็นข่าวคุณลุงเราน้ำตาไหลไม่รู้ตัว มันเจ็บใจ เข้าใจ เสียใจ อย่างบอกไม่ถูก
ต้องโดดตึกเหมือนคุณลุงก่อน ใช่ไหมถึงจะมีคนสนใจ
ขึ้นศาลแทนน้า ศาลบอกเราเป็นเพียงพยานบอกเล่า ก็น้าพูดไม่ได้เส้นเลือดในสมองแตกอะ แต่เรื่องในครอบครัวทุกคนก็ต้องรู้ปะ ขอให้ใครมาเป็นพยานบอกกลัว เพราะอยู่ในพื้นที่ใกล้กัน กลัวเป็นอันตราย มีคนรับปากบอกหนูไม่กลัวจะมาเป็นพยานให้ พอใกล้วัน ลูกเขาโทรมาร้องไห้บอกหนูยังอยากมีแม่อยู่ สามีพยานโทรมาขอร้องบอกให้ช่วยอย่างอื่นเถอะ ทุกคนรู้ความจริง แต่กลัวอันตรายถึงชีวิต แล้วที่บ้านเรามีแต่ผู้หญิงแก่ กับ คนป่วย เราแจ้งในศาลแล้วว่าเค้ามีโฉนด และ เอกสารอื่นๆ เพราะ เค้าเอาปืนขู่น้าสาวเราที่พูดและเดินไม่ได้ เราจึงต้องรีบออกมา โดนเอาอะไรออกมาไม่ได้เลย กระทั้งบัตรประชาชนน้า หรือ แพทเพ็ทสักชิ้นเดียว
คือเราอยากจะบอกว่า เราเข้าใจความรู้สึกของคุณลุงเลย เราเองก็เกือบจะเป็นแบบคุณลุงแล้ว ตอนที่ทนายฝ่ายตรงข้าม รู้ว่าน้าเรามีปัญหาเรื่องการสื่อสาร เค้าพยายามให้น้าเราพูด ตามที่เค้าต้องการ พอน้าเรารู้ตัวว่าตัวเองพูดผิดแต่สื่อสารไม่ได้ ก็ร้องไห้ดังมาก พูดแต่