จุดเริ่มต้นของเรานะคะ.........
เราลองเริ่มทำแบบทดสอบเกี่ยวกับความเครียด หรือ โรคซึมเศร้าในอินเตอร์เน็ตค่ะ
เราเคยลองทำเมื่อต้นปีที่ผ่านมา คะแนนเราอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งหมด
แต่ช่วงระยะ 3-4 เดือนมานี้ เราเจอปัญหาหลายอย่างค่ะ ทำให้เรารู้สึกเครียด นอนไม่หลับ วิตกกังวล และรู้สึไว่าความสุขของเรากำลังหายไปค่ะ
เราเลยลองทำแบบทดสอบเหล่านี้อีกครั้ง ผลที่เราได้ต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ
และมีแว๊บนึงในหัวเราค่ะ บอกว่าเราไม่ไหวแล้ว เราต้องการใครซักคนช่วยเราแบบจริงจังๆสวัสดีค่ะ
เราอยากลองไปพบจิตแพทย์ที่รพ.ชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่หลายๆท่านแนะนำในพันทิปนี่แหละค่ะ
แต่เราก็ยังไม่แน่ใจว่า เราควรจะไปดีหรือไม่ ถ้าไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง เราลังเลมามาตลอด คิดเกือบทุกวันว่าไปดีหรือไม่ไปดี
วันนี้เรารู้สึกแย่มากๆ กับเรื่องๆหนึ่ง เราร้องไห้และต้องการคนรับฟัง
เราเลยลองโทรไปสายด่วนสุขภาพจิตค่ะ แต่เรารอสายอยู่ประมาณครึ่งชม. แต่สายยังไม่ว่าง
เราเลยลองเสริชกูเกิ้ล แล้วก็เจอกับแอพนี้ค่ะ Ooca เราเลยตัดสินใจลองดู
เราไล่ดูบุคคลากรในแอพ มีทั้งนักจิตวิทยา และแพทย์ ซึ่งแต่ละท่านจะถนัดในเรื่องต่างๆกันไปค่ะ
หลังจากโหลดแอพมา เราก็สร้างนัดหมายตอนนั้นเลยค่ะ และได้คุยกับนักจิตวิทยาท่านนึง
ซึ่งเค้าจะ video call มาหาเราค่ะ
เค้าก็ถามว่าเราเป็นอะไรเจออะไรมา เราก็เล่าให้เค้าฟังไปเรื่อยๆ เค้าจะได้วิเคราะห์และหาแนวทางช่วยเรา
ตอนนั้นเราพรั่งพรูมากจริงๆ ร้องไห้ตลอด ไม่คิดว่าตัวเองจะรู้สึกแย่ขนาดนี้
เค้าก็จะคอยให้คำแนะนำค่ะ มี way ให้เราเลือก อยู่ที่ว่าเราจะเลือกอะไร
ไม่ได้บังคับเรา เราเลยไม่รู้สึกอึดอัด เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับทางที่เราเลือก
บางทีเราอาจจะมองข้ามสิ่งเล็กๆน้อยๆไป ให้เราคิดและถามตัวเองจริงๆจังๆว่าจะทำยังไงต่อ
เค้าจะมีเวลาให้เราเลือกค่ะ ระหว่าง 30 กับ 60 นาที และแจ้งค่าบริการชัดเจนค่ะ ก่อนรับบริการค่ะ
เราเลือกเวลา 30 นาทีค่ะ เกินเวลาได้ไม่เกิน 10 นาที ไม่งั้นจะคิดเพิ่มค่ะ
ค่าบริการอยู่ที่ 1,000 บาท และจะมีค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตอีกประมาณ 100 บาทค่ะ
เป็นการคุยอย่างเดียว ไม่มีการจ่ายยานะคะ
เรามองว่าค่าบริการค่อนข้างสูงเหมือนกันค่ะ แต่ ณ เวลานั้นเราไม่ไหวจริงๆเลยเลือกที่จะจ่ายค่ะ
เพราะถ้าเราไปรพ. ที่เราเลือกไว้ค่าใช้จ่ายก็จะสูงกว่านี้หน่อยค่ะ
ถ้าถามว่าตอนนี้เรายังอยากไปรพ. ไปพบจิตแพทย์มั้ย เราตอบเลยว่าเรายังคิดจะไปค่ะ
การที่มีใครสักคน มารับฟังเรา และให้แนวทางกับเรามันดีมากจริงๆน่ะ
ในเวลาที่เรามืดมิด ไม่รู้จะคุยกับใคร บุคคลเหล่านี้คือคนที่จะมาช่วยเรา
อย่าเก็บปัญหา ไว้คนเดียว จนมันทับถมแล้วทำลายความรู้สึกดีๆและตัวตนดีๆของเราไปเลยค่ะ
เราหวังว่า สิ่งที่เราแนะนำไปวันนี้น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งให้เพื่อนๆได้นะคะ
ลองดูค่ะ ใครพร้อมทางไหน ก็เลือกทางที่ตัวเองสะดวกกันนะคะ
[CR] [Chibii] ♥ รีวิวการพบนักจิตวิทยาออนไลน์ผ่าน app Ooca
เราลองเริ่มทำแบบทดสอบเกี่ยวกับความเครียด หรือ โรคซึมเศร้าในอินเตอร์เน็ตค่ะ
เราเคยลองทำเมื่อต้นปีที่ผ่านมา คะแนนเราอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งหมด
แต่ช่วงระยะ 3-4 เดือนมานี้ เราเจอปัญหาหลายอย่างค่ะ ทำให้เรารู้สึกเครียด นอนไม่หลับ วิตกกังวล และรู้สึไว่าความสุขของเรากำลังหายไปค่ะ
เราเลยลองทำแบบทดสอบเหล่านี้อีกครั้ง ผลที่เราได้ต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ
และมีแว๊บนึงในหัวเราค่ะ บอกว่าเราไม่ไหวแล้ว เราต้องการใครซักคนช่วยเราแบบจริงจังๆสวัสดีค่ะ
เราอยากลองไปพบจิตแพทย์ที่รพ.ชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่หลายๆท่านแนะนำในพันทิปนี่แหละค่ะ
แต่เราก็ยังไม่แน่ใจว่า เราควรจะไปดีหรือไม่ ถ้าไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง เราลังเลมามาตลอด คิดเกือบทุกวันว่าไปดีหรือไม่ไปดี
วันนี้เรารู้สึกแย่มากๆ กับเรื่องๆหนึ่ง เราร้องไห้และต้องการคนรับฟัง
เราเลยลองโทรไปสายด่วนสุขภาพจิตค่ะ แต่เรารอสายอยู่ประมาณครึ่งชม. แต่สายยังไม่ว่าง
เราเลยลองเสริชกูเกิ้ล แล้วก็เจอกับแอพนี้ค่ะ Ooca เราเลยตัดสินใจลองดู
เราไล่ดูบุคคลากรในแอพ มีทั้งนักจิตวิทยา และแพทย์ ซึ่งแต่ละท่านจะถนัดในเรื่องต่างๆกันไปค่ะ
หลังจากโหลดแอพมา เราก็สร้างนัดหมายตอนนั้นเลยค่ะ และได้คุยกับนักจิตวิทยาท่านนึง
ซึ่งเค้าจะ video call มาหาเราค่ะ
เค้าก็ถามว่าเราเป็นอะไรเจออะไรมา เราก็เล่าให้เค้าฟังไปเรื่อยๆ เค้าจะได้วิเคราะห์และหาแนวทางช่วยเรา
ตอนนั้นเราพรั่งพรูมากจริงๆ ร้องไห้ตลอด ไม่คิดว่าตัวเองจะรู้สึกแย่ขนาดนี้
เค้าก็จะคอยให้คำแนะนำค่ะ มี way ให้เราเลือก อยู่ที่ว่าเราจะเลือกอะไร
ไม่ได้บังคับเรา เราเลยไม่รู้สึกอึดอัด เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับทางที่เราเลือก
บางทีเราอาจจะมองข้ามสิ่งเล็กๆน้อยๆไป ให้เราคิดและถามตัวเองจริงๆจังๆว่าจะทำยังไงต่อ
เค้าจะมีเวลาให้เราเลือกค่ะ ระหว่าง 30 กับ 60 นาที และแจ้งค่าบริการชัดเจนค่ะ ก่อนรับบริการค่ะ
เราเลือกเวลา 30 นาทีค่ะ เกินเวลาได้ไม่เกิน 10 นาที ไม่งั้นจะคิดเพิ่มค่ะ
ค่าบริการอยู่ที่ 1,000 บาท และจะมีค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตอีกประมาณ 100 บาทค่ะ
เป็นการคุยอย่างเดียว ไม่มีการจ่ายยานะคะ
เรามองว่าค่าบริการค่อนข้างสูงเหมือนกันค่ะ แต่ ณ เวลานั้นเราไม่ไหวจริงๆเลยเลือกที่จะจ่ายค่ะ
เพราะถ้าเราไปรพ. ที่เราเลือกไว้ค่าใช้จ่ายก็จะสูงกว่านี้หน่อยค่ะ
ถ้าถามว่าตอนนี้เรายังอยากไปรพ. ไปพบจิตแพทย์มั้ย เราตอบเลยว่าเรายังคิดจะไปค่ะ
การที่มีใครสักคน มารับฟังเรา และให้แนวทางกับเรามันดีมากจริงๆน่ะ
ในเวลาที่เรามืดมิด ไม่รู้จะคุยกับใคร บุคคลเหล่านี้คือคนที่จะมาช่วยเรา
อย่าเก็บปัญหา ไว้คนเดียว จนมันทับถมแล้วทำลายความรู้สึกดีๆและตัวตนดีๆของเราไปเลยค่ะ
เราหวังว่า สิ่งที่เราแนะนำไปวันนี้น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งให้เพื่อนๆได้นะคะ
ลองดูค่ะ ใครพร้อมทางไหน ก็เลือกทางที่ตัวเองสะดวกกันนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้