เกาหลีปลายพฤษภาคม อากาศค่อนข้างจะเหวี่ยงเลยที่เดียวค่ะ คือ ช่วงเช้าจะหนาวนิดๆ พอตกช่วงสายบ่ายแดดมาค่ะ ร้อนเบิร์นเบบี้เบิร์นขั้นสุด แต่พอเข้าสู่ช่วงเย็นตกดึกอุณหภูมิจะลดอากาศจะเย็นๆสบายๆค่ะ บางวันก็จะมีฝนตกบ้างยังไงก็ควรพกร่มติดกันไปด้วยน้า กันแดด กันฝน โชคดีที่ทริปของเราเจอฝนปรอยๆแค่วันเดียว ถือว่ามีบุญอยู่บ้าง ฮิ้


   วันแรกของการเดินทางไปนัดเจอกับเพื่อนที่สนามบินดอนเมืองเวลาเกือบเที่ยงคืน เคาท์เตอร์ของ airasia ลากกระเป๋าลงถึงกับช็อกค่ะ เพราะ แถวเช็คอินยาวมว้ากกกกกกกกขดในขด แนะนำเพื่อนๆเช็คอินออนไลน์กันมาก่อนเลย เข้าช่องเช็คอินออนไลน์แล้วไปโหลดกระเป๋าได้เลย ไม่เสียเวลา แต่นั่นแหละค่ะเราไมได้เช็คอินมาเลยต่อไปต่อแถวกันตามระเบียบ 55555 โหลดกระเป๋าเสร็จปุ๊ป รอเดินเล่นในเกทกันไป ณ เวลาตีหนึ่งกว่าๆ เพื่อนหิวค่ะเลยไปเลี้ยวเข้าร้านแม็คโดนัล จัดเบอร์เกอร์ไปกินให้อิ่มท้อง พอถึงเวลาขึ้นเครื่อง take-off ปุ๊ป อุปกรณ์พร้อมนอนมาค่ะ เอนเบาะลง ผ้าห่ม หมอนรองคอ ตื่นมาอีกทีก็ถึงสนามบินอินชอนแล้ว

   ก่อนบินลงแอร์บนเครื่องเค้าจะแจกใบเข้าตม.ให้ เตรียมปากกามากรอกให้เสร็จตั้งแต่บนเครื่องจะได้ไม่เสียเวลา บรรยากาศตอนเข้าตม.นี่เย็นสมชื่อจริงๆค่ะ มีหลายคนก่อนหน้าเราที่โดนเรียกเข้าห้องเย็นไป สังเกตจากผู้หญิงสองคนข้างหน้าที่โดนเรียก คือ ตอบคำถามของเจ้าหน้าไม่ได้เลย นี่ก็แอบหวั่นๆอยู่ก่อนบินก็ปริ้นแพลนทริปมาพร้อมเผื่อโดนถาม แต่พอมาถึงคิวเราแล้วเค้าไม่ได้ถามอะไรเลยค่ะ ผ่านฉลุย ดังนั้นถ้าใครที่มาเที่ยวจริงๆ ยังไงเค้าก็ให้ผ่าน ขอให้เตรียมแผนการเดินทาง ใบจองโรงแรม โชว์ให้เค้าดูเลยค่ะ จากที่สังเกตดูเจ้าหน้าที่ตม.ของเกาหลีในแต่ละช่องเป็นผู้หญิงเกือบหมดเลย เห็นมีผู้ชายอยู่แค่คนเดียวก็ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย

   รับกระเป๋าเสร็จเราจะตรงดิ่งกันไปขึ้นรถไฟ arex ไปยัง hongik uni. หรือฮงแดนั่นเอง ประมาณ 50 นาที ซึ่งเป็นจุดที่พักของเราและที่นิยมของใครหลายคน จากตรงนี้สามารถซื้อบัตร t-money กันได้เลย แต่เรายังไม่ซื้อเพราะคนต่อแถวเยอะและลายยังไม่โดนใจ มาทริปนี้อยากได้บัตรลาย kakao กลับบ้านมากกว่า 55555 กดบัตรรถไฟที่ตู้เลยค่ะ 4650 วอน มีค่ามัดจำในบัตร 500 วอน ใบเอาคืนได้เมื่อเสียบบัตรคืนในตู้ที่สถานีปลายทางน้า



   ถึง hongik uni. ทางออก 2 ลากกระเป๋ากันไปที่เกสต์เฮาส์ duriworld house ไม่ไกลจากสถานี เข้าไปเช็คอินและฝากกระเป๋ากันก่อนเลย ที่พักเป็นเกสต์เฮาส์เล็กๆ มีหลายห้องแล้วแต่งบประมาณ wifi ฟรี มีโซนครัวทำอาหารเองและมีอาหารเช้าให้ เจ้าของที่พักช่วยเหลือเราดีมากๆเลย เราไม่ได้นำปลั๊กแปลงไฟมา เขาก็พยายามไปหามาให้เราได้ เรานี่ได้แต่ แทงกิ้ว คัมซามีดา รัวๆ



   ฝากกระเป๋าทักทายเจ้าของที่พักเสร็จ ก็ได้เวลาตัวปลิวไปเที่ยวกันแล้วค่ะ เย่ๆ พุงตัวไปที่ GS25 และ 7-11 ไปซื้อบัตร T-money ค่ะ ได้ลาย kakao มาสมใจอยาก ควักเงินจ่ายอย่างไม่ลังเล 4000 วอน




   ออกมาแล้วเดินตรงไปตามซอยมาเรื่อยๆ แลนด์มาร์คยอดนิยมระหว่างทางมีร้านให้ช้อปเยอะม้ากกกกกกกก ระวังจะไปไม่ถึง มหาลัยสวยมากบอกเลย คนมาถ่ายรูปก็เยอะเช่นกัน เนื่องจากตอนไปเป็นช่วงบ่ายๆคนเลยไม่เยอะ ถ่ายกันสนุกเลย



   เนื่องจากท้องเราหิวโหยมากเลยขอแวะเติมพลังกันหน่อย แนะนำมื้อเที่ยงในย่านนี้จิมดักพาจุก ร้าน ehwa chicken food เดินไม่ไกลจากทางออก 2 ของสถานี ชื่อเกาหลีอ่านไม่ออกค่ะ 5555 ตามธรรมเนียมของประเทศนี้คือมาสองคนต้องสั่งคนละอย่างหรือไม่ก็ต้องสั่งตามเซ็ทจำนวนคนค่ะ แต่ปริมาณก็เยอะด้วยเช่นกัน สั่งจานนี้ไปจานเดียวเพิ่มชีสกินกันสองคนนี่จุกไปถึงคอหอยเลย กินเสร็จได้แต่นั่งมองผู้หญิงโต๊ะข้างนางกระซ้วกกันชามยักษ์กันอย่างชิวๆ ได้แต่ตั้งคำถามว่ากระเพาะคนเกาหลีเค้าทำด้วยอัลไลลลลลลลล !!! มื้อแรกของทริปจ่ายไป 24000 วอนค่ะ




   ถนนช้อปย่านมหาลัย บอกเลยที่นี่มีร้อยหมดร้อย มีล้านหมดล้าน โซนมหาภัยจริงๆค่ะ 55555 พกเงินมาต้องได้ใช้ที่นี่แน่นอน เสื้อผ้าถูกมากx10 เดินทีแทบจะล้มละลาย ราคาเริ่มต้น 5000 วอน โดนฉุดเพราะป้าย sale ทุกร้านเลย งื้อออ แนะนำว่าเสื้อผ้าที่นี่ถูกกว่าในทุกๆย่านที่เราไปเดินค่ะ ถ้าเจอตัวไหนที่ชอบก็ซื้อเลยค่ะ ระงับกิเลสด้วยการซื้อไปเลยค่ะ 555555