ไม่น่าเชื่อว่าจังหวัดเล็กที่สุดของประเทศไทยอย่างแม่กลองหรือสมุทรสงครามจะมีที่เที่ยวเยอะแยะขนาดนี้ ถ้าจะเที่ยวให้หมดจริงๆ 2 วัน 1 คืนแบบที่ผมกำลังจะพาไปคงไม่พอ กระทู้นี้เหมือนเดิมนะครับ ม้วนเดียวจบ แต่ไม่ยาวเท่าใหร่ครับ พอจะใช้เวลาจิบกาแฟไปด้วย อ่านไปด้วยได้ ภาพบางภาพดึงมาจาก vdo นะครับ อาจไม่ชัดเป๊ะ ต้องขออภัยไว้ด้วยครับ พร้อมแล้วไปครับ
ไม่อยากอ่านยาว เอา VDO สรุปทริปดูเพลินๆก่อนได้ครับ

รู้จักแม่กลองกันก่อน แม่กลองเป็นจังหวัด 1 ใน 3 สมุทร คือสมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม เป็นจังหวัดที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดราชบุรีมาก่อน มีแม่น้ำแม่กลองไหลผ่าน ห่างจากกรุงเทพประมาณ 60 กม. โดยถนนพระราม2
ผมออกจากบ้านมากะว่าให้ถึงแม่กลองประมาณ 11 โมงเพราะจะแวะไปทานอาหารเที่ยงที่ร้านแดงอาหารทะเลก่อน แดงอาหารทะเลมี 2 ร้านนะครับ ร้านที่ผมไปกับอีกร้านที่ทางเข้าดอนหอยหลอด เท่าที่หาข้อมูลคือทั้ง 2 ร้านเป็นพี่น้องกันแล้วแยกกันไปทำคนละร้าน ผมไม่เคยกินร้านตรงทางเข้าดอนหอยหลอดครับ เลยบอกไม่ได้ว่าร้านใหนอร่อยกว่า

แผนที่ร้านนะครับ ไปไม่ยากครับ กลับรถตรงสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง เลี้ยวซ้ายแยกแรก ตรงไป ผ่านไฟแดง ร้านอยู่ขวามือ เลี้ยวเข้าไปจอดรถได้ วันเสาร์-อาทิตย์ คนมหาศาล

เมนูที่พลาดไม่ได้ของที่นี่คือนี่เลยครับ “ปลาทูตาเตี๊ยะ” เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยน แปลว่าปรุงน้ำขลุกขลิก แต่เรียกกันเพี้ยนเป็นซาเตี๊ยะ เราไปกัน 2 คน ได้ปลาตัวอวบมา 5 ตัว จานแรกก็เหนื่อยแล้วครับ ผมชอบน้ำปรุงเขานะ เค็มปนหวาน มีกระเทียมต้มเนื้อนุ่มมาด้วย อร่อยเชียว

จานต่อมาเป็นเนื้อปูผงกะหรี่ เนื้อปูเป็นชิ้นผัดกับผงกะหรี่สีเหลือง ผมก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วผัดผงกะหรี่มันต้องสีอะไร บางร้านสีออกส้มๆ จานนี้ก็ร่อยครับ กินได้เรื่อยๆเลย อร่อยๆ

ซดน้ำให้ลื่นคอด้วยต้มจืดสาหร่ายหมูสับหน่อย รสชาติไม่จืดเกินไป เค็มๆหน่อย เผ็ดร้อนหน่อยๆ ซดได้ลื่นคอ เรากินกันแค่นี้แหละครับ มื้อนี้หมดไปเกือบพันบาท แต่อิ่มยันเย็น ใครไปร้านนี้แค่คนหรือ2คน แล้วกินไม่ค่อยเก่ง เตรียมให้ห่อได้เลยครับ ปริมาณอาหารเยอะจริงๆ
สถานีรถไฟแม่กลอง ตลาดร่มหุบ
การเดินทาง : จากถนนพระราม 2 ใช้เส้นทางหลักเข้าตัวเมืองแม่กลอง สุดถนนตรง 3 แยกเลี้ยวซ้ายจะมีอาคารจอดรถชั่วโมงละ 10 บาท แล้วเดินไปอีกหน่อย
สถานีต่อไป สถานีแม่กลองหรือตลาดร่มหุบนั่นเอง ตลาดนี้เป็นตลาดประเภทห้ามพลาด คะแนนรีวิวใน tripadvisor ใช้ได้เลย ทั้งประเด็นความแปลกและความอันตราย

นี่ไม่ใช่การมาตลาดร่มหุบครั้งแรกของผม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปในสายตาผมคือ ตอนนี้ตลาดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเต็มตัวไปแล้ว กรุ๊ปทัวร์เยอะมาก ร้านขายของฝากมากขึ้น พ่อค้าแม่ค้าพูดภาษาต่างประเภทกันคล่องแคล่ว ขนาดวันที่ไปเป็นวันธรรมดาคนยังเยอะ ผมแทรกตัวไปแปะอยู่ข้างร้านขายปลาดุกย่าง คุยกับป้าคนขายพอป้าแกรู้ว่าผมเป็นคนที่ใหน แกหัวเราะก๊ากเลย ป้าเล่าว่าเมื่อก่อนไม่เป็นแบบนี้ เป็นแค่ตลาดขายของที่มาอยู่ตรงสถานีรถไฟ แล้วขยายตัวไปเรื่อยๆ ขายของเหมือนตลาดสดทั่วๆไปนี่แหละ

รถไฟมาแล้ว มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศขึ้นไปยืนบนรั้วให้สูงขึ้น คอแกพอดีกับชายหลังคาสังกะสี ถ้ารถไฟเบียดก็คอขาดกันแหละ แม่ค้ากับไกด์โวยวายกันใหญ่ ป้าแม่ค้าเล่าให้ฟังอีกว่าเมื่อก่อนตอนที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวเยอะขนาดนี้ คนขับรถไฟบางคนขับแกล้งขับรถไฟเข้าสถานีเร็วๆ แม่ค้าเก็บของไม่ทันก็ชนของกระจายไปก็มี แต่ตอนนี้ต้องมีเจ้าหน้าที่มาเดินนำหน้ารถไฟ คอยดูไม่ให้คนยืนล้ำเข้าไปใกล้รางรถไฟเกินไป
วัดภุมรินทร์กุฎีทอง
การเดินทาง: ใช้เส้นทางไปอัมพวา ถึงวงเวียนเลี้ยวซ้าย ข้ามสะพานพระศรีสุริเยนทร์ จากนั้นไปตามทางที่ไปวัดบางกุ้ง วัดจะอยู่ขวามือ ป้ายหน้าวัดใหญ่โต ไม่เลยแน่นอน
ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์กุฎีทอง รัชการที่1 เป็นบ้านเรือนไทย ตัวพิพิธภัณฑ์จะอยู่ชั้น 2 หรือเรียกชั้น1 แล้วข้างล่างเป็นใต้ถุนนั้นแหละ

ภายในเก็บวัตถุโบราณไว้หลายชิ้น มีทั้งสิ่งของ หุ่นต่างๆ เดินในบ้านนี่ขนลุกเลยครับ กลางคืนไม่กล้าขึ้นไปเด็ดขาด ไม่แน่ใจว่านี่คือรูปแบบของบ้านเรือนไทยแบบเก่าหรือเปล่า จากประตูจะไม่เห็นภายในห้องโดยจะมีกำแพงกั้นไว้อีกชั้น ทำให้ภายในดูลึกลับ
วัดบางแคน้อย
การเดินทาง: ใช้เส้นทางไปอัมพวา ถึงวงเวียนเลี้ยวซ้าย ข้ามสะพานพระศรีสุริเยนทร์ ไปตามเส้นทางไปวัดบางกุ้ง วัดบางแคน้อยจะติดกับโรงพยาบาลอัมพวา
วัดเล็กๆที่ดูจะไม่มีอะไร แต่ก่อนไปแม่กลองรอบนี้ผมไปเจอว่า วัดนี้มีพระอุโบสถที่ภายในเป็นไม้แกะสลักเลยสนใจ แวะไปดูเสียหน่อย ช่วงที่ไปไม่มีนักท่องเที่ยวเลย แต่มีคนที่มาถ่ายรูปนักท่องเที่ยว ปริ๊นใส่จานแล้วเอามาขาย ก็มาถ่ายรูปผมนะ แต่ผมไม่ซื้อหรอกบังอาจเอากล้อง Nikon มาถ่ายสาวก Canon

เข้ามาในอุโบสถ สวยงามมากครับ งานแกะสลักเต็มไปหมด บานประตู หน้าต่าง ผนัง เพดานรอบด้าน ถ้าคนชอบงานแบบนี้น่าจะยืนชมรายละเอียดการสลักได้นานเลยครับ สวยแปลกตาดีจริงๆ
วัดบางกุ้ง
การเดินทาง: ใช้เส้นทางเดียวกับวัดบางแคน้อย แล้วขับตรงมาอีก ก็จะเจอวัดและค่ายบางกุ้งทางซ้ายมือ ถ้ามาวันหยุดดูง่ายเลยครับ รถจอดเพียบ
วัดบางกุ้ง เป็นวัดเก่าแก่ สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน เคยตั้งค่ายบริเวณนี้เพื่อต่อต้านกองทัพพม่า จนทัพพม่าต้องถอยร่นไป แต่สิ่งที่คนจำวัดนี้ได้คงเป็นพระอุโบสถหลังเก่าที่ถูกต้นไม้ขึ้นปกคลุมจนทั่ว ชาวต่างชาติบางคนเรียกว่าเป็นโบสถ์ tomb rider

ภายในโบสถ์ประดิษฐานหลวงพ่อนิลมณี และมีภาพเขียนฝาผนังเก่า ที่เสียหายไปบ้างตามกาลเวลา ถ้ามาวันธรรมดา ภายในจะเงียบสงบและเย็นสบายมาก ผิดกับวันหยุดลิบลับ ถ้าอยากได้ความสงบ ลางานมาวันธรรมดานะครับ

นี่คือภาพเขียนภายในพระอุโบสถ การมาสถานที่เก่าๆ มีประวัติยาวนานแบบนี้ ถ้ามีเวลามากพอ ลองมองช้าๆตามจุดเล็กจุดน้อย จะมีรายละเอียดและเรื่องราวให้ซึมซับเยอะทีเดียว ไหว้พระเสร็จ นั่งต่อนะครับ อย่าเพิ่งรีบกลับ
อาศนวิหารแม่พระบังเกิด
การเดินทาง: ใช้เส้นทางเดียวกับวัดบางกุ้ง แล้วขับต่อไปอีก ตามป้ายไปเรื่อยๆจะมีป้ายบอก
จากวัดต่อมาเป็นโบสถ์ โบสถ์แม่พระบังเกิด เป็นโบสถ์คริสต์โรมันคาทอลิก เท่าที่หาข้อมูลบอกว่าเป็นโบสถ์ศิลปะแบบกอธิก ไม่แน่ใจข้อมูลนะครับ ใครรู้แก้ได้ครับ หากจะชมภายในโบสถ์ต้องดูเวลาเปิดปิดด้วยนะครับ โดยทั่วไปวันเสาร์-อาทิตย์จะเปิดให้ชม โดยพักช่วง 12.00-13.00น.

อลัง ถนนเส้นนี้มีแต่สถานที่อลังแบบนี้จริงๆ สวยงามมาก แน่นอนว่าคงไม่ยิ่งใหญ่แบบโบสถ์ในยุโรป แต่เข้าไปแล้วสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ สงบ ตอนเข้าไปจะต้องลงชื่อเข้าเยี่ยม แล้วเจ้าหน้าที่จะเปิดเสียงบรรยายประวัติของโบสถ์ให้ฟัง สิ่งน่าสนใจอีกอย่างของที่นี่คือกระจกสี สวยจริงๆครับ

กลับออกมาแวะดูบานประตูด้านนอก จะมีรูปแกะสลักเรื่องราวของคริสต์ศาสนาให้ดูกันด้วยครับ ผมว่าการเที่ยววัด เที่ยวโบสถ์ สิ่งดีอย่างหนึ่งคือการบอกเล่าเรื่องราวของศาสนานั้นๆผ่านภาพเขียน หรือลายแกะสลัก ซึ่งทำให้เข้าใจเรื่องราวความคิดความเชื่อของศาสนานั้นๆได้ดีทีเดียว
ก่อนจะเดินทางกันต่อ ขอขายของนิดนึงนะครับ
ฝากช่อง Youtube ของผมด้วยครับ
https://www.youtube.com/channel/UC6Zil4A2qZK5-GcNPFI3Lcg ทำด้วยใจล้วนๆ จะทำคลิปเพิ่มเรื่อยๆครับ
ฝาก Facebook page อีกอันแล้วกันครับ
https://www.facebook.com/followmeonearth/
Like share subscribe กันตามสบายครับ คิดเห็นอย่างไรก็บอกกันได้ครับ
เที่ยวต่อมั้ย...ไปครับ
[CR] รีวิว 2 วัน 1 คืน เที่ยวแม่กลอง เมืองเรียบง่าย กับวันพักผ่อนแบบง่ายๆ
ไม่อยากอ่านยาว เอา VDO สรุปทริปดูเพลินๆก่อนได้ครับ
รู้จักแม่กลองกันก่อน แม่กลองเป็นจังหวัด 1 ใน 3 สมุทร คือสมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม เป็นจังหวัดที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดราชบุรีมาก่อน มีแม่น้ำแม่กลองไหลผ่าน ห่างจากกรุงเทพประมาณ 60 กม. โดยถนนพระราม2
ผมออกจากบ้านมากะว่าให้ถึงแม่กลองประมาณ 11 โมงเพราะจะแวะไปทานอาหารเที่ยงที่ร้านแดงอาหารทะเลก่อน แดงอาหารทะเลมี 2 ร้านนะครับ ร้านที่ผมไปกับอีกร้านที่ทางเข้าดอนหอยหลอด เท่าที่หาข้อมูลคือทั้ง 2 ร้านเป็นพี่น้องกันแล้วแยกกันไปทำคนละร้าน ผมไม่เคยกินร้านตรงทางเข้าดอนหอยหลอดครับ เลยบอกไม่ได้ว่าร้านใหนอร่อยกว่า
แผนที่ร้านนะครับ ไปไม่ยากครับ กลับรถตรงสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง เลี้ยวซ้ายแยกแรก ตรงไป ผ่านไฟแดง ร้านอยู่ขวามือ เลี้ยวเข้าไปจอดรถได้ วันเสาร์-อาทิตย์ คนมหาศาล
เมนูที่พลาดไม่ได้ของที่นี่คือนี่เลยครับ “ปลาทูตาเตี๊ยะ” เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยน แปลว่าปรุงน้ำขลุกขลิก แต่เรียกกันเพี้ยนเป็นซาเตี๊ยะ เราไปกัน 2 คน ได้ปลาตัวอวบมา 5 ตัว จานแรกก็เหนื่อยแล้วครับ ผมชอบน้ำปรุงเขานะ เค็มปนหวาน มีกระเทียมต้มเนื้อนุ่มมาด้วย อร่อยเชียว
จานต่อมาเป็นเนื้อปูผงกะหรี่ เนื้อปูเป็นชิ้นผัดกับผงกะหรี่สีเหลือง ผมก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วผัดผงกะหรี่มันต้องสีอะไร บางร้านสีออกส้มๆ จานนี้ก็ร่อยครับ กินได้เรื่อยๆเลย อร่อยๆ
ซดน้ำให้ลื่นคอด้วยต้มจืดสาหร่ายหมูสับหน่อย รสชาติไม่จืดเกินไป เค็มๆหน่อย เผ็ดร้อนหน่อยๆ ซดได้ลื่นคอ เรากินกันแค่นี้แหละครับ มื้อนี้หมดไปเกือบพันบาท แต่อิ่มยันเย็น ใครไปร้านนี้แค่คนหรือ2คน แล้วกินไม่ค่อยเก่ง เตรียมให้ห่อได้เลยครับ ปริมาณอาหารเยอะจริงๆ
สถานีรถไฟแม่กลอง ตลาดร่มหุบ
การเดินทาง : จากถนนพระราม 2 ใช้เส้นทางหลักเข้าตัวเมืองแม่กลอง สุดถนนตรง 3 แยกเลี้ยวซ้ายจะมีอาคารจอดรถชั่วโมงละ 10 บาท แล้วเดินไปอีกหน่อย
สถานีต่อไป สถานีแม่กลองหรือตลาดร่มหุบนั่นเอง ตลาดนี้เป็นตลาดประเภทห้ามพลาด คะแนนรีวิวใน tripadvisor ใช้ได้เลย ทั้งประเด็นความแปลกและความอันตราย
นี่ไม่ใช่การมาตลาดร่มหุบครั้งแรกของผม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปในสายตาผมคือ ตอนนี้ตลาดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเต็มตัวไปแล้ว กรุ๊ปทัวร์เยอะมาก ร้านขายของฝากมากขึ้น พ่อค้าแม่ค้าพูดภาษาต่างประเภทกันคล่องแคล่ว ขนาดวันที่ไปเป็นวันธรรมดาคนยังเยอะ ผมแทรกตัวไปแปะอยู่ข้างร้านขายปลาดุกย่าง คุยกับป้าคนขายพอป้าแกรู้ว่าผมเป็นคนที่ใหน แกหัวเราะก๊ากเลย ป้าเล่าว่าเมื่อก่อนไม่เป็นแบบนี้ เป็นแค่ตลาดขายของที่มาอยู่ตรงสถานีรถไฟ แล้วขยายตัวไปเรื่อยๆ ขายของเหมือนตลาดสดทั่วๆไปนี่แหละ
รถไฟมาแล้ว มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศขึ้นไปยืนบนรั้วให้สูงขึ้น คอแกพอดีกับชายหลังคาสังกะสี ถ้ารถไฟเบียดก็คอขาดกันแหละ แม่ค้ากับไกด์โวยวายกันใหญ่ ป้าแม่ค้าเล่าให้ฟังอีกว่าเมื่อก่อนตอนที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวเยอะขนาดนี้ คนขับรถไฟบางคนขับแกล้งขับรถไฟเข้าสถานีเร็วๆ แม่ค้าเก็บของไม่ทันก็ชนของกระจายไปก็มี แต่ตอนนี้ต้องมีเจ้าหน้าที่มาเดินนำหน้ารถไฟ คอยดูไม่ให้คนยืนล้ำเข้าไปใกล้รางรถไฟเกินไป
วัดภุมรินทร์กุฎีทอง
การเดินทาง: ใช้เส้นทางไปอัมพวา ถึงวงเวียนเลี้ยวซ้าย ข้ามสะพานพระศรีสุริเยนทร์ จากนั้นไปตามทางที่ไปวัดบางกุ้ง วัดจะอยู่ขวามือ ป้ายหน้าวัดใหญ่โต ไม่เลยแน่นอน
ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์กุฎีทอง รัชการที่1 เป็นบ้านเรือนไทย ตัวพิพิธภัณฑ์จะอยู่ชั้น 2 หรือเรียกชั้น1 แล้วข้างล่างเป็นใต้ถุนนั้นแหละ
ภายในเก็บวัตถุโบราณไว้หลายชิ้น มีทั้งสิ่งของ หุ่นต่างๆ เดินในบ้านนี่ขนลุกเลยครับ กลางคืนไม่กล้าขึ้นไปเด็ดขาด ไม่แน่ใจว่านี่คือรูปแบบของบ้านเรือนไทยแบบเก่าหรือเปล่า จากประตูจะไม่เห็นภายในห้องโดยจะมีกำแพงกั้นไว้อีกชั้น ทำให้ภายในดูลึกลับ
วัดบางแคน้อย
การเดินทาง: ใช้เส้นทางไปอัมพวา ถึงวงเวียนเลี้ยวซ้าย ข้ามสะพานพระศรีสุริเยนทร์ ไปตามเส้นทางไปวัดบางกุ้ง วัดบางแคน้อยจะติดกับโรงพยาบาลอัมพวา
วัดเล็กๆที่ดูจะไม่มีอะไร แต่ก่อนไปแม่กลองรอบนี้ผมไปเจอว่า วัดนี้มีพระอุโบสถที่ภายในเป็นไม้แกะสลักเลยสนใจ แวะไปดูเสียหน่อย ช่วงที่ไปไม่มีนักท่องเที่ยวเลย แต่มีคนที่มาถ่ายรูปนักท่องเที่ยว ปริ๊นใส่จานแล้วเอามาขาย ก็มาถ่ายรูปผมนะ แต่ผมไม่ซื้อหรอกบังอาจเอากล้อง Nikon มาถ่ายสาวก Canon
เข้ามาในอุโบสถ สวยงามมากครับ งานแกะสลักเต็มไปหมด บานประตู หน้าต่าง ผนัง เพดานรอบด้าน ถ้าคนชอบงานแบบนี้น่าจะยืนชมรายละเอียดการสลักได้นานเลยครับ สวยแปลกตาดีจริงๆ
วัดบางกุ้ง
การเดินทาง: ใช้เส้นทางเดียวกับวัดบางแคน้อย แล้วขับตรงมาอีก ก็จะเจอวัดและค่ายบางกุ้งทางซ้ายมือ ถ้ามาวันหยุดดูง่ายเลยครับ รถจอดเพียบ
วัดบางกุ้ง เป็นวัดเก่าแก่ สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน เคยตั้งค่ายบริเวณนี้เพื่อต่อต้านกองทัพพม่า จนทัพพม่าต้องถอยร่นไป แต่สิ่งที่คนจำวัดนี้ได้คงเป็นพระอุโบสถหลังเก่าที่ถูกต้นไม้ขึ้นปกคลุมจนทั่ว ชาวต่างชาติบางคนเรียกว่าเป็นโบสถ์ tomb rider
ภายในโบสถ์ประดิษฐานหลวงพ่อนิลมณี และมีภาพเขียนฝาผนังเก่า ที่เสียหายไปบ้างตามกาลเวลา ถ้ามาวันธรรมดา ภายในจะเงียบสงบและเย็นสบายมาก ผิดกับวันหยุดลิบลับ ถ้าอยากได้ความสงบ ลางานมาวันธรรมดานะครับ
นี่คือภาพเขียนภายในพระอุโบสถ การมาสถานที่เก่าๆ มีประวัติยาวนานแบบนี้ ถ้ามีเวลามากพอ ลองมองช้าๆตามจุดเล็กจุดน้อย จะมีรายละเอียดและเรื่องราวให้ซึมซับเยอะทีเดียว ไหว้พระเสร็จ นั่งต่อนะครับ อย่าเพิ่งรีบกลับ
อาศนวิหารแม่พระบังเกิด
การเดินทาง: ใช้เส้นทางเดียวกับวัดบางกุ้ง แล้วขับต่อไปอีก ตามป้ายไปเรื่อยๆจะมีป้ายบอก
จากวัดต่อมาเป็นโบสถ์ โบสถ์แม่พระบังเกิด เป็นโบสถ์คริสต์โรมันคาทอลิก เท่าที่หาข้อมูลบอกว่าเป็นโบสถ์ศิลปะแบบกอธิก ไม่แน่ใจข้อมูลนะครับ ใครรู้แก้ได้ครับ หากจะชมภายในโบสถ์ต้องดูเวลาเปิดปิดด้วยนะครับ โดยทั่วไปวันเสาร์-อาทิตย์จะเปิดให้ชม โดยพักช่วง 12.00-13.00น.
อลัง ถนนเส้นนี้มีแต่สถานที่อลังแบบนี้จริงๆ สวยงามมาก แน่นอนว่าคงไม่ยิ่งใหญ่แบบโบสถ์ในยุโรป แต่เข้าไปแล้วสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ สงบ ตอนเข้าไปจะต้องลงชื่อเข้าเยี่ยม แล้วเจ้าหน้าที่จะเปิดเสียงบรรยายประวัติของโบสถ์ให้ฟัง สิ่งน่าสนใจอีกอย่างของที่นี่คือกระจกสี สวยจริงๆครับ
กลับออกมาแวะดูบานประตูด้านนอก จะมีรูปแกะสลักเรื่องราวของคริสต์ศาสนาให้ดูกันด้วยครับ ผมว่าการเที่ยววัด เที่ยวโบสถ์ สิ่งดีอย่างหนึ่งคือการบอกเล่าเรื่องราวของศาสนานั้นๆผ่านภาพเขียน หรือลายแกะสลัก ซึ่งทำให้เข้าใจเรื่องราวความคิดความเชื่อของศาสนานั้นๆได้ดีทีเดียว
ก่อนจะเดินทางกันต่อ ขอขายของนิดนึงนะครับ
ฝากช่อง Youtube ของผมด้วยครับ https://www.youtube.com/channel/UC6Zil4A2qZK5-GcNPFI3Lcg ทำด้วยใจล้วนๆ จะทำคลิปเพิ่มเรื่อยๆครับ
ฝาก Facebook page อีกอันแล้วกันครับ https://www.facebook.com/followmeonearth/
Like share subscribe กันตามสบายครับ คิดเห็นอย่างไรก็บอกกันได้ครับ
เที่ยวต่อมั้ย...ไปครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้