ประเทศของเรา เคยมี ปฏิบัติการใด ที่เก็บเป็นความลับหลายสิบปี ถึงค่อยมาเปิดเผยให้คนได้รับรู้ มีหรือไม่ครับ- อีทานส์ ฮั้น

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
อย่าง การ  ปฎิบัติการพิเศษ  เพื่อความมั่นคง

หรือการตอบโต้ ข้าศึก   แต่ไม่เปิดเผย ให้คนทั่วไปได้รู้

แต่เป็น แค่ เขาว่า  เขาว่า  ลือว่า..........


อย่างยุทธการ ฮาเตียน


ที่เตรียมการ  หลังจาก ยุทธนาวีเกาะช้าง  ซึ่งไทยเรา เสียเรือรบ



จากเหตุการณ์ครั้งก่อน เมื่อ ๑๗ มกราคม ๒๔๘๔ คนไทยคงจะจำกันได้ว่า ครั้งหนึ่งทหารเรือไทยเคยสร้างวีรกรรมไว้จนยากจะลืมเลือน คือ "ยุทธนาวีที่เกาะช้าง" จังหวัดตราด เราต้องสูญเสียเรือรบไปกว่า ๓ ลำ คือ เรือหลวงธนบุรี เรือหลวงสงขลา และเรือหลวงชลบุรี

      เรือหลวงธนบุรี  สามารถลากกลับเข้าฝั่งได้  แต่ ก็เสียหายเกินกว่าจะซ่อมได้   หอบัญชาการเรือ ของ รล ธนบุรี

ปัจจุบัน อยู่ที่ ร ร นายเรือ  ที่ปากน้ำ

ส่วนฝรั่งเศสเรือลามอตต์ปิเกต์   ซึ่งเสียหายไปจอดอยู่ที่เมือง ไซ่ง่อน.
______________


และแล้วเวลาอันควรจะเป็นก็มาถึง วันที่ ๒๖ มกราคม ๒๔๘๔ เรือรบทุกลำในอ่าวสัตหีบ ก็ได้รับคำลังให้เตรียมพร้อม

โดยเฉพาะเรือตอปิโดใหญ่ ๖ ลำ อาทิเช่น เรือหลวงภูเก็ต เรือหลวงปัตตานี เรือหลวงระยอง เรือหลวงชุมพร

ได้รับคำสั่งให้ติดไฟหม้อน้ำ เตรียมพร้อมที่จะออกเรือได้ ลูกเรือลำละ ๙๐ คน อาวุธเต็มอัตราศึก ที่สำคัญทั้ง ๖ ลำ ได้รับการติดอาวุธที่คาดไม่ถึง คือ ทุ่นระเบิดชนิดเบาแบบกระทบแตก มันถูกส่งขึ้นมาวางตรงท้ายเรือ ทั้ง ๒ กราบ ลำละ ๒๕ ลูก รวมแล้วเรือรบ ๖ ลำ ขนไป รวม ๑๔๔ ลูก
และสำหรับเรือ ๓ ลำ ที่นำทุนระเบิดไป   คือ เรือหลวงบางระจัน เรือหลวงหนองสาหร่าย และเรือหลวงคราม (ลำเก่า)..

           เรือรบ ๖ ลำ ในยุทธการนี้ถือว่าทันสมัยมากยุคนั้น ฉายาที่ได้รับคือ "ฉลามทะเล" หรือ ฉลามหนุมผู้คะนองศึก ซึ่งลูกเรือล้วนแล้วเป็นคนวัยหนุ่ม อยู่ในวัยฉกรรจ์ทั้งนั้น และเรือพวกนี้เพิ่งถูกสร้างและรับมาจากอิตาลี

            ในที่สุด วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๔๘๔ "เจ้าฉลามทะเล" ทั้ง ๖ ลำ ที่บรรทุกหนักจนหัวเรือเชิดไปตามๆ กัน พากันค่อยๆ ถอนสมอเคลื่อนตัวไปช้าๆ ออกสู่ทะเล เมื่อได้ออกมาไม่ไกลนัก ก็มีเรือรบไทยเขามาสมทบอีก ๒ ลำ คือ เรือหลวงท่าจีน และเรือหลวงแม่กลอง จึงได้จัดกองเรือเป็น ๒ ขบวน โดยให้เรือรบที่มาสมทบใหม่เป็นผู้นำขบวนอย่างละลำ.   พอเวลารุ่งสาง เหล่าลูกเรือนั้นก็พอรู้ว่าขบวนเรือ ๒ ขบวนนี้มุ่งไปยังทิศใหน แต่ว่าจะพากันไปไหน ทำอะไรอย่างไรนั้น ไม่รู้มากนัก..

เช้าวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๔๘๔ จะเป็นวันที่เหมือนวัน    D-DAY ก็ว่าได้ โดยขณะนี้ลูกเรือทุกคนรับทราบกันแล้ว ว่าจะต้องทำอะไร



แล้วเหตุการณ์อันน่าสงสัยก็บังเกิดขึ้นจากการแล่นของเรือนำขบวน คือ เรือหลวงแม่กลอง และเรือหลวงท่าจีน ได้ลดความเร็วลง





อมาสักพักหนึ่ง นายทหารยุทธการคนหนึ่ง ก็เดินออกมา แจ้งให้ทุกคนได้ทราบ ว่าได้รับคำสั่งด่วนที่สุดทางสัญญาณวิทยุจากกองบัญชาการกองทัพเรือ ว่ากองทัพเรือให้ระงับแผนยุทธการ ที่กำลังจะลงมือไว้ก่อน

เนื่องจากเมื่อเวลา ๑๐.๐๐ วันนี้
รัฐบาลไทยได้รับเงื่อนไขของรัฐบาลของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรรรดิ์ญี่ปุ่น ได้เสนอและยื่นมือเข้ามาเป็นผู้เจรจาไกล่เกลี่ยในการ "ระงับกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส" โดยให้กองเรือไปรวมพลที่เกาะพะงัน ซึ่งผลของการไกล่เกลี่ยของญี่ปุ่นคราวนี้..ทำให้เราได้ดินแดนกลับคืนมา คือ เสียมราฐ พระตะบอง ศรีโสเภณ และ จำปาศักดิ์


แต่ก็ต้องหลุดมือเสียไปอีกภายหลัง เพราะผลของสงครามโลกครั้งที่ ๒ ที่ญี่ปุ่นแพ้สงคราม  



เรือรบ  ค่าก่อสร้างในสมัยนั้น  
อย่าง รล ธนบุรี  ราคา สองแสนเจ็ด  


และมี เรืออีกสองลำที่ ทร.สั่งจากอิตาลี่   ลำละสามแสน   แต่เกิดสงครามโลก

อิตาลี่ จึงเอาไปใช้เองไม่ได้ส่งมอบให้ไทย


เห็นมั้ยย ว่า ต้องผลิตเองให้ได้  ผลิตเองเกิดการจ้างเงิน เงินหมุนเวียนในประเทศ

และที่สำคัญ คือความมั่นคง



ที่มา:https://www.facebook.com/ILoveRoyalThaiNavy/photos/a.387890361294345.92983.387885351294846/514053125344734/?type=3&theater

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่