บันทึกนี้อยากนำเสนอแนวทางการเที่ยวเลห์โดยไปกับทัวร์ตั้งแต่จากไทย
เผื่อท่านใดไม่อยากจัดทริปเอง
และอาจเป็นทางเลือกของท่านที่อยากไปคนเดียว ฯลฯ
สำหรับข้อดีของการไปแบบนี้ คือไม่ต้องปวดหัวคิดอะไรเอง
มีผู้ชำนาญคือไกด์ทั้งจากไทยจากเลห์คอยดูแล
แถมไกด์ไทยยังทำอาหารไทยอร่อย ๆ เสริมให้ตลอด
ไม่ว่าจะเป็นไข่เจียว ผัดกระเพราไก่ เขียวหวานไก่ น้ำพริกอ่อง ฯลฯ
น้ำพริกอ่องนี่อร่อยที่สุดตั้งแต่ผมเคยกินมาครับ !!!
และการไปแบบหมู่คณะนี่ สำหรับทริปเลห์ ที่จัดว่าโหดมาก ๆ
ข้อดีคือจะเป็นกำลังใจให้กันและกัน คอยชวนกันไป ปลอบกันไป
คือบางวันมันโหดมาก ๆ บางคนจะคิดว่าพรุ่งนี้ขอบาย ขอนอนโรงแรมดีกว่า
แต่ไปเป็นหมู่คณะก็จะพยุง ๆ กันไป เพราะทุกคนต่างก็สะบักสะบอมพอ ๆ กัน
ทำให้ทริปนี้ที่มี 20 คน ผ่านได้ทุกโปรแกรม
ไม่มีใครขาดช่วงไหนเลยครับ


ทริปเลห์...สวรรค์และนรกมันห่างกันก็แค่คืบเดียว -
Day 3 เสาร์ 7 ก.ค. 61 : วัดต็กเซ่ย์และทะเลสาบปันกอง
ทัวร์เปลี่ยนแผนกระทันหัน ไปทะเลสาบปันกองวันนี้แทน !!! ...
คือตามโปรแกรมเดิมวันนี้จะไป Nubra Valley
และนอนพักค้างคืนในรีสอร์ตท่ามกลางหุบเขาคืนนึงแล้วก็กลับ
มันดูสบาย ๆ และให้ร่างกายคุ้นชินกับสภาพพร่องอ็อกซิเจนอีกซักหน่อย
แต่ทั้งไกด์ไทยไกด์เลห์เห็นว่าลูกทัวร์กลุ่มนี้ดูชิวชิว
มาวันแรกก็ไม่ต้องพักต้องแพ็กพาเที่ยวได้เลย
งั้นวันนี้ก็พาไปโปรแกรมทะเลสาบปันกองที่โหดสุด ๆ ไปเลยดีกว่า
โปรแกรมไปทะเลสาบนี้โหดมาก
เพราะต้องนั่งรถผ่านไหล่เขาสูงชันขาไป 5-7 ชม. ขากลับอีก 5-7 ชม.
(คือบางครั้งรถติด มีอุบัติเหตุ หิมะถล่ม หินถล่ม ถนนพัง ฯลฯ ทำให้กะเวลายากครับ)
แค่นั่งรถก็สะบักสะบอมแล้ว
แต่นี่เป็นทางขรุขระเผลอไม่ได้หัวจะเด้งชนหลังคา แถมคดเคี้ยวและยังไต่ตามไหล่เขา
เริ่มจากปลุกตีสี่ครึ่ง ตีห้าครึ่งต้องไปกินอาหารที่ห้องอาหาร
แต่ขอสละสิทธิ์ กิน Energy Bar คืออาหารแท่งแบบที่นักกอล์ฟเขากินกันแทน
ก่อนไปไปหาซื้อ Power Gel แบบที่น้องหมูป่ากินจะได้แข็งแกร่งเหมือนน้อง ๆ แต่หาไม่ได้
ไม่กินมื้อเช้านี่ทั้งนี้เพราะกลัวปัญหาเรื่องปวดท้องถ่ายระหว่างทาง
ห้องน้ำระหว่างทางมี 2 แบบคือถ่ายข้างถนน กับถ่ายในห้องน้ำที่เจาะช่องที่พื้น
มื้อเช้านี่ไกด์ไทยมักทำข้าวต้ม มีกับเช่นผักกาดดอง กุนเชียง ฯลฯ
ได้ยินว่าอร่อยมาก แต่จำใจต้องอดเพราะผมลำไส้สั้นมาก ๆ ครับ
6:30 น.ล้อหมุน พาไปชมวัดติ๊กเซ่ย์ (Thiksey)
ให้เวลาถ่ายรูปและขึ้นไปชมวัด ชม.นึง วัดนี้สวยอยู่บนเนินเขา วิวมองลงมาก็สวยมาก
แล้วเดินทางต่อไปทะเลสาบปันกอง เส้นทางลัดเลาะไปตามไหล่เขา
หลายช่วงขรุขระคดเคี้ยวกระเด้งกระดอน แถมยังอยู่บนหุบเขาสูงชันน่ากลัวตกลงมาตายมาก ๆ
จึงบอกว่าสวรรค์และนรกมันห่างกันก็แค่คืบเดียว
ถ้ารถเสียหลักไปไม่กี่คืบก็ตกลงเหว
ที่กำลังชมวิวสวยงามเหมือนอยู่บนสวรรค์ก็จะตกสู่ก้นเหวตายอย่างเขียดกันเลยแหละ
มาถึงทะเลสาบปันกองทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลกตอนเที่ยงครึ่ง
ได้ชมวิวและกินมื้อเที่ยงที่นี่อยู่นาน 2 ชม.
สั่ง 7 UP มากินขวดนึง 50 รูปี=25 บาท นับว่าไม่แพงถ้าเทียบกับการขนส่งว่ากว่าจะมาถึงนี่
เวลาเปิดฝาต้องระวังเพราะแรงดันมันสูง มันระเบิดเลอะหน้าตาเนื้อตัวกันไปหลายคน
กลับถึงเลห์ทุ่มนึง คืนนี้กิน 2 ทุ่ม เพราะหน.ไกด์ต้องเข้าครัวทำอาหารไทยเสริม
มื้อค่ำนี้กินอย่างมีความสุข คิดว่าเราได้ผ่านทริปที่โหดร้ายที่สุดในชีวิตไปแล้ว ต่อไปอะไร ๆ มันก็จะดีขึ้น
สรุปว่าขาไปใช้เวลา 5 ชม. ขากลับแค่ 4 ชม.ครึ่ง
ระยะเลห์ไปทะเลสาบแค่ 150 กม. แต่ทางมันลำบาก
หลายคนถามไกด์ว่าพรุ่งนี้ไปนูบร้าจะโหดเท่านี้ไหม
ถ้าโหดแบบนี้จะขอนอน รร.แทน ไม่ไปล่ะ
ไกด์บอกว่าพรุ่งนี้จิ๊บ ๆ วันนี้โหด 100% พรุ่งนี้เอาแค่ 50% แค่นั้นแหละ
Day 1 พฤหัส 5 ก.ค. 61 บินจาก กทม. ถึง เดลลี ไปเที่ยว ป้อมแดง และ ทัชมาฮาล ใน อัครา
>>>
https://pantip.com/topic/37878538
Day 2 ศุกร์ 6 ก.ค. 61 : บินจาก เดลลี มา เลห์ พักแปร๊บ แล้วเที่ยว 2 วัด...
https://pantip.com/topic/37881711
เรื่องเล่าของคนที่ไปเที่ยวเลห์กับทัวร์จากไทย...Day 3 เสาร์ 7 ก.ค. 61 : วันนี้สุดโหด วัดติ๊กเซ่ย์และทะเลสาบปันกอง
บันทึกนี้อยากนำเสนอแนวทางการเที่ยวเลห์โดยไปกับทัวร์ตั้งแต่จากไทย
เผื่อท่านใดไม่อยากจัดทริปเอง
และอาจเป็นทางเลือกของท่านที่อยากไปคนเดียว ฯลฯ
สำหรับข้อดีของการไปแบบนี้ คือไม่ต้องปวดหัวคิดอะไรเอง
มีผู้ชำนาญคือไกด์ทั้งจากไทยจากเลห์คอยดูแล
แถมไกด์ไทยยังทำอาหารไทยอร่อย ๆ เสริมให้ตลอด
ไม่ว่าจะเป็นไข่เจียว ผัดกระเพราไก่ เขียวหวานไก่ น้ำพริกอ่อง ฯลฯ
น้ำพริกอ่องนี่อร่อยที่สุดตั้งแต่ผมเคยกินมาครับ !!!
และการไปแบบหมู่คณะนี่ สำหรับทริปเลห์ ที่จัดว่าโหดมาก ๆ
ข้อดีคือจะเป็นกำลังใจให้กันและกัน คอยชวนกันไป ปลอบกันไป
คือบางวันมันโหดมาก ๆ บางคนจะคิดว่าพรุ่งนี้ขอบาย ขอนอนโรงแรมดีกว่า
แต่ไปเป็นหมู่คณะก็จะพยุง ๆ กันไป เพราะทุกคนต่างก็สะบักสะบอมพอ ๆ กัน
ทำให้ทริปนี้ที่มี 20 คน ผ่านได้ทุกโปรแกรม
ไม่มีใครขาดช่วงไหนเลยครับ
ทริปเลห์...สวรรค์และนรกมันห่างกันก็แค่คืบเดียว -
Day 3 เสาร์ 7 ก.ค. 61 : วัดต็กเซ่ย์และทะเลสาบปันกอง
ทัวร์เปลี่ยนแผนกระทันหัน ไปทะเลสาบปันกองวันนี้แทน !!! ...
คือตามโปรแกรมเดิมวันนี้จะไป Nubra Valley
และนอนพักค้างคืนในรีสอร์ตท่ามกลางหุบเขาคืนนึงแล้วก็กลับ
มันดูสบาย ๆ และให้ร่างกายคุ้นชินกับสภาพพร่องอ็อกซิเจนอีกซักหน่อย
แต่ทั้งไกด์ไทยไกด์เลห์เห็นว่าลูกทัวร์กลุ่มนี้ดูชิวชิว
มาวันแรกก็ไม่ต้องพักต้องแพ็กพาเที่ยวได้เลย
งั้นวันนี้ก็พาไปโปรแกรมทะเลสาบปันกองที่โหดสุด ๆ ไปเลยดีกว่า
โปรแกรมไปทะเลสาบนี้โหดมาก
เพราะต้องนั่งรถผ่านไหล่เขาสูงชันขาไป 5-7 ชม. ขากลับอีก 5-7 ชม.
(คือบางครั้งรถติด มีอุบัติเหตุ หิมะถล่ม หินถล่ม ถนนพัง ฯลฯ ทำให้กะเวลายากครับ)
แค่นั่งรถก็สะบักสะบอมแล้ว
แต่นี่เป็นทางขรุขระเผลอไม่ได้หัวจะเด้งชนหลังคา แถมคดเคี้ยวและยังไต่ตามไหล่เขา
เริ่มจากปลุกตีสี่ครึ่ง ตีห้าครึ่งต้องไปกินอาหารที่ห้องอาหาร
แต่ขอสละสิทธิ์ กิน Energy Bar คืออาหารแท่งแบบที่นักกอล์ฟเขากินกันแทน
ก่อนไปไปหาซื้อ Power Gel แบบที่น้องหมูป่ากินจะได้แข็งแกร่งเหมือนน้อง ๆ แต่หาไม่ได้
ไม่กินมื้อเช้านี่ทั้งนี้เพราะกลัวปัญหาเรื่องปวดท้องถ่ายระหว่างทาง
ห้องน้ำระหว่างทางมี 2 แบบคือถ่ายข้างถนน กับถ่ายในห้องน้ำที่เจาะช่องที่พื้น
มื้อเช้านี่ไกด์ไทยมักทำข้าวต้ม มีกับเช่นผักกาดดอง กุนเชียง ฯลฯ
ได้ยินว่าอร่อยมาก แต่จำใจต้องอดเพราะผมลำไส้สั้นมาก ๆ ครับ
6:30 น.ล้อหมุน พาไปชมวัดติ๊กเซ่ย์ (Thiksey)
ให้เวลาถ่ายรูปและขึ้นไปชมวัด ชม.นึง วัดนี้สวยอยู่บนเนินเขา วิวมองลงมาก็สวยมาก
แล้วเดินทางต่อไปทะเลสาบปันกอง เส้นทางลัดเลาะไปตามไหล่เขา
หลายช่วงขรุขระคดเคี้ยวกระเด้งกระดอน แถมยังอยู่บนหุบเขาสูงชันน่ากลัวตกลงมาตายมาก ๆ
จึงบอกว่าสวรรค์และนรกมันห่างกันก็แค่คืบเดียว
ถ้ารถเสียหลักไปไม่กี่คืบก็ตกลงเหว
ที่กำลังชมวิวสวยงามเหมือนอยู่บนสวรรค์ก็จะตกสู่ก้นเหวตายอย่างเขียดกันเลยแหละ
มาถึงทะเลสาบปันกองทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลกตอนเที่ยงครึ่ง
ได้ชมวิวและกินมื้อเที่ยงที่นี่อยู่นาน 2 ชม.
สั่ง 7 UP มากินขวดนึง 50 รูปี=25 บาท นับว่าไม่แพงถ้าเทียบกับการขนส่งว่ากว่าจะมาถึงนี่
เวลาเปิดฝาต้องระวังเพราะแรงดันมันสูง มันระเบิดเลอะหน้าตาเนื้อตัวกันไปหลายคน
กลับถึงเลห์ทุ่มนึง คืนนี้กิน 2 ทุ่ม เพราะหน.ไกด์ต้องเข้าครัวทำอาหารไทยเสริม
มื้อค่ำนี้กินอย่างมีความสุข คิดว่าเราได้ผ่านทริปที่โหดร้ายที่สุดในชีวิตไปแล้ว ต่อไปอะไร ๆ มันก็จะดีขึ้น
สรุปว่าขาไปใช้เวลา 5 ชม. ขากลับแค่ 4 ชม.ครึ่ง
ระยะเลห์ไปทะเลสาบแค่ 150 กม. แต่ทางมันลำบาก
หลายคนถามไกด์ว่าพรุ่งนี้ไปนูบร้าจะโหดเท่านี้ไหม
ถ้าโหดแบบนี้จะขอนอน รร.แทน ไม่ไปล่ะ
ไกด์บอกว่าพรุ่งนี้จิ๊บ ๆ วันนี้โหด 100% พรุ่งนี้เอาแค่ 50% แค่นั้นแหละ
Day 1 พฤหัส 5 ก.ค. 61 บินจาก กทม. ถึง เดลลี ไปเที่ยว ป้อมแดง และ ทัชมาฮาล ใน อัครา
>>> https://pantip.com/topic/37878538
Day 2 ศุกร์ 6 ก.ค. 61 : บินจาก เดลลี มา เลห์ พักแปร๊บ แล้วเที่ยว 2 วัด...
https://pantip.com/topic/37881711