ช่วยแนะนำทางออกของปัญหาเพื่อนบ้านทีคะ

ถ้าแท็กห้องไหนผิดไปขออภัยด้วยนะคะ

พอดีเพิ่งมีปัญหากับเพื่อนบ้านค่ะ ต้องบอกก่อนว่าอยู่บ้านนี้มา 13 ปี กำลังจะเข้าปีที่ 14 ปกติไม่มีปัญหากับคนแถวบ้านเลย
ส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไรถ้าไม่สนิท ตอนเรียน เรียนเสร็จก็เข้าบ้าน ไม่ก็ไปเที่ยวกับเพื่อน
โตมาทำงาน ก็เหมือนเดิมค่ะ ทำงาน เข้าบ้าน ไม่ออกไปสร้างความวุ่นวายให้ใคร
เพื่อนบ้านเดือนหนึ่งเจอหน้ากันนับครั้งได้ ไม่ก็แทบจะจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เจอกันวันไหน

มึแค่ครั้งเดียวคือปีแรกที่มาอยู่บ้านตรงข้ามเจ้าของบ้านชอบเสียงดัง ตี4-5 ก็ชอบเปิดประตุมานั่งสวดมนต์
คือเสียงดังอ่ะคะ แล้ววันนั้นที่บ้านทะเลาะกับป้าบ้านตรงข้ามเพราะเขาเปิดเสียงเพลงเป็นเพลงสวดมนต์อ่ะคะ แล้วเสียงดัง
แม่เราเคยบอกเรื่องนี้ป้าเขาหลายครั้งแล้ว แต่ป้าเขาไม่เคยหยุด วันนั้นแม่เราไม่ยอมเลยเปิดทีวีเสียงดังมาก
แล้วเปิดประตูให้เสียงออกไปข้างนอกดังๆ
แล้วที่นี้ป้าข้างบ้านเลยไปแจ้งรปภ. รปภ.ก็มาว่าบ้านเรา แม่เราเลยไม่ยอม เลยทะเลาะกัน
หลังจากนั้นป้าเขาก็ย้ายไปอยู่อีกทีหนึ่ง  (จากนั้นก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใครเลย)

ส่วนบ้านของป้าเขาก็ปล่อยห้องว่างให้คนอื่นเช่า ซึ่งบ้านเราไม่เคยมีปัญหาเลย
ใครมาเช่าก็ต่างคนต่างอยู่ แต่คนเช่าเปลี่ยนคนบ่อยมาก
คนข้างบ้านที่เคยเช่าเขาอยู่เราสนิทกับลูกสาวเขา ซึ่งเขาย้ายออกไปแล้ว
แต่เราไปกินข้าวบ้านเขา เขาเล่าให้ฟังว่า
ในสัญญาเช่าบ้านลงวันที่จ่ายเงินชัดเจนว่า จ่ายเงินไม่เกินวันที่8 ของเดือน
แต่วันที่ 22 ก็เริ่มมาทวงเงินค่าเช่าแล้ว เป็นบ่อยมาก บ้างทีเขาต้องไปดูงานต่างจังหวัดเป็นสัปดาห์เพราะเขาเป็นเซลล์ขายของ
มีแต่ลูกสาวอยู่ ก็มาทวง เขาขอเลขบัญชีมาเพราะเขาจะได้โอนเลย แค่โทรบอกเขาเพราะเขาไม่อยู่บ้านก็ไม่ให้เขา
พอเจอบ่อยๆก็ไม่ไหวเลยย้ายออกมา

จนไม่มีใครเช่าบ้านแก หรือเพราะแกเหนื่อยหาคนเราก็ไม่ทราบ

ปัจจุบันลูกป้ากับครอบครัวเลยมาอยู่บ้านนี้แทน
บ่อยครั้งชอบเสียงดัง เวลาแม่เรามาบอก เราก็บอกทำใจนะแม่ อย่ามีปัญหาเลย
เพราะบ้านเขามีลูกชายวัยรุ่น แล้วพ่อแม่เราบางคืน ตี2-3 ก็ออกไปทำงานแล้ว
แล้วข่าวบ้านเรามีแต่ข่าวไม่ดี เราเป็นผญ ถึงเราจะไม่สวย แต่เราก็กลัว
เราเลยไม่อยากให้แม่เรามีปัญหา เราห้ามมาตลอด

จนวันนี้ พวกเขาเสียงดังแล้วแม่เรานอนไม่ได้ เราเลยออกไปบอกเขาว่าเสียงเบาๆหน่อย
พูดคุยกันไม่ถึง 2 นาทีคะ เราก็เข้าบ้าน
พอเราปิดประตู เขาก็พูดเสียงดังให้เราได้ยินว่า นี้บ้านเขา เขาจะทำอะไรก็ได้
ที่คนอื่นเสียงดังไม่ไปว่า ที่เขาเสียงดังที่บ้านตัวเองทำไมไปว่าเขา
แต่เราก็อยากบอกเขานะว่า นี้ก็บ้านเรา เราเดือดร้อนเราก็มีสิทธิ์ที่จะพูดไหม???
แล้วเขาก็พูดว่าที่หลังจะพาเพื่อนมาทำให้เสียงดังมากกว่านี้ ตอนแรกเราไม่ได้ยินแล้วแม่เราเดินมาบอก
เราเลยตะโกนไปว่า เอาเลย แล้วแต่สันดาน จากนั้นเขาก็ประชดมาต่อ แต่เราก็ไม่สนใจ และไม่ได้ตอบโต้กลับไป

ปกติเราคิดว่าอดทนอีกหน่อยเดี๋ยวหาบ้านใหม่อยู่แล้วก็ไม่เจอแล้วปัญหาแบบนี้
ซึ่งเรากำลังหาที่อยู่ใหม่อยู่ แต่การหาที่อยู่ใหม่มันมีปัจจัยหลายอย่างทำให้ยังหาที่ถูกใจไม่ได้

เราคิดว่าคนเราต้องมีความเกรงใจ ถ้าที่นี้เป็นชุมชนแออัดยังไงก็ต้องมีความเกรงใจ แต่เราคิดคนเดียวไม่ได้อีกฝ่ายต้องคิดด้วย

ในเมื่อเราไปไหนไม่ได้ในเวลาแบบนี้
เราเลยอยากถามว่า เราผิดเหรอที่ไปบอกเขาว่าเขาเสียงดังจนแม่เรานอนไม่ได้ (อาจผิดที่เราไปว่าเขาว่าแล้วแต่สันดาน)
แล้วจะมีวิธีการจัดการเรื่องนี้ยังไงดี เพราะเรากลัวมันมีปัญหามากกว่านี้ ที่เราออกไปไม่ได้หาเรื่องเขานะ
และมีวิธีที่จะทำให้จิตใจเราสงบกับเรื่องที่เรากังวลนี้ไหมคะ มีทางไหนเป็นทางออกบ้างไหมคะ ช่วยแนะนำที
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เห็นใจ จขกท มากค่ะ ทุกวันนี้ สภาพสังคมเปลี่ยนไปจนน่าใจหาย ผู้คนมากขึ้น และคนจำนวนมากมีการย้ายถิ่นฐาน ย้ายที่อยู่อาศัย ไม่เหมือนอดีตที่อยู่เป็นหลักแหล่ง นี้คือสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้คนที่อยู่ใกล้เคียงกัน ไม่รักษาและถนอมน้ำใจกันไว้ให้ดี มีความสุภาพ มีมารยาท และมีความเกรงใจกัน และยังสาเหตุอื่น ๆ อีกมาก ทั้งเด็กรุ่นหลัง ที่เติบโตมากับความรุนแรง และสื่อไม่สร้างสรรค์ ที่เข้าถึงได้ง่ายผ่านสมาร์ทโฟน แบบแผนชีวิต ความนึกคิดและการแสดงออก รับมาจากสื่อเหล่านั้น ผลคือเรามีคนมากมาย ที่มีและใช้อารมณ์เยอะ ก้าวร้าว ไม่มีเหตุผล สบถตลอดเวลา จนยากจะพูดให้เข้าใจด้วยถ้อยคำปกติที่คนเราพูดกันได้ ครอบครัวมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ เมื่อล้มเหลวตั้งแต่สถาบันครอบครัว ปัญหานี้ ยากจะแก้ไข

ในกรณีของ จขกท ไม่อยากให้ถึงกับต้องย้ายออกเพราะสาเหตุนี้เลยนะคะ ยกเว้นเสียแต่ว่ามีสาเหตุอื่นด้วย เช่น สามารถย้ายไปอาศัยอยู่ในที่อื่นที่สภาพแวดล้อม และความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิม หรืออื่น ๆ

เท่าที่อ่านมา ไม่ชัดตรงที่ จขกท พูดกับใคร เมื่อมีเรื่องเช่นนี้ การสื่อสารกับคนที่มีวัยวุฒิ และวุฒิภาวะน้อยกว่า ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีแน่ ระหว่างนี้ หากมีเหตุให้ต้องพูดคุยหรือเจรจากันอีก สื่อสารกับเจ้าของบ้านที่เป็นผู้ใหญ่ อย่าพูดกับเด็กนะคะ

เอาใจช่วยให้พบทางออกที่เหมาะสมค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่