ตอนแรกเราลังเลอยู่ว่าจะเขียนกระทู้นี้ดีมั้ยนะ แต่ก็อยากอ่านความเห็นของคนในพันทิปว่าเป็นยังไงบ้างเลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ค่ะ
หมายเหตุ :: เนื้อหาค่อนข้างยาวนะคะ
เรามีเพื่อนคนนึงเรียนรร.เดียวกันตอนมัธยม เริ่มมาสนิทกันก็ช่วงขึ้นม.ปลายเพราะเพื่อนคนนี้ เราขอแทนชื่อด้วย ก สนิทกับเพื่อนสนิทเราที่เคยเรียนห้องเดียวกันตอนม.ต้น ในขณะที่ในห้องม.ปลาย ที่มีหลายคนเคยเรียนห้องเดียวกันกับก.มาก่อน ต่างก็ถามเราว่าไปสนิทกันได้ไง เนื่องด้วยนิสัยของ ก. ในขณะนั้นค่อนข้างเป็นคนโผงผาง เก็บอารมณ์สีหน้าไม่อยู่ และพูดจนบางทีไม่ได้สนใจว่าคนฟังจะคิดยังไง ส่วนเรานิสัยตรงข้ามทุกอย่าง เราเงียบ นิ่ง เจออะไรก็พยายามไม่คิดโกรธ ทว่ามันสะสมเรื่อยๆ หลายปีจนสุดท้ายก็กลายเป็นระเบิดเวลาที่ทำให้เรา "ไม่ทน" อีกต่อไป
เรา เพื่อนที่เคยเรียนในห้องเดิมม.ต้น และ ก รวมกันแล้ว 5-6 คน ขอเรียกว่าแก๊งดาวอังคารแล้วกันค่ะ
มีงานอดิเรกร่วมกันอยู่อย่างนึงทำให้สนิทกันค่ะ แม้พอเข้ามหาลัยและแต่ละคนแยกย้ายกันไปเรียนคนละที่แล้ว พวกเราก็ยังนัดรวมตัวกันอยู่ในครั้งที่กลับไปที่จังหวัดบ้านเกิด คุยแชทFBกันบ่อยๆ
ตอนม.6 มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นกับเรา เราก็เล่าให้ ก ฟังคนเดียวไม่ได้ตั้งใจจะให้คนอื่นรู้ด้วย แต่ ก ก็เริ่มเอาไปเล่าต่อในวงเพื่อนๆ ทั้งต่อหน้า และอาจลับหลังด้วย ก ก็เล่าดูขำๆ แต่บางทีก็เหมือนแซะ กระแนะกระแหนเรา แต่ในตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรเท่าไหร่ เพราะมันก็ไม่ใช่ความลับอะไร อีกอย่างคือมันเป็นนิสัยการพูดของ ก อยู่แล้ว เราก็เลยเออออผสมโรงไป
พอต่างคนต่างขึ้นมหาลัยกันไปแล้ว ชีวิตเฟรชชี่ของเราไปได้ด้วยดี เราเลือกเรียนที่เราชอบเราถนัด ในสาขาเราถึงแต่ละคนจะอินดี้ไปบ้าง แต่ก็ได้เพื่อนร่วมสาขาดี อาจารย์ดี จากที่ตอนแรกกังวลมากเพราะเราไม่คุ้นเรื่องการเข้าสังคมก็คือไม่มีปัญหาเลย เราสบายใจมากยกเว้นแค่ช่วงเร่งปั่นงานใกล้เดดไลน์ กับตอนอาจารย์ตรวจงาน (ฮา)
ส่วน ก ก็มาเล่าในแชทให้ฟังบ้างบางที ว่าเข้ากับเพื่อนที่นู้นไม่ได้ อาจารย์ก็ไม่ใส่ใจ ก มากเท่าที่ควร ถ้ามีเรื่องอะไรก็จะเข้าข้าง นศ. คนอื่น
ผ่านไปราวปีนึง ก เริ่มพูด ก ู-เ_ิง กับชาวแก๊งดาวอังคาร พูดบ้างไม่พูดบ้างแล้วแต่อารมณ์ แต่คนอื่นไม่ได้มีใครใช้ภาษาสมัยพ่อขุนด้วยหรอกนะคะ
ปัจจุบันก็ไม่มีใครพูด ก ูๆ เ_ิงๆ ด้วยกับ ก มีแต่ ก ที่พูดกับเพื่อน และบ่อยกับเรามากกว่าคนอื่น แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นเท่าไหร่ เมื่อ...
ทุกครั้งที่กลับบ้านไปนัดเจอกัน ในวงสนทนาของแก๊งดาวอังคารไม่ว่าพวกเราจะพูดคุยกันเรื่องอะไร ก ก็มักจะเอาเรื่องของเรามาพูดแซะต่อหน้าคนอื่นๆ ด้วยแทบทุกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ อีกด้วย และบางทีก็แซะเรื่องอื่นที่เราตอบโดยอีกฝ่ายถามเอง
เป็นแบบนั้นอยู่ปีๆ จนเรารู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว ต้องคุยให้รู้เรื่อง
ตอนนั้นน่าจะประมาณมหาลัยปี 2 เทอม 2 รึเปล่าไม่มั่นใจค่ะ เราก็ทักแชท FB รองของ ก ไป
ซึ่ง ก จะมี FB 2 อัน คือหลักที่แอดเฟรนด์เพื่อนกับคนรู้จักทั่วๆไป กับรองที่มีเฉพาะเพื่อนสิบกว่าคน
เราก็บอกไปตามความรู้สึกเลยว่าเราไม่โอเคนะ เรารู้สึกแย่มากเวลา ก มาพูดแซะเราทุกๆครั้งที่เจอกันต่อหน้าเพื่อนคนอื่น
แรกสุดเลยก็พอขำ แต่พอโดนประจำเราไม่ขำแล้ว และยิ่งเรื่องที่ ก เอาไปพูดมันเป็นเรื่องส่วนตัวแล้วเราไม่ได้อยากให้คนอื่นรู้ด้วย
เราพิมพ์แชทไปยาวเหยียด พอวันรุ่นขึ้นเข้าดู FB อีกที ก เอา FB รองลบเราออกจากเฟรนด์ลิสต์แถมบล็อคให้ด้วย 55
แต่ยังมี FB หลักที่ ก ไม่ได้บล็อคเรา แต่เราก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไร
ช่วงนั้นต่างคนต่างอยู่กันคนละที่ พอผ่านไปเป็นเดือนๆ ชาวดาวอังคารมาเจอกันอีกที ก ก็ดูเหมือนจะดีขึ้นหน่อย แล้วต่างคนก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่มันก็วนลูปอีก
ก กลับมาพูดกับเราอย่างเดิม เพิ่มเติมอีกคือพอเราจะพูดอะไร ออกความเห็นอะไร หรือถามอะไรก็ตาม
ก ก็จะพูดกับเราว่า "เรื่องของเ_ิง"
เป็นทุกๆ ครั้งไป
และ ก ไม่พูดแบบนี้กับชาวดาวอังคารคนอื่น
แน่ว่า ก ไม่ถึงขั้นสุภาพกับคนอื่นหรอก แต่ไม่แซะใครเหมือนทำกับเราแน่นอน
ตอนนั้นก็เริ่มคิดว่าหรือ ก ไม่ชอบหน้าเรา หรือไม่พอใจอะไรรึเปล่า
บางอย่างก็พอทำเนา
เมื่อชวนเพื่อนดาวอังคารไปกินเนื้อย่าง
ครั้งที่1
เรา : ไปกินเนื้อย่างกัน
ก : เ_ิงเลี้ยง
ครั้งที่2 เดือนถัดมา
เรา : ไปกินเนื้อย่างกัน
ก : เ_ิงเลี้ยง
ครั้งที่3 เดือนถัดมาอีก
เรา : ไปกินเนื้อย่างกัน
ก : เ_ิงเลี้ยง
ครั้งที่4 ปีถัดมา
เรา : ไปกินเนื้อย่างกัน
ก : เ_ิงเลี้ยง
คือพอเราชวนอะไรปุ๊บ ก ต้องพูด เ_ิงเลี้ยง ซะทุกครั้ง หน้าตาจริงจังด้วยนะ
เราก็จบด้วย ไม่มีเงินเลี้ยงเพื่อน เลี้ยงได้แต่ตัวเอง 55
จากนั้นเราก็ไม่ชวนใครไปกินเนื้อย่างอีกเลย
วันนึงไปเจอ ก ที่เซเว่น
ก ก็ชวนเราไปล่องแพที่อำเภอข้างๆ แต่เราปฏิเสธไปเพราะดูเหมือนฝนจะตก (ซึ่งฝนก็ตกจริงๆ) กับ ก ชวนหนุ่ม ขรก. ที่เราไม่รู้จักไปด้วย ไม่อยากเป็น กขค 55
ตอนจ่ายเงินตรงเคาเตอร์ ก ก็ควักกระเป๋าเงินออกมาจะจ่ายเงินนี่แหละค่ะ แล้วก็คลี่ช่องธนบัตรที่มีใบพันหลายใบอวดเรา เนี่ยจองแพไว้แล้วไปด้วยกันมั้ย
เราก็หงึกหน้าทีนึงบอกไม่อ่ะ ตามสบาย ไปเลยๆ
นึกในใจว่าเพิ่งเคยเห็นคนอวดเงินในกระเป๋านี่แหละ ปกติเจอแต่คนอวดไม่มีเงินแล้วจริงๆ เราก็หนึ่งในนั้น 55
ปีที่แล้วช่วงจะจบมหาลัย พอเดือนพฤษภาแต่ละคนในแก๊งดาวอังคารต่างก็ทำวิจัยเสร็จ อนุมัติจบกันไปเรียบร้อยแล้ว
เหลือแค่เราค่ะ ในตอนนั้นคือช่วงไฟนอลของมหาลัยเราพอดี เราก็ส่งโปรเจคชิ้นสุดท้าย พอผ่านถึงจะสามารถเพิ่มเนื้อหาลงไปในเล่มจบและเริ่มส่งตรวจฝ่ายวิชาการได้
ซึ่งเราก็ใช้เวลาส่งๆแก้ๆ ตีกลับไปไม่รู้กี่รอบ กว่าจะได้พิมพ์เล่มจบคือปลายกรกฎา ค่อยต่อด้วยยื่นเอกสารทำเรื่องจบได้อนุมัติปลายสิงหา
ก ก็จะพูดแซะเราตลอดว่า เนี่ย เหลือแต่เ_ิง เนี่ย จบยังๆๆๆๆ
พอคนอื่นในแก๊งคุยกันเรื่องสอบขรก.บ้างอะไรบ้าง หางานเอกชนบ้าง พอเราจะออกความเห็นอะไร ก ก็จะพูดตลอดว่า เ_ิงจบแล้วเหรอ
คนอื่นถามว่าเรารับปริญญาวันไหน
เรา : 15 ธันวาอ่ะ
ก ก็จะพูดแทรกทันที เ_ิงจบแล้วเหรอ
คนอื่นถามว่าชุดครุยเราเช่าหรือตัดใหม่
เรา : ไม่ได้อ่ะ ต้องตัดกับมหาลัยอย่างเดียวไม่งั้นเข้างานไม่ได้ มันฝังชิปข้อมูลเจ้าของไว้สแกนหน้างาน
ก ก็ทำหน้ามองบนแบบเหยียดหน่อยๆ พร้อมพูด "เหรออออออออออ โหย แม่_ฝังชิปเลยว่ะ"
(ตอนได้ยินเรานี่แอบขึ้นเหมือนกันนะคะ แบบมีปัญหาอะไรกับมหาลัยเรารึเปล่า ฟีลลิ่งรักสถาบันมาเต็มๆ 55)
เรา : เพื่อน ข จะแต่งงานแล้วอ่ะ คนแรกของรุ่นเลย เตรียมชุดไปงานกันยัง เอายังไงดี
ก : เรื่องของเ_ิง
(ขนาดเราถามจริงจัง ก ก็จะพูดว่า เรื่องของเ_ิง ตลอด จนเราเลิกพูดแล้วค่ะ)
เรื่องที่เราเคยเล่าให้ ก ฟังไปตั้งแต่ม.6 ตั้งแต่ 2012 จนปีนี้ ก ยังพูดแซะได้ทุกครั้งที่เจอกัน
ปีก่อนก็พูด เ_ิงจบแล้วเหรอ ลากยาวมาจนปีนี้
พูด เรื่องของเ_ิง ทุกๆ ครั้งที่เราถามเราพูด เราอยากได้ความเห็นก็ได้คำตอบแบบนี้มา
จนเดือนก่อน หลังจากชาวดาวอังคารนัดเจอกัน
เราก็ยังคงโดน ก พูดแบบเดิมไม่เปลี่ยน
วันถัดมาเรารวบรวมความรู้สึก พิมพ์บอก ก ในแชทว่าเรารู้สึกแย่มากกับที่ ก ทำกับเรา
พิมพ์ไปค่อนข้างยาวค่ะ สุภาพ ไม่คอมเพลน ไม่ได้โกรธ แค่บอกเล่าว่า "เรารู้สึกไม่โอเค" และติๆ ไปด้วยหน่อยว่าที่ ก เป็นแบบนี้ มันจะเป็นปัญหาในอนาคต กับชาวดาวอังคารอาจไม่ได้คิดอะไรมากเพราะสนิทกันมานาน เลยปล่อยๆ ไป แต่คนอื่นเค้าไม่ได้คิดแบบนั้น
กดส่งเสร็จแล้วก็นอนค่ะ พอตื่นเช้ามาเข้า FB ดู ก ก็ตอบกลับมาเช่นกัน และบล็อคเราไปแล้วด้วย
อ้าว ไหงงั้น
มาอ่านดูว่า ก ตอบเรามาว่ายังไง
-นี่เป็นสาเหตุให้เ_ิง ไม่ค่อยมาหาเพื่อนใช่มั้ย ((ถูกเลยค่ะ ฮา))
-ขอโทษที่ทำตามที่พูดไม่ได้ ((จากที่เราเคยบอกไปครั้งแรกตอนปี 2)) ขอโทษที่ทำให้ต้องมาเกลือกกลั้วกับคนแย่ๆแบบก ู
-แค่หยอกๆ
-ใครจะไปรู้กับเ_ิง สีหน้าเ_ิงอ่านยากจะตาย ((อ้าว แล้วที่เคยบอกไปครั้งแรกแล้วล่ะ))
-ก ู รักเมิงไง ไม่สนิทไม่ทำนะ ((กับชาวดาวอังคารสนิทกว่าเราด้วยซ้ำ เรื่องส่วนตัว ก เล่าให้คนอื่นฟังแต่ไม่ได้มาบอกเรา))
-บ่นเรื่องเราชอบกลับบ้านก่อนคนอื่น อยู่ดึกไม่ได้ ((บ้านไกลกว่าคนอื่น พ่อแม่โทรจี้เป็น10สาย))
-เสียดายเวลาดีๆ ร่วมกัน
-จบแค่นี้ ขอให้เ_ิงไปดี
พอ ก บล็อคเราไป เราเลยพิมพ์ตอบโดยฝากเพื่อนดาวอังคารอีกคนไป แต่สรุป เพื่อนคนดังกล่าวไม่ส่งให้เพราะกลัวว่าสถานการณ์จะแย่ลง
และพยายามประนีประนอมกับเราค่ะ
เราเลยบอกเพื่อน ค (ละกัน) ไปว่า
เราไม่ใช่ฝ่ายเลือกแยกย้ายนะ คนที่ไปน่ะ ก เองไม่ใช่เหรอ ถ้า ก ไม่บล็อคเราแล้วคุยกันด้วยเหตุผลตั้งแต่แรกมันจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า
ที่เราบอกเพราะเราคิดว่าเรากับ ก คุยด้วยเหตุผลกันได้ แต่ละคนก็อายุ23-24กันแล้ว ไม่ใช่เด็กน้อยแล้วนะ
สนิทกันจริง ถ้าอันไหนไม่ดี อันไหนไม่ชอบก็ต้องบอกต้องคุยกันได้ไม่ใช่เหรอ
เพื่อน ค กลับมาถามเราอีกว่าเราอยากให้ ก เป็นยังไง
เราบอกว่าที่เราพิมพ์ไปคือแค่อยากให้ ก เพลาๆ อาการแซะเราลงเท่านั้นแหละ แต่ผลมันกลับได้แบบนี้ เรานึกไม่ถึงด้วยซ้ำ
แต่ ค หรือคนอื่นไม่ต้องซีเรียสปัญหานี้หรอก
เพราะตอนนี้เราก็ยังมอง ก เป็นเพื่อนอยู่ ก ต่างหากที่แยกเราไปเอง
แค่เราได้พูดความรู้สึกจริงๆ แล้ว เราทนมาหลายปีแล้ว
บอกตามตรงเราไม่เสียใจ ไม่เสียดายอะไรเลย โล่งหัวสุดๆ
จูนกันให้ตรงไม่ได้ก็ทางใครทางมัน
ถ้า ก คิดจะกลับมาเป็นเพื่อนกับเรา เราก็ไม่ว่าอะไร
แต่เราจะไม่เป็นฝ่ายยอมไปง้อเด็ดขาดเพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด
ก็ผ่านเหตุการณ์มาเดือนแล้วล่ะค่ะ เงียบกันทั้งเรา ทั้ง ก
ก ปกติเป็นคนไม่ยอมใคร แต่หนีหายเราไม่เคลียร์อะไรแล้ว
แต่เราก็คิดว่าดีเหมือนกัน เพราะดูแล้วที่ผ่านมาไม่เคยมีใครพูดเรื่องนิสัยกับ ก ตรงๆ เพราะส่วนใหญ่เห็นแล้วจะไม่อยากวอแวด้วย
ถ้ามันทำให้ ก ฉุกคิดอะไรขึ้นได้เราว่าก็ดีเหมือนกัน
หรือเพราะเป็นเราที่โดนหนักคนเดียวแล้วยังทนมาหลายปีจนถึงขีดสุดแล้วก็ไม่รู้ เลยบอกไป
สำหรับเรา "สนิท" เนี่ย
เล่นได้ หยอกได้ อย่างช่วงต้นเดือนเราแบ็คแพ็คไปเที่ยวเชียงรายคนเดียว เพื่อนดาวอังคารยังแซวเล่นว่าอย่าไปติดถ้ำนะ แบบขำๆ ฮาๆ เรายังผสมโรงด้วยเลย
แต่ต้องมีลิมิต รู้ว่าอะไรควรเล่น อะไรไม่ควรเล่น เวลาไหนควรพูดไม่ควรพูด
ยิ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่น มันไม่ใช่เรื่องเอามาคุยเหมือนป่าวประกาศกระแนะกระแหนแบบที่ ก ทำกับเรา
ข้อนี้แหละค่ะที่ทำให้เรากังขา ก มากว่านี่คือเจตนาดีจริงเหรอ
ถึงเพื่อนๆ พันทิปที่อ่านถึงตรงนี้คิดว่า ก แค่ "หยอกเอิน" เราจริงรึเปล่าคะ
เมื่อคำว่า "สนิท" คือล้ำเส้นได้
หมายเหตุ :: เนื้อหาค่อนข้างยาวนะคะ
เรามีเพื่อนคนนึงเรียนรร.เดียวกันตอนมัธยม เริ่มมาสนิทกันก็ช่วงขึ้นม.ปลายเพราะเพื่อนคนนี้ เราขอแทนชื่อด้วย ก สนิทกับเพื่อนสนิทเราที่เคยเรียนห้องเดียวกันตอนม.ต้น ในขณะที่ในห้องม.ปลาย ที่มีหลายคนเคยเรียนห้องเดียวกันกับก.มาก่อน ต่างก็ถามเราว่าไปสนิทกันได้ไง เนื่องด้วยนิสัยของ ก. ในขณะนั้นค่อนข้างเป็นคนโผงผาง เก็บอารมณ์สีหน้าไม่อยู่ และพูดจนบางทีไม่ได้สนใจว่าคนฟังจะคิดยังไง ส่วนเรานิสัยตรงข้ามทุกอย่าง เราเงียบ นิ่ง เจออะไรก็พยายามไม่คิดโกรธ ทว่ามันสะสมเรื่อยๆ หลายปีจนสุดท้ายก็กลายเป็นระเบิดเวลาที่ทำให้เรา "ไม่ทน" อีกต่อไป
เรา เพื่อนที่เคยเรียนในห้องเดิมม.ต้น และ ก รวมกันแล้ว 5-6 คน ขอเรียกว่าแก๊งดาวอังคารแล้วกันค่ะ
มีงานอดิเรกร่วมกันอยู่อย่างนึงทำให้สนิทกันค่ะ แม้พอเข้ามหาลัยและแต่ละคนแยกย้ายกันไปเรียนคนละที่แล้ว พวกเราก็ยังนัดรวมตัวกันอยู่ในครั้งที่กลับไปที่จังหวัดบ้านเกิด คุยแชทFBกันบ่อยๆ
ตอนม.6 มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นกับเรา เราก็เล่าให้ ก ฟังคนเดียวไม่ได้ตั้งใจจะให้คนอื่นรู้ด้วย แต่ ก ก็เริ่มเอาไปเล่าต่อในวงเพื่อนๆ ทั้งต่อหน้า และอาจลับหลังด้วย ก ก็เล่าดูขำๆ แต่บางทีก็เหมือนแซะ กระแนะกระแหนเรา แต่ในตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรเท่าไหร่ เพราะมันก็ไม่ใช่ความลับอะไร อีกอย่างคือมันเป็นนิสัยการพูดของ ก อยู่แล้ว เราก็เลยเออออผสมโรงไป
พอต่างคนต่างขึ้นมหาลัยกันไปแล้ว ชีวิตเฟรชชี่ของเราไปได้ด้วยดี เราเลือกเรียนที่เราชอบเราถนัด ในสาขาเราถึงแต่ละคนจะอินดี้ไปบ้าง แต่ก็ได้เพื่อนร่วมสาขาดี อาจารย์ดี จากที่ตอนแรกกังวลมากเพราะเราไม่คุ้นเรื่องการเข้าสังคมก็คือไม่มีปัญหาเลย เราสบายใจมากยกเว้นแค่ช่วงเร่งปั่นงานใกล้เดดไลน์ กับตอนอาจารย์ตรวจงาน (ฮา)
ส่วน ก ก็มาเล่าในแชทให้ฟังบ้างบางที ว่าเข้ากับเพื่อนที่นู้นไม่ได้ อาจารย์ก็ไม่ใส่ใจ ก มากเท่าที่ควร ถ้ามีเรื่องอะไรก็จะเข้าข้าง นศ. คนอื่น
ผ่านไปราวปีนึง ก เริ่มพูด ก ู-เ_ิง กับชาวแก๊งดาวอังคาร พูดบ้างไม่พูดบ้างแล้วแต่อารมณ์ แต่คนอื่นไม่ได้มีใครใช้ภาษาสมัยพ่อขุนด้วยหรอกนะคะ
ปัจจุบันก็ไม่มีใครพูด ก ูๆ เ_ิงๆ ด้วยกับ ก มีแต่ ก ที่พูดกับเพื่อน และบ่อยกับเรามากกว่าคนอื่น แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นเท่าไหร่ เมื่อ...
ทุกครั้งที่กลับบ้านไปนัดเจอกัน ในวงสนทนาของแก๊งดาวอังคารไม่ว่าพวกเราจะพูดคุยกันเรื่องอะไร ก ก็มักจะเอาเรื่องของเรามาพูดแซะต่อหน้าคนอื่นๆ ด้วยแทบทุกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ อีกด้วย และบางทีก็แซะเรื่องอื่นที่เราตอบโดยอีกฝ่ายถามเอง
เป็นแบบนั้นอยู่ปีๆ จนเรารู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว ต้องคุยให้รู้เรื่อง
ตอนนั้นน่าจะประมาณมหาลัยปี 2 เทอม 2 รึเปล่าไม่มั่นใจค่ะ เราก็ทักแชท FB รองของ ก ไป
ซึ่ง ก จะมี FB 2 อัน คือหลักที่แอดเฟรนด์เพื่อนกับคนรู้จักทั่วๆไป กับรองที่มีเฉพาะเพื่อนสิบกว่าคน
เราก็บอกไปตามความรู้สึกเลยว่าเราไม่โอเคนะ เรารู้สึกแย่มากเวลา ก มาพูดแซะเราทุกๆครั้งที่เจอกันต่อหน้าเพื่อนคนอื่น
แรกสุดเลยก็พอขำ แต่พอโดนประจำเราไม่ขำแล้ว และยิ่งเรื่องที่ ก เอาไปพูดมันเป็นเรื่องส่วนตัวแล้วเราไม่ได้อยากให้คนอื่นรู้ด้วย
เราพิมพ์แชทไปยาวเหยียด พอวันรุ่นขึ้นเข้าดู FB อีกที ก เอา FB รองลบเราออกจากเฟรนด์ลิสต์แถมบล็อคให้ด้วย 55
แต่ยังมี FB หลักที่ ก ไม่ได้บล็อคเรา แต่เราก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไร
ช่วงนั้นต่างคนต่างอยู่กันคนละที่ พอผ่านไปเป็นเดือนๆ ชาวดาวอังคารมาเจอกันอีกที ก ก็ดูเหมือนจะดีขึ้นหน่อย แล้วต่างคนก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่มันก็วนลูปอีก
ก กลับมาพูดกับเราอย่างเดิม เพิ่มเติมอีกคือพอเราจะพูดอะไร ออกความเห็นอะไร หรือถามอะไรก็ตาม
ก ก็จะพูดกับเราว่า "เรื่องของเ_ิง"
เป็นทุกๆ ครั้งไป
และ ก ไม่พูดแบบนี้กับชาวดาวอังคารคนอื่น
แน่ว่า ก ไม่ถึงขั้นสุภาพกับคนอื่นหรอก แต่ไม่แซะใครเหมือนทำกับเราแน่นอน
ตอนนั้นก็เริ่มคิดว่าหรือ ก ไม่ชอบหน้าเรา หรือไม่พอใจอะไรรึเปล่า
บางอย่างก็พอทำเนา
เมื่อชวนเพื่อนดาวอังคารไปกินเนื้อย่าง
ครั้งที่1
เรา : ไปกินเนื้อย่างกัน
ก : เ_ิงเลี้ยง
ครั้งที่2 เดือนถัดมา
เรา : ไปกินเนื้อย่างกัน
ก : เ_ิงเลี้ยง
ครั้งที่3 เดือนถัดมาอีก
เรา : ไปกินเนื้อย่างกัน
ก : เ_ิงเลี้ยง
ครั้งที่4 ปีถัดมา
เรา : ไปกินเนื้อย่างกัน
ก : เ_ิงเลี้ยง
คือพอเราชวนอะไรปุ๊บ ก ต้องพูด เ_ิงเลี้ยง ซะทุกครั้ง หน้าตาจริงจังด้วยนะ
เราก็จบด้วย ไม่มีเงินเลี้ยงเพื่อน เลี้ยงได้แต่ตัวเอง 55
จากนั้นเราก็ไม่ชวนใครไปกินเนื้อย่างอีกเลย
วันนึงไปเจอ ก ที่เซเว่น
ก ก็ชวนเราไปล่องแพที่อำเภอข้างๆ แต่เราปฏิเสธไปเพราะดูเหมือนฝนจะตก (ซึ่งฝนก็ตกจริงๆ) กับ ก ชวนหนุ่ม ขรก. ที่เราไม่รู้จักไปด้วย ไม่อยากเป็น กขค 55
ตอนจ่ายเงินตรงเคาเตอร์ ก ก็ควักกระเป๋าเงินออกมาจะจ่ายเงินนี่แหละค่ะ แล้วก็คลี่ช่องธนบัตรที่มีใบพันหลายใบอวดเรา เนี่ยจองแพไว้แล้วไปด้วยกันมั้ย
เราก็หงึกหน้าทีนึงบอกไม่อ่ะ ตามสบาย ไปเลยๆ
นึกในใจว่าเพิ่งเคยเห็นคนอวดเงินในกระเป๋านี่แหละ ปกติเจอแต่คนอวดไม่มีเงินแล้วจริงๆ เราก็หนึ่งในนั้น 55
ปีที่แล้วช่วงจะจบมหาลัย พอเดือนพฤษภาแต่ละคนในแก๊งดาวอังคารต่างก็ทำวิจัยเสร็จ อนุมัติจบกันไปเรียบร้อยแล้ว
เหลือแค่เราค่ะ ในตอนนั้นคือช่วงไฟนอลของมหาลัยเราพอดี เราก็ส่งโปรเจคชิ้นสุดท้าย พอผ่านถึงจะสามารถเพิ่มเนื้อหาลงไปในเล่มจบและเริ่มส่งตรวจฝ่ายวิชาการได้
ซึ่งเราก็ใช้เวลาส่งๆแก้ๆ ตีกลับไปไม่รู้กี่รอบ กว่าจะได้พิมพ์เล่มจบคือปลายกรกฎา ค่อยต่อด้วยยื่นเอกสารทำเรื่องจบได้อนุมัติปลายสิงหา
ก ก็จะพูดแซะเราตลอดว่า เนี่ย เหลือแต่เ_ิง เนี่ย จบยังๆๆๆๆ
พอคนอื่นในแก๊งคุยกันเรื่องสอบขรก.บ้างอะไรบ้าง หางานเอกชนบ้าง พอเราจะออกความเห็นอะไร ก ก็จะพูดตลอดว่า เ_ิงจบแล้วเหรอ
คนอื่นถามว่าเรารับปริญญาวันไหน
เรา : 15 ธันวาอ่ะ
ก ก็จะพูดแทรกทันที เ_ิงจบแล้วเหรอ
คนอื่นถามว่าชุดครุยเราเช่าหรือตัดใหม่
เรา : ไม่ได้อ่ะ ต้องตัดกับมหาลัยอย่างเดียวไม่งั้นเข้างานไม่ได้ มันฝังชิปข้อมูลเจ้าของไว้สแกนหน้างาน
ก ก็ทำหน้ามองบนแบบเหยียดหน่อยๆ พร้อมพูด "เหรออออออออออ โหย แม่_ฝังชิปเลยว่ะ"
(ตอนได้ยินเรานี่แอบขึ้นเหมือนกันนะคะ แบบมีปัญหาอะไรกับมหาลัยเรารึเปล่า ฟีลลิ่งรักสถาบันมาเต็มๆ 55)
เรา : เพื่อน ข จะแต่งงานแล้วอ่ะ คนแรกของรุ่นเลย เตรียมชุดไปงานกันยัง เอายังไงดี
ก : เรื่องของเ_ิง
(ขนาดเราถามจริงจัง ก ก็จะพูดว่า เรื่องของเ_ิง ตลอด จนเราเลิกพูดแล้วค่ะ)
เรื่องที่เราเคยเล่าให้ ก ฟังไปตั้งแต่ม.6 ตั้งแต่ 2012 จนปีนี้ ก ยังพูดแซะได้ทุกครั้งที่เจอกัน
ปีก่อนก็พูด เ_ิงจบแล้วเหรอ ลากยาวมาจนปีนี้
พูด เรื่องของเ_ิง ทุกๆ ครั้งที่เราถามเราพูด เราอยากได้ความเห็นก็ได้คำตอบแบบนี้มา
จนเดือนก่อน หลังจากชาวดาวอังคารนัดเจอกัน
เราก็ยังคงโดน ก พูดแบบเดิมไม่เปลี่ยน
วันถัดมาเรารวบรวมความรู้สึก พิมพ์บอก ก ในแชทว่าเรารู้สึกแย่มากกับที่ ก ทำกับเรา
พิมพ์ไปค่อนข้างยาวค่ะ สุภาพ ไม่คอมเพลน ไม่ได้โกรธ แค่บอกเล่าว่า "เรารู้สึกไม่โอเค" และติๆ ไปด้วยหน่อยว่าที่ ก เป็นแบบนี้ มันจะเป็นปัญหาในอนาคต กับชาวดาวอังคารอาจไม่ได้คิดอะไรมากเพราะสนิทกันมานาน เลยปล่อยๆ ไป แต่คนอื่นเค้าไม่ได้คิดแบบนั้น
กดส่งเสร็จแล้วก็นอนค่ะ พอตื่นเช้ามาเข้า FB ดู ก ก็ตอบกลับมาเช่นกัน และบล็อคเราไปแล้วด้วย
อ้าว ไหงงั้น
มาอ่านดูว่า ก ตอบเรามาว่ายังไง
-นี่เป็นสาเหตุให้เ_ิง ไม่ค่อยมาหาเพื่อนใช่มั้ย ((ถูกเลยค่ะ ฮา))
-ขอโทษที่ทำตามที่พูดไม่ได้ ((จากที่เราเคยบอกไปครั้งแรกตอนปี 2)) ขอโทษที่ทำให้ต้องมาเกลือกกลั้วกับคนแย่ๆแบบก ู
-แค่หยอกๆ
-ใครจะไปรู้กับเ_ิง สีหน้าเ_ิงอ่านยากจะตาย ((อ้าว แล้วที่เคยบอกไปครั้งแรกแล้วล่ะ))
-ก ู รักเมิงไง ไม่สนิทไม่ทำนะ ((กับชาวดาวอังคารสนิทกว่าเราด้วยซ้ำ เรื่องส่วนตัว ก เล่าให้คนอื่นฟังแต่ไม่ได้มาบอกเรา))
-บ่นเรื่องเราชอบกลับบ้านก่อนคนอื่น อยู่ดึกไม่ได้ ((บ้านไกลกว่าคนอื่น พ่อแม่โทรจี้เป็น10สาย))
-เสียดายเวลาดีๆ ร่วมกัน
-จบแค่นี้ ขอให้เ_ิงไปดี
พอ ก บล็อคเราไป เราเลยพิมพ์ตอบโดยฝากเพื่อนดาวอังคารอีกคนไป แต่สรุป เพื่อนคนดังกล่าวไม่ส่งให้เพราะกลัวว่าสถานการณ์จะแย่ลง
และพยายามประนีประนอมกับเราค่ะ
เราเลยบอกเพื่อน ค (ละกัน) ไปว่า
เราไม่ใช่ฝ่ายเลือกแยกย้ายนะ คนที่ไปน่ะ ก เองไม่ใช่เหรอ ถ้า ก ไม่บล็อคเราแล้วคุยกันด้วยเหตุผลตั้งแต่แรกมันจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า
ที่เราบอกเพราะเราคิดว่าเรากับ ก คุยด้วยเหตุผลกันได้ แต่ละคนก็อายุ23-24กันแล้ว ไม่ใช่เด็กน้อยแล้วนะ
สนิทกันจริง ถ้าอันไหนไม่ดี อันไหนไม่ชอบก็ต้องบอกต้องคุยกันได้ไม่ใช่เหรอ
เพื่อน ค กลับมาถามเราอีกว่าเราอยากให้ ก เป็นยังไง
เราบอกว่าที่เราพิมพ์ไปคือแค่อยากให้ ก เพลาๆ อาการแซะเราลงเท่านั้นแหละ แต่ผลมันกลับได้แบบนี้ เรานึกไม่ถึงด้วยซ้ำ
แต่ ค หรือคนอื่นไม่ต้องซีเรียสปัญหานี้หรอก
เพราะตอนนี้เราก็ยังมอง ก เป็นเพื่อนอยู่ ก ต่างหากที่แยกเราไปเอง
แค่เราได้พูดความรู้สึกจริงๆ แล้ว เราทนมาหลายปีแล้ว
บอกตามตรงเราไม่เสียใจ ไม่เสียดายอะไรเลย โล่งหัวสุดๆ
จูนกันให้ตรงไม่ได้ก็ทางใครทางมัน
ถ้า ก คิดจะกลับมาเป็นเพื่อนกับเรา เราก็ไม่ว่าอะไร
แต่เราจะไม่เป็นฝ่ายยอมไปง้อเด็ดขาดเพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด
ก็ผ่านเหตุการณ์มาเดือนแล้วล่ะค่ะ เงียบกันทั้งเรา ทั้ง ก
ก ปกติเป็นคนไม่ยอมใคร แต่หนีหายเราไม่เคลียร์อะไรแล้ว
แต่เราก็คิดว่าดีเหมือนกัน เพราะดูแล้วที่ผ่านมาไม่เคยมีใครพูดเรื่องนิสัยกับ ก ตรงๆ เพราะส่วนใหญ่เห็นแล้วจะไม่อยากวอแวด้วย
ถ้ามันทำให้ ก ฉุกคิดอะไรขึ้นได้เราว่าก็ดีเหมือนกัน
หรือเพราะเป็นเราที่โดนหนักคนเดียวแล้วยังทนมาหลายปีจนถึงขีดสุดแล้วก็ไม่รู้ เลยบอกไป
สำหรับเรา "สนิท" เนี่ย
เล่นได้ หยอกได้ อย่างช่วงต้นเดือนเราแบ็คแพ็คไปเที่ยวเชียงรายคนเดียว เพื่อนดาวอังคารยังแซวเล่นว่าอย่าไปติดถ้ำนะ แบบขำๆ ฮาๆ เรายังผสมโรงด้วยเลย
แต่ต้องมีลิมิต รู้ว่าอะไรควรเล่น อะไรไม่ควรเล่น เวลาไหนควรพูดไม่ควรพูด
ยิ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่น มันไม่ใช่เรื่องเอามาคุยเหมือนป่าวประกาศกระแนะกระแหนแบบที่ ก ทำกับเรา
ข้อนี้แหละค่ะที่ทำให้เรากังขา ก มากว่านี่คือเจตนาดีจริงเหรอ
ถึงเพื่อนๆ พันทิปที่อ่านถึงตรงนี้คิดว่า ก แค่ "หยอกเอิน" เราจริงรึเปล่าคะ