ฉบับที่ ๓๕ วันพฤหัสดีที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑

เรื่อง ถ้ำ 4 ปี ไทยปรองดองเหมือนครอบครัว กับถ้ำ 9 วัน รักและอยากเป็นพี่ซีล สะท้อนหลักธรรม?
เพียง 9 วัน เท่านั้น สามารถสร้างความรักความผูกพันได้เพียงนี้ ก็ไม่ต้องแปลกใจผู้ให้ชีวิตย่อมได้ชีวิต ผู้ให้ใจย่อมได้ใจ ดั่งครอบครัวที่มีความผูกพัน พ่อ แม่ ลูก ฉันนั้น
แล้วทำไมถึงให้ใจได้ขนาดนั้น ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน จากบทสัมภาษณ์ สัมผัสได้ถึง การตั้งจิตปรารถนาของหมอและพี่ซีลว่า ตนเองก็มีลูก จึงเข้าใจหัวอกความเป็นพ่อ ที่รักลูกมากขนาดไหน น้องๆที่ติดถ้ำมีอายุประมาณลูกของตนด้วยจึงสวมหัวใจเหมือนลูกของตนนั่นเอง เมื่อคิดดั่งนี้แล้ว วิธีการต่างๆก็ตามมามากมาย “ไม่พบไม่กลับ ต้องนำออกให้ได้” ระหว่าง 9 วันที่อยู่ด้วยกัน ทั้งให้ของกิน ขนม คำพูด ความอบอุ่น ช่วยเหลือ ดูแลทุกอย่างด้วยไมตรีจิต
ที่สำคัญได้ให้อย่างไร้อคติ จากเหตุการณ์จะนำใครออกก่อน ก็พิจารณาอย่างสมเหตุสมผล ใครออกก่อนก็ได้!!! เพราะทุกคนแข็งแรงเท่ากัน จึงเลือกคนบ้านไกลก่อน สุดยอด!!!
หากถอดบทเรียนข้อคิดตรงนี้กับเหตุบ้านการเมืองที่อยากให้คนไทยปรองดองกัน ทำอย่างไร ติดในถ้ำด้วยกันไหม ความจริงก็ติดมา 4 ปีแล้ว (555มีคนบอกมา) แต่ทำไมยังไม่รักกัน ก็เพราะผู้ช่วยเหลือนั้นยังไม่ได้ให้ใจ ให้ความรักความอบอุ่นที่แท้จริง ยังเลือกที่รักมักที่ชังอยู่ใช่หรือไม่ ความรักที่ได้รับจึงเป็นเฉพาะกลุ่ม ไม่เป็นไปโดยภาพรวม เป็นเพียง”พรรคพวกหนึ่งผู้ใด ใครผู้หนึ่ง” ที่พร้อมจะปกป้องช่วยเหลือทุกอย่าง จึงเป็นความรักเอียงข้าง แต่อีกกลุ่มกลับไม่ได้ความรักแบบนั้นเลย มิหนำซ้ำเป็นการกระทำที่ตรงกันข้าม และลุกลามถึงศาสนาใช่หรือไม่ ?
ให้ของก็ไม่ให้ กลับให้ขัง คำพูดไมตรีจิตก็ไม่ให้ กลับให้ไม้ตีจิต ช่วยเหลือก็ไม่ให้กลับให้ของเหลือช่วย ทำอย่างนี้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย แล้วเราจะปรองดองกันมั้ย? หากพิจารณาหลักธรรม เหตุการณ์นี้ที่ทำให้ผูกผันกัน รักกันดั่งครอบครัว ผู้เขียนจึงนึกถึงเรื่อง “สังคหวัตถุ 4”
สังคหวัตถุ แปลว่า ธรรมที่เป็นที่ตั้งแห่งการสงเคราะห์กัน, ธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจกัน หมายถึง หลักการครองใจคน, หลักยึดเหนี่ยวใจกันไว้, วิธีทำให้คนรัก, หลักสังคมสงเคราะห์ ซึ่งเป็นเครื่องประสานใจและเหนี่ยวรั้งใจคนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ และทำให้อยู่กันด้วยความรักความปรารถนาดีต่อกัน เหมือนลิ่มสลักรถที่ตรึงตัวรถไว้มิให้ชิ้นส่วนกระจายไป ทำให้รถแล่นไปได้ตามที่ต้องการ
สังคหวัตถุมี 4 ประการ คือ
1. ทาน การให้ การเสียสละ การแบ่งปันเพื่อประโยชน์แก่คนอื่น ช่วยปลูกฝังให้เป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัว แบ่งปันกัน (แบ่งปันไปมา)
2. ปิยวาจา การพูดจาด้วยถ้อยคำไพเราะอ่อนหวาน จริงใจ ไม่พูดหยาบคายก้าวร้าว พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เหมาะกับกาลเทศะ พูดดีต่อกัน (พูดจาจับใจ)
3. อัตถจริยา ช่วยเหลือกัน (ช่วยกิจกันไป)
4. สมานัตตา การเป็นผู้มีความสม่ำเสมอ โดยประพฤติตัวให้มีความเสมอต้นเสมอปลาย วางตัวดีต่อกัน (นิสัยเป็นกันเอง)
ทุกท่านคิดเห็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความความรู้กันใน Comment Facebook, YouTube, Blog, Line, IG, Twitter, pantip ...กันนะครับ ขอบคุณครับ
B.S.
19 ก.ค. 2561
ตอน ถ้ำ 4 ปี ไทยปรองดองเหมือนครอบครัว กับถ้ำ 9 วัน รักและอยากเป็นพี่ซีล สะท้อนหลักธรรม? เวลา 14.00-14.20 น.
https://youtu.be/GRc-bhMy7B4
ถ้ำ 4 ปี ไทยปรองดองเหมือนครอบครัว กับถ้ำ 9 วัน รักและอยากเป็นพี่ซีล สะท้อนหลักธรรม?
เพียง 9 วัน เท่านั้น สามารถสร้างความรักความผูกพันได้เพียงนี้ ก็ไม่ต้องแปลกใจผู้ให้ชีวิตย่อมได้ชีวิต ผู้ให้ใจย่อมได้ใจ ดั่งครอบครัวที่มีความผูกพัน พ่อ แม่ ลูก ฉันนั้น
แล้วทำไมถึงให้ใจได้ขนาดนั้น ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน จากบทสัมภาษณ์ สัมผัสได้ถึง การตั้งจิตปรารถนาของหมอและพี่ซีลว่า ตนเองก็มีลูก จึงเข้าใจหัวอกความเป็นพ่อ ที่รักลูกมากขนาดไหน น้องๆที่ติดถ้ำมีอายุประมาณลูกของตนด้วยจึงสวมหัวใจเหมือนลูกของตนนั่นเอง เมื่อคิดดั่งนี้แล้ว วิธีการต่างๆก็ตามมามากมาย “ไม่พบไม่กลับ ต้องนำออกให้ได้” ระหว่าง 9 วันที่อยู่ด้วยกัน ทั้งให้ของกิน ขนม คำพูด ความอบอุ่น ช่วยเหลือ ดูแลทุกอย่างด้วยไมตรีจิต
ที่สำคัญได้ให้อย่างไร้อคติ จากเหตุการณ์จะนำใครออกก่อน ก็พิจารณาอย่างสมเหตุสมผล ใครออกก่อนก็ได้!!! เพราะทุกคนแข็งแรงเท่ากัน จึงเลือกคนบ้านไกลก่อน สุดยอด!!!
หากถอดบทเรียนข้อคิดตรงนี้กับเหตุบ้านการเมืองที่อยากให้คนไทยปรองดองกัน ทำอย่างไร ติดในถ้ำด้วยกันไหม ความจริงก็ติดมา 4 ปีแล้ว (555มีคนบอกมา) แต่ทำไมยังไม่รักกัน ก็เพราะผู้ช่วยเหลือนั้นยังไม่ได้ให้ใจ ให้ความรักความอบอุ่นที่แท้จริง ยังเลือกที่รักมักที่ชังอยู่ใช่หรือไม่ ความรักที่ได้รับจึงเป็นเฉพาะกลุ่ม ไม่เป็นไปโดยภาพรวม เป็นเพียง”พรรคพวกหนึ่งผู้ใด ใครผู้หนึ่ง” ที่พร้อมจะปกป้องช่วยเหลือทุกอย่าง จึงเป็นความรักเอียงข้าง แต่อีกกลุ่มกลับไม่ได้ความรักแบบนั้นเลย มิหนำซ้ำเป็นการกระทำที่ตรงกันข้าม และลุกลามถึงศาสนาใช่หรือไม่ ?
ให้ของก็ไม่ให้ กลับให้ขัง คำพูดไมตรีจิตก็ไม่ให้ กลับให้ไม้ตีจิต ช่วยเหลือก็ไม่ให้กลับให้ของเหลือช่วย ทำอย่างนี้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย แล้วเราจะปรองดองกันมั้ย? หากพิจารณาหลักธรรม เหตุการณ์นี้ที่ทำให้ผูกผันกัน รักกันดั่งครอบครัว ผู้เขียนจึงนึกถึงเรื่อง “สังคหวัตถุ 4”
สังคหวัตถุ แปลว่า ธรรมที่เป็นที่ตั้งแห่งการสงเคราะห์กัน, ธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจกัน หมายถึง หลักการครองใจคน, หลักยึดเหนี่ยวใจกันไว้, วิธีทำให้คนรัก, หลักสังคมสงเคราะห์ ซึ่งเป็นเครื่องประสานใจและเหนี่ยวรั้งใจคนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ และทำให้อยู่กันด้วยความรักความปรารถนาดีต่อกัน เหมือนลิ่มสลักรถที่ตรึงตัวรถไว้มิให้ชิ้นส่วนกระจายไป ทำให้รถแล่นไปได้ตามที่ต้องการ
สังคหวัตถุมี 4 ประการ คือ
1. ทาน การให้ การเสียสละ การแบ่งปันเพื่อประโยชน์แก่คนอื่น ช่วยปลูกฝังให้เป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัว แบ่งปันกัน (แบ่งปันไปมา)
2. ปิยวาจา การพูดจาด้วยถ้อยคำไพเราะอ่อนหวาน จริงใจ ไม่พูดหยาบคายก้าวร้าว พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เหมาะกับกาลเทศะ พูดดีต่อกัน (พูดจาจับใจ)
3. อัตถจริยา ช่วยเหลือกัน (ช่วยกิจกันไป)
4. สมานัตตา การเป็นผู้มีความสม่ำเสมอ โดยประพฤติตัวให้มีความเสมอต้นเสมอปลาย วางตัวดีต่อกัน (นิสัยเป็นกันเอง)
ทุกท่านคิดเห็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความความรู้กันใน Comment Facebook, YouTube, Blog, Line, IG, Twitter, pantip ...กันนะครับ ขอบคุณครับ
B.S.
19 ก.ค. 2561
ตอน ถ้ำ 4 ปี ไทยปรองดองเหมือนครอบครัว กับถ้ำ 9 วัน รักและอยากเป็นพี่ซีล สะท้อนหลักธรรม? เวลา 14.00-14.20 น. https://youtu.be/GRc-bhMy7B4