รายได้ มันก็มีผลต่อความสุขจริงๆนั่นแหล่ะ
เท่าที่สังเกต และ ทีเห็นมาๆ โดยส่วนใหญ่นะ เกือบจะทั้งหมด ไม่ได้มีรายได้มาก ที่พอกินไร ตามใจปาก เที่ยวตามใจชอบได้ แล้วก็เพราะแบบนี้ มันก็เลยทำให้ชีวิตไม่ค่อยจะมีสุขเท่าไหร่ เพราะจะกิน จะใช้อะไร ก็ต้องคิดแล้ว คิดอีก ซึ่งโดยส่วนมาก ก็เป็นแค่มนุษย์เงินเดือน เงินเดือน ประมาณหมื่นต้นๆเท่านั้น ส่วนพวกที่เงินเดือนเยอะ ถ้าไม่ใช่ลูกเจ้าของ บริษัท วันๆก็ต้องอยู่ในออฟฟิต ไม่มีเวลาของตัวเอง แน่นอน มันไม่มีสุขหรอก แม้เงินเดือนจะมาก แต่ขาดอิสระ แล้วไหนจะต้องภาระ ผ่อนมือถือ คอนโด รถอีก แล้วต้องจ่ายค่าอุปการะคุณ ของคนที่ส่งเสีย (ส่วนมากก็ไม่ได้ส่ง หรือ เลี้ยงดีๆหรอก เอาแค่ใช้สิทธิ์ คนให้กำเนิด)
แล้วงานส่วนใหญ่ มันก็นอกจากรายได้ไม่เยอะแล้ว มันยังจะโดนหักค่านั่นนี่อีก เช่น ถ้า ไปเช่าแท็กซี่ขับ สมมติว่า ต้องจ่าย วันละ 2,000 วันนึงก็ต้องทำยอดให้มากกว่า 2 พัน แต่ปรากฎ คนขับกันเยอะ แย่งลูกค้ากัน ไหนจะแท็กซี่ส่วนบุคคลอีก โอว เรียกได้ว่า อยู่โคตรยาก ยิ่งถ้าบ้านเช่าเขาอีก ไหนจะค่าเทอมลูกอีก แถมต้องนอนวันละไม่ถึง 3 ชม เป็นไรที ก็ ตาย ตาย ตาย
ไม่ก็ไปถักนิดติ้ง ล้างจาน ล้างห้องน้ำ หรือ ทำพวกงานฝีมือ ไม่ก็เด็กเสริ์ฟ รายได้ก็ไม่ได้สูงนะ แถมดันไปมีลูก มีผัว (มีเมีย)อีก ค่าใช้จ่ายแต่ละวันมากโข บางคนหนัก วันๆไม่พอกิน (-) ดันไปเลี้ยงหมา ค่าอาหารเดือนก็หลายพัน สรุป ไม่เหลืออะไร แถมเป็นหนี้สินอีก เพราะต้องจ่ายค่าเช่า ผ่อนนั่นนี่ สุดท้ายผ่อนไม่ไหว ก็ต้องขายทิ้งถูกๆ ... ลำบากแท้ชีวิตคนสมัยนี้
ยังไง ถ้ายังเรียนอยู่ ขอให้เก็บออม ใช้ตอนจำเป็นเท่านั้น พยายามศึกษาเยอะๆ เพื่อที่จะได้ดูว่า หากวันนึงหางานไม่ได้ จะหาอะไรทำได้บ้าง ส่วนคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ก็พยายามทำให้นานที่สุด เพราะออกไป จะทำธุรกิจ แบบพวกลูกคนมีฐานะ มันก็ไม่ยากนะ เดี่ยวนี้ คนทำเจ้งก็เยอะ ขนาดบ้านมีตังค์
แล้วก็อย่าวัดค่า จากความสำเร็จ ที่สังคมบอก ว่าจะต้องมีนันนี่ ชีวิตถึงจะมีสุข เพราะเอาเข้าจริง มันมีคนส่วนน้อยมากๆ ที่จะสำเร็จ เอาแค่ว่า คุณมีความสุข ในแต่ละวัน กับ สิ่งที่มีได้ก็ยอดมากแล้ว
*** ตายไปก็ต้องทิ้งทุกอย่างไปหมดนะ อย่าลืม
***ไม่ได้จะให้อคติ แต่ชีวิต มันยากจริงๆ จึงอยากให้อดทน ถ้าคิดว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ ช่วยปักหมุด
(น่าคิด 19-07-61)
รายได้ มันก็มีผลต่อความสุขจริงๆนั่นแหล่ะ
เท่าที่สังเกต และ ทีเห็นมาๆ โดยส่วนใหญ่นะ เกือบจะทั้งหมด ไม่ได้มีรายได้มาก ที่พอกินไร ตามใจปาก เที่ยวตามใจชอบได้ แล้วก็เพราะแบบนี้ มันก็เลยทำให้ชีวิตไม่ค่อยจะมีสุขเท่าไหร่ เพราะจะกิน จะใช้อะไร ก็ต้องคิดแล้ว คิดอีก ซึ่งโดยส่วนมาก ก็เป็นแค่มนุษย์เงินเดือน เงินเดือน ประมาณหมื่นต้นๆเท่านั้น ส่วนพวกที่เงินเดือนเยอะ ถ้าไม่ใช่ลูกเจ้าของ บริษัท วันๆก็ต้องอยู่ในออฟฟิต ไม่มีเวลาของตัวเอง แน่นอน มันไม่มีสุขหรอก แม้เงินเดือนจะมาก แต่ขาดอิสระ แล้วไหนจะต้องภาระ ผ่อนมือถือ คอนโด รถอีก แล้วต้องจ่ายค่าอุปการะคุณ ของคนที่ส่งเสีย (ส่วนมากก็ไม่ได้ส่ง หรือ เลี้ยงดีๆหรอก เอาแค่ใช้สิทธิ์ คนให้กำเนิด)
แล้วงานส่วนใหญ่ มันก็นอกจากรายได้ไม่เยอะแล้ว มันยังจะโดนหักค่านั่นนี่อีก เช่น ถ้า ไปเช่าแท็กซี่ขับ สมมติว่า ต้องจ่าย วันละ 2,000 วันนึงก็ต้องทำยอดให้มากกว่า 2 พัน แต่ปรากฎ คนขับกันเยอะ แย่งลูกค้ากัน ไหนจะแท็กซี่ส่วนบุคคลอีก โอว เรียกได้ว่า อยู่โคตรยาก ยิ่งถ้าบ้านเช่าเขาอีก ไหนจะค่าเทอมลูกอีก แถมต้องนอนวันละไม่ถึง 3 ชม เป็นไรที ก็ ตาย ตาย ตาย
ไม่ก็ไปถักนิดติ้ง ล้างจาน ล้างห้องน้ำ หรือ ทำพวกงานฝีมือ ไม่ก็เด็กเสริ์ฟ รายได้ก็ไม่ได้สูงนะ แถมดันไปมีลูก มีผัว (มีเมีย)อีก ค่าใช้จ่ายแต่ละวันมากโข บางคนหนัก วันๆไม่พอกิน (-) ดันไปเลี้ยงหมา ค่าอาหารเดือนก็หลายพัน สรุป ไม่เหลืออะไร แถมเป็นหนี้สินอีก เพราะต้องจ่ายค่าเช่า ผ่อนนั่นนี่ สุดท้ายผ่อนไม่ไหว ก็ต้องขายทิ้งถูกๆ ... ลำบากแท้ชีวิตคนสมัยนี้
ยังไง ถ้ายังเรียนอยู่ ขอให้เก็บออม ใช้ตอนจำเป็นเท่านั้น พยายามศึกษาเยอะๆ เพื่อที่จะได้ดูว่า หากวันนึงหางานไม่ได้ จะหาอะไรทำได้บ้าง ส่วนคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ก็พยายามทำให้นานที่สุด เพราะออกไป จะทำธุรกิจ แบบพวกลูกคนมีฐานะ มันก็ไม่ยากนะ เดี่ยวนี้ คนทำเจ้งก็เยอะ ขนาดบ้านมีตังค์
แล้วก็อย่าวัดค่า จากความสำเร็จ ที่สังคมบอก ว่าจะต้องมีนันนี่ ชีวิตถึงจะมีสุข เพราะเอาเข้าจริง มันมีคนส่วนน้อยมากๆ ที่จะสำเร็จ เอาแค่ว่า คุณมีความสุข ในแต่ละวัน กับ สิ่งที่มีได้ก็ยอดมากแล้ว
*** ตายไปก็ต้องทิ้งทุกอย่างไปหมดนะ อย่าลืม
***ไม่ได้จะให้อคติ แต่ชีวิต มันยากจริงๆ จึงอยากให้อดทน ถ้าคิดว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ ช่วยปักหมุด
(น่าคิด 19-07-61)