คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เคสแรก
มาตรา 72 ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุ อันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ คือจะตัดสินให้จำคุกวันเดียว หรือ 20 ปี หรือมากกว่านี้ก็ได้ แต่ให้โทษน้อยกว่าประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
เคสสอง ปล้นฆ่า
มาตรา 340 วรรค 5 ถ้าการปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต
เคสสาม ผมคิดว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ ไม่ใช่ปล้นทรัพย์
มาตรา 339 วรรค 6 ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้อง ระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
มาตรา 199 ผู้ใดลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย ต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถึงแม้จะผิด 2 กระทง แต่รับโทษเต็มที่คือประหารชีวิต หรือ จำคุกตลอดชีวิต ตามความผิดฆ่าชิงทรัพย์
สรุป เคสสอง โทษมากสุด เพราะโทษประหารชีวิตอย่างเดียว ไม่มีโทษอื่นสำหรับความผิดนี้ เคสแรก โทษเบาสุด เพราะศาลอาจลดโทษเหลือจำคุกวันเดียวก็ได้
มาตรา 72 ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุ อันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ คือจะตัดสินให้จำคุกวันเดียว หรือ 20 ปี หรือมากกว่านี้ก็ได้ แต่ให้โทษน้อยกว่าประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
เคสสอง ปล้นฆ่า
มาตรา 340 วรรค 5 ถ้าการปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต
เคสสาม ผมคิดว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ ไม่ใช่ปล้นทรัพย์
มาตรา 339 วรรค 6 ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้อง ระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
มาตรา 199 ผู้ใดลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย ต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถึงแม้จะผิด 2 กระทง แต่รับโทษเต็มที่คือประหารชีวิต หรือ จำคุกตลอดชีวิต ตามความผิดฆ่าชิงทรัพย์
สรุป เคสสอง โทษมากสุด เพราะโทษประหารชีวิตอย่างเดียว ไม่มีโทษอื่นสำหรับความผิดนี้ เคสแรก โทษเบาสุด เพราะศาลอาจลดโทษเหลือจำคุกวันเดียวก็ได้
แสดงความคิดเห็น
สอบถามการลงโทษของกฎหมายที่เกี่ยวกับการฆ่าคน
นาย A ฆ่านาย B เพราะต้องการ แก้แค้น เช่น นาย B ไปลงมือข่มขืน ลูกสาว นาย A หริออื่นๆ
นาย A ฆ่านาย B โดยทำการ ปล้น ก่อนแล้วค่อย ฆ่า
นาย A ฆ่านาย b โดยทำการฆ่าแล้วค่อยปล้น จากนั้นทำลายศพ เช่น ราดน้ำมันแล้วเผา
ทั้ง 3 อันนี้ อันไหนมีโทษมากว่ากันครับ
* เหมือน จขกท. จะเคยได้ยินมาว่าถ้าฆ่าเพราะความแค้น จะมีโทษเบาที่สุดใน 3อันนี้ เพราะว่าโดนกระตุ้น รองลงมาน่าจะ ฆ่าปล้น สุดท้ายก็ปล้นฆ่าหนักสุด
* จขกท อยากรู้เฉยๆ ไม่ได้จะวางแผนอะไร