#7daysเรารักกันจันทร์ถึงอาทิตย์ - ตัวอย่างของสิ่งที่คาดว่าจะแย่ แต่ไม่แย่อย่างที่คิด เพราะทั้งเรื่องแรงบันดาลใจ??? รวมถึงท่ายากของการแสดง ทำให้หวั่นใจมากๆ แต่ผลที่ออกมานั้นดูได้ ไม่ขี้เหร่ ถึงแม้มันจะเซฟๆหน่อยก็เถอะ ชอบ part ทำอาหาร ทำออกมาดีมาก

สวัสดีครับ เมื่อวานนี้ ผมก็ได้มีโอกาสชมหนังไทยเรื่อง "7 Days เรารักกัน จันทร์ - อาทิตย์" ในรอบสื่อมวลชน ขอขอบคุณทาง TECH THAILAND และค่ายสหมงคลฟิล์ม มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
"7 Days เรารักกัน จันทร์ - อาทิตย์" เป็นหนังไทยเรื่องล่าสุด ผลงานของผู้กำกับ “ปี๊ด ปัญจพงศ์ คงคาน้อย” ที่มีผลงาน อย่าง "ชัมบาลา" และ "รักของเรา the moment" โดยดึงนักแสดงมาร่วมงานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “กันต์ กันตถาวร” “มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน” “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” “สตาร์บัคส์ พงศ์พิชญ์” “บอย ตรัย ภูมิรัตน” “เชฟป้อม ม.ล ขวัญทิพย์ เทวกุล” “อาต๋อง เทวัญ ทรัพย์แสนยากร” "เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์" และอีกมากมาย เรียกว่านักแสดงมากันล้นจอเลยทีเดียว
แต่พอหนังปล่อยตัวอย่างออกมา ทันทีเลยว่า หนังเรื่องนี้ มีกระแสที่สงสัยกันมากมายว่า ทำไมพล็อตมันถึงดูคับคล้ายคับคลากับหนังเกาหลีเรื่อง Beauty Inside เสียเหลือเกิน หรือว่าเขาซื้อมารีเมค หรือยังไง หรือสุดท้าย ก็คงเป็นแรงบันดาลใจ เอาแบบนี้ละกัน แต่บอกเลยครับว่า ผมหวั่นใจมาก เพราะนอกจากเรื่องพล็อตแล้ว ยังมีสิ่งที่เป็นท่ายากระดับสูงสุดของการแสดงและการกำกับอยู่ในหนังเรื่องนี้ คือการให้ทุกตัวละคร เล่นเป็นตัวละครหลักตัวเดียวกัน โดยไม่หลุดความเป็นตัวตนออกมา เรียกว่าเล่นกันหนักหนาสาหัสเลยทีเดียว ลองดูใน "20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น" ก็ได้ครับ อันนั้นแค่ตัวละครเดียว ลองนึกถึงทำแบบเดียวกัน 7 ตัวละคร ต่างวัย.... เอาเป็นว่า กล้าทำ ก็กล้าดูล่ะครับ
ช่วงแรก ดูเหมือนหนังมีวิธีบิดเรื่องค่อนข้างดี ทำให้ไม่ต้องเน้นหรือไปโฟกัสกับการแสดงของนักแสดงมากนัก เพราะหนังมีตัวเดินเรื่องหลักที่แสดงได้ออกมาดีและน่าดึงดูด ทั้ง มิว และ กันต์ ทำได้ดี ยิ่งเมื่อนำส่วนพาร์ทเรื่องของเชฟ การทำอาหาร เข้ามา ตรงนี้ขอชื่นชมครับ ทำได้ดี อาหารออกมาเจ๋งและดูดี น่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง
ช่วงกลาง เมื่อหนังเริ่มเข้ามาสู่ส่วนที่ต้องเน้นการแสดงมากขึ้น ก็ทำได้ดีเพราะอาศัยความสามารถของนักแสดงที่เก๋าหน่อย ก็พาให้เราเชื่อไปตามหนังได้ดีเลย ซึ่งผมก็ยังชื่นชอบพาร์ทการทำอาหาร ที่ยังดูดี ดูเจ๋ง รวมถึงวิธีการไล่ระดับการฟื้นคืนของความทรงจำ ก็น่าสนใจ
ช่วงท้าย มันมีอยู่จุดหนึ่งที่เกิดการสะดุดพอประมาณในมุมมองของผม เพราะมันเป็นท่ายากระดับสูงสุดที่นักแสดงในส่วนนั้น ไม่มีทางทำได้ เลยทำให้อารมณ์มันขึ้นไปไม่ถึงจุดพีคที่ต้องการ และก็เลยทำให้มันขาดพลังและไม่สามารถลากผมให้จมไปกับอารมณ์ของหนังตามที่หนังต้องการได้
ตรงนี้ผมไม่ขอโทษใคร เพราะเหตุผลที่วางตัวละครนี้ตรงเวลานี้ ก็มีเพียงพอ ก็เลยได้แต่เสียดาย เทคนิคเดียวที่อาจจะพอทำให้อารมณ์หนังไปถึงสิ่งที่ผมคาดหวังได้ คงต้องไปใช้ Virtual Effects อะไรพวกนั้นซ้อนเข้าไป ซึ่งก็เอาเถอะ เท่าที่หนังพาไปได้จนจบ ผมก็พอโอเคกับมันอยู่มากทีเดียว
ในด้านการแสดง กันต์ ในบท เชฟแทน ทำได้ดีกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ ถึงแม้จะแสดงเป็นตัวเองก็เถอะ ส่วน มิว นั้นสามารถแบกหนังไปได้อย่างสบายๆ เหมือนกับที่เราเคยเห็นกันในแฟนเดย์ ซึ่งก็ดีเพียงพอ ส่วนนักแสดงท่าอื่น ผมขอชื่นชมทุกๆท่าน ไม่ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะการแสดงเป็นกันต์ เป็นเชฟแทน ที่ถนัดซ้าย ตรงนี้ไม่มีใครหลุด ท่าทางของแทบทุกคน แสดงเป็นเชฟแทนได้ดี เก็บรายละเอียดได้ดี สิ่งที่ขาดหายไปในบางท่าน ก็เห็นจะเป็นแค่เพียงอารมณ์ที่สื่อออกมา ที่ยากเกินจะไปให้ถึง บางคนขอพูดว่าเป็นไปไม่ได้ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับฝีมือการแสดงด้วย
ส่วนที่ชอบในหนังเรื่องนี้เห็นจะเป็นการเก็บรายละเอียด จะเห็นได้เลยว่ามีความพยายามอย่างมากที่จะทำให้ออกมาดี ส่วนที่ทำได้เจ๋งเลยก็คือพาร์ททำอาหาร และสำหรับคนที่อารมณ์อ่อนไหว น่าจะอินไปกับช่วงท้ายของหนังได้อย่างง่ายได้ และที่สำคัญที่สุด หนังใช้แค่แรงบันดาลใจจาก Beauty Inside จริงๆ ไม่ได้ไปลอกอย่างอื่นมาแต่อย่างใด รวมถึงรสชาติของการเสพหนังทั้งสองเรื่องนี้ก็ไปกันคนละจุดมุ่งหมาย คนละทาง สามารถดูอย่างสบายใจได้เลย
ส่วนที่ไม่ชอบก็เห็นจะเป็นการตั้ง mechanic ของหนัง ที่ถ้าหวนคิดไปคิดมาในหลายๆจุด ก็จะเกิดคำถามตามมามากมายว่า ทำไม ยังไง อะไร ฯลฯ เพราะจะให้ตีขลุมยอมรับให้มันผ่านๆไป สำหรับคนชอบคิดมากอย่างผม มันไม่ยอมผ่านไปง่ายๆ เรียกว่ามีเอ๊ะ อ๊ะ กันตลอดเรื่องเลย และอีกส่วนก็คงเป็นช่วงท้ายที่หนังค่อนข้าง Play Safe มากทีเดียว ผมอยากให้มันเค้น เน้น กว่านี้ แต่หนังก็ไปแบบเรียบๆ ซึ่งอันที่จริงก็เป็นแค่ความอยากของผม ซึ่งบางทีมันอาจจะทำหนังพังก็ได้
สรุป - ไม่เหมือน Beauty Inside สบายใจได้ ฉากทำอาหารดีมากๆ และสำหรับแฟนคลับของนักแสดงในหนัง ก็สามารถดูได้อย่างสบายใจ และอินไปกับหนังได้ อาจจะไม่เหมาะสำหรับแค่กับคนที่คิดมาก ซีเรียสกับกลไกการทำงานของคีย์ของหนัง ซึ่งผมก็ดันเป็นคนกลุ่มนี้ อันที่จริงถ้าคุณรับความหวือหวาและถูๆไถๆแถๆของละครไทยได้ หนังเรื่องนี้ไม่น่าทำให้คุณผิดหวังแต่อย่างใด ขอชื่นชมความพยายามของผู้กำกับและทีมนักแสดงครับ
ความคาดหวังก่อนชม / หลังชม – คาดหวังต่ำมาก / ดีกว่าที่หวังไว้
เกรดหนัง – เข้าท่า
คะแนน 7/10
****รีวิว เกรดหนัง และคะแนน อยู่บนพื้นฐานของหนังไทยเท่านั้น ไม่นำหนังเทศมารวมแต่อย่างใด***
[SR] [Mr. Coffee รีวิว 4/2561] 7 Days เรารักกัน จันทร์ - อาทิตย์ (ไม่สปอยล์)
สวัสดีครับ เมื่อวานนี้ ผมก็ได้มีโอกาสชมหนังไทยเรื่อง "7 Days เรารักกัน จันทร์ - อาทิตย์" ในรอบสื่อมวลชน ขอขอบคุณทาง TECH THAILAND และค่ายสหมงคลฟิล์ม มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
"7 Days เรารักกัน จันทร์ - อาทิตย์" เป็นหนังไทยเรื่องล่าสุด ผลงานของผู้กำกับ “ปี๊ด ปัญจพงศ์ คงคาน้อย” ที่มีผลงาน อย่าง "ชัมบาลา" และ "รักของเรา the moment" โดยดึงนักแสดงมาร่วมงานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “กันต์ กันตถาวร” “มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน” “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” “สตาร์บัคส์ พงศ์พิชญ์” “บอย ตรัย ภูมิรัตน” “เชฟป้อม ม.ล ขวัญทิพย์ เทวกุล” “อาต๋อง เทวัญ ทรัพย์แสนยากร” "เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์" และอีกมากมาย เรียกว่านักแสดงมากันล้นจอเลยทีเดียว
แต่พอหนังปล่อยตัวอย่างออกมา ทันทีเลยว่า หนังเรื่องนี้ มีกระแสที่สงสัยกันมากมายว่า ทำไมพล็อตมันถึงดูคับคล้ายคับคลากับหนังเกาหลีเรื่อง Beauty Inside เสียเหลือเกิน หรือว่าเขาซื้อมารีเมค หรือยังไง หรือสุดท้าย ก็คงเป็นแรงบันดาลใจ เอาแบบนี้ละกัน แต่บอกเลยครับว่า ผมหวั่นใจมาก เพราะนอกจากเรื่องพล็อตแล้ว ยังมีสิ่งที่เป็นท่ายากระดับสูงสุดของการแสดงและการกำกับอยู่ในหนังเรื่องนี้ คือการให้ทุกตัวละคร เล่นเป็นตัวละครหลักตัวเดียวกัน โดยไม่หลุดความเป็นตัวตนออกมา เรียกว่าเล่นกันหนักหนาสาหัสเลยทีเดียว ลองดูใน "20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น" ก็ได้ครับ อันนั้นแค่ตัวละครเดียว ลองนึกถึงทำแบบเดียวกัน 7 ตัวละคร ต่างวัย.... เอาเป็นว่า กล้าทำ ก็กล้าดูล่ะครับ
ช่วงแรก ดูเหมือนหนังมีวิธีบิดเรื่องค่อนข้างดี ทำให้ไม่ต้องเน้นหรือไปโฟกัสกับการแสดงของนักแสดงมากนัก เพราะหนังมีตัวเดินเรื่องหลักที่แสดงได้ออกมาดีและน่าดึงดูด ทั้ง มิว และ กันต์ ทำได้ดี ยิ่งเมื่อนำส่วนพาร์ทเรื่องของเชฟ การทำอาหาร เข้ามา ตรงนี้ขอชื่นชมครับ ทำได้ดี อาหารออกมาเจ๋งและดูดี น่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง
ช่วงกลาง เมื่อหนังเริ่มเข้ามาสู่ส่วนที่ต้องเน้นการแสดงมากขึ้น ก็ทำได้ดีเพราะอาศัยความสามารถของนักแสดงที่เก๋าหน่อย ก็พาให้เราเชื่อไปตามหนังได้ดีเลย ซึ่งผมก็ยังชื่นชอบพาร์ทการทำอาหาร ที่ยังดูดี ดูเจ๋ง รวมถึงวิธีการไล่ระดับการฟื้นคืนของความทรงจำ ก็น่าสนใจ
ช่วงท้าย มันมีอยู่จุดหนึ่งที่เกิดการสะดุดพอประมาณในมุมมองของผม เพราะมันเป็นท่ายากระดับสูงสุดที่นักแสดงในส่วนนั้น ไม่มีทางทำได้ เลยทำให้อารมณ์มันขึ้นไปไม่ถึงจุดพีคที่ต้องการ และก็เลยทำให้มันขาดพลังและไม่สามารถลากผมให้จมไปกับอารมณ์ของหนังตามที่หนังต้องการได้
ตรงนี้ผมไม่ขอโทษใคร เพราะเหตุผลที่วางตัวละครนี้ตรงเวลานี้ ก็มีเพียงพอ ก็เลยได้แต่เสียดาย เทคนิคเดียวที่อาจจะพอทำให้อารมณ์หนังไปถึงสิ่งที่ผมคาดหวังได้ คงต้องไปใช้ Virtual Effects อะไรพวกนั้นซ้อนเข้าไป ซึ่งก็เอาเถอะ เท่าที่หนังพาไปได้จนจบ ผมก็พอโอเคกับมันอยู่มากทีเดียว
ในด้านการแสดง กันต์ ในบท เชฟแทน ทำได้ดีกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ ถึงแม้จะแสดงเป็นตัวเองก็เถอะ ส่วน มิว นั้นสามารถแบกหนังไปได้อย่างสบายๆ เหมือนกับที่เราเคยเห็นกันในแฟนเดย์ ซึ่งก็ดีเพียงพอ ส่วนนักแสดงท่าอื่น ผมขอชื่นชมทุกๆท่าน ไม่ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะการแสดงเป็นกันต์ เป็นเชฟแทน ที่ถนัดซ้าย ตรงนี้ไม่มีใครหลุด ท่าทางของแทบทุกคน แสดงเป็นเชฟแทนได้ดี เก็บรายละเอียดได้ดี สิ่งที่ขาดหายไปในบางท่าน ก็เห็นจะเป็นแค่เพียงอารมณ์ที่สื่อออกมา ที่ยากเกินจะไปให้ถึง บางคนขอพูดว่าเป็นไปไม่ได้ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับฝีมือการแสดงด้วย
ส่วนที่ชอบในหนังเรื่องนี้เห็นจะเป็นการเก็บรายละเอียด จะเห็นได้เลยว่ามีความพยายามอย่างมากที่จะทำให้ออกมาดี ส่วนที่ทำได้เจ๋งเลยก็คือพาร์ททำอาหาร และสำหรับคนที่อารมณ์อ่อนไหว น่าจะอินไปกับช่วงท้ายของหนังได้อย่างง่ายได้ และที่สำคัญที่สุด หนังใช้แค่แรงบันดาลใจจาก Beauty Inside จริงๆ ไม่ได้ไปลอกอย่างอื่นมาแต่อย่างใด รวมถึงรสชาติของการเสพหนังทั้งสองเรื่องนี้ก็ไปกันคนละจุดมุ่งหมาย คนละทาง สามารถดูอย่างสบายใจได้เลย
ส่วนที่ไม่ชอบก็เห็นจะเป็นการตั้ง mechanic ของหนัง ที่ถ้าหวนคิดไปคิดมาในหลายๆจุด ก็จะเกิดคำถามตามมามากมายว่า ทำไม ยังไง อะไร ฯลฯ เพราะจะให้ตีขลุมยอมรับให้มันผ่านๆไป สำหรับคนชอบคิดมากอย่างผม มันไม่ยอมผ่านไปง่ายๆ เรียกว่ามีเอ๊ะ อ๊ะ กันตลอดเรื่องเลย และอีกส่วนก็คงเป็นช่วงท้ายที่หนังค่อนข้าง Play Safe มากทีเดียว ผมอยากให้มันเค้น เน้น กว่านี้ แต่หนังก็ไปแบบเรียบๆ ซึ่งอันที่จริงก็เป็นแค่ความอยากของผม ซึ่งบางทีมันอาจจะทำหนังพังก็ได้
สรุป - ไม่เหมือน Beauty Inside สบายใจได้ ฉากทำอาหารดีมากๆ และสำหรับแฟนคลับของนักแสดงในหนัง ก็สามารถดูได้อย่างสบายใจ และอินไปกับหนังได้ อาจจะไม่เหมาะสำหรับแค่กับคนที่คิดมาก ซีเรียสกับกลไกการทำงานของคีย์ของหนัง ซึ่งผมก็ดันเป็นคนกลุ่มนี้ อันที่จริงถ้าคุณรับความหวือหวาและถูๆไถๆแถๆของละครไทยได้ หนังเรื่องนี้ไม่น่าทำให้คุณผิดหวังแต่อย่างใด ขอชื่นชมความพยายามของผู้กำกับและทีมนักแสดงครับ
ความคาดหวังก่อนชม / หลังชม – คาดหวังต่ำมาก / ดีกว่าที่หวังไว้
เกรดหนัง – เข้าท่า
คะแนน 7/10
****รีวิว เกรดหนัง และคะแนน อยู่บนพื้นฐานของหนังไทยเท่านั้น ไม่นำหนังเทศมารวมแต่อย่างใด***
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม