ธีร์วราเคยมีบ้านพักอาศัยที่เมืองไทยอยู่สองแห่ง หนึ่งคือห้องในอาคารชุดใกล้กับบริษัทไว้เวลาเลิกงานดึก และคฤหาสน์หลังใหญ่สำหรับอยู่กันทั้งครอบครัว ปัจจุบันห้องในอาคารชุดถูกปล่อยเช่าตั้งแต่หล่อนเดินทางไปสหรัฐอเมริกา การย้ายกลับเมืองไทยครั้งนี้ธีร์วราจึงใช้บ้านหลังเดิมเป็นหลัก
ยามเช้าอันเงียบสงบ เริ่มต้นด้วยกาแฟสักแก้วก็ไม่นับว่าเลวเกินไปนัก ธีร์วรานั่งเพียงคนเดียวในโต๊ะอาหารซึ่งจุคนได้เป็นสิบ เห็นแล้วชวนนึกถึงบรรยากาศมื้อเช้าที่เคยมีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้า หล่อนละสายตาจากเก้าอี้ว่างเปล่า เพ่งความสนใจยังหน้าจอแท็ปเลตเสียแทน
ข่าวการเปิดตัวสินค้าใหม่ของลายหงส์เมื่อสัปดาห์ก่อนยังเป็นประเด็นร้อนทั้งในวงการธุรกิจและบันเทิง ส่วนใหญ่ถ้าไม่พูดถึงความสัมพันธ์ของสองพรีเซ็นเตอร์ ก็จะแสดงความชื่นชมแกมทึ่งที่ลายหงส์ปิดข่าวโทนเนอร์ตัวใหม่ได้สนิทก่อนเวลาเปิดตัว ไม่มีใครระแคะระคายถึงบีบีครีมเจ้าปัญหาที่กำลังจะถูกส่งไปเม็กซิโกอย่างเงียบๆ
เตชินียังเคยเปรยด้วยน้ำเสียงเจ็บใจ
“คุณแก้วเก่งขนาดพลิกวิกฤตเป็นโอกาสแบบนี้ แต่อยากโม้ก็โม้ไม่ได้ เฮ้อ!”
“สนใจทำไมกัน อีกอย่างอย่าลืมว่างานเปิดตัวเป็นฝีมือของกายทั้งหมด ย้ำกับทุกคนในลายหงส์ด้วยนะ”
ธีร์วราเงยหน้ามองทั่วห้องอาหาร เพิ่งนึกได้ว่าเช้านี้ยังไม่เจอน้องชายเลย แต่เมื่อจะเอ่ยถามคนงานในบ้านก็มีสาวน้อยคนหนึ่งเดินเข้าห้องมาเสียก่อน
“อาแก้ว อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
“ว่าไงป่าน ปิดเทอมทั้งทีไม่หลับต่ออีกหน่อย”
ปานเรขาคือบุตรสาวคนเดียวของธีรศักดิ์พี่ชายผู้ล่วงลับ ปกติหล่อนกับแม่อยู่บ้านหลังนี้ร่วมกับครอบครัวธีร์วรา แต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาคุณตาของปานเรขาไม่สบาย แม่หล่อนจำเป็นต้องย้ายกลับต่างจังหวัดเพื่อดูแลพ่อ โดยคอยเทียวไปมาระหว่างที่นั่นกับคฤหาสน์หลังนี้
สาวน้อยเป่าปาก “ไม่ละคะ สายๆ มีนัดกับเพื่อนแล้ว”
พลางเอ่ยชื่อย่านดังแหล่งชุมนุมวัยรุ่น ธีร์วราเลยแซวขำๆ “ชีวิตเด็กมหา’ ลัย น่าอิจฉาเนอะ”
ปานเรขานั่งลงพร้อมกับที่สาวใช้ยกอาหารวางให้ “อาแก้วคะ เพื่อนหนูพูดถึงซีซีกันใหญ่ แต่พอถามไปที่บริษัทเขาว่าสินค้าตัวอย่างหมด เมื่อไหร่หนูถึงจะมีของแจกเพื่อนล่ะคะ”
ซีซีที่ป่านเอ่ยย่อมาจาก Cool Couple ซึ่งลายหงส์ตั้งเป็นชื่อชุดครีมกันแดดและโทนเนอร์ที่ขายคู่กัน เตชินีผู้ต้นคิดอธิบายว่าเพราะสินค้าตัวหนึ่งกันแดด อีกตัวก็ให้ความรู้สึกเย็นๆ อยู่แล้ว เลยเรียกคู่ความเย็นไปเสียเลย เป็นการเล่นคำ cool ในความหมายว่าเย็นหรือยอดเยี่ยมทันสมัยก็ได้ พอโฆษณากระจายไปในกลุ่มวัยรุ่น พวกเขาก็เอาแต่อักษรแรกของ Cool Couple มาเรียกย่อๆ ว่าซีซี
“กำลังผลิตอยู่จ้ะ รอหน่อยนะ”
“อ๋อ ค่ะ” ปานเรขาก้มหน้ากินข้าว ปกติคนในบ้านไม่ค่อยพูดถึงรายละเอียดภายในบริษัทให้สาวน้อยผู้นี้ฟังสักเท่าไร ปานเรขาจึงรู้เรื่องลายหงส์พอๆ กับคนทั่วไปเท่านั้น อาหลานคุยกันสักพักธีทัตค่อยตื่นมาสมทบเป็นคนสุดท้าย เขาเพิ่งจะกินได้สองสามคำปานเลขาก็รับข้อความจากโทรศัพท์เคลื่อนที่
“อุ้ย” หล่อนลุกขึ้นทั้งที่ยังจ้องเครื่องมือสื่อสาร “หนูขอตัวก่อนนะคะเพื่อนไลน์มาแล้ว”
ธีร์วราส่ายหน้าเบาๆ “ยังกินข้าวไม่เสร็จเลยนะ จะรีบไปไหน”
“เป็นงี้ตลอดละพี่แก้ว” ธีทัตฟ้อง “วันๆ จดจ่อแต่หน้าจอ ไหนเอามาดูสิมีดีอะไรนักหนา”
ชายหนุ่มทำท่าคว้าโทรศัพท์จนปานเรขารีบกระโดดหนี ค้อนขวับหนึ่งทีแล้วเดินออกไปเลย ธีทัตหัวเราะ แต่พอหันกลับมาหาพี่สาวสีหน้าพลันเคร่งขรึมขึ้น
“พี่แก้ว บีบีครีมถูกขนส่งอยู่บนเรือระหว่างทางแล้ว ผมกะจะบินล่วงหน้าไปอเมริกาก่อนเพื่อคุยกับพ่อจากนั้นถึงวกลงเม็กซิโก มีวีซ่าสหรัฐอเมริกาก็เข้าออกเม็กซิโกได้เลย”
เมื่อคืนพวกหล่อนตัดสินใจบอกความจริงกับแม่เรื่องปัญหาช่วงนี้และการกลับมาทำงานของธีร์วรา อนงค์ตกใจแต่ก็รับฟังอย่างสงบ จากนั้นจึงปรึกษาร่วมกันกับชิดชอบจนได้ข้อสรุปว่าควรให้ธีทัตบินไปแจ้งข่าวพ่อโดยตรงน่าจะดีกว่า ชิดชอบอาสาจะช่วยพูดกับถนิตอีกแรง คงไม่น่ามีปัญหากระไรนัก
“แล้วจะไปเมื่อไหร่ล่ะ”
“พรุ่งนี้ครับ”
คนฟังเลิกคิ้ว “ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ”
“ผมว่าช้าซะด้วยซ้ำ อยากรีบจัดการทางเม็กซิโกให้เสร็จจะได้ลุยงานอื่นต่อ”
หลังวันงานเปิดตัวดูเหมือนธีทัตจะกระตือรือร้นขึ้นมาก ธีร์วราไม่รู้ใครหรือสิ่งใดเปลี่ยนแปลงเขาเช่นนี้แต่ก็นึกขอบคุณเหลือเกิน แล้วไม่ทันจะได้คุยต่อเตชินีพลันเดินหน้าตื่นเข้ามาเสียก่อน
“อ้าว มาเช้าจริงตู่” ด้วยหน้าที่เตชินีต้องมารับธีร์วราไปบริษัทพร้อมคนขับรถทุกเช้า แต่วันนี้เลขานุการสาวปรากฏตัวเร็วกว่าปกติเล็กน้อย
“คุณแก้วคุณกายเห็นโฆษณาใหม่ของอมราหรือยังคะ” พอบรรดาเจ้านายต่างปฏิเสธ หล่อนจึงเปิดแท็บเล็ตที่ตัวเองถือมาให้ดูทันที “เพิ่งลงเน็ตเมื่อคืนเอง น่าจะเริ่มฉายทีวีอาทิตย์หน้า”
ทางอมราก็จ้างพรีเซ็นเตอร์โฆษณาเช่นกัน เป็นนายแบบซึ่งดังมาจากงานประกวดอะไรสักอย่างเมื่อหลายปีก่อน แต่วันนี้เขาสลัดคราบหนุ่มน้อยอ่อนโลกบนเวทีประกวดกลายมาเป็นชายหนุ่มเต็มตัว ผู้คอยช่วยเหลือสาวๆ ซึ่งต่างก็ชื่นชมเขาก่อนเปลี่ยนเป็นหลงใหลเมื่อได้กลิ่นครีมโกนหนวด สินค้าล่าสุดจากอมรา
“ไม่ต้องใช้ร่วมกับใคร เพราะนี่เพื่อผู้ชายแมนๆ แบบคุณเท่านั้น!”
“ดูสิคะ” เตชินีจิ้มใส่วลีนั้นบนหน้าจอที่เปิดค้างไว้ “จงใจผลิตโฆษณาบลั๊พเราชัดๆ หาว่าผู้ชายที่ใช้ซีซีของเราไม่แมน!”
ธีทัตหน้าตึง “อมรา! มันเอาอีกแล้ว!”
แต่ธีร์วรากลับส่ายหัว “ก็ไม่แน่หรอกนะ สินค้าสักชิ้นกว่าจะเปิดตัวได้ต้องวางแผนกันเป็นเดือน อมราคงไม่มีญาณหยั่งรู้ว่าเราจะโปรโมทซีซีแบบไหนแล้วทำโฆษณาเกทับหรอกมั้ง”
“พี่แก้วคิดว่าบังเอิญเรอะ”
“พูดลำบาก อมราอาจจงใจถ่ายส่วนท้ายโฆษณาเพิ่มหลังเราเปิดตัวซีซีก็ได้ ไม่ยากอะไรนี่”
“อ้าว ตกลงพี่เข้าข้างฝ่ายไหนกันแน่ ผมงง”
“พี่แค่อยากจะเตือน เราอย่าเดือดตามการชักจูงของศัตรูสิ ฝ่ายนั้นจะมาไม้ไหนก็ช่างเราต้องใจเย็น หาวิธีแก้เกมกลับดีกว่าเสียเวลาโมโห”
คนฟังทั้งสองค่อยสงบลง ธีร์วราจึงเช็ดปากแทนสัญญาณว่าการสนทนาจบแค่นี้เพราะหล่อนกำลังจะไปทำงาน เตชินีถือของตามนายจ้างมาถึงรถประจำตัว รับคำสั่งธีร์วราเตรียมนำเรื่องโฆษณาอมราเข้าที่ประชุมวันศุกร์ แต่จู่ๆ เด็กที่บ้านของเลขานุการสาวติดต่อบอกแม่หล่อนที่เป็นอัมพาตไม่สบายขึ้นมา เตชินีจำต้องขอลากิจกะทันหัน เช้านี้ประธานบอร์ดลายหงส์จึงไปทำงานโดยไร้เงาเลขาฯ คู่กาย
แม้ปากจะบอกทุกคนให้เลิกกังวล แต่ยามนั่งรถเพียงลำพังธีร์วราก็ยังเปิดโฆษณาของอมราขึ้นดูอีกรอบ โดยสวมหูฟังเพื่อไม่ให้เสียงรบกวนสารถีทางด้านหน้า หลังเปิดวนโฆษณาแค่ครึ่งนาทีซ้ำๆ หลายเที่ยวหล่อนจึงได้ข้อสรุป
อมราวางแผนละเอียดตั้งแต่เลือกพรีเซ็นเตอร์ ด้วยการใช้นายแบบที่เข้าวงการตอนวัยรุ่น คนติดตาจากภาพหนุ่มน้อยหน้าใส พอโฆษณาปรับรูปลักษณ์เขากลายเป็นชายหนุ่มเต็มตัว มันก็ตอกย้ำความรู้สึกว่าถ้าใช้ครีมโกนหนวดของอมรา...จะทำให้คุณเปลี่ยนเป็นผู้ชายแมนๆ สารที่จะสื่อแข็งแรงอยู่แล้วจนการตอกย้ำอีกครั้งท้ายโฆษณาไม่จำเป็นเลย ธีร์วราถึงมั่นใจว่าเพราะจงใจใส่เพิ่มภายหลัง แต่ทำไมต้องทำด้วย? เหตุผลหนึ่งอาจเพราะหมายเสียดสีวิธีโปรโมท Cool Couple ของลายหงส์ แต่ธีร์วรามั่นใจว่าเบื้องลึกที่ซ่อนไว้คือข้อความซึ่งสุเมธอยากบอกหล่อน
เขาพร้อมจะกลับมาแข่งขันตามกติกาแล้ว การจงใจทำโฆษณาเสียดสีลายหงส์แบบโต้งๆ นี่แหละ คือวิธีแสดงออกของผู้ชายคนนี้
ในฐานะศัตรู...สุเมธทั้งน่าหวั่นเกรงและน่านับถือไปพร้อมกัน
ระหว่างคิดธีร์วราก็หยิบแฟ้มหนึ่งขึ้นดู เตชินีจ้างคนสืบประวัติสุเมธและส่งรายงานให้หล่อนตั้งแต่เมื่อวาน ธีร์วราเคยอ่านผ่านตาแล้วแต่อยากทบทวนรายละเอียดอีกครั้ง
ชายหนุ่มโตมากับแม่เพียงลำพัง ฐานะยากจนแต่สอบชิงทุนจนสามารถเรียนถึงระดับสูง ปัจจุบันแม่เขากับญาติอาศัยในบ้านของสุเมธที่ต่างจังหวัด ส่วนตัวเขาอยู่กรุงเทพฯ กับหลานชายที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยกันแค่สองคน ด้านประวัติการทำงานไม่แตกต่างจากที่ธีร์วราเคยทราบมาก่อน
ในแฟ้มมีรูปที่นักสืบแอบถ่ายไว้พอสมควร หญิงสาวหยิบมารูปหนึ่ง เป็นตอนที่สุเมธกินอาหารอยู่กับลายครามและหลานชาย ธีร์วราไม่สนใจคนอื่น เอาแต่มองใบหน้าประธานฯ หนุ่มเงียบๆ หล่อนสั่งสืบประวัติเขาเพราะหวังจะมีข้อมูลช่วยให้เข้าใจวิธีคิดของสุเมธมากกว่านี้ แต่ดูท่าจะเหลวเปล่า ที่แน่ชัดมีเพียงอย่างเดียว ถึงสุเมธจะยอมรามือเรื่องการชกใต้เข็มขัด ทว่าในสงครามธุรกิจ...เขาไม่ปล่อยลายหงส์ให้อยู่สบายแน่!
หล่อนเกลียดที่ต้องกลายเป็นฝ่ายรับ คอยแต่รอว่าศัตรูจะมาไม้ไหนเสียจริง ทว่าแม้เกลียดแค่ไหนก็ไม่อาจหนี เพราะสภาพร่างกายพ่อไม่มีทางรับข่าวร้ายหากลายหงส์พ่ายแพ้อมราได้หรอก
หญิงสาวถอนหายใจ นึกอยากขอมีพรวิเศษช่วยบอกหน่อยเถอะว่าตอนนี้ “ตาบ้าขี้เก๊ก” นั่น...กำลังทำอะไรอยู่!
*****
คู่เล่ห์เคียงรัก ตอนที่ 7
ยามเช้าอันเงียบสงบ เริ่มต้นด้วยกาแฟสักแก้วก็ไม่นับว่าเลวเกินไปนัก ธีร์วรานั่งเพียงคนเดียวในโต๊ะอาหารซึ่งจุคนได้เป็นสิบ เห็นแล้วชวนนึกถึงบรรยากาศมื้อเช้าที่เคยมีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้า หล่อนละสายตาจากเก้าอี้ว่างเปล่า เพ่งความสนใจยังหน้าจอแท็ปเลตเสียแทน
ข่าวการเปิดตัวสินค้าใหม่ของลายหงส์เมื่อสัปดาห์ก่อนยังเป็นประเด็นร้อนทั้งในวงการธุรกิจและบันเทิง ส่วนใหญ่ถ้าไม่พูดถึงความสัมพันธ์ของสองพรีเซ็นเตอร์ ก็จะแสดงความชื่นชมแกมทึ่งที่ลายหงส์ปิดข่าวโทนเนอร์ตัวใหม่ได้สนิทก่อนเวลาเปิดตัว ไม่มีใครระแคะระคายถึงบีบีครีมเจ้าปัญหาที่กำลังจะถูกส่งไปเม็กซิโกอย่างเงียบๆ
เตชินียังเคยเปรยด้วยน้ำเสียงเจ็บใจ
“คุณแก้วเก่งขนาดพลิกวิกฤตเป็นโอกาสแบบนี้ แต่อยากโม้ก็โม้ไม่ได้ เฮ้อ!”
“สนใจทำไมกัน อีกอย่างอย่าลืมว่างานเปิดตัวเป็นฝีมือของกายทั้งหมด ย้ำกับทุกคนในลายหงส์ด้วยนะ”
ธีร์วราเงยหน้ามองทั่วห้องอาหาร เพิ่งนึกได้ว่าเช้านี้ยังไม่เจอน้องชายเลย แต่เมื่อจะเอ่ยถามคนงานในบ้านก็มีสาวน้อยคนหนึ่งเดินเข้าห้องมาเสียก่อน
“อาแก้ว อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
“ว่าไงป่าน ปิดเทอมทั้งทีไม่หลับต่ออีกหน่อย”
ปานเรขาคือบุตรสาวคนเดียวของธีรศักดิ์พี่ชายผู้ล่วงลับ ปกติหล่อนกับแม่อยู่บ้านหลังนี้ร่วมกับครอบครัวธีร์วรา แต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาคุณตาของปานเรขาไม่สบาย แม่หล่อนจำเป็นต้องย้ายกลับต่างจังหวัดเพื่อดูแลพ่อ โดยคอยเทียวไปมาระหว่างที่นั่นกับคฤหาสน์หลังนี้
สาวน้อยเป่าปาก “ไม่ละคะ สายๆ มีนัดกับเพื่อนแล้ว”
พลางเอ่ยชื่อย่านดังแหล่งชุมนุมวัยรุ่น ธีร์วราเลยแซวขำๆ “ชีวิตเด็กมหา’ ลัย น่าอิจฉาเนอะ”
ปานเรขานั่งลงพร้อมกับที่สาวใช้ยกอาหารวางให้ “อาแก้วคะ เพื่อนหนูพูดถึงซีซีกันใหญ่ แต่พอถามไปที่บริษัทเขาว่าสินค้าตัวอย่างหมด เมื่อไหร่หนูถึงจะมีของแจกเพื่อนล่ะคะ”
ซีซีที่ป่านเอ่ยย่อมาจาก Cool Couple ซึ่งลายหงส์ตั้งเป็นชื่อชุดครีมกันแดดและโทนเนอร์ที่ขายคู่กัน เตชินีผู้ต้นคิดอธิบายว่าเพราะสินค้าตัวหนึ่งกันแดด อีกตัวก็ให้ความรู้สึกเย็นๆ อยู่แล้ว เลยเรียกคู่ความเย็นไปเสียเลย เป็นการเล่นคำ cool ในความหมายว่าเย็นหรือยอดเยี่ยมทันสมัยก็ได้ พอโฆษณากระจายไปในกลุ่มวัยรุ่น พวกเขาก็เอาแต่อักษรแรกของ Cool Couple มาเรียกย่อๆ ว่าซีซี
“กำลังผลิตอยู่จ้ะ รอหน่อยนะ”
“อ๋อ ค่ะ” ปานเรขาก้มหน้ากินข้าว ปกติคนในบ้านไม่ค่อยพูดถึงรายละเอียดภายในบริษัทให้สาวน้อยผู้นี้ฟังสักเท่าไร ปานเรขาจึงรู้เรื่องลายหงส์พอๆ กับคนทั่วไปเท่านั้น อาหลานคุยกันสักพักธีทัตค่อยตื่นมาสมทบเป็นคนสุดท้าย เขาเพิ่งจะกินได้สองสามคำปานเลขาก็รับข้อความจากโทรศัพท์เคลื่อนที่
“อุ้ย” หล่อนลุกขึ้นทั้งที่ยังจ้องเครื่องมือสื่อสาร “หนูขอตัวก่อนนะคะเพื่อนไลน์มาแล้ว”
ธีร์วราส่ายหน้าเบาๆ “ยังกินข้าวไม่เสร็จเลยนะ จะรีบไปไหน”
“เป็นงี้ตลอดละพี่แก้ว” ธีทัตฟ้อง “วันๆ จดจ่อแต่หน้าจอ ไหนเอามาดูสิมีดีอะไรนักหนา”
ชายหนุ่มทำท่าคว้าโทรศัพท์จนปานเรขารีบกระโดดหนี ค้อนขวับหนึ่งทีแล้วเดินออกไปเลย ธีทัตหัวเราะ แต่พอหันกลับมาหาพี่สาวสีหน้าพลันเคร่งขรึมขึ้น
“พี่แก้ว บีบีครีมถูกขนส่งอยู่บนเรือระหว่างทางแล้ว ผมกะจะบินล่วงหน้าไปอเมริกาก่อนเพื่อคุยกับพ่อจากนั้นถึงวกลงเม็กซิโก มีวีซ่าสหรัฐอเมริกาก็เข้าออกเม็กซิโกได้เลย”
เมื่อคืนพวกหล่อนตัดสินใจบอกความจริงกับแม่เรื่องปัญหาช่วงนี้และการกลับมาทำงานของธีร์วรา อนงค์ตกใจแต่ก็รับฟังอย่างสงบ จากนั้นจึงปรึกษาร่วมกันกับชิดชอบจนได้ข้อสรุปว่าควรให้ธีทัตบินไปแจ้งข่าวพ่อโดยตรงน่าจะดีกว่า ชิดชอบอาสาจะช่วยพูดกับถนิตอีกแรง คงไม่น่ามีปัญหากระไรนัก
“แล้วจะไปเมื่อไหร่ล่ะ”
“พรุ่งนี้ครับ”
คนฟังเลิกคิ้ว “ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ”
“ผมว่าช้าซะด้วยซ้ำ อยากรีบจัดการทางเม็กซิโกให้เสร็จจะได้ลุยงานอื่นต่อ”
หลังวันงานเปิดตัวดูเหมือนธีทัตจะกระตือรือร้นขึ้นมาก ธีร์วราไม่รู้ใครหรือสิ่งใดเปลี่ยนแปลงเขาเช่นนี้แต่ก็นึกขอบคุณเหลือเกิน แล้วไม่ทันจะได้คุยต่อเตชินีพลันเดินหน้าตื่นเข้ามาเสียก่อน
“อ้าว มาเช้าจริงตู่” ด้วยหน้าที่เตชินีต้องมารับธีร์วราไปบริษัทพร้อมคนขับรถทุกเช้า แต่วันนี้เลขานุการสาวปรากฏตัวเร็วกว่าปกติเล็กน้อย
“คุณแก้วคุณกายเห็นโฆษณาใหม่ของอมราหรือยังคะ” พอบรรดาเจ้านายต่างปฏิเสธ หล่อนจึงเปิดแท็บเล็ตที่ตัวเองถือมาให้ดูทันที “เพิ่งลงเน็ตเมื่อคืนเอง น่าจะเริ่มฉายทีวีอาทิตย์หน้า”
ทางอมราก็จ้างพรีเซ็นเตอร์โฆษณาเช่นกัน เป็นนายแบบซึ่งดังมาจากงานประกวดอะไรสักอย่างเมื่อหลายปีก่อน แต่วันนี้เขาสลัดคราบหนุ่มน้อยอ่อนโลกบนเวทีประกวดกลายมาเป็นชายหนุ่มเต็มตัว ผู้คอยช่วยเหลือสาวๆ ซึ่งต่างก็ชื่นชมเขาก่อนเปลี่ยนเป็นหลงใหลเมื่อได้กลิ่นครีมโกนหนวด สินค้าล่าสุดจากอมรา
“ไม่ต้องใช้ร่วมกับใคร เพราะนี่เพื่อผู้ชายแมนๆ แบบคุณเท่านั้น!”
“ดูสิคะ” เตชินีจิ้มใส่วลีนั้นบนหน้าจอที่เปิดค้างไว้ “จงใจผลิตโฆษณาบลั๊พเราชัดๆ หาว่าผู้ชายที่ใช้ซีซีของเราไม่แมน!”
ธีทัตหน้าตึง “อมรา! มันเอาอีกแล้ว!”
แต่ธีร์วรากลับส่ายหัว “ก็ไม่แน่หรอกนะ สินค้าสักชิ้นกว่าจะเปิดตัวได้ต้องวางแผนกันเป็นเดือน อมราคงไม่มีญาณหยั่งรู้ว่าเราจะโปรโมทซีซีแบบไหนแล้วทำโฆษณาเกทับหรอกมั้ง”
“พี่แก้วคิดว่าบังเอิญเรอะ”
“พูดลำบาก อมราอาจจงใจถ่ายส่วนท้ายโฆษณาเพิ่มหลังเราเปิดตัวซีซีก็ได้ ไม่ยากอะไรนี่”
“อ้าว ตกลงพี่เข้าข้างฝ่ายไหนกันแน่ ผมงง”
“พี่แค่อยากจะเตือน เราอย่าเดือดตามการชักจูงของศัตรูสิ ฝ่ายนั้นจะมาไม้ไหนก็ช่างเราต้องใจเย็น หาวิธีแก้เกมกลับดีกว่าเสียเวลาโมโห”
คนฟังทั้งสองค่อยสงบลง ธีร์วราจึงเช็ดปากแทนสัญญาณว่าการสนทนาจบแค่นี้เพราะหล่อนกำลังจะไปทำงาน เตชินีถือของตามนายจ้างมาถึงรถประจำตัว รับคำสั่งธีร์วราเตรียมนำเรื่องโฆษณาอมราเข้าที่ประชุมวันศุกร์ แต่จู่ๆ เด็กที่บ้านของเลขานุการสาวติดต่อบอกแม่หล่อนที่เป็นอัมพาตไม่สบายขึ้นมา เตชินีจำต้องขอลากิจกะทันหัน เช้านี้ประธานบอร์ดลายหงส์จึงไปทำงานโดยไร้เงาเลขาฯ คู่กาย
แม้ปากจะบอกทุกคนให้เลิกกังวล แต่ยามนั่งรถเพียงลำพังธีร์วราก็ยังเปิดโฆษณาของอมราขึ้นดูอีกรอบ โดยสวมหูฟังเพื่อไม่ให้เสียงรบกวนสารถีทางด้านหน้า หลังเปิดวนโฆษณาแค่ครึ่งนาทีซ้ำๆ หลายเที่ยวหล่อนจึงได้ข้อสรุป
อมราวางแผนละเอียดตั้งแต่เลือกพรีเซ็นเตอร์ ด้วยการใช้นายแบบที่เข้าวงการตอนวัยรุ่น คนติดตาจากภาพหนุ่มน้อยหน้าใส พอโฆษณาปรับรูปลักษณ์เขากลายเป็นชายหนุ่มเต็มตัว มันก็ตอกย้ำความรู้สึกว่าถ้าใช้ครีมโกนหนวดของอมรา...จะทำให้คุณเปลี่ยนเป็นผู้ชายแมนๆ สารที่จะสื่อแข็งแรงอยู่แล้วจนการตอกย้ำอีกครั้งท้ายโฆษณาไม่จำเป็นเลย ธีร์วราถึงมั่นใจว่าเพราะจงใจใส่เพิ่มภายหลัง แต่ทำไมต้องทำด้วย? เหตุผลหนึ่งอาจเพราะหมายเสียดสีวิธีโปรโมท Cool Couple ของลายหงส์ แต่ธีร์วรามั่นใจว่าเบื้องลึกที่ซ่อนไว้คือข้อความซึ่งสุเมธอยากบอกหล่อน
เขาพร้อมจะกลับมาแข่งขันตามกติกาแล้ว การจงใจทำโฆษณาเสียดสีลายหงส์แบบโต้งๆ นี่แหละ คือวิธีแสดงออกของผู้ชายคนนี้
ในฐานะศัตรู...สุเมธทั้งน่าหวั่นเกรงและน่านับถือไปพร้อมกัน
ระหว่างคิดธีร์วราก็หยิบแฟ้มหนึ่งขึ้นดู เตชินีจ้างคนสืบประวัติสุเมธและส่งรายงานให้หล่อนตั้งแต่เมื่อวาน ธีร์วราเคยอ่านผ่านตาแล้วแต่อยากทบทวนรายละเอียดอีกครั้ง
ชายหนุ่มโตมากับแม่เพียงลำพัง ฐานะยากจนแต่สอบชิงทุนจนสามารถเรียนถึงระดับสูง ปัจจุบันแม่เขากับญาติอาศัยในบ้านของสุเมธที่ต่างจังหวัด ส่วนตัวเขาอยู่กรุงเทพฯ กับหลานชายที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยกันแค่สองคน ด้านประวัติการทำงานไม่แตกต่างจากที่ธีร์วราเคยทราบมาก่อน
ในแฟ้มมีรูปที่นักสืบแอบถ่ายไว้พอสมควร หญิงสาวหยิบมารูปหนึ่ง เป็นตอนที่สุเมธกินอาหารอยู่กับลายครามและหลานชาย ธีร์วราไม่สนใจคนอื่น เอาแต่มองใบหน้าประธานฯ หนุ่มเงียบๆ หล่อนสั่งสืบประวัติเขาเพราะหวังจะมีข้อมูลช่วยให้เข้าใจวิธีคิดของสุเมธมากกว่านี้ แต่ดูท่าจะเหลวเปล่า ที่แน่ชัดมีเพียงอย่างเดียว ถึงสุเมธจะยอมรามือเรื่องการชกใต้เข็มขัด ทว่าในสงครามธุรกิจ...เขาไม่ปล่อยลายหงส์ให้อยู่สบายแน่!
หล่อนเกลียดที่ต้องกลายเป็นฝ่ายรับ คอยแต่รอว่าศัตรูจะมาไม้ไหนเสียจริง ทว่าแม้เกลียดแค่ไหนก็ไม่อาจหนี เพราะสภาพร่างกายพ่อไม่มีทางรับข่าวร้ายหากลายหงส์พ่ายแพ้อมราได้หรอก
หญิงสาวถอนหายใจ นึกอยากขอมีพรวิเศษช่วยบอกหน่อยเถอะว่าตอนนี้ “ตาบ้าขี้เก๊ก” นั่น...กำลังทำอะไรอยู่!
*****