หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
📢📣~มาลาริน~อะไรนะ...พูดใหม่สิ...ขออีกครั้ง...ฟังไม่ผิด! เศรษฐกิจยุคลุงตู่ดีกว่าของปูยิ่งลักษณ์
กระทู้คำถาม
การเมือง
รัฐบาล
ฟังไม่ผิด! เศรษฐกิจยุคลุงตู่ดีกว่าของปูยิ่งลักษณ์เผยแพร่: 16 ก.ค. 2561 18:18
เรื่องของปัญหาเศรษฐกิจที่คนไทยกำลังบ่นว่ายุคนี้หากินลำบากข้าวยากหมากแพง เพราะรัฐบาล คสช.ทำเศรษฐกิจชาติพัง ต่างชาติไม่เข้ามาลงทุน นักท่องเที่ยวไม่มา คนไทยมีหนี้มากขึ้นนั้น หากเอาตัวเลขและข้อเท็จจริงมากางดู ก็จะพบว่า ยุครัฐบาลบิ๊กตู่มีดีกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์มากมายนัก
จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบว่าในยุคของบิ๊กตู่เป็นการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป อันเป็นผลมาจากการวางโครงสร้างทางเศรษฐกิจไว้อย่างแข็งแรงในช่วงที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นผลดีในระยะยาว จนเปลี่ยนมาเป็นนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปตรงจุด จึงทำให้เศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน
ขณะที่ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมากผ่านโครงการประชานิยมต่างๆ ที่เน้นการเติบโตในประเทศผ่านการบริโภคและการลงทุน ทำให้เศรษฐกิจปี 2555 ขยายตัวแบบก้าวกระโดดไปถึง 7.2% แต่ปี 2556 กลับพบว่าเศรษฐกิจขยายตัวลดลงอย่างรวดเร็วเหลือเพียง 2.69 และหดตัว 0.4% ในไตรมาส 1/2557 หรือพูดง่ายๆก็คือ โตเร็วก็ตายเร็วนั่นเอง ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการจำนำข้าว รถคันแรก ขึ้นค่าแรง ที่กลายเป็นการทิ้งหนี้ไว้ให้คนรุ่นหลัง ส่วนหนี้ครัวเรือนในยุคยิ่งลักษณ์ ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2554-2556
หรือให้เห็นกันชัดๆก็คือ ช่วง 2 ปี 8 เดือนยุคยิ่งลักษณ์ หนี้สาธารณะปรับเพิ่มถึง 1.3 ล้านล้านบาท แปลว่าคนไทยต้องแบกรับหนี้เพิ่มขึ้นอีกถึงประมาณ 2 หมื่นบาทต่อคน
ส่วนยุคบิ๊กตู่ จากตัวเลขชี้ให้เห็นว่าทุกอย่างกำลังกระเตื้องขึ้นจะมีก็เพียง 2 ปีแรกที่ต้องเผชิญกับเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ประกอบกับมรดกบาปที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ทิ้งไว้ให้ต้องมาตามล้างตามเช็ดกัน อย่างในปี 2557 เศรษฐกิจขยายตัวลดลงเหลือ 0.98% ปี 2558 ขยายตัว 3.02% ปี 2559 ขยายตัว 3.28% ในปี 2560 ขยายตัว 3.91% และขยายตัว 4.8% ในไตรมาส 1 ปี 2561 ซึ่งจะเห็นว่าเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งนโยบาย Thailand 4.0 โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC โครงการลงทุนด้านสาธารณูปโภคต่างๆ ทั้งทางบก ทางเรือ และอากาศ รวมไปถึงโครงการ BIG DATA ที่กำลังทำอยู่นั้น ล้วนเป็นผลดีต่อประเทศไทยในอนาคต โดยเฉพาะโครงการBIG DATA จะช่วยทำให้การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนได้ประสิทธิผลคุ้มค่ามากที่สุด รวมทั้งยังลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบทได้ดีอีกด้วย รัฐบาลบิ๊กตู่จึงมาถูกทางแล้วที่มุ่งเน้นให้เติบโตอย่างยั่งยืน ดีกว่าเศรษฐกิจที่หวือหวาแต่เป็นภาระลูกหลานในอนาคต
https://mgronline.com/news1/detail/9610000070817
ชัดเจนแล้วนี่....ไม่ต้องบรรยายซ้ำนะคะ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
การเมือง
รัฐบาล
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 4
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
📢📣~มาลาริน~อะไรนะ...พูดใหม่สิ...ขออีกครั้ง...ฟังไม่ผิด! เศรษฐกิจยุคลุงตู่ดีกว่าของปูยิ่งลักษณ์
ฟังไม่ผิด! เศรษฐกิจยุคลุงตู่ดีกว่าของปูยิ่งลักษณ์เผยแพร่: 16 ก.ค. 2561 18:18
เรื่องของปัญหาเศรษฐกิจที่คนไทยกำลังบ่นว่ายุคนี้หากินลำบากข้าวยากหมากแพง เพราะรัฐบาล คสช.ทำเศรษฐกิจชาติพัง ต่างชาติไม่เข้ามาลงทุน นักท่องเที่ยวไม่มา คนไทยมีหนี้มากขึ้นนั้น หากเอาตัวเลขและข้อเท็จจริงมากางดู ก็จะพบว่า ยุครัฐบาลบิ๊กตู่มีดีกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์มากมายนัก
จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบว่าในยุคของบิ๊กตู่เป็นการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป อันเป็นผลมาจากการวางโครงสร้างทางเศรษฐกิจไว้อย่างแข็งแรงในช่วงที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นผลดีในระยะยาว จนเปลี่ยนมาเป็นนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปตรงจุด จึงทำให้เศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน
ขณะที่ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมากผ่านโครงการประชานิยมต่างๆ ที่เน้นการเติบโตในประเทศผ่านการบริโภคและการลงทุน ทำให้เศรษฐกิจปี 2555 ขยายตัวแบบก้าวกระโดดไปถึง 7.2% แต่ปี 2556 กลับพบว่าเศรษฐกิจขยายตัวลดลงอย่างรวดเร็วเหลือเพียง 2.69 และหดตัว 0.4% ในไตรมาส 1/2557 หรือพูดง่ายๆก็คือ โตเร็วก็ตายเร็วนั่นเอง ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการจำนำข้าว รถคันแรก ขึ้นค่าแรง ที่กลายเป็นการทิ้งหนี้ไว้ให้คนรุ่นหลัง ส่วนหนี้ครัวเรือนในยุคยิ่งลักษณ์ ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2554-2556
หรือให้เห็นกันชัดๆก็คือ ช่วง 2 ปี 8 เดือนยุคยิ่งลักษณ์ หนี้สาธารณะปรับเพิ่มถึง 1.3 ล้านล้านบาท แปลว่าคนไทยต้องแบกรับหนี้เพิ่มขึ้นอีกถึงประมาณ 2 หมื่นบาทต่อคน
ส่วนยุคบิ๊กตู่ จากตัวเลขชี้ให้เห็นว่าทุกอย่างกำลังกระเตื้องขึ้นจะมีก็เพียง 2 ปีแรกที่ต้องเผชิญกับเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ประกอบกับมรดกบาปที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ทิ้งไว้ให้ต้องมาตามล้างตามเช็ดกัน อย่างในปี 2557 เศรษฐกิจขยายตัวลดลงเหลือ 0.98% ปี 2558 ขยายตัว 3.02% ปี 2559 ขยายตัว 3.28% ในปี 2560 ขยายตัว 3.91% และขยายตัว 4.8% ในไตรมาส 1 ปี 2561 ซึ่งจะเห็นว่าเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งนโยบาย Thailand 4.0 โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC โครงการลงทุนด้านสาธารณูปโภคต่างๆ ทั้งทางบก ทางเรือ และอากาศ รวมไปถึงโครงการ BIG DATA ที่กำลังทำอยู่นั้น ล้วนเป็นผลดีต่อประเทศไทยในอนาคต โดยเฉพาะโครงการBIG DATA จะช่วยทำให้การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนได้ประสิทธิผลคุ้มค่ามากที่สุด รวมทั้งยังลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบทได้ดีอีกด้วย รัฐบาลบิ๊กตู่จึงมาถูกทางแล้วที่มุ่งเน้นให้เติบโตอย่างยั่งยืน ดีกว่าเศรษฐกิจที่หวือหวาแต่เป็นภาระลูกหลานในอนาคต
https://mgronline.com/news1/detail/9610000070817
ชัดเจนแล้วนี่....ไม่ต้องบรรยายซ้ำนะคะ