จากหัวข้อ ทุกคนก็คงคิดว่าดาจะพูดเกี่ยวกับเรื่อง
การเรียนใช่มั้ยคะ แน่นอนค่ะ แต่อย่าเพิ่งถอนหายใจไปนะคะ
กระทู้นี้คนไม่เก่งก็เข้ามาอ่านได้นะคะ ช่วงนี้เป็นช่วงสอบของดาค่ะ เวลาสอบสิ่งที่เราต้องนึกถึงคือเกรดเฉลี่ยใช่มั้ยค่ะ ใครๆก็อยากได้เกรด
4.00กันทั้งนั้นแหละค่ะ วันนี้ดาจะมาเล่าประสบการณ์ที่ได้4.00และความสำคัญของตัวเลข3ตัวในสมุดพกหรือที่เราเรียกมันว่าเกรดค่ะ
รู้สึกยังไงเมื่อได้4.00ครั้งแรก
ถามว่ารู้สึกยังไงตอนรู้ว่าได้เกรด4.00 รู้สึกตกใจมากเลยค่ะที่ได้ เพราะเป็นครั้งแรกค่ะ ที่สำคัญคือรู้สึกภูมิใจในตัวเองค่ะที่สักวันนึงเราก็ขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุดของคะแนนได้
4.00มีข้อดีข้อเสียอย่างไร
จากประสบการณ์โดยตรงของดานะคะการได้เกรด4.00มีทั้งข้อดีและข้อเสียค่ะ ข้อดีคือ เราได้ทำหน้าที่ลูกที่ดีให้พ่อกับแม่ได้ภูมิใจในตัวเราแล้ว ทำให้ตัวเองมีความสุขที่ขึ้นมาอยู่เหนือสุดได้ แต่การอยู่เหนือสุดก็มีข้อเสียเหมือนกันนะคะ เราจะเป็นคนที่ถูกคาดหวังมากที่สุดและที่สำคัญ ก็คือ"การหามาว่ายากแล้ว การรักษาไว้ยิ่งยากกว่า" กว่าจะได้ที่1หรือ4.00นั้นยากมากค่ะ แต่การรักษาที่1เอาไว้นี่สิคะยากมาก เหมือนเราต้องแข่งกับคนทั้งห้องค่ะ การวัดเกรดคือการแข่งกับตัวเองส่วนการวัดลำดับที่คือการแข่งกับเพื่อนในห้อง พูดแบบนี้อาจดูเหมือนเห็นแก่ตัวแต่บนโลกนี้ใครๆก็รักตัวเองกันทั้งนั้นแหละค่ะ ขึ้นอยู่ที่จะรักแบบไหน แข่งก็แข่งได้ แข่งกันเรียน หรือแข่งกันอย่างอื่น เราและเพื่อนในกลุ่มเลือกกันเอาได้ค่ะ
เรียนยังไง ต้องเก่งมั้ย
และแล้วก็มาถึงสาเหตุที่ทำให้ทุกคนเข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้วค่ะ ดาขอพูดตรงนี้ นาทีนี้เลยนะคะ
คนที่ได้เกรด4.00 ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดของห้องค่ะและคนที่ได้4.00ไม่ใช่คนที่เรียนไม่ได้เหมือนกันค่ะ ทุกคนคงจะงงกันใช่มั้ยคะ มาค่ะดาจะอธิบายเริ่มจากก่อนอื่นเรามารู้วิธีการนับเกรดกันก่อนค่ะ(ไม่รู้ว่าแต่ละโรงเรียนนับเหมือนกันมั้ยนะคะ)
80 ขึ้นไป ได้เกรด 4
75-79 ได้เกรด 3.5
70-74 ได้เกรด 3
66-69 ได้เกรด 2.5
60-64 ได้เกรด 2
56-59 ได้เกรด 1.5
50-54 ได้เกรด 1
0-49 ได้เกรด 0
เดี๋ยวดาจะยกตัวอย่างคำว่า
"คนที่ได้4.00 ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดของห้อง"ให้ดูนะคะ เช่นทั้งหมดมี15วิชา นายเอได้ คะแนน90ต้นๆ14วิชาแต่นายเอไม่ถนัดวาดรูปจึงได้79คะแนนในวิชาศิลปะทำให้นายเอได้เกรด3.98 แต่นายบี ได้คะแนน80พอดีเป๊ะทุกวิชา จึงได้เกรด4.00 ถ้าเพื่อนๆเห็นแบบนี้ก็คงรู้กันดีว่าระหว่างนายเอกับนายบีต้องเป็นนายเอที่ฉลาดกว่าอยู่แล้วเพราะได้คะแนนรวมมากกว่า แต่คนอื่นที่ไม่รู้กลับมองว่านายบีฉลาดกว่าเพียงแค่มีเกรดเฉลี่ยมากกว่า เข้าใจกันแล้วยังคะ ว่าทำไมคนที่ได้4.00จึงไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในห้อง
ส่วนคำว่า "คนที่ได้4.00ไม่ใช่คนที่เรียนไม่ได้" นั้นก็คือ คนที่เรียนไม่ได้คะแนนจะไม่มีทางมากกว่าคนที่เรียนได้หรอกค่ะ คนที่เรียนไม่ได้ไม่ต้องเศร้านะคะ
เพียงแค่ขยันอ่านไปเรื่อยๆ ตั้งใจจำ เหมือนดาาค่ะ จิงๆก็ไม่เรียนเก่งอะไรมากมายหรอกค่ะ ดาเป็นคนที่เรียนไม่เก่งแต่ จำเก่งค่ะ ถ้าเจอข้อสอบถามตรงๆนี่สบายมากแต่ถ้าข้อสอบวิเคราะห์หรือทุกข้อถูกแต่ถามถูกที่สุดนี่ตายค่ะ55555 (แต่ชอบคนิด คือ?555) เอาภาพรวมของหัวข้อนี้คือไม่มีทางที่คนเรียนไม่ได้จะได้4.00ค่ะ เพราะ4.00ไม่ได้มาจากความขยันอย่างเดียวในเกรดจะมีทั้งคะแนนเก็บและ "คะแนนสอบ"
เป็นไงบ้างค้ะ การเขียนกระทู้ครั้งแรกของดา ยาวมาก เอาเป็นว่าสรุปคือ คนที่ได้4.00ควรพึงระลึกไว้ว่าเราทำได้และจงมีความสุขกับตำแหน่งนี้ค่ะเพราะไม่ได้เป็นตำแหน่งที่ได้มาง่ายๆเรียน1ปีเพื่อตัวเลข3ตัวแค่เนี่ย ภูมิใจไว้ค่ะ ส่วนคนที่ไม่ได้4.00 ก็ไม่ต้องเสียใจไปค่ะ โอกาสยังมีให้คนขยันเสมออยากได้4.00ไม่ต้องแข่งกับใครค่ะ แข่งกับตัวเองก็พอ ส่วนคนที่คิดว่าคงไม่มีวันที่จะได้ ดาจะไม่พูดว่าอย่าคิดแบบนั้นหรอกค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ คนเราคิดไม่เหมือนกัน ขอแค่มีเป้าหมายในอนาคตของตัวเองก็พอค่ะ หากอนาคตที่คุณวางเป้าไว้ไม่ต้องแลกด้วยเกรด ก็ไม่ต้องพยายามกับมันมากก็ได้ค่ะ เพราะเกรดไม่ใช่ตัวกำหนดอนาคตของเรานะคะ เกรดไม่ได้ใช้วัดจำนวนเส้นหยักในสมองค่ะ
อนาคตต้องดูที่อนาคตไม่ใช่ตัวเลขในสมุดพกค่ะ
4.00 เรียนยังไง ต้องเป็นคนเก่งเสมอไปหรอ?
รู้สึกยังไงเมื่อได้4.00ครั้งแรก
ถามว่ารู้สึกยังไงตอนรู้ว่าได้เกรด4.00 รู้สึกตกใจมากเลยค่ะที่ได้ เพราะเป็นครั้งแรกค่ะ ที่สำคัญคือรู้สึกภูมิใจในตัวเองค่ะที่สักวันนึงเราก็ขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุดของคะแนนได้
4.00มีข้อดีข้อเสียอย่างไร
จากประสบการณ์โดยตรงของดานะคะการได้เกรด4.00มีทั้งข้อดีและข้อเสียค่ะ ข้อดีคือ เราได้ทำหน้าที่ลูกที่ดีให้พ่อกับแม่ได้ภูมิใจในตัวเราแล้ว ทำให้ตัวเองมีความสุขที่ขึ้นมาอยู่เหนือสุดได้ แต่การอยู่เหนือสุดก็มีข้อเสียเหมือนกันนะคะ เราจะเป็นคนที่ถูกคาดหวังมากที่สุดและที่สำคัญ ก็คือ"การหามาว่ายากแล้ว การรักษาไว้ยิ่งยากกว่า" กว่าจะได้ที่1หรือ4.00นั้นยากมากค่ะ แต่การรักษาที่1เอาไว้นี่สิคะยากมาก เหมือนเราต้องแข่งกับคนทั้งห้องค่ะ การวัดเกรดคือการแข่งกับตัวเองส่วนการวัดลำดับที่คือการแข่งกับเพื่อนในห้อง พูดแบบนี้อาจดูเหมือนเห็นแก่ตัวแต่บนโลกนี้ใครๆก็รักตัวเองกันทั้งนั้นแหละค่ะ ขึ้นอยู่ที่จะรักแบบไหน แข่งก็แข่งได้ แข่งกันเรียน หรือแข่งกันอย่างอื่น เราและเพื่อนในกลุ่มเลือกกันเอาได้ค่ะ
เรียนยังไง ต้องเก่งมั้ย
และแล้วก็มาถึงสาเหตุที่ทำให้ทุกคนเข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้วค่ะ ดาขอพูดตรงนี้ นาทีนี้เลยนะคะคนที่ได้เกรด4.00 ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดของห้องค่ะและคนที่ได้4.00ไม่ใช่คนที่เรียนไม่ได้เหมือนกันค่ะ ทุกคนคงจะงงกันใช่มั้ยคะ มาค่ะดาจะอธิบายเริ่มจากก่อนอื่นเรามารู้วิธีการนับเกรดกันก่อนค่ะ(ไม่รู้ว่าแต่ละโรงเรียนนับเหมือนกันมั้ยนะคะ)
80 ขึ้นไป ได้เกรด 4
75-79 ได้เกรด 3.5
70-74 ได้เกรด 3
66-69 ได้เกรด 2.5
60-64 ได้เกรด 2
56-59 ได้เกรด 1.5
50-54 ได้เกรด 1
0-49 ได้เกรด 0
เดี๋ยวดาจะยกตัวอย่างคำว่า "คนที่ได้4.00 ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดของห้อง"ให้ดูนะคะ เช่นทั้งหมดมี15วิชา นายเอได้ คะแนน90ต้นๆ14วิชาแต่นายเอไม่ถนัดวาดรูปจึงได้79คะแนนในวิชาศิลปะทำให้นายเอได้เกรด3.98 แต่นายบี ได้คะแนน80พอดีเป๊ะทุกวิชา จึงได้เกรด4.00 ถ้าเพื่อนๆเห็นแบบนี้ก็คงรู้กันดีว่าระหว่างนายเอกับนายบีต้องเป็นนายเอที่ฉลาดกว่าอยู่แล้วเพราะได้คะแนนรวมมากกว่า แต่คนอื่นที่ไม่รู้กลับมองว่านายบีฉลาดกว่าเพียงแค่มีเกรดเฉลี่ยมากกว่า เข้าใจกันแล้วยังคะ ว่าทำไมคนที่ได้4.00จึงไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในห้อง
ส่วนคำว่า "คนที่ได้4.00ไม่ใช่คนที่เรียนไม่ได้" นั้นก็คือ คนที่เรียนไม่ได้คะแนนจะไม่มีทางมากกว่าคนที่เรียนได้หรอกค่ะ คนที่เรียนไม่ได้ไม่ต้องเศร้านะคะ
เพียงแค่ขยันอ่านไปเรื่อยๆ ตั้งใจจำ เหมือนดาาค่ะ จิงๆก็ไม่เรียนเก่งอะไรมากมายหรอกค่ะ ดาเป็นคนที่เรียนไม่เก่งแต่ จำเก่งค่ะ ถ้าเจอข้อสอบถามตรงๆนี่สบายมากแต่ถ้าข้อสอบวิเคราะห์หรือทุกข้อถูกแต่ถามถูกที่สุดนี่ตายค่ะ55555 (แต่ชอบคนิด คือ?555) เอาภาพรวมของหัวข้อนี้คือไม่มีทางที่คนเรียนไม่ได้จะได้4.00ค่ะ เพราะ4.00ไม่ได้มาจากความขยันอย่างเดียวในเกรดจะมีทั้งคะแนนเก็บและ "คะแนนสอบ"
เป็นไงบ้างค้ะ การเขียนกระทู้ครั้งแรกของดา ยาวมาก เอาเป็นว่าสรุปคือ คนที่ได้4.00ควรพึงระลึกไว้ว่าเราทำได้และจงมีความสุขกับตำแหน่งนี้ค่ะเพราะไม่ได้เป็นตำแหน่งที่ได้มาง่ายๆเรียน1ปีเพื่อตัวเลข3ตัวแค่เนี่ย ภูมิใจไว้ค่ะ ส่วนคนที่ไม่ได้4.00 ก็ไม่ต้องเสียใจไปค่ะ โอกาสยังมีให้คนขยันเสมออยากได้4.00ไม่ต้องแข่งกับใครค่ะ แข่งกับตัวเองก็พอ ส่วนคนที่คิดว่าคงไม่มีวันที่จะได้ ดาจะไม่พูดว่าอย่าคิดแบบนั้นหรอกค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ คนเราคิดไม่เหมือนกัน ขอแค่มีเป้าหมายในอนาคตของตัวเองก็พอค่ะ หากอนาคตที่คุณวางเป้าไว้ไม่ต้องแลกด้วยเกรด ก็ไม่ต้องพยายามกับมันมากก็ได้ค่ะ เพราะเกรดไม่ใช่ตัวกำหนดอนาคตของเรานะคะ เกรดไม่ได้ใช้วัดจำนวนเส้นหยักในสมองค่ะ อนาคตต้องดูที่อนาคตไม่ใช่ตัวเลขในสมุดพกค่ะ