' Scandinavia ' ถ้าบอกเพื่อนว่าจะไปเที่ยวที่นี่ คำนี้ออกจะดูห่างไกลกับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราสักหน่อย ไม่ใช่อะไรก็แถบนี้ขึ้นชื่อว่าค่าครองชีพสูงติดอันดับโลกกันเลย แต่ด้วยความฝันให้ไกลไปให้ถึงของเราบวกกับการเตรียมการไปอย่างดี เราเลยทำให้เป็นสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราเอื้อมถึง การเที่ยวแบบชิคๆตลอด 17 วัน 5 ประเทศตามงบประมาณ 70K จึงเริ่มต้นขึ้น ถ้าใครสนใจอยากจะได้แพลนของพวกเราก็ทักมาได้โล้ด และพวกเรายินดีเปิดเผยค่าใช้จ่ายแต่ละทริปที่เราไปมาอย่างละเอียดจนน่าตกใจ5555 รับรองว่าไม่ได้แพงอย่างที่คิด มนุษย์เงินเดือนแบบพวกเราเอื้อมถึงแน่นอน หรือมีคำถามอะไรก็ถามมาได้เลยคะ FB, IG, Page ทักมาได้หมดเลยค่ะ ก่อนอื่นแนะนำให้ดูคลิปเรียกน้ำจิ้มที่เราไปซะก่อนจะได้อินไปกะเรา
เท่าที่จำได้ว่าความคิดนี้เกิดขึ้นได้ยังไงเหมือนเราจะอยู่ดีดีก็รู้สึกอยากไป Norway ขึ้นมาแต่ไม่ได้อยากไปดูแสงเหนือหรือสัมผัสหิมะแต่ประการใด เราแค่อยากเห็นพื้นที่สีเขียวแบบมีภูเขาโอบล้อมหลังจากนอนคิดอยู่คืนนึง วันรุ่งขึ้นเรากำลังขึ้นรถไฟฟ้าอยู่ก็หันไปชวนเพื่อนทันทีว่าแกๆๆไป Scandinavia กัน อยากไปเที่ยวแถบทะเลบอลติก เพื่อนหันมาแบบรู้ชะตากรรมว่ายังไงก็คงต้องไปซินะ 555 เราเลยได้เริ่มต้นทริปที่ตรงนั้นละ
เตรียมตัวยังไงก่อนไปเที่ยวให้งบไม่บานปลาย
1.ปลายทางคือสิ่งสำคัญ
อย่างแรกแน่นอน ทุกคนควรหาที่ที่เราอยากไปมากๆๆๆๆก่อนเพราะจะทำให้เราอินกับที่ที่เราไปมากขึ้น เหมือนอย่างเรานึกครึ้มอยากไปสัมผัสธรรมชาติก็เลยเลือกที่จะไปนอร์เวย์เป็นที่หลักและส่วนประเทศอื่นมันก็ค่อยๆตามมา ทริปนี้เลยบังเกิด
2.ไปคนเดียวมันเหงา
เราไม่ชอบเที่ยวคนเดียวเท่าไหร่ ไปไกลๆขนาดนี้ก็ต้องขอหาเพื่อนไปหารความสนุก และหารตังค่าทริปซะหน่อย เลยจัดการชวนพวกพ้องมาได้ทั้งหมดสี่คน รวมเราก็เป็นห้า เมื่อเพื่อนพร้อมก็ step ถัดไปทันที
3.กำหนด budget ดีดีกลับไปจะได้ไม่ต้องไปกินมาม่า
อันนี้สำคัญมากกกกสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ไม่งั้นเราจะต้องใช้เกินวงเงินที่ตั้งเอาไว้จะบานปลาย สุดท้ายได้กลับมากินมาม่าเป็นเดือนๆชัวร์ ทางที่ดีควรกำหนดให้ละเอียดเลยค่ะ ของเราเรากำหนดไว้เลยว่าทริปนี้ total รวมเท่าไหร่ ค่าตั๋วควรจะประมาณเท่าไหร่หาด้วยนะว่าแถบนั้นลงที่ประเทศไหนจะถูกที่สุด ค่าที่พักต่อคืนควรจะเท่าไหร่ ค่ากินต่อวันต่อคนควรจะเท่าไหรดี ค่าเดินทางต้องประมาณเท่าไหร่กะเกณฑ์ไว้คราวๆก่อนแล้วค่อยไปหารายละเอียดอีกที
4.กำหนดวันเวลาช่วงเวลาที่อยากไป
ต้องเลือกช่วงเวลาที่เราอยากจะไปเห็นวิวที่นั้นด้วยว่าอยากเห็นเห็นใบไม้เปลี่ยนสี หิมะตก หรือว่าใบไม้ผลิ อย่างเช่นของเรา เราเลือกไปช่วงประมาณปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นมิถุนายนด้วยเหตุผลอย่างแรกคือเราลางานได้ยาวในช่วงเวลานั้น แล้วเราก็แอบอยากเห็นสีเขียวๆของภูเขาพร้อมๆกับหิมะที่เริ่มละลายบ้างแล้วบนยอดเขา แต่ที่สำคัญสุดคือมันจะกลางวันยาวนานสักหน่อยได้เที่ยวแบบคุ้มๆหน่อย ต่อมความงกก็กำเริมเบาๆ
5.เริ่มลงลึกสถานที่เที่ยว
เพื่อนพร้อม budgetพร้อม เป้าหมายปลายทางก็พร้อม ถ้างั้นก็ถึงเวลาลงลึกไปที่เมืองที่อยากไปว่าอยากไปเมืองไหน ประเทศไหนบ้างกี่วัน แต่อย่าลืมคุยกะเพื่อนในทริปทุกคนด้วยละว่ามันแต่ละคนอยากไปที่เดียวกับเราหรือป่าว อย่างเราถึงเราจะชอบธรรมชาติแต่เพื่อนเราก็อยากเดินเมืองๆและช้อปปิ้งด้วยเหมือนกัน เราถึงกับศึกษาว่าแถบนั้นประเทศไหนจะได้ tax refund มากกว่าเพื่อให้เพื่อนได้ช้อปอย่างสบายใจ เพราะงั้นเราก็จัดเต็มไปทุกแนวอย่างครบถ้วนเพื่อนความฟินของชาวคณะ มีบางที่เราไม่แน่ใจว่ามันจะสวยจริงแบบที่หาไหมเราเลยเลือกเจาะดูด้วยว่าสถานที่ที่เราเลือกกันหน้าตาเป็นยังไง โดยการดู google map แบบ street view อันนี้แนะนำเผื่อใครอยากรู้ว่าสถานที่จริงสวยงามดังภาพที่เค้ารีวิวกันไว้ไหม
6.เริ่มหาตั๋วพร้อมโบยบิน
พอได้แพลนคร่าวๆ สิ่งแรกที่ทุกคนควรทำเลยก็คือซื้อตั๋วค่ะ เพื่อให้ได้วันที่เดินทางแน่นอนว่าวันไหนถึงวันไหน แล้วเราจะได้แพลนลงรายละเอียดได้อีกทีพร้อมเช็คสภาพอากาศได้ด้วยนะเอยจะได้เผื่อมีแพลนสำรองในวันที่ฝนตกหรือจะหาทางเลี่ยงไปเมืองข้างๆแทนได้ไม่เซ็งซะก่อนถ้าฝนตก พวกเราห้าคนได้ตั๋วของ Qatar ทั้งขาไปและขากลับ ราคาตั๋วของพวกเราตกลงละ 19,xxx (BKK-CPH-BKK) เรียกว่าเจอถูกปุ๊บก็รีบกดเลยทีเดียว
7.ที่ซุกหัวนอนต้องมา
หลังนั้นเราก็เริ่มแพลนกันโดยละเอียดโดยเริ่มจากปักหมุดสถานที่หรือเมืองที่เราจะไปนอนค้างว่าจะนอนที่ไหนกันดี เราก็เริ่มหาที่ซุกหัวนอนแต่ละที่โดยเน้นหาที่ app หลักๆเช่น Air BnB, Traveloka, Booking, Agoda โดยแนะนำเช่นเคยว่าให้อ่านรายละเอียดให้ดีดีนะว่าต้องเสียค่าไรเพิ่มไหมถ้าใครไม่เคยใช้ air bnb มาก่อนแนะนำให้อ่านให้รอบคอบเด้ออาจมีมองว่ามีค่า parking, cleaning ไรพวกนี้รวมอยู่ด้วยอย่าเพิ่งเห็นว่าถูกละกดจองเลยเด้ออ เดี๋ยวที่พักและบริษัทจองรถ การเดินทาง และวิธีเตรียมตัวขอวีซ่า (เราสรุปเป็นเรื่องๆให้อ่านอีกทีนะคะ)
[CR] SCANDINAVIA มนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็เที่ยวได้
เท่าที่จำได้ว่าความคิดนี้เกิดขึ้นได้ยังไงเหมือนเราจะอยู่ดีดีก็รู้สึกอยากไป Norway ขึ้นมาแต่ไม่ได้อยากไปดูแสงเหนือหรือสัมผัสหิมะแต่ประการใด เราแค่อยากเห็นพื้นที่สีเขียวแบบมีภูเขาโอบล้อมหลังจากนอนคิดอยู่คืนนึง วันรุ่งขึ้นเรากำลังขึ้นรถไฟฟ้าอยู่ก็หันไปชวนเพื่อนทันทีว่าแกๆๆไป Scandinavia กัน อยากไปเที่ยวแถบทะเลบอลติก เพื่อนหันมาแบบรู้ชะตากรรมว่ายังไงก็คงต้องไปซินะ 555 เราเลยได้เริ่มต้นทริปที่ตรงนั้นละ
เตรียมตัวยังไงก่อนไปเที่ยวให้งบไม่บานปลาย
1.ปลายทางคือสิ่งสำคัญ
อย่างแรกแน่นอน ทุกคนควรหาที่ที่เราอยากไปมากๆๆๆๆก่อนเพราะจะทำให้เราอินกับที่ที่เราไปมากขึ้น เหมือนอย่างเรานึกครึ้มอยากไปสัมผัสธรรมชาติก็เลยเลือกที่จะไปนอร์เวย์เป็นที่หลักและส่วนประเทศอื่นมันก็ค่อยๆตามมา ทริปนี้เลยบังเกิด
2.ไปคนเดียวมันเหงา
เราไม่ชอบเที่ยวคนเดียวเท่าไหร่ ไปไกลๆขนาดนี้ก็ต้องขอหาเพื่อนไปหารความสนุก และหารตังค่าทริปซะหน่อย เลยจัดการชวนพวกพ้องมาได้ทั้งหมดสี่คน รวมเราก็เป็นห้า เมื่อเพื่อนพร้อมก็ step ถัดไปทันที
3.กำหนด budget ดีดีกลับไปจะได้ไม่ต้องไปกินมาม่า
อันนี้สำคัญมากกกกสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ไม่งั้นเราจะต้องใช้เกินวงเงินที่ตั้งเอาไว้จะบานปลาย สุดท้ายได้กลับมากินมาม่าเป็นเดือนๆชัวร์ ทางที่ดีควรกำหนดให้ละเอียดเลยค่ะ ของเราเรากำหนดไว้เลยว่าทริปนี้ total รวมเท่าไหร่ ค่าตั๋วควรจะประมาณเท่าไหร่หาด้วยนะว่าแถบนั้นลงที่ประเทศไหนจะถูกที่สุด ค่าที่พักต่อคืนควรจะเท่าไหร่ ค่ากินต่อวันต่อคนควรจะเท่าไหรดี ค่าเดินทางต้องประมาณเท่าไหร่กะเกณฑ์ไว้คราวๆก่อนแล้วค่อยไปหารายละเอียดอีกที
4.กำหนดวันเวลาช่วงเวลาที่อยากไป
ต้องเลือกช่วงเวลาที่เราอยากจะไปเห็นวิวที่นั้นด้วยว่าอยากเห็นเห็นใบไม้เปลี่ยนสี หิมะตก หรือว่าใบไม้ผลิ อย่างเช่นของเรา เราเลือกไปช่วงประมาณปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นมิถุนายนด้วยเหตุผลอย่างแรกคือเราลางานได้ยาวในช่วงเวลานั้น แล้วเราก็แอบอยากเห็นสีเขียวๆของภูเขาพร้อมๆกับหิมะที่เริ่มละลายบ้างแล้วบนยอดเขา แต่ที่สำคัญสุดคือมันจะกลางวันยาวนานสักหน่อยได้เที่ยวแบบคุ้มๆหน่อย ต่อมความงกก็กำเริมเบาๆ
5.เริ่มลงลึกสถานที่เที่ยว
เพื่อนพร้อม budgetพร้อม เป้าหมายปลายทางก็พร้อม ถ้างั้นก็ถึงเวลาลงลึกไปที่เมืองที่อยากไปว่าอยากไปเมืองไหน ประเทศไหนบ้างกี่วัน แต่อย่าลืมคุยกะเพื่อนในทริปทุกคนด้วยละว่ามันแต่ละคนอยากไปที่เดียวกับเราหรือป่าว อย่างเราถึงเราจะชอบธรรมชาติแต่เพื่อนเราก็อยากเดินเมืองๆและช้อปปิ้งด้วยเหมือนกัน เราถึงกับศึกษาว่าแถบนั้นประเทศไหนจะได้ tax refund มากกว่าเพื่อให้เพื่อนได้ช้อปอย่างสบายใจ เพราะงั้นเราก็จัดเต็มไปทุกแนวอย่างครบถ้วนเพื่อนความฟินของชาวคณะ มีบางที่เราไม่แน่ใจว่ามันจะสวยจริงแบบที่หาไหมเราเลยเลือกเจาะดูด้วยว่าสถานที่ที่เราเลือกกันหน้าตาเป็นยังไง โดยการดู google map แบบ street view อันนี้แนะนำเผื่อใครอยากรู้ว่าสถานที่จริงสวยงามดังภาพที่เค้ารีวิวกันไว้ไหม
6.เริ่มหาตั๋วพร้อมโบยบิน
พอได้แพลนคร่าวๆ สิ่งแรกที่ทุกคนควรทำเลยก็คือซื้อตั๋วค่ะ เพื่อให้ได้วันที่เดินทางแน่นอนว่าวันไหนถึงวันไหน แล้วเราจะได้แพลนลงรายละเอียดได้อีกทีพร้อมเช็คสภาพอากาศได้ด้วยนะเอยจะได้เผื่อมีแพลนสำรองในวันที่ฝนตกหรือจะหาทางเลี่ยงไปเมืองข้างๆแทนได้ไม่เซ็งซะก่อนถ้าฝนตก พวกเราห้าคนได้ตั๋วของ Qatar ทั้งขาไปและขากลับ ราคาตั๋วของพวกเราตกลงละ 19,xxx (BKK-CPH-BKK) เรียกว่าเจอถูกปุ๊บก็รีบกดเลยทีเดียว
7.ที่ซุกหัวนอนต้องมา
หลังนั้นเราก็เริ่มแพลนกันโดยละเอียดโดยเริ่มจากปักหมุดสถานที่หรือเมืองที่เราจะไปนอนค้างว่าจะนอนที่ไหนกันดี เราก็เริ่มหาที่ซุกหัวนอนแต่ละที่โดยเน้นหาที่ app หลักๆเช่น Air BnB, Traveloka, Booking, Agoda โดยแนะนำเช่นเคยว่าให้อ่านรายละเอียดให้ดีดีนะว่าต้องเสียค่าไรเพิ่มไหมถ้าใครไม่เคยใช้ air bnb มาก่อนแนะนำให้อ่านให้รอบคอบเด้ออาจมีมองว่ามีค่า parking, cleaning ไรพวกนี้รวมอยู่ด้วยอย่าเพิ่งเห็นว่าถูกละกดจองเลยเด้ออ เดี๋ยวที่พักและบริษัทจองรถ การเดินทาง และวิธีเตรียมตัวขอวีซ่า (เราสรุปเป็นเรื่องๆให้อ่านอีกทีนะคะ)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้