สวัสดีค่าาาา ก่อนอื่นเราก็ต้องมาทำพิธีเปิดกระทู้กันก่อนเลยเนอะ เพราะเป็นกระทู้แรกที่เขียนเองค่ะ (แต่แอบเอา User แฟนมาเล่น55555) ผิดพลาดประการใดก็โปรดอภัยให้ข้าน้อยด้วยน้า pleasee~
จุดเริ่มต้นของทริปนี้เลยคือต้องการล่าอุทยานแห่งชาติค่ะ เพราะเรามีสมุดสะสมตราประทับของ อช อยู่ และเสาร์อาทิตย์ว่างพอดีเลยหยิบมาเปิดหาที่เที่ยว แพลนในใจคืออยากไปปิล๊อกอยู่แล้ว เลยปักหมุดไว้ที่กาญจนบุรี...

ซึ่งเราแพลนไว้คร่าวๆประมาณนี้ค่ะ
วันเสาร์ ออกเดินทาง 4.00 น. เช้าที่น้ำตกเอราวัณ>>แวะเที่ยวน้ำตกจ๊อกกระดิ่น>>นอนกางเต๊นท์ที่ปิล๊อก
วันอาทิตย์ ออกเดินทางจากปิล๊อก>>แวะร้านมีนาคาเฟ่>>ถึง กทม.ตอนเย็นๆ
แต่ว่า อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงได้เสมอ...เช่นในครั้งนี้...
29 มิถุนายน 2561 เวลา 20.30 น. แฟนเราเริ่มออกเดินทางจากระยองมารับเราที่ กทม. มาถึงประมาณ 22.30 น. ตอนแรกตั้งใจจะอาบน้ำเตรียมเข้านอน เพราะแพลนออกเดินทางตอน 4.00 น. แต่!!!! อยู่ดีดีคุณแฟนก็บอกว่า ‘เราจะไปสะพานมอญด้วยเลยดีไหม? ไปใส่บาตรกัน’ งานเข้าละค่ะ รีบเปิดกูเกิ้ลแมพเพื่อแพลนเวลาใหม่กันทันที นับเวลาไปๆมาๆก็สรุปได้ว่า เราต้องออกเที่ยงคืนนน!!!! เพื่อไปให้ทันใส่บาตรตอนเช้าที่สะพานมอญ โอเคค่ะ เที่ยงคืนก็เที่ยงคืน เรารีบเก็บของและออกเดินทางทันที (โดยที่ไม่ได้นอน5555)
30 มิถุนายน 2561 มาถึงสะพานมอญ 6.30 น. (แอบจอดแวะงีบนิดหน่อย) มีคุณป้าวิ่งมาต้อนรับ โบกรถให้ หาที่จอดให้พร้อมมมม เราเลยต้องซื้อชุดตักบาตรของป้า 99 บาท ใส่บาตรเสร็จแล้วถึงเดินไปเล่นที่สะพานมอญ (คหสต.เราว่ามันไม่ค่อยมีอะไรอ่ะ แต่วิวสวยมาก บรรยากาศก็ดีมากเว่อรรร์) ตอนเดินกลับเจอร้าน ‘โจ๊กนั่งยอง’ แต่ไม่ได้อยากกินโจ๊กนะคะ อยากกินโรตีโอ่ง 5555 เลยรีบเข้าร้านไปสั่งทันที อื้มมม โจ๊กใส่ไข่ธรรมดาๆนี่แหละค่ะ แต่รสชาติดีกว่าโจ๊กกระป๋องที่ตุนมาจาก กทม.แน่นอนน ส่วนโรตีโอ่งเหนียวกำลังดีเลยค่ะ5555 กินเสร็จแล้วเราก็เดินดิ่งไปที่รถแล้วออกเดินทางต่อกันเลยยย (เริ่มออกเดินทางจากสะพานมอญประมาณ 8.00 น.)
คุณป้าที่โบกรถให้ น่าร้ากก

วิวทั้งสองข้างสะพาน



Check in แรกของทริปนี้ #
น้ำตกเกริงกระเวีย (ส่วนหนึ่งของอุทยานฯ เขาแหลมค่ะ) เป็นทางผ่านพอดีเลยแวะไปสแตมป์ เข้าห้องน้ำให้สบายใจ แล้วออกเดินทางต่อ (เรามีเวลาที่ค่อนข้างจำกัด เพราะไม่อยากไปถึงปิล๊อกมืด เลยไม่ได้แวะเที่ยวในจุดอื่นๆของอุทยานฯเลยค่ะ)
Check in 2 #
เขื่อนวชิราลงกรณ์ (ทางผ่านอีกเหมือนกัน5555) ที่นี่วิวสวยมากกกกกกค่ะ ใจจริงอยากขับรถไปจอดถ่ายรูปกลางสันเขื่อนนะ แต่ จนท. เอากรวยมากั้นไว้ไม่ให้เข้า เลยทำได้แค่เดินไปถ่ายรูปแล้วเดินกลับ

Check in 3 #
น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิค่ะ ทั้งทริปนี้เราชอบที่นี่มากที่สุดแล้ว ตอนแรกเราดูพยากรณ์อากาศแล้วเค้าบอกว่าฝนจะตก (ตลอดการเดินทางมาฝนก็ตกเป็นช่วงๆ) เราเลยทำใจว่าน้ำตกแดงเถือกแน่นอนนน ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเล่นน้ำเลย แต่พอเดินไปถึงแล้ว อื้อหือออออ น้ำใสค่ะ ใสมากกกก ใสกว่าหน้าเราอีกกกก ใสจนอดใจไม่ไหว แต่!!! คุณแฟนเราไวกว่าค่ะ ถอดเสื้อ โยนกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์มาไว้ที่เราทั้งหมด และวิ่งลงน้ำไปแล้ว เราทำได้แค่ยืนเล่นน้ำตรงที่ตื้นๆ พร้อมหอบของทั้งหมดไว้กับตัว ฮือออ (โชคดีมากที่ฝนหยุดตกให้เราได้เล่นน้ำกัน^^)

พอนางเล่นน้ำจนหนำใจแล้วเราจึงออกเดินทางสู่หมู่บ้านอีต่องกันต่อ...
Check in 4 #
บ้านอีต่อง เรามาถึงที่นี่เวลาประมาณ 15.00 น. รีบออกหาข้าวกินกันด้วยความหิวโหย เพราะตั้งแต่กินโจ๊กที่สะพานมอญแล้วก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย...ข้าวกระเพราหมูสับ ข้าวไข่เจียวหมูสับ หมูพวง+ข้าวเหนียว โรตีไข่ชีส...อร่อยทุกอย่างงงงงง ตอนนั้นอะไรก็อร่อยไปหมดค่ะ หิวจัด5555555 พอท้องอิ่มแล้วเราจึงเริ่มออกเดินทัวร์รอบหมู่บ้าน...หมู่บ้านในหมอก...เชื่อแล้ววววว มีแต่หมอกจริงๆ ไม่เห็นวิวอะไรเลยยย >< แต่สักพักเดียวเท่านั้นแหละค่ะ หมอกก็หายไปหมดเกลี้ยง โชว์วิวบ้านเรือน โฮมสเตย์ริมสระน้ำ เหมือนรูปที่เค้าชอบเอามารีวิวกันแหละ

พอเราเดินเที่ยวจนพอใจแล้วก็ต้องออกเดินทางกันต่อ (อ้าววว จะไปไหนอ่ะ ปลายทางเราคือที่นี่ไม่ใช่หรอออ...(- -) อ่านต่อจิๆๆ)
Check in 5 #
เนินช้างศึก ตามแพลนเราตั้งใจจะไปกางเต๊นท์นอนที่เนินช้างศึก แต่พอมาถึงปุ๊บ...ฝนตกค่ะ ตกหนักมากกกกก มองไปทางไหนมีแต่หมอกสีขาว ไม่มีใครมากางเต็นท์ที่นี่เลย เราก็ไม่อินดี้พอที่จะกางเต๊นที่นี่แบบโดดเดี่ยวเดียวดายซะด้วย ห้องน้ำตอนกลางคืนต้องน่ากลัวมากแน่ๆ หันไปอ้อนคุณแฟนค่ะ เรากลับบ้านอีต่องกันเถอะนะ pleaseeeee ไปกางเต๊นท์ที่ลานจอด ฮ. ก็ได้ (เพราะตอนแรกเราจอดรถกันที่นี่ และเห็นว่ามีคนกางเต๊นท์กันอยู่ก่อนแล้ว) อย่างน้อยที่นี่ก็มีเพื่อน โอเค ตกลง เราได้กลับมากางเต็นท์ที่บ้านอีต่อง...แต่ความสนุกของทริปนี้มันอยู่ที่ตรงนี้ค่ะ...
(ขออภัยด้วยค่ะ เราไม่ได้ถ่ายรูปที่เนินช้างศึกมาเลย เพราะกล้องแบตหมดไปแล้วว ประกอบกับฝนตกหนัก หมอกลงจัด เลยไม่ได้ลงจากรถเลยค่ะ)
Back to #
บ้านอีต่อง เรากลับเข้ามาในหมู่บ้านอีกครั้งประมาณ 17.00 น. วนหาที่กางเต็นท์ ออกสำรวจหาห้องน้ำ แล้วจึงเริ่มกางเต็นท์ ระหว่างนี้ก็เช็คพยากรณ์อากาศไปด้วย ซึ่งตอนนั้นพยากรณ์บอกว่าฝนจะตก 80% ของพื้นที่ อื้มม มองฟ้าแล้วมีแต่หมอก ส่วนช่วงดึกๆฝนจะตกประมาณ 30-40% ประโยคที่แฟนบอก เรายังจำได้แม่นเลย ‘นี่พยากรณ์บอกฝนตก 80% นะ ยังแค่นี้เอง ดึกๆ 30-40% หรอ สบ๊ายยยยย...’ (ส่วนในใจเราอธิฐานขอให้พยากรณ์มันมั่วว ขอให้คืนนี้ฝนไม่ตก) แล้วนอนพักผ่อนในเต็นท์แบบสบายใจ...ตื่นมาอีกทีประมาณทุ่มนึงค่ะ หิว เตรียมต้มมาม่ากิน ตอนนั้น ฝนเริ่มตกปรอยๆแล้ว ยังยิ้มสู้ฝนค่ะ ในใจคิดแค่ว่า เดี๋ยวมันก็หยุดตกเองแบบตอนเย็นนั่นแหละ สุดท้ายมันมั่วค่ะ...มั่วจริงๆ...30-40% ที่ไหนล่ะ นี่มันพายุแล้วเจ้าค่าาา!! วิ่งขนผ้าห่มที่นอนทุกอย่างกลับเข้ามาในรถ และที่นอนของเราในคืนนี้คือ ในรถค่ะ 55555555
ณ ลานจอด ฮ.

กางเต๊นท์ไว้ดิบดี แต่สุดท้ายได้นอนในรถ 5555555
1 กรกฎาคม 2561 ตื่นขึ้นมาแต่เช้า ล้างหน้าแปรงฟัน ต้มโจ๊กกระป๋องกับมาม่ากินกันก่อนเตรียมตัวออกเดินทางต่อ และสถานที่ที่จะแวะต่อไปคือออออ...
Check in 6 #
น้ำตกไทรโยคใหญ่(เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานไทรโยค) แวะซื้อตั๋วผู้ใหญ่ 2 คน+รถยนต์ รวมเป็น 230 บาทถ้วนนน เนื่องจากเรามาถึงกันค่อนข้างเช้า (ลืมบอกว่า เราออกจากปิล๊อกประมาณ 7.00 น. มาถึงน้ำตกไทรโยคประมาณ 9.30 น.) คนเลยไม่ค่อยเยอะ ทำให้บรรยากาศในการเดินเที่ยวและถ่ายรูปค่อนข้างจะอิสระและส่วนตัวค่ะ พอเดินได้สักพัก คนก็เริ่มเยอะแล้วค่ะ เราเลยกลับดีกว่า ออกเดินทางสู่เป้าหมายต่อไป
Check in 7 #
น้ำตกเอราวัณ (อุทยานแห่งชาติเอราวัณ) เรามาถึงเที่ยงพอดีเป๊ะเลยค่ะ ตามธรรมเนียมซื้อตั๋วเข้าอุทยานอีก 230 บาท (ในใจก็คิดว่า แค่จะล่าแสตมป์เราต้องลงทุนขนาดนี้เลยหรออออ T^T แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ไปค่ะ) ที่นี่คนเยอะมากกกกกกกก ทั้งคนไทยทั้งฝรั่งเดินเต็มไปหมดดด แต่น้ำสีฟ้าสวยมากค่ะ ดึงดูดให้เราอยากลงไปเล่นมาก แต่ติดตรงที่มีปลาเยอะไปหน่อย กลัวมันตอด (ดูหนังมากไป555555) น้ำตกที่นี่มี 7 ชั้น แต่เราเดินไม่ไหวเลยเดินถึงแค่ชั้น 4 พอค่ะ เดี๋ยวไม่มีแรงเดินกลับไปขึ้นรถ เพราะระยะทางที่เดินเข้ามาไกลพอสมควรเลยค่ะ

พอเดินจนหมดเรี่ยวแรงแล้วเราก็ต้องออกมาเติมพลังกันที่โซนร้านอาหารบริเวณที่จอดรถ เข้าห้องน้ำกันให้เรียบร้อย แล้วมุ่งหน้ากลับ กทม. กันเลยย...
เราเริ่มออกจากน้ำตกเอราวัณประมาณ 15.00 น. กลับถึง กทม. ประมาณทุ่มครึ่ง ส่วนคุณแฟนเราเดินทางกลับระยองต่อ ถึงระยองก็ประมาณ 22.00 น. พอดีค่ะ
สรุปแล้วทริปนี้เราใช้เวลารวมทั้งหมด 2 วัน 1 คืน ไปกับ 4 น้ำตก 4 อุทยานฯ และอีก 1 หมู่บ้าน ระยะทางรวม 1193 กิโลเมตร ทริปนี้ถือว่าใช้เวลาได้คุ้มค่าและมาราธอนมากก
ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมๆแล้วประมาณ 4000 บาท (ค่าน้ำมัน 2500 ,ค่าอุทยานฯประมาณ 590 บาท ที่เหลือคือค่ากินล้วนๆ)
สุดท้ายเราก็ต้องขอบคุณทุกคนที่อดทนอ่านมาจนจบได้ค่ะ ><
ชอบหรือไม่ชอบหรือต้องการให้ปรับปรุงอย่างไรบอกได้ค่ะ ยินดีรับฟังทุกความเห็นเลยจ้าา
ปล.ทริปนี้รูปอาจจะมีไม่เยอะ เนื่องจากไปแบบกะทันหัน กล้องไม่ได้ชาจแบต ไปหาที่ชาจเอาข้างหน้าค่ะ และรูปส่วนใหญ่จะเป็นภาพบุคคลมากกว่า
(ชอบคิดว่ารูปวิวเราหาได้จาก google แล้วจะถ่ายมาทำไมอีก 5555)
[CR] ทริปล่าอุทยานฯ นั่งรถจนตูดบาน เที่ยวกาญจนบุรี
จุดเริ่มต้นของทริปนี้เลยคือต้องการล่าอุทยานแห่งชาติค่ะ เพราะเรามีสมุดสะสมตราประทับของ อช อยู่ และเสาร์อาทิตย์ว่างพอดีเลยหยิบมาเปิดหาที่เที่ยว แพลนในใจคืออยากไปปิล๊อกอยู่แล้ว เลยปักหมุดไว้ที่กาญจนบุรี...
วันเสาร์ ออกเดินทาง 4.00 น. เช้าที่น้ำตกเอราวัณ>>แวะเที่ยวน้ำตกจ๊อกกระดิ่น>>นอนกางเต๊นท์ที่ปิล๊อก
วันอาทิตย์ ออกเดินทางจากปิล๊อก>>แวะร้านมีนาคาเฟ่>>ถึง กทม.ตอนเย็นๆ
แต่ว่า อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงได้เสมอ...เช่นในครั้งนี้...
29 มิถุนายน 2561 เวลา 20.30 น. แฟนเราเริ่มออกเดินทางจากระยองมารับเราที่ กทม. มาถึงประมาณ 22.30 น. ตอนแรกตั้งใจจะอาบน้ำเตรียมเข้านอน เพราะแพลนออกเดินทางตอน 4.00 น. แต่!!!! อยู่ดีดีคุณแฟนก็บอกว่า ‘เราจะไปสะพานมอญด้วยเลยดีไหม? ไปใส่บาตรกัน’ งานเข้าละค่ะ รีบเปิดกูเกิ้ลแมพเพื่อแพลนเวลาใหม่กันทันที นับเวลาไปๆมาๆก็สรุปได้ว่า เราต้องออกเที่ยงคืนนน!!!! เพื่อไปให้ทันใส่บาตรตอนเช้าที่สะพานมอญ โอเคค่ะ เที่ยงคืนก็เที่ยงคืน เรารีบเก็บของและออกเดินทางทันที (โดยที่ไม่ได้นอน5555)
30 มิถุนายน 2561 มาถึงสะพานมอญ 6.30 น. (แอบจอดแวะงีบนิดหน่อย) มีคุณป้าวิ่งมาต้อนรับ โบกรถให้ หาที่จอดให้พร้อมมมม เราเลยต้องซื้อชุดตักบาตรของป้า 99 บาท ใส่บาตรเสร็จแล้วถึงเดินไปเล่นที่สะพานมอญ (คหสต.เราว่ามันไม่ค่อยมีอะไรอ่ะ แต่วิวสวยมาก บรรยากาศก็ดีมากเว่อรรร์) ตอนเดินกลับเจอร้าน ‘โจ๊กนั่งยอง’ แต่ไม่ได้อยากกินโจ๊กนะคะ อยากกินโรตีโอ่ง 5555 เลยรีบเข้าร้านไปสั่งทันที อื้มมม โจ๊กใส่ไข่ธรรมดาๆนี่แหละค่ะ แต่รสชาติดีกว่าโจ๊กกระป๋องที่ตุนมาจาก กทม.แน่นอนน ส่วนโรตีโอ่งเหนียวกำลังดีเลยค่ะ5555 กินเสร็จแล้วเราก็เดินดิ่งไปที่รถแล้วออกเดินทางต่อกันเลยยย (เริ่มออกเดินทางจากสะพานมอญประมาณ 8.00 น.)
คุณป้าที่โบกรถให้ น่าร้ากก
Check in แรกของทริปนี้ #น้ำตกเกริงกระเวีย (ส่วนหนึ่งของอุทยานฯ เขาแหลมค่ะ) เป็นทางผ่านพอดีเลยแวะไปสแตมป์ เข้าห้องน้ำให้สบายใจ แล้วออกเดินทางต่อ (เรามีเวลาที่ค่อนข้างจำกัด เพราะไม่อยากไปถึงปิล๊อกมืด เลยไม่ได้แวะเที่ยวในจุดอื่นๆของอุทยานฯเลยค่ะ)
Check in 2 #เขื่อนวชิราลงกรณ์ (ทางผ่านอีกเหมือนกัน5555) ที่นี่วิวสวยมากกกกกกค่ะ ใจจริงอยากขับรถไปจอดถ่ายรูปกลางสันเขื่อนนะ แต่ จนท. เอากรวยมากั้นไว้ไม่ให้เข้า เลยทำได้แค่เดินไปถ่ายรูปแล้วเดินกลับ
Check in 3 #น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิค่ะ ทั้งทริปนี้เราชอบที่นี่มากที่สุดแล้ว ตอนแรกเราดูพยากรณ์อากาศแล้วเค้าบอกว่าฝนจะตก (ตลอดการเดินทางมาฝนก็ตกเป็นช่วงๆ) เราเลยทำใจว่าน้ำตกแดงเถือกแน่นอนนน ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเล่นน้ำเลย แต่พอเดินไปถึงแล้ว อื้อหือออออ น้ำใสค่ะ ใสมากกกก ใสกว่าหน้าเราอีกกกก ใสจนอดใจไม่ไหว แต่!!! คุณแฟนเราไวกว่าค่ะ ถอดเสื้อ โยนกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์มาไว้ที่เราทั้งหมด และวิ่งลงน้ำไปแล้ว เราทำได้แค่ยืนเล่นน้ำตรงที่ตื้นๆ พร้อมหอบของทั้งหมดไว้กับตัว ฮือออ (โชคดีมากที่ฝนหยุดตกให้เราได้เล่นน้ำกัน^^)
พอนางเล่นน้ำจนหนำใจแล้วเราจึงออกเดินทางสู่หมู่บ้านอีต่องกันต่อ...
Check in 4 #บ้านอีต่อง เรามาถึงที่นี่เวลาประมาณ 15.00 น. รีบออกหาข้าวกินกันด้วยความหิวโหย เพราะตั้งแต่กินโจ๊กที่สะพานมอญแล้วก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย...ข้าวกระเพราหมูสับ ข้าวไข่เจียวหมูสับ หมูพวง+ข้าวเหนียว โรตีไข่ชีส...อร่อยทุกอย่างงงงงง ตอนนั้นอะไรก็อร่อยไปหมดค่ะ หิวจัด5555555 พอท้องอิ่มแล้วเราจึงเริ่มออกเดินทัวร์รอบหมู่บ้าน...หมู่บ้านในหมอก...เชื่อแล้ววววว มีแต่หมอกจริงๆ ไม่เห็นวิวอะไรเลยยย >< แต่สักพักเดียวเท่านั้นแหละค่ะ หมอกก็หายไปหมดเกลี้ยง โชว์วิวบ้านเรือน โฮมสเตย์ริมสระน้ำ เหมือนรูปที่เค้าชอบเอามารีวิวกันแหละ
พอเราเดินเที่ยวจนพอใจแล้วก็ต้องออกเดินทางกันต่อ (อ้าววว จะไปไหนอ่ะ ปลายทางเราคือที่นี่ไม่ใช่หรอออ...(- -) อ่านต่อจิๆๆ)
Check in 5 #เนินช้างศึก ตามแพลนเราตั้งใจจะไปกางเต๊นท์นอนที่เนินช้างศึก แต่พอมาถึงปุ๊บ...ฝนตกค่ะ ตกหนักมากกกกก มองไปทางไหนมีแต่หมอกสีขาว ไม่มีใครมากางเต็นท์ที่นี่เลย เราก็ไม่อินดี้พอที่จะกางเต๊นที่นี่แบบโดดเดี่ยวเดียวดายซะด้วย ห้องน้ำตอนกลางคืนต้องน่ากลัวมากแน่ๆ หันไปอ้อนคุณแฟนค่ะ เรากลับบ้านอีต่องกันเถอะนะ pleaseeeee ไปกางเต๊นท์ที่ลานจอด ฮ. ก็ได้ (เพราะตอนแรกเราจอดรถกันที่นี่ และเห็นว่ามีคนกางเต๊นท์กันอยู่ก่อนแล้ว) อย่างน้อยที่นี่ก็มีเพื่อน โอเค ตกลง เราได้กลับมากางเต็นท์ที่บ้านอีต่อง...แต่ความสนุกของทริปนี้มันอยู่ที่ตรงนี้ค่ะ...
(ขออภัยด้วยค่ะ เราไม่ได้ถ่ายรูปที่เนินช้างศึกมาเลย เพราะกล้องแบตหมดไปแล้วว ประกอบกับฝนตกหนัก หมอกลงจัด เลยไม่ได้ลงจากรถเลยค่ะ)
Back to #บ้านอีต่อง เรากลับเข้ามาในหมู่บ้านอีกครั้งประมาณ 17.00 น. วนหาที่กางเต็นท์ ออกสำรวจหาห้องน้ำ แล้วจึงเริ่มกางเต็นท์ ระหว่างนี้ก็เช็คพยากรณ์อากาศไปด้วย ซึ่งตอนนั้นพยากรณ์บอกว่าฝนจะตก 80% ของพื้นที่ อื้มม มองฟ้าแล้วมีแต่หมอก ส่วนช่วงดึกๆฝนจะตกประมาณ 30-40% ประโยคที่แฟนบอก เรายังจำได้แม่นเลย ‘นี่พยากรณ์บอกฝนตก 80% นะ ยังแค่นี้เอง ดึกๆ 30-40% หรอ สบ๊ายยยยย...’ (ส่วนในใจเราอธิฐานขอให้พยากรณ์มันมั่วว ขอให้คืนนี้ฝนไม่ตก) แล้วนอนพักผ่อนในเต็นท์แบบสบายใจ...ตื่นมาอีกทีประมาณทุ่มนึงค่ะ หิว เตรียมต้มมาม่ากิน ตอนนั้น ฝนเริ่มตกปรอยๆแล้ว ยังยิ้มสู้ฝนค่ะ ในใจคิดแค่ว่า เดี๋ยวมันก็หยุดตกเองแบบตอนเย็นนั่นแหละ สุดท้ายมันมั่วค่ะ...มั่วจริงๆ...30-40% ที่ไหนล่ะ นี่มันพายุแล้วเจ้าค่าาา!! วิ่งขนผ้าห่มที่นอนทุกอย่างกลับเข้ามาในรถ และที่นอนของเราในคืนนี้คือ ในรถค่ะ 55555555
ณ ลานจอด ฮ.
กางเต๊นท์ไว้ดิบดี แต่สุดท้ายได้นอนในรถ 5555555
1 กรกฎาคม 2561 ตื่นขึ้นมาแต่เช้า ล้างหน้าแปรงฟัน ต้มโจ๊กกระป๋องกับมาม่ากินกันก่อนเตรียมตัวออกเดินทางต่อ และสถานที่ที่จะแวะต่อไปคือออออ...
Check in 6 #น้ำตกไทรโยคใหญ่(เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานไทรโยค) แวะซื้อตั๋วผู้ใหญ่ 2 คน+รถยนต์ รวมเป็น 230 บาทถ้วนนน เนื่องจากเรามาถึงกันค่อนข้างเช้า (ลืมบอกว่า เราออกจากปิล๊อกประมาณ 7.00 น. มาถึงน้ำตกไทรโยคประมาณ 9.30 น.) คนเลยไม่ค่อยเยอะ ทำให้บรรยากาศในการเดินเที่ยวและถ่ายรูปค่อนข้างจะอิสระและส่วนตัวค่ะ พอเดินได้สักพัก คนก็เริ่มเยอะแล้วค่ะ เราเลยกลับดีกว่า ออกเดินทางสู่เป้าหมายต่อไป
Check in 7 #น้ำตกเอราวัณ (อุทยานแห่งชาติเอราวัณ) เรามาถึงเที่ยงพอดีเป๊ะเลยค่ะ ตามธรรมเนียมซื้อตั๋วเข้าอุทยานอีก 230 บาท (ในใจก็คิดว่า แค่จะล่าแสตมป์เราต้องลงทุนขนาดนี้เลยหรออออ T^T แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ไปค่ะ) ที่นี่คนเยอะมากกกกกกกก ทั้งคนไทยทั้งฝรั่งเดินเต็มไปหมดดด แต่น้ำสีฟ้าสวยมากค่ะ ดึงดูดให้เราอยากลงไปเล่นมาก แต่ติดตรงที่มีปลาเยอะไปหน่อย กลัวมันตอด (ดูหนังมากไป555555) น้ำตกที่นี่มี 7 ชั้น แต่เราเดินไม่ไหวเลยเดินถึงแค่ชั้น 4 พอค่ะ เดี๋ยวไม่มีแรงเดินกลับไปขึ้นรถ เพราะระยะทางที่เดินเข้ามาไกลพอสมควรเลยค่ะ
พอเดินจนหมดเรี่ยวแรงแล้วเราก็ต้องออกมาเติมพลังกันที่โซนร้านอาหารบริเวณที่จอดรถ เข้าห้องน้ำกันให้เรียบร้อย แล้วมุ่งหน้ากลับ กทม. กันเลยย...
เราเริ่มออกจากน้ำตกเอราวัณประมาณ 15.00 น. กลับถึง กทม. ประมาณทุ่มครึ่ง ส่วนคุณแฟนเราเดินทางกลับระยองต่อ ถึงระยองก็ประมาณ 22.00 น. พอดีค่ะ
สรุปแล้วทริปนี้เราใช้เวลารวมทั้งหมด 2 วัน 1 คืน ไปกับ 4 น้ำตก 4 อุทยานฯ และอีก 1 หมู่บ้าน ระยะทางรวม 1193 กิโลเมตร ทริปนี้ถือว่าใช้เวลาได้คุ้มค่าและมาราธอนมากก
ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมๆแล้วประมาณ 4000 บาท (ค่าน้ำมัน 2500 ,ค่าอุทยานฯประมาณ 590 บาท ที่เหลือคือค่ากินล้วนๆ)
สุดท้ายเราก็ต้องขอบคุณทุกคนที่อดทนอ่านมาจนจบได้ค่ะ ><
ชอบหรือไม่ชอบหรือต้องการให้ปรับปรุงอย่างไรบอกได้ค่ะ ยินดีรับฟังทุกความเห็นเลยจ้าา
ปล.ทริปนี้รูปอาจจะมีไม่เยอะ เนื่องจากไปแบบกะทันหัน กล้องไม่ได้ชาจแบต ไปหาที่ชาจเอาข้างหน้าค่ะ และรูปส่วนใหญ่จะเป็นภาพบุคคลมากกว่า
(ชอบคิดว่ารูปวิวเราหาได้จาก google แล้วจะถ่ายมาทำไมอีก 5555)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น