คู่เล่ห์เคียงรัก ตอนที่ 5-6

กระทู้สนทนา
5.
“เบอร์ประธานบอร์ดลายหงส์น่ะหาไม่ยากหรอกครับ” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างทองไม่รู้ร้อน “ก็คุณเล่นใช้เบอร์เดิมก่อนไปเมืองนอกนี่”

ช่วงปีหลังธีร์วราใช้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ของสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก แต่ยังเก็บเบอร์เก่าไว้เผื่อเวลากลับไทยชั่วครั้งชั่วคราว สุเมธถึงค้นหาช่องทางติดต่อหล่อนได้ ขณะที่ธีร์วรายังสับสนไม่รู้คนคนนี้จะมาไม้ไหน ชายหนุ่มก็พูดต่อว่า

“เพิ่งเคยเห็นตึกลายหงส์เวลาเปิดไฟตอนกลางคืน สวยสง่าตามแบบ ‘หงส์’ เลยนะครับ”

หญิงสาวเริ่มเอะใจ จึงเดินไปถึงหน้าต่างแล้วม้วนม่านขึ้น จากชั้นห้าสามารถมองเลยถนนไปฝั่งตรงข้ามได้สบาย แถวนี้เป็นย่านธุรกิจบริเวณชานเมือง ดึกดื่นจึงแทบไร้คนสัญจร รถยุโรปสีน้ำเงินซึ่งจอดริมทางเท้าคันเดียวย่อมเด่นสะดุดตา แล้วยังมีชายหนุ่มยืนพิงกึ่งนั่งบนกระโปรงรถ แม้ธีร์วราจะจำรูปร่างสูงโปร่งในสูทสีดำได้แต่ก็ยังลังเลเพราะมองหน้าไม่ชัด จนกระทั่งสุเมธซึ่งคงเห็นแสงลอดใต้ม่านที่เปิดสูงจึงโบกมือให้หล่อน หญิงสาวถึงมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม!

หัวใจที่เต้นรัวค่อยๆ สงบลง หล่อนยกมือข้างที่เหลือกอดอก เอ่ยเสียงเรียบ “ดึกดื่นแล้ว ‘เหยี่ยว’ อย่างคุณอย่ามัวเสียเวลาเลย ‘หงส์’ ตัวนี้ไม่ใช่เหยื่อคุณแล้วละค่ะ”

“แต่ผมว่าผมไม่ได้กำลังพูดกับหงส์หรอกนะ คุณแกล้งเข้าหารัฐมนตรีวิษณุให้ผมตายใจเพื่อซ่อนเป้าหมายจริงไว้ รู้จักหลอกหน้าตลบหลังแบบนี้...คุณน่ะมันเหยี่ยวชัดๆ”

ตอนแรกที่สุเมธทราบว่าตนพลาดท่าเขาโกรธแทบกระอัก ทว่าก็สงบสติอย่างรวดเร็ว หากคนอย่างเขารู้จักแต่ใช้อารมณ์จนเสียงานคงขึ้นมาถึงระดับนี้ไม่ได้ และเมื่อใจเย็นลงจึงมีเวลาทบทวน ถ้าตัดอคติทิ้งไปแล้วมองอย่างเป็นกลาง ธีร์วราที่สามารถหลบรอดแผนรัดกุมของเขาย่อมนับว่าน่าทึ่งไม่ใช่น้อย ฉลาดเป็นกรดสมเสียงเล่าลือจริงๆ

หญิงสาวบนอาคารแสร้งถอนหายใจดังๆ ใส่โทรศัพท์ “ถ้าคิดจะคุยเรื่องไม่เป็นเรื่องคงต้องขอตัวก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวสิครับ อย่างน้อยก็ช่วยไขข้อข้องใจสักอย่างเถอะ...ประเทศอะไร”

“คะ?”

“ก็ถ้าคุณไม่เข้าหารัฐมนตรีวิษณุงั้นคงเหลืออีกวิธีเดียว ขายบีบีครีมไปต่างประเทศสินะ ผมเลยอยากรู้ว่าประเทศอะไร”

“ถามซะเชื่อมั่นเต็มประดา แน่ใจหรือว่าฉันซื้อขายสำเร็จ”

“ถ้าคุณพลาดป่านนี้คงตาลีตาเหลือกรีบกลับไปติดต่อรัฐมนตรีวิษณุแล้ว หรือไม่ก็ต้องวิ่งพล่านหาคู่ค้ารายใหม่ คงไม่มัวยืนคุยชิลล์ๆ กับผมหรอกมั้ง”

เหตุที่สุเมธนึกไม่ถึงว่าลายหงส์จะใช้วิธีนี้ตั้งแต่แรก เพราะลายหงส์นั้นไม่เคยมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศมาก่อน จู่ๆ คิดจะทำแบบฉุกละหุกโอกาสสำเร็จย่อมน้อย แต่ถ้ามีใครกล้าเสี่ยงและทำจนบรรลุผลได้ แม้เป็นศัตรูก็สมควรยกย่อง

เห็นอีกฝ่ายยังเฉย เขาจึงพูดต่อ “กลัวถ้าผมรู้ชื่อประเทศจะแอบขัดขวางหรือไง อย่าห่วงเลยผมรับประกัน เพียงแต่ถ้าไม่ได้รู้คืนนี้คงนอนไม่หลับ”

ใจหนึ่งนั้นธีร์วราต้องการวางหูโทรศัพท์เสียให้พ้นๆ แต่อีกใจก็อยากลองคุยเพื่อศึกษานิสัยอีกฝ่าย หญิงสาวหรี่ตาครู่หนึ่งค่อยพูดช้าๆ “คิดว่าฉันไม่เอะใจหรือที่คุณยอมวางมือจากท่านวิษณุง่ายๆ ในงานเลี้ยง ฉะนั้นแลกเปลี่ยนกัน ฉันจะตอบคำถามคุณถ้าคุณยอมเฉลยว่าวางแผนอะไรไว้”

บังเกิดความเงียบยาวนานจนหล่อนนึกว่าเขากดปิดโทรศัพท์ไปแล้ว ก่อนเสียงทุ้มต่ำจะดังขึ้น “คนที่มีอำนาจเหนือรัฐมนตรีวิษณุคือภรรยาเขา กุมไว้ทั้งเงินและเส้นสายภายใน”

ฟังแค่นี้หญิงสาวก็เข้าใจทะลุปรุโปร่ง ปกติตำแหน่งรัฐมนตรีมักมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย การหาข้อมูลวงในจึงใช่จะรู้ละเอียดไปเสียทุกคน ครั้งนี้ลายหงส์เลยพลาดท่าง่ายๆ

“ถ้าฉันมัวงมโข่งอยู่กับท่านวิษณุ คุณคงได้นั่งหัวเราะเยาะทีหลังสินะ”

“ผมไม่นั่งหรอกครับ ได้ยืนหัวเราะ ‘หัวขโมย’ น่าจะสะใจกว่า”

ธีร์วราถอนหายใจ...และคราวนี้ไม่ใช่การเสแสร้ง หล่อนเหนื่อยเหลือเกินที่ต้องทนฟังข้อกล่าวหาโดยไร้แม้คำแก้ตัว “เม็กซิโกค่ะ”

“หือ? คุณว่าอะไรนะ”

“ก็คุณถามว่าฉันขายบีบีครีมไปประเทศไหนนี่คะ”

“พูดเป็นเล่นน่า”

บริษัทอมรานั้นมีการขายสินค้าไปต่างประเทศอยู่บ้าง สุเมธจึงทราบความลำบากในการติดต่อกับประเทศแถบนั้นเป็นอย่างดี แค่คิดว่าหล่อนที่เริ่มจากศูนย์มีวิธีหาคู่ค้าอย่างไรเขาก็นึกไม่ออกแล้ว อย่าว่าแต่สามารถเจาะตลาดนักธุรกิจเขี้ยวลากดินพวกนั้นด้วยเวลาไม่ถึงวัน!

ทว่าชายหนุ่มยังมีข้อข้องใจบางอย่างที่อัดอั้นมากกว่า จนต้องโพล่งไปว่า “ขายของฉุกละหุกแบบคุณมีแต่โดนกดราคายับ แล้วถ้าเลือกประเทศใกล้ๆ เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า คงต้องบ้าไม่ก็เมาถ้าจะขายครีมไปเม็กซิโก”

“ตอนขายของฉันสติสัมปชัญญะครบถ้วนค่ะ ไม่บ้าไม่เมา รู้ดีเชียวละว่ากำลังทำอะไรอยู่” หล่อนยกมือแตะกระจก มองลงไปยังชายหนุ่ม “ลายหงส์ไม่ควรมีสิทธิ์ในครีมนั่นมาแต่แรก ฉันจึงทำได้เพียงส่งมันไปให้ไกลที่สุด เพื่อแน่ใจว่าจะไม่มีบีบีครีมขวดไหนย้อนกลับมาขายที่เมืองไทย ทั้งไม่ควรค้ากำไรจากมันสักบาท นอกจากนี้...ฉันในฐานะประธานบอร์ดขอสัญญาว่าลายหงส์จะไม่มีวันผลิตบีบีครีมสูตรไหนอีก อมราสามารถทำธุรกิจในตลาดนี้โดยสะดวก นี่คือการสำนึกผิดและคำขออภัยที่มอบแก่คุณค่ะ”

สุเมธชะงัก นั่นไม่ใช่คำพูดที่เขาคิดจะได้ยินจากปากหล่อน แวบแรกจึงระแวงว่าธีร์วราอาจแกล้งเอ่ยเอาตัวรอด แต่ก็ตอบตัวเองทันควันว่าไม่น่าใช่ เพราะการติดต่อหาคู่ค้าเพื่อขายครีมนั่นกินเวลาพอควร หล่อนต้องเริ่มทำตั้งแต่ตอนจะบินกลับมาที่นี่ แสดงว่าธีร์วราจะใช้วิธีดังกล่าวอยู่แล้ว ทั้งยังไม่เปลี่ยนใจแม้จะเจอกับวิธีอื่นซึ่งง่ายและเสี่ยงน้อยกว่า

คิดแล้วก็น่าขัน ธีร์วราตั้งใจทำแบบนี้เพื่อขอโทษเขา แต่นั่นดันส่งผลให้หล่อนรอดแผนตลบหลังของเขาอย่างหวุดหวิด!

สุเมธไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องเสียดายดี “คุณคงไม่หวังว่าทำแค่นี้จะลบล้างความผิดน้องชายได้หรอกนะ”

“ค่ะ ถึงยังไงฉันก็ยังติดค้างคุณเรื่องลิปสติกที่กายเขาขโมยครั้งแรก เอางี้ไหมคะ ไหนๆ ฉันก็รู้เรื่องภรรยาท่านวิษณุแล้ว ถ้าในอนาคตมีอะไรให้พวกเราต้องสู้กัน ลายหงส์สัญญาจะไม่เข้าหาคุณนายแข่งกับคุณ แล้วถือว่าหนี้ครั้งนี้จบกันไป”

ชายหนุ่มจุปาก “อย่าเอาสิ่งที่คุณไม่คิดจะทำอยู่แล้วมาต่อรองสิครับ การแข่งกันให้ใต้โต๊ะก็เหมือนการทำสงครามลดราคานั่นแหละ เกทับกันไปมาสุดท้ายมีหวังขาดทุนทั้งคู่ นักธุรกิจเจนสนามเขาไม่สนวิธีนี้กันหรอก” สุเมธเผลอยกยิ้มบางๆ “และคุณเอง...ก็ฉลาดกว่านั้น”

ธีร์วราหรี่ตา ยอมรับว่าอีกฝ่ายดักทางแม่น หล่อนไม่คิดจะทำอย่างที่เขาเกริ่นจริงๆ นั่นแหละ แสดงว่าคงเหลือทางเลือกเดียว “แล้วถ้าฉันไปขอโทษคุณกับหุ้นส่วนเป็นการส่วนตัว จะยอมยกโทษให้ไหมคะ”

“หือ? นี่รู้หรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา”

“ฉันจริงจังนะคะ” หล่อนย้ำหนักแน่นยามได้ยินน้ำเสียงไม่เชื่อถือ “ขอแค่คุณรับปากยุติความบาดหมางครั้งนี้ ฉันก็ตั้งใจทำตามที่บอกค่ะ”

อีกฝ่ายเดาะลิ้นคล้ายกำลังคิด “ถ้าพร้อมขอโทษจริงๆ จะทำเป็นการส่วนตัวทำไม จัดงานแถลงขออภัยอย่างเป็นทางการกับสื่อเลยไหมล่ะ”

“ถ้าคุณอยากเป็นข่าวฉาวโฉ่ขนาดนั้น คงตั้งทนายฟ้องลายหงส์ไปนานแล้วเพราะพยานหลักฐานก็มีทนโท่ ไม่รอจนป่านนี้หรอกมั้งคะ”

ไก่เห็นตีนงูเสียจริง! ชายหนุ่มเงยหน้ามองเงาตะคุ่มของพญาหงส์ที่เพิ่งแปลงร่างเป็นแม่ไก่หมาดๆ หล่อนคงแน่ใจว่าแม้อมราจะเป็นฝ่ายถูกก็ไม่อยากปล่อยข่าว เพราะมันน่าอายทั้งมีผลต่อภาพลักษณ์บริษัท จึงกล้าขอโทษด้วยอย่างไรมันก็จะไม่มีทางรู้ถึงหูบุคคลภายนอก ยอมลดศักดิ์ศรีนิดหน่อยแลกกับไม่ต้องระวังการคอยรังควาน คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

แต่อย่านึกว่าเขาจะเต้นตามหล่อน!

“ผมไม่ต้องการคำขอโทษ อย่าเสียเวลาเลยครับ”

ธีร์วราใจหายวาบ “หมายความว่าคุณจะตามแก้แค้นไปเรื่อยๆ งั้นหรือ”

“เห็นผมเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนั้นเชียว” เขากลั้วหัวเราะแต่ไม่รับรู้ถึงความรื่นรมย์ในนั้นเลย “ผมเสียสินค้าใหม่ตั้งสองตัว แลกกับฟังคำขอโทษเพื่อความสะใจแค่ชั่วคราว...คุ้มซะที่ไหน”

หล่อนเข้าใจทันที “แล้วคุณต้องการอะไรแลกเปลี่ยนกับการอภัยล่ะคะ”

“ผมยังคิดไม่ออก ติดไว้ก่อนสักครั้งได้ไหม”

ธีร์วราขมวดคิ้ว ติดหนี้ผู้ชายคนนี้หนึ่งครั้ง! ไม่ต้องฉลาดนักก็ยังรู้ว่ามันเสี่ยงแค่ไหน หญิงสาวเพิ่งไตร่ตรองได้นิดหน่อยเขาก็พูดต่อแล้ว

“ถ้าไม่เอาผมว่าขอโทษออกสื่อก็เข้าท่าเหมือนกัน ถึงชื่ออมราจะมัวหมองบ้างเทียบกันแล้วยังคุ้มอยู่ แต่คนที่ออกมาขอโทษต้องเป็นน้องชายคุณนะ”

“ฉันขอปฏิเสธค่ะ!” ธีทัตต้องขึ้นเป็นผู้นำลายหงส์ในอนาคต หล่อนไม่มีวันยอมให้น้องชายเสียหน้าขนาดนั้นแน่

“แย่หน่อยนะ เพราะคุณเล่นมาสะกิดต่อมอยากเห็นคนขอโทษของผมเข้าเต็มเปาซะแล้ว แบบนี้ผมจะเหลือทางเลือกอะไรอีกละ อ้อ...ไหนๆ ก็ไหนๆ ฟ้องมันซะเลยแล้วกัน”

ใจธีร์วราหล่นวูบ “คุณไม่ทำหรอก!”

“คุณแน่ใจ?”

หล่อนไม่แน่ใจ! ถ้อยคำพลุ่งพล่านมิอาจหลุดรอดริมฝีปากซึ่งกำลังเม้มแน่น สำหรับสุเมธแล้วทั้งวิธีคิดและสิ่งที่เขาจะทำ...หล่อนเคยแน่ใจได้ด้วยหรือ

หญิงสาวสูดลมหายใจลึก “เอาเถอะค่ะ สรุปว่าฉันติดหนี้คุณหนึ่งครั้ง แต่มีข้อแม้ว่าการใช้หนี้ต้องไม่ทำให้ลายหงส์เดือดร้อน ไม่งั้นฉันมีสิทธิ์ปฏิเสธ”

สุเมธหรี่ตา แปลว่าขอเพียงลายหงส์รอด ตัวหล่อนเดือดร้อนก็ไม่เป็นไรอย่างนั้นสิ แต่เขากล้าสาบานว่าที่หลุดปากทั้งหมดนั่นไม่เคยมีเจตนาร้ายกับธีร์วรา แค่อยากยั่วหล่อนเพราะนึกสนุกเท่านั้นเอง ใช่...เขาสนุกเมื่อได้คุยกับผู้หญิงคนนี้ทั้งที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนยังโกรธหล่อนแทบกระอัก ตลกสิ้นดี!

ชายหนุ่มยังคงยิ้มตอนโต้ตอบว่า “ก็ได้ และเพื่อตอบแทนความยุติธรรมครั้งนี้ ผมสัญญาจะไม่ป่วนงานเปิดตัวสินค้าใหม่ของคุณ เชิญแก้ปัญหาที่จะไม่มีสินค้าไว้เปิดตัวได้ตามสบาย ไม่ต้องคอยระวังใครอีกแล้ว”

“คะ?” หล่อนเลิกคิ้วสูง “นี่คุณ...คงไม่ใช่หลอกให้ฉันตายใจแล้วตลบหลังหรอกนะคะ”

เขาเงยหน้ามองเงาร่างระหง นึกขำที่แม้หล่อนจะหงุดหงิดกับเขาเพียงใด แต่กิริยายังคงเรียบเย็นงามสง่าอยู่ในที...ช่างสมกับพญาหงส์เสียจริง

“ผมเป็นคนรักษาสัญญาครับ เกมก็ต้องเล่นกันแฟร์ๆ สิ ไม่งั้นจะสนุกอะไร”

“ขอโทษค่ะ...แต่ฉันไม่อยากเล่นเกมกับคุณ!”

“ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ เพราะถึงคุณไม่คิดเล่นเกมมันก็ไม่ได้การันตีเลยว่า...คุณจะไม่แพ้”

หญิงสาวมัวแต่อึ้งจนไม่ทันเอ่ยรับคำลาสั้นๆ ของเขา รู้ตัวอีกทีรถยุโรปสีน้ำเงินก็เคลื่อนตัวออกไปแล้ว นั่นเป็นตอนที่ธีร์วราเพิ่งพบว่าตนเองกำลังบีบโทรศัพท์จนแน่น จึงรีบเดินกลับมาสงบอารมณ์ยังโต๊ะทำงาน คุยกับสุเมธแค่สิบนาทีแต่หล่อนเหนื่อยเสียยิ่งกว่าเจรจากับฮาเวียร์ เรเยสสักสิบคนเสียอีก พักใหญ่หญิงสาวค่อยคว้าเครื่องมือสื่อสารอีกครั้ง

“ตู่หรือ นี่ฉันเองนะ”

ลำโพงโทรศัพท์ส่งเสียงตอบกลับว่า “คุณแก้วมีอะไรคะ ตู่ออกมานานเกินไปใช่ไหมคะ”

“เปล่าๆ แค่อยากสั่งงานเพิ่ม นายสุเมธนั่นน่ะ...ช่วยตรวจสอบประวัติเขาหน่อยสิ”

“เอ๋? ได้ค่ะ” แม้ยังงุนงงที่จู่ๆ ชื่อสุเมธดันโผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทว่าด้วยหน้าที่คงได้แต่ถามว่า “แล้วคุณแก้วอยากทราบเรื่องไหนเป็นพิเศษไหมคะ”

“ทุกอย่าง” ธีร์วราย้อนกลับไปยังหน้าต่าง จับจ้องถนนว่างเปล่าด้วยสายตาครุ่นคิด “ฉันอยากรู้เกี่ยวกับผู้ชายคนนี้...ทุกอย่าง!”

*****
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่