ใครวางแผนออกจากที่ทำงานมาทำเกษตรบ้างครับ เตรียมตัวกันยังไง

ตอนนี้อายุ 23 ครับเป็นโปรแกรมเมอร์ทำงานมาปีกว่าๆ เป็นเด็กต่างจังหวัด พ่อแม่รับจ้างทั่วไป เงินเดือนพ่อแม่รวมกันน้อยกว่าเงินเดือนผม

กำลังคิดว่าการมาทำงานที่เมืองหลวงมันไม่ใช่สไตล์ของผม เพราะไม่ชอบความวุ่นวาย เครียด ทำงาน 5 วันแต่ไม่มีเวลาว่าง เพราะ requirement งานเปลี่ยนไปมาแต่เดดไลน์ไม่เปลี่ยน ส-อา ก็ต้องมาแก้ ต้องรอคนทำส่วนอื่นเราถึงจะเอาโปรแกรมของเราไปเชื่อมต่อได้ เสร็จไม่ทันโดนด่าหมด

ผมชอบเขียนโปรแกรมครับ แต่ทำงานแล้วรู้สึกมันไม่ใช่ หลักๆอาจจะเพราะ กลับมาหอก็อยู่คนเดียว, ทำอาหารไม่ได้, เลี้ยงหมา/แมว ก็ไม่ได้, จะไปเที่ยว ส-อา ไลน์เด้งแก้งานด่วน มันรู้สึกว่าเราไม่ได้ชาร์จแบตตัวเองแล้วมันเครียดๆสะสมไม่รู้จะไประบายที่ไหนบวกกับนิสัยผมคิดมาก กลายเป็นเครียด+กังวลเวลาไลน์เด้งกลัวงานเข้า พอได้เงินเดือนมาก็ต้องเสียกับค่าหอค่าข้าวก็ 40% ของเงินเดือนแล้ว

คราวนี้ผมเลยวางแผนไว้ว่าจะเก็บเงิน 1 ล้านแล้ว ลองไปทำเกษตรที่บ้าน บ้านมีที่ 7 ไร่ครับ แต่เป็นที่นา 60% แล้วก็ที่ญาติอีก 5-6 ไร่ยืมได้ที่ไม่ใช่ช่วงทำนา ผมมีประสบการณ์ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ทำนาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยทำเกษตรอินทรีย์

และตอนนี้ผมให้ที่บ้านทำให้ครับคือผมไม่ให้เงินที่บ้าน แต่จะเอาเงินไปให้ลงทุน แล้วเอาเงินที่ได้นั้นไปเลย ผมทำแบบนี้เพื่อให้ที่บ้านมีคอนเนคชั่นครับ เผื่อเวลาที่ผมลงมาทำเองจะได้ขายผ่านคอนเนคชั่นของที่บ้าน

รอบแรกลงไป 8 พัน ได้กลับมา 1 พันกว่าบาท เพราะที่บ้านไม่รู้จักวิธีลดต้นทุน วิธีทำอาหารสัตว์เอง ทำปุ๋ยอินทรย์ ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เข้าใจ แต่ก็บอกให้ทำไปก่อน อย่างน้อยๆก็ทำเพื่อลดค่าใช้จ่ายภายในบ้านไปก่อน

เรื่องเงินที่คิดว่าจะได้ หวังไว้เดือนละ 2 หมื่นครับ แต่ 2 หมื่นคือระยะยาวนะครับ ไม่ใช่ว่าออกจากงานปุ๊บทำเกษตรได้กำไร 2 หมื่นเลย ผมเป็นคนไม่ชอบซื้อของแพง ไม่ชอบเดินห้าง ไม่กินเหล้า ไม่ชอบที่คนเยอะๆ แต่ผมอยากอยู่กับครอบครัวเล่นกับหมาที่บ้าน + ไม่เครียดไม่ระแวงเสียงไลน์ แล้วผมกับที่บ้านก็ไม่มีหนี้ครับ

ทุกวันนี้ก็ทำได้แค่หาความรู้ในเน็ต จดลงสมุดว่าจะทำอะไร ที่ผมตั้งใจจะทำคือ เกษตรอินทรีย์ + smart farm ครับ ระบบผมเขียนโปรแกรมเองได้ ออกแบบและทำระบบเองได้ เอามาลดต้นทุนจ้างคน กับลดเวลา แล้วเป็นแหล่งเรียนรู้

ตอนนี้ก็ทำงานเก็บเงินไปก่อนให้ได้เงิน 1 ล้านแล้วมาคิดอีกที่ว่าจะทำยังไง ผมเลยอยากรู้ว่ามีคนที่คิดวางแผนออกจากงานมาทำเกษตรวางแผนกันยังไง เพราะเท่าที่หาดูก็จะเจอแบบประสบความสำเร็จแล้ว ไม่ก็ออกมาแบบไม่มีทุนลงมือทำไปเลย แต่สำหรับผมอยากได้แบบเซฟๆหน่อยกลัวล้มแล้วเจ็บนาน
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
ผมเป็นคนที่ที่เป็นแบบเจ้าของกระทู้เดี๊ยะๆ ต่างกันตรงที่เรื่องงานประจำ ของผมทิ้งธุรกิจส่วนตัว มาทำเกษตร
ผมจบสายคอม และคิดแบบที่เจ้าของกระทู้บอกเช่นกัน

มีทั้งอยากให้กำลังใจและอยากจะเตือนหลายๆเรื่องครับ

1.ผมเห็นอีโก้ของเจ้าของกระทู้เยอะมากครับ เยอะเหมือนผมทำเกษตรใหม่ๆ  อ่านเยอะ รู้เยอะ แต่ทำจริงนิดเดียว สิ่งนี้ทำให้ผมตกหลุมพรางตัวเอง คิดว่าตัวเองรู้เยอะกว่าคนอื่น และเริ่มเป็นน้ำเต็มแก้ว

2.อย่าเห็นเกษตรเป็นเรื่องโรแมนติก เพราะสุดท้ายมันคืออาชีพ คือการลงทุน และมีความเหนื่อย มีความเสี่ยง(สูงมาก) ความเครียดจะเริ่มมาเยือนเมื่อคุณสนุกกับการทำ แต่ไม่สนุกกับการขาย  เพราะสินค้าเกษตร อายุเก็บรักษาสั้นมาก ความเสี่ยงจึงสูงมาก  เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือการวางแผนที่ดีและรัดกุม ใช้ตลาดนำการปลูก อย่าปลูกตามใจแล้วหวังว่าจะขายได้อย่างที่คิด

3. อย่ายึดติดในอินทรีย์ ค่อยๆขยับ ค่อยๆก้าว  อย่าเป็นเกษตรบ้าใบรับรอง อินทรีย์เริ่มได้เลยแค่ใจรักจะอินทรีย์จริงๆ มีความซื้อสัตย์ บริสุทธิ์ใจจริงๆ แค่นั้นก็เพียงพอ

4.อย่าทำอินทรีย์เพราะได้เงินเยอะกว่าเคมี  เพราะมันไม่ยั่งยืน   ถ้าคิดว่าจะทำอินทรีย์ก็ขอให้มาจากใจที่อยากทำจริงๆ ใจที่อยากอยากมอบสิ่งดีๆให้กับผู้บริโภค ไม่ใช่หวังจะล้วงเงินจากกระเป๋าคนอื่นตลอดเวลา


ต่อมาคือการวางแผน (ของตัวผมเอง)
หลังจากที่ทำเกษตรมาสักระยะปีกว่าๆเกือบ 2 ปี  ผมพึ่งจะคิดได้ว่า ไม่ควรปลูกไปเรื่อย  (วางแผนบนความฝันเกินจริง)
ควรจะเริ่มจากอะไรเล็กๆที่ตัวเองชอบ และสุดท้ายสิ่งนั้นจะกลายเป็นแบรนด์ติดตัวเราไปในที่สุด  
ในวงการเกษตรสำคัญมาก  เพราะหลายคนทำออร์แกนิคเหมือนกัน ทำผสมผสานเหมือนกัน  เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากอยู่รอดเราต้องแตกต่าง
แตกต่างในความหมายคือ มีจุดยืนหรือจุดสนใจที่ชัดเจน
ผมยกตัวอย่างเช่น

พูดถึงพี่A(นามสมมติ) จะนึกถึงมะม่วง
พูดถึงพี่ B จะนึกถึงกุหลาบ

นี่คือสิ่งที่ผมมองข้ามตลอดในระยะเวลาปีกว่าๆ ผมสนุกกับการทำทุกอย่าง แต่ไม่ได้โฟกัสเลยสักอย่าง
ปลูกผักไปนั่งขายในตลาด ไปขายตามงานกิจกรรมของกลุ่มอินทรีย์ แต่สุดท้ายเริ่มมีความเครียด ความเหนื่อย ความสนุกเริ่มค่อยๆหายไป เพราะสุดท้าย มันคืออาชีพ ไม่ใช่การเล่นขายของ เราต้องกินต้องใช้ เงินที่สะสมมาก็ค่อยๆหมดไปกับการทดลอง

เพราะฉะนั้น ลองกลับไปสำรวจตัวเองครับว่า เห็นตัวเองสนุกกับการทำอะไร และคิดว่าจะทำไปได้นานแค่ไหน  

ผมเองตอนนี้ ลูกค้าจดจำไปแล้วว่า ผมทำมูลไส้เดือน  ผมเองก็ค่อนข้างโอเคกับสิ่งที่ทำด้วย จึงเริ่มยึดสิ่งนี้เป็นหลักจุดแรกได้
และปัจจุบัน หน้าแผงผมมีแค่มูลไส้เดือนขายเท่านั้น และเริ่มอยู่ตัวแล้ว  เหนื่อยน้อย ได้เงินพอสมควร แต่มีความสุข และสนุกที่จะทำ

ตอนนี้กำลังจะต่อยอดออกมาเป็น ปลูกถั่วเหลือง เพื่อเอามาทำซอสถั่วเหลืองออร์แกนิค ซึ่งเกิดจากความชอบในการทำของหมักของดองกินเองอีกนั่นแหละ


สุดท้ายอยากจะบอกว่า ความพอดีเกิดจากตัวคุณเอง ถ้าคุณวิ่งไล่ตามคนอื่น ไม่ว่าคุณทำงานประจำหรือทำเกษตรด้วยตัวเอง คุณก็ไม่มีความสุขหรอกครับ  สิ่งสำคัญที่สุดคือ ตอบตัวเองให้ได้ว่ามีความสุขกับการทำอะไร แบบไหน อย่างไร

"การทำงานที่ดีต้องมาจากเป้าหมายที่ชัดเจน"

สิ่งที่ยากสำหรับการยึดอะไรสักอย่างเป็นอาชีพ ไม่ใช่เงิน แต่กลับกลายเป็น "ตัวตน" ที่เป็นอุปสรรค์ เพราะเมื่อตัวตนไม่ชัดเจน ก็จะสร้างเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน หลอกตัวเองวนเวียนไปเรื่อยๆ ซ้ำร้าย ยังถูกกดดันด้วยปัจจัยรอบด้าน เช่น จบคอมพิวเตอร์ทำไมไม่ทำงานคอมพิวเตอร์ ฝึกอบรมเกษตรตั้ง 6 เดือน ทำไมไม่ทำเกษตรให้จริงจังสักที แหละหลากหลายคำถามที่ถาโถมเข้ามา

หมั่นย้ำถามตัวเองบ่อยๆ เสมอว่า "เราเป็นใคร เราอยากให้คนอื่นจดจำเราแบบไหน และเรามีความสุขกับการเกิดขึ้นของสิ่งเหล่านั้นหรือไม่"

อย่าทิ้งความฝัน เพราะเมื่อมีฝัน มักจะมีความหวังอยู่ด้วยเสมอ
ความคิดเห็นที่ 54



cr.2ภาพล่างถ่ายจากสถานที่จริง

= เมื่อก่อนผมก็มีวิถีชีวิตแบบ จขกท.
= ทุกวันนี้ผมพบว่า การได้อยู่สถานที่ปลอดโปร่ง การได้ทำงานสร้างสรรค์ การลดความทะเยอะทะยาน และการได้อยู่กับคนที่เรารัก มันคือสิ่งวิเศษ
= ขอเพียงเชื่อและลงมือทำ ความสุขอาจจะไม่ได้มาในรูปของมูลค่า แต่มันอาจจะมีคุณค่าเสมอ ..
ความคิดเห็นที่ 20
ผมทำอยู่ครับ แต่ไม่ลาออกจากงาน ทำงานอยู่ชลบุรี ที่อยู่ร้อยเอ็ด 2-3 เดือนกลับบ้านทีละ 7-10 วัน ไปปลูกต้นไม้ทิ้งไว้ มีทุนก็ปรับแต่งพื้นที่ของเรา
เริ่มต้นใช้ทุนเยอะเหมือนกันครับ ตอนนี้ขุดบ่อไว้เลี้ยงปลา ปลูกต้นไม้พื้นๆไว้ก่อน (ปลูกเฉพาะหน้าฝนครับ) มีกล้วย มะพร้าวน้ำหอม ลิ้นจี่ ลำใย มะม่วง ผักหวานป่า มะกรูด ข่า ตะไคร้ และอื่นๆที่คิดว่าต้องใช้ต้องกินโดยที่ไม่ต้องไปขอหรือไปหาซื้อ
เป็นโครงการระยะยาวครับ ช่วงไหนกลับบ้านไม่ได้ปลูกต้นไม้ก็ไปถางหญ้าหาปุ๋ยคอกมาใส่ พัฒนาที่ให้เหมาะสมกับความค้องการของเราเพราะที่ครงนี้เราต้องไปอยู่อาศัยในอนาคต อยากได้แบบไหนก็ออกแบบไว้เลยครับ คิดว่าอีกนานหน่อยกว่าต้นไม้จะโต แต่ก็ดีกว่ากลับไปเริ่มโดยที่มีแต่ต้นไม้เล็กๆเก็บผลผลิตก็ไม่ได้ ผมเริ่มมาได้เกือบสองปีแล้วครับ ค่อยๆทำ ใจเย็นๆ รอเวลา กว่าต้นไม้จะโตค้องใช้เวลานานครับ ไม่ใช่ปลูกตอนนี้แล้วตะโคเก็บขายได้เลย
ขอบอกว่ากลับไปแต่ทะทีเหนื่อยมาก เพราะขลุกทำงานในสวนทั้งวัน แต่มีความสุขครับ และเสียเงินเยอะอยู่เหมือนกัน (ตอนนี้กำลังหาทางลดต้นทุน ใช้เงินให้น้อยที่สุดครับ หมดไปกับรถขุดและรถไถเพื่อปรับพื้นที่เยอะพอสมควรครับ)
อยากฝากบอก จขกท ว่าปลูกต้นไม้ ทำเกษตรต้องใช้เวลาครับ ถ้าทำคู่กับงานประจำได้ยิ่งดี อย่างน้อยก็มีรายได้เข้ามา วางแผนดีๆแล้วทำเลยครับ แต่ไม่ต้องรีบเร่งนะครับ ค่อยๆทำทีละอย่างเดี๋ยวจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเองครับ
นี่คือรูปบางส่วนครับ เป็นรูปไม่นานมากนัก ที่ว่างในรูปบางส่วนตอนนี้ลงต้นไม้ไปบ้างแล้วครับ อาจจะพอเป็นแนวทางให้เจ้าของกระทู้ได้บ้างครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่