อาจารย์หรือศิษย์ใครผิดกันแน่

หลายคนบอกว่าเด็กสมัยนี้ไม่เก่งไม่ดี เพราะ ไม่ขวนขวายพยายาม
    หลายคนบอกว่าเพราะอาจารย์ไม่เก่งไม่ดี
    วันนี้วันเสาร์คุยกันเรื่อง เบาๆ บ้าง เรื่องโกงกรรมกรไอทีพักไว้นิดเครียดมาหลายวัน
    
    ก๊วยเจ๋ง สติปัญญาด้อยยิ่งนัก โดนพวกกิมก๊ก ฆ่าพ่อตาย แค้นฆ่าบิดามิอาจอยู่ร่วมฟ้า ได้เจ็ดประหลาด กังนั๊ม เป็นอาจารย์สอนอย่างไรก็ไม่คืบหน้าด้วยสติปัญญาทึบเหลือเกิน
    วันหนึ่งก๊วยเจ๋ง ไปเจอนักพรต ช้วนจินโดยบังเอิญ ได้รับการสอนเรื่องการเดินลมปราณ ได้รู้จักการหายใจที่ถูกวิธี ทำให้มีพลัง ที่ ก้าวหน้าได้รวดเร็ว
    แล้วยังเจออั้งชิกง ได้ รับการสอน สุดยอดวิชา 18 ฝ่ามือปราบมังกร ก๊วยเจ๋งตั้งใจฝึก จนเต็มที่ ด้วยมีแรงพยายาม เป็นที่ตั้ง ไม่นาน ก็เป็นยอดฝีมือ อันดับหนึ่งของยุทธภพได้
    มาถึง รุ่นลูกรุ่นหลาน
    เอี้ยก้วย ฉลาดปัญญาล้ำเลิศ ได้รับการสอนรำไม้พลองตีสุนัขจากอั้งชิกง ให้ เอาเอี้ยงฮงดู เอี้ยก้วยรำเป็น แต่ไม่รู้จะ ออกน้ำหนักอย่างไร เน้นท่าตรงไหน
    วันหนึ่งไปแอบดูอึ้งย้งสอน เคล็ดวิชาให้ ว่าที่หัวหน้าพรรคกระยาจก คนใหม่ทำให้เข้าใจ ได้โดยพลัน เป็นเพลง ไม้พลองตีสุนัข ได้ทันที

    สองคน สองสติปัญญา มีความเพียร ทั้งคู่  ไม่ต่างอะไรกับโปรแกรมเมอร์ ที่เขียนโปรแกรมได้หรือไม่ มันขึ้นอยู่กับสอง เรื่อง อาจารย์ต้องสอนพื้นฐาน แนะเคล็ดวิชาเป็น กับศิษย์มีความเพียร
    อย่างไร อาจารย์ต้องสอนให้เด็ก พื้นฐาน แน่นมากๆ ก่อนมองโลกให้กว้าง ถ้าจะบอกว่าปล่อยเด็ก ออกไป ค้นคว้าเอง มันไม่ไหวแน่
    เหมือนให้ผมไป ลานพระรูปทรงม้า เมื่อสมัยก่อน  ผมเด็กบ้านนอก จะไปอย่างไร ให้ผมไปค้นเอง รับรอง หลงครับ GPS ยังไม่มีนะ กว่าจะไปถึงได้ คง หลงออก รังสิต กินก๋วยเตี๋ยวเรือแน่ แต่เพียงผู้ใหญ่บอกว่า นั่งรถ ไปลงเอกมัย แล้วนั่งรถเมล์สาย 23 ฝั่งหน้าสหกรณ์เอกมัย ก็มองขวามือไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นลานพระรูปเอง แบบนี้ ผมก็ไม่หลงแล้ว
    นี่แหละครับ เห็นไหม ผมไม่ได้โทษอาจารย์อย่างเดียว
    เด็กขอให้มีความเพียร
    แววตา ที่ มันบอกว่ามีอะไรในใจเขา
    แววตา เด็ก ที่มาหาผมให้ผมสอนเขียนโปรแกรมหลายคนเป็นแววตาที่ อ้อนวอน อยากเป็นวิชา แววตา ที่ขอร้อง แววตาที่มุ่งมั่นต้องทำให้ได้ มันบอก อะไรผมหลายอย่าง
    แววตาเด็กที่ สวยเลิศเชิดหยิ่ง เรียนเพื่อแลกปริญญา  ก็แววตาหนึ่ง
    พอเราเห็นเราวิเคราะห์ได้ เราก็จะรู้ว่าควรสอนไหม
    เด็ก 80% ที่ผม เคยสอน จะติดนิดหน่อย เท่านั้น เช่น
    ไม่รู้จะเขียนโปรแกรมด้วยภาษาอะไร จริงแล้วภาษาอะไรก็ได้ ขอให้รู้จริง การจะรู้จักภาษาใดจริงๆ ลึกๆ มันยาก มากครับต้องเทเวลา เทชีวิตให้พอตัว
    จะรู้ได้อย่างไร ว่าภาษานี้ดี ลองหลับตานึก จะเขียนรับข้อมูลอย่างไร จะบันทึกลง Table ต่างๆ อย่างไร จะสั่งพิมพ์อย่างไร จะเชื่อมต่อ Database อย่างไร คิดและหาคำตอบให้ได้ ก็คงจะบอกแล้วว่าควรศึกษาภาษานี้ไหม
    ภาษามันก็ คือภาษา มันทำได้ทุกอย่าง เหมือนผม ใช้ Foxpro มาเขียนโปรแกรมติดต่อ พวกเครื่องอ่านลายนิ้วมือ ก็ใช้มันได้ ใช้ ต่อ ระบบวัดคุมก็ทำได้ มันก็แค่นี้เอง
    ส่วนคนที่บอกว่า เขียนโปรแกรมเอาเงินเป็นที่ตั้ง ผมก็แนะ ศิษย์ว่าคุณไปเรียน MBA ไปเป็นนักการตลาด เก่งๆ ดีกว่าเงินดีกว่า มิเตอร์วัดความเก่งด้านคอมพิวเตอร์ไม่ได้อยู่ ที่เงิน แต่อยู่ที่ความสามารถในการใช้ ภาษาแก้ปัญหางาน นะครับ คนเขียนโปรแกรมก็เหมือนหมอ ที่เก่งเป็นบางเรื่อง แต่พื้นฐานพอทำได้ แต่ไม่เก่งจริง
    เอาง่ายๆ หมอผิวหนังรักษาหวัดได้ แต่ หมอผิวหนัง ให้คนไข้ดมยาสลบไม่ได้
    คนเขียนโปรแกรมก็เหมือนกัน พื้นฐานเขียนโปรแกรมได้ แต่ ถ้า ให้คนที่ชำนาญด้านโปรแกรม โรงพยาบาล ไปเขียนระบบ ERP คงต้อง ศึกษาใหม่หมด อาจจะเป็นอ่อนไปก็ได้
    หรือ ให้ผมไปเขียน VB ก็เขียนได้แต่ไม่เก่ง ไม่ชำนาญ ก็ ต้องศึกษาใหม่อีก Hello world!!
    ความเก่งวัดกันที่ การแก้ปัญหา ความชำนาญ ถ้าคุณทำเก่ง ทำเป็นเงินมันก็มาเอง  
    ผมรับจ้างเขียนโปรแกรม จาก งานชิ้นละแค่ห้าพันบาท เองนะครับ จนวันนี้ รับยอดที่สูงใช้ได้  ก็เพราะถือธง ความ ชำนาญในเนื้องานมากว่า เอาเงินเป็นที่ตั้ง
    สุดท้ายขอย้ำ กว่า เด็กจะเก่งได้ ครูต้องรู้จักแนะเคล็ดวิชา อย่าปล่อยให้ลอยแพ ไปค้นเอาเองหาเอาเอง เข้าป่าเข้าดงกันพอดี
    ศิษย์ก็ต้องขยัน เอาใจใส่ เอา คำว่า จิตตะ เป็นที่ตั้งด้วยครับ

    
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่