ญี่ปุ่นอีกละไปไหนดี??? เมื่อใจมันเรียกร้องอยากไปเดินเล่นชิลๆที่ไหนสักที ในขณะที่ไทยเป็นช่วงที่ฝนตก เเต่จะไปเมืองไหนดี คิดไปคิดมาสรุปได้ว่าบินมาลงโตเกียวละกัน ละไปเก็บเมืองรอบๆ ชนบทๆนั่นแหละคือดีย์



หลังจากจองตั๋วเสร็จสรรพ เริ่มเเพลนละว่าเมืองไหนน่าที่น่าไป ละบังเอิญไปเห็นรีวิวคนอื่นที่เค้าไปเมืองออนเซนชื่อดังของญี่ปุ่นแถว Gunma โอ้โห้เห็นละต้องไป เราจะไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง!!!



***ป.ล.ไปช่วงนี้ดีน้าประหยัดพื้นที่กระเป๋าไม่ต้องหอบโค้ทไป อากาศกำลังดี บางวันก็ค่อนไปทางหนาว



เเต่ Onsen หน้าร้อน (ช่วงที่ไปคือปลายๆพ.ค.2018) มันจะฟินมั้ยนะ เเต่เอาเว้ยเป็นคนชอบการเเช่ออนเซนเป็นทุนอยู่ละยังไงก็ต้องไป เลยหาข้อมูลเลือกระหว่าง Kustasu dy[ Minakami ดูความน่าสนก่อนว่าอยากเห็นวิวแบบไหน สุดท้ายเลยเลือก "Minakami " เเละเลือกพัก รร  Takaragawa onsen คือดี

มาเริ่มกันเลย การเดินทางขอเริ่มจากโตเกียวละกันเนาะ การไปเที่ยวเมืองนี้เเนะนำว่าต้องมี JR pass หรือ Tokyo Wide pass เพราะค่าชินคันเซนเเพงมาก

การเดินทาง : เราเริ่มจากสถานี Ueno นั่งยาวไปลงที่ สถานี Jomo-Kogen ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ (นั่งสาย Toki) ก็ถึงเเล้ว มองวิวเพลินเลย คือจริงๆง่วงนะ เเต่ชอบนั่งดูวิวมากกว่า คือมันให้อารมณ์เข้าถึงความเป็นญี่ปุ่นจริงๆ


*** ทริปนี้กมลใช้ Tokyo wide pass นะคะ ก่อนจะเดินทางเเนะนำให้ไปจองที่นั่งจากสถานีล่วงหน้าก่อนจะได้สะดวก เพราะชานชลาที่จะขึ้นไปอยู่ค่อนข้างไกลจก information center จ้า***


มาถึงสถานี Jomo-Goken เเล้วสถานีเงียบมากเลย คนน้อยอากาศเย็นๆ ชอบเลยแบบนี้เเละที่รู้สึกประทับใจคือเก้าอี้นั่งรอมีเบาะรองนั่งให้ด้วย ใส่ใจรายละเอียดมากอ่ะ


ระหว่างรอรอบรถบัสจากทาง รร มารับซึ่งคือรอบบ่ายยังพอมีเวลาเลยตั้งใจนั่งบัสไปเที่ยวที่เมืองเล็กๆน่ารักๆ คือ "Takuminosato "  สอบถาม Tourist information ที่ใกล้ๆสถานีมีสวนสาธารณะใกล้ๆสถานี เลยเดินไปดูระหว่างรอบัส
ดอกหญ้าข้างทางยังน่ารัก สถานีนี้เงียบมาก ชอบจังเลยสงบๆแบบนี้


ถึงเเล้วเดินลงเขามาไม่ไกลเเต่ใช้พลังนิดหน่อย 555

ได้เวลาต้องกลับไปรอบัสเพื่อไปหมู่บ้านหัตกรรม "Takuminosato " เเล้ว เป็นหมู่บ้านที่มีการรวมตัวของช่างฝีมือที่มีชื่อเสียงในเมืองนี้ ตั้งแต่งานแบบเครื่องแก้ว เซรามิก ผ้าไหม สิ่งทอ เป็นหมู่บ้านที่น่ารักมากอ่ะ สงบเงียบเเทบไม่มีรถเลย เเต่มีครบทุกอย่างทั้ง คาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านของฝาก ร้านไอติม คือประทับใจ ปั่นจักรยานแบบไม่ร้อนไม่เหนื่อยเพราะอากาศเย็นมากเเต่เเดดเเรงมากเช่นกัน


เริ่มจากไปเช่าจักรยานกันก่อนเลยจ้าค่าเช่าถูกมาก 500 เยน เองไม่จำกัดเวลาเเละไม่มีมัดจำด้วย น่ารักไปอีก เเต่ถ้าเช่าแบบจักรยานไฟฟ้าจะอีกราคา เเละที่นี่ยังเหมือน Super market ประจำหมู่บ้านมีของสดขายด้วย ก่อนจะเริ่มปั่นจักรยานพนักงานจะให้เเผนที่มาด้วยว่าต้องปั่นไปตรงไหนจุดไหนน่าสนใจ

คือหยุดถ่ายรูปทุกตารางเมตรเนี่ยไม่ถึงไหนสักที 555 คือเป็นคนชอบบ้านเเบบโบราณๆสไตล์ญี่ปุ่นอยู่เเล้ว เเละความชนบทคือดีไม่วุนวาย


ได้เวลาอาหารกลางวันเเล้ว เลือกร้านราเมงที่นี่คุณป้าเจ้าของร้านใจดี เเถมแป้งทอดกลมพร้อมผักดองให้ชิมด้วยไม่รู้ทำมาจากอะไร เเต่อร่อยมากอ่ะ และไม่พอกาแฟฟรีด้วยจ้า คุณป้าชวนคุยตลอดเลยระหว่างนั่งที่ร้าน  เวลาเที่ยวนอกเมืองเรามักจะได้เจอคนใจดีแบบนี้แหละ




กินเสร็จมีพลังละปั่นชมเมืองต่อจ้า มีสวนองุ่น สวนแอปเปิ้ลด้วย เเต่ช่วงที่ไปยังไม่ออกน้า









แวะกินไอติมมิ้นซะหน่อย อร่อยสดชื่นราคาถูกด้วย 250 เยนเองมีให้เลือกหลายรสด้วย






ก่อนจะได้เวลาลากันไปจากเมืองนี้ ใกล้ๆที่เช่าจักรยานมีร้านไอติมเเละคาเฟ่น่ารักๆอยู่รอบๆด้วย





รถบัสมารอเเล้ว จากสถานี Jomo-Kogen นั่งรถไป รร อีกประมาณ 45 นาที ชอบที่ รร นี้เป็นบ่อรวมเเละเป็น outdoor แต่ไม่โป๊น้าเพราะทาง รร จะให้ผู้หญิงใส่ชุดกระโจมอกที่ทาง รร เตรียมให้ อากาศดีมากกกกก เป็นหน้าร้อนที่ไม่มีคำว่าร้อนเลย เช้าๆเเละดึกๆเลขตัวเดียวไปอีก สั่นเล็กๆเลยจ้า

ป.ล. ทาง รร มีรถรับส่งบริการ 2 สถานีคือจะลงที่ Jomo-Kogen หรือ Minakami ก็ได้






ในส่วนของห้องพักทุกห้องจะสามารถเห็นวิวเเม่น้ำทุกห้อง เป็นสไตล์เรียวกัง นอนฟูก




ทาง รร จะมีให้เลือกชุดยูกาตะตอนหลังจากทำการเช็คอินเรียบร้อยเเล้วคนละ 1 ชุด อีกฝั่งของห้องพักก็คือ ส่วนของบ่ออนเซน ซึ่งทที่นี่มีทั้งหมด 4 บ่อ เป็นบ่อรวม 3 บอหญิงล้วน 1 มีกรงหมีด้วยน้า เเต่ตอนเดินไปดูน้องหมีหลับ



รูปที่ถ่ายมาคือเป็นรูปที่ถ่ายตอนเช้า เเละตอนไม่มีคนนะค่า

(ปล. ไม่อยากให้มองว่าเสียมารยาท ไม่ดราม่าน้า)

บ่อแร่ที่จะเจอก่อนเลยคือบ่อ Maka bath

บ่อที่ 2 Hannya Bath (อยู่ข้างๆกับ Maka )


ข้ามมาอีกฝั่ง บ่อที่ 3 Kodakara Bath