ย้อนรอย...ในห้องใต้ดิน EP. 3
ความเดิมจาก EP. 2
“พี่อย่าทำผมเลย ผมยอมแล้ว”
“กูไม่ฆ่าหรอก อีกเดี๋ยวตำรวจก็จะมาทุกอย่างก็จะจบ ยังไงก็ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในคุกอีกนาน” ข้อดีของการมีครอบครัวที่สำคัญที่สุดคือทำให้เขาใจเย็นลงรู้ว่าอะไรที่ควรทำและไม่ควรทำ ถ้าเป็นสมัยวัยรุ่นไอ้โจรสองคนนี้คงไม่มีโอกาสได้พูดแน่ รู้สึกตัวอีกทีคงได้ไปคุยกับยมบาลเรื่องความผิดที่ก่อเอาไว้
“แต่ที่กูอยากจะรู้ ใครเป็นคนจ้างมา” วศินเอาไม้จ่อไปที่หน้าของเบิ้ม ชายที่ไม่มีทางสู้ “ไม่มีใครรู้ว่าบ้านหลังนี้มีห้องลับใต้ดิน กูได้ยินที่พูดหมดแล้ว บอกมาดีๆไม่อย่างนั้นได้เจ็บตัวเพิ่มแน่ๆ”
“เออ.. เออ..” โจรกระจอกอ้ำอึ้งไม่อยากตอบ แต่เขาไม่มีทางเลือกมากนัก จึงชี้ไปที่ด้านหลังวศิน “เขาคนนั้น” วศินหันกลับไปดูก็ตกใจไม่น้อย และไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เบิ้มจึงถือโอกาสหยิบท่อนไม้ขึ้นมาฟาดหัวเขาอีกครั้งจนทำให้เขาสลบไป...
............................
เสียงทีวีทำให้แพนและวศินงัวเงียตื่นขึ้นมาบนเตียง เขาทั้งคู่ไม่รู้ว่าสลบไปนานเท่าไหร่ รู้แต่ว่ามีคนเข้ามาทำร้ายถึงในบ้านและตอนนี้ทั้งสองถูกมัดแขนข้างหนึ่งติดกันส่วนอีกข้างถูกมัดไว้กับหัวนอนเตียง ส่วนขาก็ถูกมัดไว้กับปลายเตียง
“แพน เป็นยังไงบ้าง พวกมันทำร้ายแพนใช่ไหม พี่ขอโทษนะที่ปกป้องแพนไม่ได้” ความรู้สึกผิดก่อตัวขึ้นภายในจิตใจ “พี่ถูกพวกมันจับขังไว้ในห้องใต้ดิน กว่าจะแก้เชือกหนีออกมาได้ ก็มาเจอแพนอยู่ในสภาพนั้นแล้ว”
“ไม่เป็นไรพี่ อย่าโทษตัวเองถ้าจะโทษใครก็โทษไอ้พวกสารเลวที่มันทำกับเราเถอะ” แพนเข้าใจสามีเพราะดูจากสภาพตาหน้าแล้วเขาก็โดนเล่นงานไม่น้อยไปกว่าเธอเลย “แล้วพวกมันอยู่ไหนแล้วล่ะ”
“มันคงอยู่ข้างนอกหรือไม่ก็คงหนีตำรวจไปแล้ว เพราะพี่โทรแจ้งความก่อนที่พี่จะขึ้นมาช่วยแพน แต่แพนทำใจดีๆไว้นะ คนที่จ้างพวกมันมาคือ..”
ก่อนที่วศินจะพูดอะไรอีก เสียงเพลงในทีวีดังขึ้นอีกครั้งตัดเข้าช่วงรายการ เป็นรายการๆหนึ่งที่เคยออกอากาศไปแล้วเมื่อวานเพราะลูกชายของเขานั่งดูอยู่ที่ห้องรับแขกแต่เขาไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าเป็นเรื่องไรสาระ ในรายการมีพิธีกรสาวสวยสองคนกำลังสัมภาษณ์ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างเธอ
“จากที่เราได้พูดคุยรายละเอียดส่วนตัวเล็กๆน้อยๆ ของคุณนิคไปเมื่อช่วงที่แล้วนะคะ ช่วงนี้เราจะมาถามเกี่ยวกับภาพนิติหรือภาพเหตุการณ์ที่คุณนิคฝันเห็นบ่อยๆ” พิธีกรหญิงฝั่งขวาเริ่มดำเนินรายการด้วยท่าทีสนอกสนใจ
“จะว่าไปมันก็ไม่เชิงเป็นความฝันนะครับ มันเป็นเหมือนภาพซ้อนภาพในขณะที่ผมบังเอิญไปอยู่ในสถานที่ สถานที่นั้นมากกว่า เหมือนว่าผมเคยรู้จักหรือเคยทำอะไรไว้ภาพมันจะเข้ามาซ้อนทับกันน่ะครับ” นิคพยายามอธิบายให้สองสาวเข้าใจ
“แล้วคุณนิคคิดว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงคะ” พิธีกรหญิงฝั่งซ้ายเริ่มถามบ้าง ถามตามสคริปท์ที่ได้เตรียมเอาไว้
“ผมคิดว่า...น่าจะเป็นเมื่อชาติที่แล้วผมเคยไปที่นั้น ที่นี้เยอะ ความทรงจำบางอย่างอยากให้ผมจำได้ว่าใครทำอะไรกับผมไว้ บางคนที่ผมเพิ่งรู้จักก็มีเข้ามาในความทรงจำแต่ภาพที่เห็นเขาจะดูหนุ่มกว่าตอนนี้มาก” นิคพูดติดตลกและพรางหัวเราะ “แต่เท่าที่ผมจำได้แม่นและเห็นภาพนั้นบ่อยๆคือ ผมเห็นบ้านหลังหนึ่งมีสองชั้นแต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าบ้านหลังนั้นมีห้องใต้ดินอยู่ข้างล่างอีกชั้นหนึ่ง ที่ผมรู้เพราะเคยไปที่นั้นมาแล้วครับ ภาพที่ผมเห็นและติดตามากที่สุดคือภาพที่ผู้ชายสองคนเขาทะเลาะกันแรงมาก ผู้ชายเจ้าของบ้านใช้ไม้ฟาดไปที่ท้ายทอยของชายอีกคน และเขาลากร่างของชายคนนั้นเข้าไปในบ้าน หลังจากนั้นผมก็ไม่เห็นชายคนนั้นออกมาจากบ้านหลังนั้นอีกเลยครับ” นิคเว้นวรรคดื่มน้ำนิดหนึ่งก่อนจะเล่าต่อไปว่าเห็นอะไรอีกให้พิธีกรสาวสวยฟัง “หลังจากที่เจ้าของบ้านพาชายอีกคนเข้าไปในบ้าน ไม่นานนักก็มีผู้หญิงมาหาครับผมคิดว่าเธอน่าจะเป็นแฟนของชายที่ถูกพาตัวไปและเธอคงมาตามหาเขา อีกไม่นานก็เกิดเสียงเอะอะโวยวายนิดหน่อยแล้วก็เงียบไป พอเช้าวันรุ่งขึ้นผมเห็นผู้หญิงคนเดิมวิ่งออกจากบ้านหลังนั้นด้วยสภาพที่ไม่น่าดูนัก ผมคิดว่าน่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นที่นั่นแน่ๆ ผมจึงหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมาดูบังเอิญส่องไปตรงช่องลมด้านล่างบ้านซึ่งเป็นช่องลมของห้องใต้ดิน ภาพที่ผมเห็น ผมเห็นแววตาคู่หนึ่งของชายที่ถูกทำร้ายมองกลับมาที่ผม ใบหน้าเต็มไปด้วยแผลและเลือด ผมตกใจเลยลดกล้องลง ผมนึกว่าผมตาฝาด ผมตั้งสติมองผ่านเลนส์กล้องอีกครั้งชายคนนั้นคอตกและแน่นิ่งไปแล้ว ผมคิดว่าเขาคงตายตั้งแต่ตอนกลางคืนแล้วล่ะครับ” นิคจบเรื่องเล่าอีกครั้ง พิธีกรสาวอึ้งไปซักพักกับเรื่องที่นิคเล่าก่อนจะถามคำถามนอกสคริปท์ที่เตรียมไว้
“แล้วทำไมคุณเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรก แล้วไม่เข้าไปช่วยล่ะคะ”
“ที่ผมไม่เข้าไปช่วย เพราะผมคิดว่าผมเห็นตัวเองเป็นตาแก่ไม้ใกล้ฝั่งคนหนึ่ง ถ้าผมเดาไม่ผิด เมื่อชาติก่อนบ้านของผมคงอยู่บ้านตรงกันข้ามกับบ้านหลังที่ผมเพิ่งเล่าจบไปครับ ส่วนสาเหตุว่าทำไมผมถึงจำอดีตชาติของผมได้ ผมคิดว่าดวงวิญญาณของชายคนนั้นเขาคงอยากได้รับความช่วยเหลือและผมคิดว่าเขาคงจะรอจนถึงทุกวันนี้แน่ๆเลย” นิคอธิบายเพิ่มเติม
“แล้วมีอะไรอีกไหมคะ ที่คุณนิคพอจะจำได้ เช่นสถานที่ใกล้เคียงหรือลักษณะบ้านที่ชัดเจน เดี๋ยวทีมงานจะได้ลองประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ให้ออกค้นหา เราจะได้เป็นการพิสูจน์ไปเลยว่าการที่คุณนิคระลึกชาติได้เป็นเรื่องจริง” พิธีกรหญิงฝั่งซ้ายถามเพิ่มเติมเพื่ออยากได้ขอเท็จจริง ถ้าเป็นการระลึกชาติได้จริงๆเรตติ้งรายการจะได้เพิ่มขึ้น
“งั้นเดี๋ยวเราพักโฆษณาซักครู่ค่ะ ให้คุณนิคได้พักดื่มน้ำแล้วเดี๋ยวเรากลับมาชมกันต่อค่ะ” พิธีกรอีกคนพูดตัดบทไปเสียดื้อๆ
หลังจากวศินได้ดูรายการในทีวีก็อึ้งไปซักพัก เหตุการณ์ที่คนชื่อนิคพูดขึ้นผ่านรายการเป็นเหตุการณ์จริงที่เขาเป็นคนทำ และมีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะเป็นเรื่องจริงเพราะบ้านตรงกันข้ามเมื่อสมัยเขาเป็นหนุ่ม ตาบุญอยู่ในบ้านหลังนั้นกับกานต์หลานของแก และหลังวันเกิดเหตุไม่นาน ตาบุญก็จากโลกไป มีความเป็นไปได้สูงมากที่คนชื่อนิคจะเป็นตาบุญกลับชาติมาเกิด
“ถึงกับตาค้างเลยหรอ พ่อ..” ชายหนุ่มร่างกายสูงเพียวเดินเข้ามาในห้องพร้อมเอ่ยเสียงที่ราบเรียบ
“แกทำแบบนี้ทำไมไอ้บอย” วศินตะโกนใส่ลูกชายเพราะไม่เข้าใจในการกระทำ ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ต้องการอะไรถึงได้ทำขนาดนี้ “แกจ้างไอ้โจรพวกนั้นเข้ามาทำร้ายพ่อและให้พวกมันข่มขืนแม่ แกทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร”
แพนที่รู้ความจริงว่าลูกของตัวเองทำกับพ่อแม่ได้ขนาดนี้น้ำตาก็ไหลลงมาอาบแก้มอย่างเสียใจ ไม่นึกว่าลูกจะเนรคุณได้ถึงเพียงนี้
“อย่าตีหน้าเซ่อทำตัวว่าคุณเป็นพ่อและแม่ผมดีกว่า ผมรู้ความจริงหมดแล้ว ผมไม่ใช่ลูกของพวกคุณทั้งคู่ การเลี้ยงดูผมที่ผ่านมาไม่มีความรักให้ผมเลยแม้แต่น้อย ทั้งโขกสับ ทุบตี สารพัดวิธี ถ้าผมเป็นลูกของคุณจริงๆ คุณคงเลี้ยงดูผมให้ดีกว่านี้ จริงไหม? และกรุ๊ปเลือดก็บ่งบอกได้ชัดเจนว่ามันเป็นความจริง” บอยยิ้มเล็กๆออกมาแต่สีหน้าดูไม่มีความสุขเลย...
หลังจากที่แต่งงานกันมา ด้วยความที่แพนอยากมีลูกแต่มีไม่ได้ ทั้งวศินและแพนจึงเที่ยวไปดูเด็กตามสถานรับเลี้ยงเด็กซึ่งทั้งคู่ก็บังเอิญได้ไปถูกชะตากับเด็กชายคนหนึ่งที่อายุได้สามขวบเลยขอทางสถานรับเลี้ยงเด็กนำกลับมาเลี้ยงเป็นลูกของตน แรกๆใหม่ๆ ก็รักและเอ็นดูดี มดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม แต่พอนานไปๆจากความรักและความเอ็นดูกลับน้อยลง อีกทั้งยังเพิ่มปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านไหนจะค่าเทอม ค่าอยู่ ค่ากิน ทั้งคู่ก็เริ่มเกิดความเบื่อหน่าย ไม่ได้ดั่งใจก็โขกสับ ทุบตี เพราะเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกจริงๆ จะเลี้ยงมันยังไงก็ได้ สุดท้ายผลจากการกระทำก็มาส่งผลเอาในวันที่บอยรู้ความจริง
“ผมคิดอยู่นานว่าจะหนีจากพวกคุณเมื่อไหร่ดี ตอนนี้ผมก็อายุยี่สิบสามปีแล้ว และผมจะไม่ยอมให้พวกคุณโขกสับอีกต่อไป จนเมื่อวานผมได้พบกับความจริงและตัดสินใจว่าจะทำแบบนี้เพราะรายการที่พวกคุณได้ดูเมื่อกี้ รายการที่คุณบอกผมว่ามันไร้สาระ มันทำให้ผมจำได้ถึงวันเก่าๆ” บอยพูดความจริงจากใจออกมาเป็นครั้งแรกว่าเขารู้สึกยังไง ตลอดเวลาที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับสามีและภรรยาคู่นี้ “ส่วนเรื่องที่ตำรวจจะมาจับโจร เขามาและก็กลับไปแล้วเพราะผมบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่บ้าน น่าจะเป็นการเข้าใจกันผิดหรือเป็นการโทรแกล้งกันมากกว่า เท่านี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าเรากำลังทำอะไร” บอยยิ้มออกมาอีกครั้ง
“แล้วจะเอายังไงกับพวกเรา ทำกับพวกเราขนาดนี้แล้วยังไม่พอใจอีกหรอ” แพนอารมณ์ร้อนขึ้นมาบ้าง ถึงแม้ว่าเธอจะเลี้ยงดูเด็กคนนี้มาผิดวิธีแต่ก็ไม่น่าจะจ้างโจรมาทำร้ายเธอถึงเพียงนี้
“จริงๆ คุณน่าจะเป็นคนที่ผิดน้อยที่สุดถ้าเทียบกับสามีของคุณ คุณไม่น่าจะมาโดนกระทำอะไรเช่นนี้ถ้าคุณเลือกคนที่ดีกว่านี้ ผมแค่อยากจะล้างแค้นผู้ชายคนนี้ที่มันทำไว้กับผม” น้ำเสียงและแววตาของบอยเปลี่ยนไป ดูดุดันขึ้นจากเมื่อครู่นี้
“พ่อไปทำอะไรให้แกอีกว่ะ ไอ้บอย” วศินสุดจะทนกับการกระทำของลูกที่เขาเก็บมาเลี้ยง
“จำกูได้ไหม ไอ้วศิน” เป็นคำพูดแรกที่ออกมาจากปากบอยหลังจากนิ่งเงียบไปนาน “น่าจะยังจำไม่ได้ แบบนี้ต้องให้รำลึกถึงสิ่งที่เคยทำไว้กับกูก่อนมั้ง ถึงจะจำกูได้”
คำพูดฟังแล้วคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหน ทั้งประโยคและน้ำเสียง “อย่าบอกนะว่าคือ ไอ้วิน!”
“นี่คือเหตุผลที่กูจัดฉากนี้ขึ้นมาให้รำลึกถึงความหลังเก่าๆที่ได้ทำเลวเอาไว้กับเพื่อนในครั้งอดีต ตอนที่อยู่ในห้องใต้ดินก็คงจะเจอกับภาพหลอนแล้วซิท่า” บอยยิ้มออกมาเล็กๆเหมือนที่นาวินเคยยิ้มเย้ยให้เขาที่ห้องใต้ดิน
“นี่มันเรื่องบ้า บอ อะไรเนี่ยแล้วเอาฉันไปเกี่ยวข้องด้วยทำไม” แพนร่ำไห้ออกมาเพราะตัวเองไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเรื่องในอดีตเลยแม้แต่น้อย กลับต้องมาเป็นส่วนแบ่งของผลการกระทำที่วศินได้ก่อเอาไว้
“ผมจะเล่าให้คุณฟัง คุณคงจำคนที่ชื่อนิคพูดในรายการได้ใช่ไหม ว่ามีบ้านสองชั้นที่มีห้องใต้ดิน และมีการทะเลาะกันของชายสองคน คนหนึ่งชื่อนาวิน ส่วนอีกคนก็คือไอ้วศินสามีของคุณ ซึ่งสามีของคุณได้ทำร้ายนาวิน จับเขาทรมานในห้องใต้ดินเพื่อให้เขาเลิกยุ่งกับญาดาแฟนสาวของเขา เพราะไอ้วศินมันต้องการเธอ และหลังจากนั้นมันก็ข่มขืนญาดาในห้องๆนี้ เพื่อทรมานจิตใจของคนทั้งคู่ และสุดท้ายก็มีคนตายในบ้านหลังนี้” บอยเล่าเรื่องราวให้แพนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ฟัง เธอถึงกลับอึ้งไม่คิดว่าจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น
“ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้ใครต้องตายเลยนะแพน” วศินแก้ตัวกับแพน ซึ่งตอนนี้เธอกลับไม่เชื่อใจเขาอีกต่อไป ที่เธอต้องมาอยู่ในสภาพนี้ก็เพราะเขาทั้งสิ้น
“ทำให้แฟนกูต้องตาย”
“เปล่านะ ไอ้วิน กูไม่ได้ฆ่าญาดาเลยนะ ตื่นมาตอนเช้าเธอก็หายตัวไปแล้ว กูไม่ได้ทำจริงๆนะ ไอ้วิน” อาการกลัวความผิดแฝงอยู่ในน้ำเสียงที่เปล่งออกมา “อย่าทำอะไรกูกับแพนเลยนะ กูขอร้อง”
“นี่คิดว่ากูคือ นาวินจริงๆเหรอ มองตากูให้ชัดๆนะ แล้วจะรู้”
“ญ...ญาดา นี่เธอคือญาดาเหรอ ไม่จริงเป็นไปไม่ได้” วศินมองลึกเข้าไปในดวงตาของบอย เมื่อเห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมองแล้วชวนน่าหลงไหลเหมือนของญาดาไม่มีผิด เขายิ่งสับสนไปกันใหญ่ทำไมบอยคือญาดากลับชาติมาเกิดทั้งๆที่ เธอไม่ได้ตายนาวินต่างหากที่ตาย
“กูจำเหตุการณ์ได้ทั้งหมด ตั้งแต่กูโทรศัพท์เข้าเครื่องของวินแล้วเป็นคนรับ......”
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเรื่องราวต่อๆไปได้ที่ เพจ Facebook :
https://www.facebook.com/ShockTimeStory/
ย้อนรอย...ในห้องใต้ดิน EP. 3
ความเดิมจาก EP. 2
“พี่อย่าทำผมเลย ผมยอมแล้ว”
“กูไม่ฆ่าหรอก อีกเดี๋ยวตำรวจก็จะมาทุกอย่างก็จะจบ ยังไงก็ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในคุกอีกนาน” ข้อดีของการมีครอบครัวที่สำคัญที่สุดคือทำให้เขาใจเย็นลงรู้ว่าอะไรที่ควรทำและไม่ควรทำ ถ้าเป็นสมัยวัยรุ่นไอ้โจรสองคนนี้คงไม่มีโอกาสได้พูดแน่ รู้สึกตัวอีกทีคงได้ไปคุยกับยมบาลเรื่องความผิดที่ก่อเอาไว้
“แต่ที่กูอยากจะรู้ ใครเป็นคนจ้างมา” วศินเอาไม้จ่อไปที่หน้าของเบิ้ม ชายที่ไม่มีทางสู้ “ไม่มีใครรู้ว่าบ้านหลังนี้มีห้องลับใต้ดิน กูได้ยินที่พูดหมดแล้ว บอกมาดีๆไม่อย่างนั้นได้เจ็บตัวเพิ่มแน่ๆ”
“เออ.. เออ..” โจรกระจอกอ้ำอึ้งไม่อยากตอบ แต่เขาไม่มีทางเลือกมากนัก จึงชี้ไปที่ด้านหลังวศิน “เขาคนนั้น” วศินหันกลับไปดูก็ตกใจไม่น้อย และไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เบิ้มจึงถือโอกาสหยิบท่อนไม้ขึ้นมาฟาดหัวเขาอีกครั้งจนทำให้เขาสลบไป...
............................
เสียงทีวีทำให้แพนและวศินงัวเงียตื่นขึ้นมาบนเตียง เขาทั้งคู่ไม่รู้ว่าสลบไปนานเท่าไหร่ รู้แต่ว่ามีคนเข้ามาทำร้ายถึงในบ้านและตอนนี้ทั้งสองถูกมัดแขนข้างหนึ่งติดกันส่วนอีกข้างถูกมัดไว้กับหัวนอนเตียง ส่วนขาก็ถูกมัดไว้กับปลายเตียง
“แพน เป็นยังไงบ้าง พวกมันทำร้ายแพนใช่ไหม พี่ขอโทษนะที่ปกป้องแพนไม่ได้” ความรู้สึกผิดก่อตัวขึ้นภายในจิตใจ “พี่ถูกพวกมันจับขังไว้ในห้องใต้ดิน กว่าจะแก้เชือกหนีออกมาได้ ก็มาเจอแพนอยู่ในสภาพนั้นแล้ว”
“ไม่เป็นไรพี่ อย่าโทษตัวเองถ้าจะโทษใครก็โทษไอ้พวกสารเลวที่มันทำกับเราเถอะ” แพนเข้าใจสามีเพราะดูจากสภาพตาหน้าแล้วเขาก็โดนเล่นงานไม่น้อยไปกว่าเธอเลย “แล้วพวกมันอยู่ไหนแล้วล่ะ”
“มันคงอยู่ข้างนอกหรือไม่ก็คงหนีตำรวจไปแล้ว เพราะพี่โทรแจ้งความก่อนที่พี่จะขึ้นมาช่วยแพน แต่แพนทำใจดีๆไว้นะ คนที่จ้างพวกมันมาคือ..”
ก่อนที่วศินจะพูดอะไรอีก เสียงเพลงในทีวีดังขึ้นอีกครั้งตัดเข้าช่วงรายการ เป็นรายการๆหนึ่งที่เคยออกอากาศไปแล้วเมื่อวานเพราะลูกชายของเขานั่งดูอยู่ที่ห้องรับแขกแต่เขาไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าเป็นเรื่องไรสาระ ในรายการมีพิธีกรสาวสวยสองคนกำลังสัมภาษณ์ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างเธอ
“จากที่เราได้พูดคุยรายละเอียดส่วนตัวเล็กๆน้อยๆ ของคุณนิคไปเมื่อช่วงที่แล้วนะคะ ช่วงนี้เราจะมาถามเกี่ยวกับภาพนิติหรือภาพเหตุการณ์ที่คุณนิคฝันเห็นบ่อยๆ” พิธีกรหญิงฝั่งขวาเริ่มดำเนินรายการด้วยท่าทีสนอกสนใจ
“จะว่าไปมันก็ไม่เชิงเป็นความฝันนะครับ มันเป็นเหมือนภาพซ้อนภาพในขณะที่ผมบังเอิญไปอยู่ในสถานที่ สถานที่นั้นมากกว่า เหมือนว่าผมเคยรู้จักหรือเคยทำอะไรไว้ภาพมันจะเข้ามาซ้อนทับกันน่ะครับ” นิคพยายามอธิบายให้สองสาวเข้าใจ
“แล้วคุณนิคคิดว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงคะ” พิธีกรหญิงฝั่งซ้ายเริ่มถามบ้าง ถามตามสคริปท์ที่ได้เตรียมเอาไว้
“ผมคิดว่า...น่าจะเป็นเมื่อชาติที่แล้วผมเคยไปที่นั้น ที่นี้เยอะ ความทรงจำบางอย่างอยากให้ผมจำได้ว่าใครทำอะไรกับผมไว้ บางคนที่ผมเพิ่งรู้จักก็มีเข้ามาในความทรงจำแต่ภาพที่เห็นเขาจะดูหนุ่มกว่าตอนนี้มาก” นิคพูดติดตลกและพรางหัวเราะ “แต่เท่าที่ผมจำได้แม่นและเห็นภาพนั้นบ่อยๆคือ ผมเห็นบ้านหลังหนึ่งมีสองชั้นแต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าบ้านหลังนั้นมีห้องใต้ดินอยู่ข้างล่างอีกชั้นหนึ่ง ที่ผมรู้เพราะเคยไปที่นั้นมาแล้วครับ ภาพที่ผมเห็นและติดตามากที่สุดคือภาพที่ผู้ชายสองคนเขาทะเลาะกันแรงมาก ผู้ชายเจ้าของบ้านใช้ไม้ฟาดไปที่ท้ายทอยของชายอีกคน และเขาลากร่างของชายคนนั้นเข้าไปในบ้าน หลังจากนั้นผมก็ไม่เห็นชายคนนั้นออกมาจากบ้านหลังนั้นอีกเลยครับ” นิคเว้นวรรคดื่มน้ำนิดหนึ่งก่อนจะเล่าต่อไปว่าเห็นอะไรอีกให้พิธีกรสาวสวยฟัง “หลังจากที่เจ้าของบ้านพาชายอีกคนเข้าไปในบ้าน ไม่นานนักก็มีผู้หญิงมาหาครับผมคิดว่าเธอน่าจะเป็นแฟนของชายที่ถูกพาตัวไปและเธอคงมาตามหาเขา อีกไม่นานก็เกิดเสียงเอะอะโวยวายนิดหน่อยแล้วก็เงียบไป พอเช้าวันรุ่งขึ้นผมเห็นผู้หญิงคนเดิมวิ่งออกจากบ้านหลังนั้นด้วยสภาพที่ไม่น่าดูนัก ผมคิดว่าน่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นที่นั่นแน่ๆ ผมจึงหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมาดูบังเอิญส่องไปตรงช่องลมด้านล่างบ้านซึ่งเป็นช่องลมของห้องใต้ดิน ภาพที่ผมเห็น ผมเห็นแววตาคู่หนึ่งของชายที่ถูกทำร้ายมองกลับมาที่ผม ใบหน้าเต็มไปด้วยแผลและเลือด ผมตกใจเลยลดกล้องลง ผมนึกว่าผมตาฝาด ผมตั้งสติมองผ่านเลนส์กล้องอีกครั้งชายคนนั้นคอตกและแน่นิ่งไปแล้ว ผมคิดว่าเขาคงตายตั้งแต่ตอนกลางคืนแล้วล่ะครับ” นิคจบเรื่องเล่าอีกครั้ง พิธีกรสาวอึ้งไปซักพักกับเรื่องที่นิคเล่าก่อนจะถามคำถามนอกสคริปท์ที่เตรียมไว้
“แล้วทำไมคุณเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรก แล้วไม่เข้าไปช่วยล่ะคะ”
“ที่ผมไม่เข้าไปช่วย เพราะผมคิดว่าผมเห็นตัวเองเป็นตาแก่ไม้ใกล้ฝั่งคนหนึ่ง ถ้าผมเดาไม่ผิด เมื่อชาติก่อนบ้านของผมคงอยู่บ้านตรงกันข้ามกับบ้านหลังที่ผมเพิ่งเล่าจบไปครับ ส่วนสาเหตุว่าทำไมผมถึงจำอดีตชาติของผมได้ ผมคิดว่าดวงวิญญาณของชายคนนั้นเขาคงอยากได้รับความช่วยเหลือและผมคิดว่าเขาคงจะรอจนถึงทุกวันนี้แน่ๆเลย” นิคอธิบายเพิ่มเติม
“แล้วมีอะไรอีกไหมคะ ที่คุณนิคพอจะจำได้ เช่นสถานที่ใกล้เคียงหรือลักษณะบ้านที่ชัดเจน เดี๋ยวทีมงานจะได้ลองประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ให้ออกค้นหา เราจะได้เป็นการพิสูจน์ไปเลยว่าการที่คุณนิคระลึกชาติได้เป็นเรื่องจริง” พิธีกรหญิงฝั่งซ้ายถามเพิ่มเติมเพื่ออยากได้ขอเท็จจริง ถ้าเป็นการระลึกชาติได้จริงๆเรตติ้งรายการจะได้เพิ่มขึ้น
“งั้นเดี๋ยวเราพักโฆษณาซักครู่ค่ะ ให้คุณนิคได้พักดื่มน้ำแล้วเดี๋ยวเรากลับมาชมกันต่อค่ะ” พิธีกรอีกคนพูดตัดบทไปเสียดื้อๆ
หลังจากวศินได้ดูรายการในทีวีก็อึ้งไปซักพัก เหตุการณ์ที่คนชื่อนิคพูดขึ้นผ่านรายการเป็นเหตุการณ์จริงที่เขาเป็นคนทำ และมีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะเป็นเรื่องจริงเพราะบ้านตรงกันข้ามเมื่อสมัยเขาเป็นหนุ่ม ตาบุญอยู่ในบ้านหลังนั้นกับกานต์หลานของแก และหลังวันเกิดเหตุไม่นาน ตาบุญก็จากโลกไป มีความเป็นไปได้สูงมากที่คนชื่อนิคจะเป็นตาบุญกลับชาติมาเกิด
“ถึงกับตาค้างเลยหรอ พ่อ..” ชายหนุ่มร่างกายสูงเพียวเดินเข้ามาในห้องพร้อมเอ่ยเสียงที่ราบเรียบ
“แกทำแบบนี้ทำไมไอ้บอย” วศินตะโกนใส่ลูกชายเพราะไม่เข้าใจในการกระทำ ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ต้องการอะไรถึงได้ทำขนาดนี้ “แกจ้างไอ้โจรพวกนั้นเข้ามาทำร้ายพ่อและให้พวกมันข่มขืนแม่ แกทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร”
แพนที่รู้ความจริงว่าลูกของตัวเองทำกับพ่อแม่ได้ขนาดนี้น้ำตาก็ไหลลงมาอาบแก้มอย่างเสียใจ ไม่นึกว่าลูกจะเนรคุณได้ถึงเพียงนี้
“อย่าตีหน้าเซ่อทำตัวว่าคุณเป็นพ่อและแม่ผมดีกว่า ผมรู้ความจริงหมดแล้ว ผมไม่ใช่ลูกของพวกคุณทั้งคู่ การเลี้ยงดูผมที่ผ่านมาไม่มีความรักให้ผมเลยแม้แต่น้อย ทั้งโขกสับ ทุบตี สารพัดวิธี ถ้าผมเป็นลูกของคุณจริงๆ คุณคงเลี้ยงดูผมให้ดีกว่านี้ จริงไหม? และกรุ๊ปเลือดก็บ่งบอกได้ชัดเจนว่ามันเป็นความจริง” บอยยิ้มเล็กๆออกมาแต่สีหน้าดูไม่มีความสุขเลย...
หลังจากที่แต่งงานกันมา ด้วยความที่แพนอยากมีลูกแต่มีไม่ได้ ทั้งวศินและแพนจึงเที่ยวไปดูเด็กตามสถานรับเลี้ยงเด็กซึ่งทั้งคู่ก็บังเอิญได้ไปถูกชะตากับเด็กชายคนหนึ่งที่อายุได้สามขวบเลยขอทางสถานรับเลี้ยงเด็กนำกลับมาเลี้ยงเป็นลูกของตน แรกๆใหม่ๆ ก็รักและเอ็นดูดี มดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม แต่พอนานไปๆจากความรักและความเอ็นดูกลับน้อยลง อีกทั้งยังเพิ่มปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านไหนจะค่าเทอม ค่าอยู่ ค่ากิน ทั้งคู่ก็เริ่มเกิดความเบื่อหน่าย ไม่ได้ดั่งใจก็โขกสับ ทุบตี เพราะเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกจริงๆ จะเลี้ยงมันยังไงก็ได้ สุดท้ายผลจากการกระทำก็มาส่งผลเอาในวันที่บอยรู้ความจริง
“ผมคิดอยู่นานว่าจะหนีจากพวกคุณเมื่อไหร่ดี ตอนนี้ผมก็อายุยี่สิบสามปีแล้ว และผมจะไม่ยอมให้พวกคุณโขกสับอีกต่อไป จนเมื่อวานผมได้พบกับความจริงและตัดสินใจว่าจะทำแบบนี้เพราะรายการที่พวกคุณได้ดูเมื่อกี้ รายการที่คุณบอกผมว่ามันไร้สาระ มันทำให้ผมจำได้ถึงวันเก่าๆ” บอยพูดความจริงจากใจออกมาเป็นครั้งแรกว่าเขารู้สึกยังไง ตลอดเวลาที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับสามีและภรรยาคู่นี้ “ส่วนเรื่องที่ตำรวจจะมาจับโจร เขามาและก็กลับไปแล้วเพราะผมบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่บ้าน น่าจะเป็นการเข้าใจกันผิดหรือเป็นการโทรแกล้งกันมากกว่า เท่านี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าเรากำลังทำอะไร” บอยยิ้มออกมาอีกครั้ง
“แล้วจะเอายังไงกับพวกเรา ทำกับพวกเราขนาดนี้แล้วยังไม่พอใจอีกหรอ” แพนอารมณ์ร้อนขึ้นมาบ้าง ถึงแม้ว่าเธอจะเลี้ยงดูเด็กคนนี้มาผิดวิธีแต่ก็ไม่น่าจะจ้างโจรมาทำร้ายเธอถึงเพียงนี้
“จริงๆ คุณน่าจะเป็นคนที่ผิดน้อยที่สุดถ้าเทียบกับสามีของคุณ คุณไม่น่าจะมาโดนกระทำอะไรเช่นนี้ถ้าคุณเลือกคนที่ดีกว่านี้ ผมแค่อยากจะล้างแค้นผู้ชายคนนี้ที่มันทำไว้กับผม” น้ำเสียงและแววตาของบอยเปลี่ยนไป ดูดุดันขึ้นจากเมื่อครู่นี้
“พ่อไปทำอะไรให้แกอีกว่ะ ไอ้บอย” วศินสุดจะทนกับการกระทำของลูกที่เขาเก็บมาเลี้ยง
“จำกูได้ไหม ไอ้วศิน” เป็นคำพูดแรกที่ออกมาจากปากบอยหลังจากนิ่งเงียบไปนาน “น่าจะยังจำไม่ได้ แบบนี้ต้องให้รำลึกถึงสิ่งที่เคยทำไว้กับกูก่อนมั้ง ถึงจะจำกูได้”
คำพูดฟังแล้วคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหน ทั้งประโยคและน้ำเสียง “อย่าบอกนะว่าคือ ไอ้วิน!”
“นี่คือเหตุผลที่กูจัดฉากนี้ขึ้นมาให้รำลึกถึงความหลังเก่าๆที่ได้ทำเลวเอาไว้กับเพื่อนในครั้งอดีต ตอนที่อยู่ในห้องใต้ดินก็คงจะเจอกับภาพหลอนแล้วซิท่า” บอยยิ้มออกมาเล็กๆเหมือนที่นาวินเคยยิ้มเย้ยให้เขาที่ห้องใต้ดิน
“นี่มันเรื่องบ้า บอ อะไรเนี่ยแล้วเอาฉันไปเกี่ยวข้องด้วยทำไม” แพนร่ำไห้ออกมาเพราะตัวเองไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเรื่องในอดีตเลยแม้แต่น้อย กลับต้องมาเป็นส่วนแบ่งของผลการกระทำที่วศินได้ก่อเอาไว้
“ผมจะเล่าให้คุณฟัง คุณคงจำคนที่ชื่อนิคพูดในรายการได้ใช่ไหม ว่ามีบ้านสองชั้นที่มีห้องใต้ดิน และมีการทะเลาะกันของชายสองคน คนหนึ่งชื่อนาวิน ส่วนอีกคนก็คือไอ้วศินสามีของคุณ ซึ่งสามีของคุณได้ทำร้ายนาวิน จับเขาทรมานในห้องใต้ดินเพื่อให้เขาเลิกยุ่งกับญาดาแฟนสาวของเขา เพราะไอ้วศินมันต้องการเธอ และหลังจากนั้นมันก็ข่มขืนญาดาในห้องๆนี้ เพื่อทรมานจิตใจของคนทั้งคู่ และสุดท้ายก็มีคนตายในบ้านหลังนี้” บอยเล่าเรื่องราวให้แพนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ฟัง เธอถึงกลับอึ้งไม่คิดว่าจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น
“ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้ใครต้องตายเลยนะแพน” วศินแก้ตัวกับแพน ซึ่งตอนนี้เธอกลับไม่เชื่อใจเขาอีกต่อไป ที่เธอต้องมาอยู่ในสภาพนี้ก็เพราะเขาทั้งสิ้น
“ทำให้แฟนกูต้องตาย”
“เปล่านะ ไอ้วิน กูไม่ได้ฆ่าญาดาเลยนะ ตื่นมาตอนเช้าเธอก็หายตัวไปแล้ว กูไม่ได้ทำจริงๆนะ ไอ้วิน” อาการกลัวความผิดแฝงอยู่ในน้ำเสียงที่เปล่งออกมา “อย่าทำอะไรกูกับแพนเลยนะ กูขอร้อง”
“นี่คิดว่ากูคือ นาวินจริงๆเหรอ มองตากูให้ชัดๆนะ แล้วจะรู้”
“ญ...ญาดา นี่เธอคือญาดาเหรอ ไม่จริงเป็นไปไม่ได้” วศินมองลึกเข้าไปในดวงตาของบอย เมื่อเห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมองแล้วชวนน่าหลงไหลเหมือนของญาดาไม่มีผิด เขายิ่งสับสนไปกันใหญ่ทำไมบอยคือญาดากลับชาติมาเกิดทั้งๆที่ เธอไม่ได้ตายนาวินต่างหากที่ตาย
“กูจำเหตุการณ์ได้ทั้งหมด ตั้งแต่กูโทรศัพท์เข้าเครื่องของวินแล้วเป็นคนรับ......”
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเรื่องราวต่อๆไปได้ที่ เพจ Facebook : https://www.facebook.com/ShockTimeStory/