[CR] เกาะกูดดดด ใครไม่กูด เกาะกูดเด้อออ (Low season review)

จุดประสงค์ของกระทู้
* แนะนำการเดินทาง
* แนะนำรีสอร์ท
* แนะนำจุดท่องเที่ยว
* แนะนำร้านอาหาร

คำเตือน รูปในกระทู้ อาจจะไม่สวยเหมือนที่หลายๆคนถ่ายมา เพราะด้วยความรีบ และฝีมือการถ่ายที่มีอยู่น้อยนิดของเรา ต้องขออภัยล่วงหน้ามา ณ ทีนี้ด้วยค่า

เกาะกูด” ชื่อนี้หลายๆคนคงคุ้นกับชื่อเสียงเรียงนามกันมาอย่างดี ว่าเป็นเกาะที่เงียบสงบ เหมาะแก่การไปพักผ่อนแบบชิลล์ๆ ใสใส กินๆ นอนๆพักผ่อนกันไป แต่เนื่องจากว่าเราเป็นคนบ้าพลัง เวลาไปเที่ยวก็อยากทำนู่นทำนี่ ไม่ชอบนอนอยู่รีสอร์ทเฉยๆ  ก็เลยจะมาแนะนำเกาะกูดในแบบฉบับสายลุย สายแอคทีวิดี้ ที่เราได้ไปสัมผัสมา เผื่อจะเป็นประโยชน์กับใครที่กำลังมองหาสถานที่ปลดปล่อยพลังงานความเครียด ที่สั่งสมมาจากการเรียน การทำงานให้ลืมกันไปเลยว่างานคืออะไร (ว่ะฮะฮะฮะฮ่า)

เนื่องจากเราไม่มีรถ ดังนั้นการเดินทางทั้งหมดจะต้องวางแผนให้มีรถมารับมาส่ง เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งครั้งนี้เป็นการไปเกาะกูดครั้งแรก ทำให้เราคำนวณเวลาผิดพลาดไปบ้างก็เลยจะขอลงข้อมูลไว้เผื่อใครไปตามจะได้ไม่พลาดเหมือนเราจ้า

23 พฤษภาคม 2561
เวลา 23:00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพ ด้วยรถทัวร์ของบริษัท เชิดชัย ทัวร์

นี่คือจุดเริ่มต้นของความผิดพลาดของเรา คือเราได้ข้อมูลจาก INTERNET ว่ารถของบริษัทเรือที่เราจองไว้ จะมารับคนที่ท่ารถ บขส.ตราด เวลา 10:00 น. ซึ่งเราได้คำนวณแล้วว่าถ้าเราไปรถทัวร์รอบ 05:00 น. จะทำให้เราไม่ทันรถของบริษัทเรือ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด!!!! จริงๆแล้วบริษัทเรือจะมารับประมาณ 11 โมง ซึ่งเราสามารถนั่งรถทัวร์รอบ 05:00 น. ก็ทันจ้า (พลาดดด)

24 พฤษภาคม 2561
11:00 น. รถของบริษัทเรือที่เราจองไว้มารับที่ท่ารถ บขส ตราด

หลังจากที่รอคอยกันอย่างยาวนาน มาถึงตราดตั้งแต่ 04:00 น. เนื่องจากไม่รู้จะไปไหน ไม่ได้วางแผนไว้ กลัวกลับมาไม่ทันรถ นู่นนี่นั่น ก็เลยเลือกที่จะนั่งรอรถบริษัทเรืออยู่ที่นั่นเลย (รอรถ 04:00 – 11:00 น..ร้องไห้แพร้พพพ) ซึ่งในครั้งนี้เราใช้บริการเรือของบริษัท เกาะกูด ปริ้นเซส เนื่องจากเค้ามีบริการรถรับ - ส่งฟรีจากท่ารถ บขส ตราด ไปที่ท่าเรือด้วยค่ะ ส่วนเรื่องเวลาก็จะมาไม่เกิน 11 โมง และสำหรับคนที่จองเรือไว้ถ้ามาช้าพี่คนขับเค้ามีโทรตามด้วยนะคะ ไม่ได้ปล่อยผ่านไป แอบประทับใจในการบริการอยู่เล็กๆค่า (ไม่แน่ใจนะคะว่าถ้าไม่ได้จองเรือล่วงหน้าสามารถขึ้นรถได้ไหม จะให้ชัวร์โทรถามบ.เรือก่อนนะคะ)

สำหรับรถจะจอดอยู่ที่ชานชาลา 25 นะคะ สามารถไปนั่งรอตรงนั้นได้เลย

11:45 น. พี่คนขับพามาถึงจุดจอดรถของ บริษัทเกาะกูด ปริ้นเซส จุดนี้มีให้บริการจุดจอดรถ ใครมีรถส่วนตัวสามารถเอามาจอดไว้ที่นี่ได้นะคะ สนนราคาคืนละ 50 บาทค่า  


12:15 น. เดินทางไปท่าเรือกัน จากจุดนี้ทางบริษัทเรือจะมีรถสองแถวใหญ่ ลำเลียงคนจากจุดจอดรถไปที่ท่าเรือ แต่เนื่องจากทางรีสอร์ทที่เราจองไว้มีบริการรถตู้จากจุดจอดรถไปยังท่าเรือให้ด้วยค่า(ลืมถ่ายรูป) ส่วนตัวมากๆ
ข้อดีของการนั่งรถตู้นอกจากความเป็นส่วนตัวแล้ว เราจะไปถึงเป็นกลุ่มแรก แน่นอน ไปก่อนได้เลือกที่นั่งก่อน เพราะที่นั่งบนเรือจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นห้องแอร์ และส่วนด้านนอกที่เป็น OPEN AIR สำหรับที่นั่งในห้องแอร์นั้น แคบสุดๆไปเลย ขนาดว่าเราขาสั้นแล้วนะ ยังนั่งลำบาก ก็เลยมาจับจองที่นั่งด้านนอก ซึ่งวันที่เราไป ไม่มีแดด (เศร้า) ก็เลยไม่ร้อนค่ะ อากาศสบายๆ ลมแรงนิดหน่อย เราก็เลยหลับไปเลยยยย เพราะจากฝั่งไปเกาะ ใช้เวลา 2 ชั่วโมงค่า
และขอแนะนำเพิ่มเติมว่าถ้าใครนั่งด้านนอก อย่านั่งม้านั่งสามแถวหน้า เพราะว่าเวลาเรือแล่น น้ำจะกระเด็นเข้ามาในเรือคนที่นั่ง 3 แถวหน้าก็จะรับไปเต็มๆเลย เรานี่หัวแฉะไปเลยจ้า (ตอนแรกก็คิดว่าเห้ยกระเด็นแค่นี้ทนได้ ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมง โอ้โห หน้าชา แสบตาไปอีกกกก เพราะฉะนั้นเลือกได้ก็ไปนั่งแถวหลังๆเถอะจ้ะ)


14:30 น. ในที่สุดเราก็มาถึงท่าเรือเกาะกูด เรือของบริษัทเกาะกูด ปริ้นเซส จะไปเทียบท่าอยู่ที่ท่าเรือหมู่บ้านอ่าวสลัด ซึ่งจากจุดนี้ ก็จะมีรถสองแถวเล็กของบ.เรือ ให้บริการรับส่งจากท่าเรือ ไปยังที่พักด้วยค่า (ลืมถ่ายรูปจุดนี้ รีบลงเรือละก็เดินจ้ำๆไปขึ้นรถเลย แหะๆ ขอโทษค่า)

สำหรับการเดินทางภายในเกาะกูด
อย่างที่รู้กันว่าเกาะกูดเป็นเกาะที่เงียบสงบมาก (ม๊ากมากเลย สำหรับเรา) ดังนั้นจะไปไหนมาไหนก็จะลำบากนิดนึง เพราะว่ารถที่ผ่านไม่เยอะ เราก็เลยตัดสินใจเช่ามอเตอร์ไซค์ ซึ่งเราได้ถามที่รีสอร์ทที่เราพักแล้ว ทางรีสอร์ทคิดราคา 400 บาทต่อวัน แต่พอดีว่าตอนที่เราไปถึงมีคนเอานามบัตรร้านเช่ามอเตอร์ไซค์มายื่นให้ เราก็เลยลองโทรไป พี่เค้าให้ราคา 250 บาทต่อวัน แถมยังเอารถมาส่งให้ถึงรีสอร์ทด้วย ก็เลยตกลงเช่าของพี่เค้าแทน (แหะๆ งกนิดนึง) ส่วนใหญ่มอเตอร์ไซค์ที่นี่จะใช้ CLICK 125 CC กัน ซึ่งเราก็เป็นผู้หญิงขาสั้น ก็รู้สึกว่าขี่ค่อนข้างยาก เลยทำให้มีอุบัติเหตุบ้างอะไรบ้าง พากันเทกระจาด ดีที่รถเค้าไม่พัง (กราบขอโทษพี่เจ้าของมอเตอร์ไซค์มา ณ จุดนี้ด้วย) ดังนั้นถ้าใครจะเช่ามอเตอร์ไซค์แนะนำว่าต้องมั่นใจว่าตัวเองขี่มอเตอร์ไซค์ได้ดีในระดับนึง ขนาดว่าเรามั่นใจแล้วนะว่าเราขี่มอเตอร์ไซค์ได้ ยังพลาดเลย เพราะ นอกจากรถจะหนัก และถนนหนทางบางส่วนยังเป็นดินแดงๆโรยหินกรวดอยู่เลย (ฝนตกทีนี่อื้อหืมมมม) เพราะฉะนั้นระวังๆกันด้วยจ้า

หลังจากที่เดินทางกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อยก็ถึงเวลาที่เราจะได้พักผ่อนกันสักที และเมื่อเราถึงเกาะปุ๊บ ตามคาดเลย ฝนตก ซ่าา!! ลงมาอย่างพร้อมเพรียงทั่วเกาะ เป็นการเปิดฤกษ์การเที่ยวของเราได้อย่างดีมากจริงๆเล้ยยยย
สำหรับที่พักเราพักกันที่จามเฮาส์ (CHAM'S HOUSE) ที่จามเฮ้าส์ค่ะ

สำหรับการเช็คอินทางรีสอร์ทก็จะมี WELCOME DRINK และผ้าเย็นมาให้เช็ดหน้าเช็ดมือ (น้ำกระเจี๊ยบอร่อย อยากซื้อกลับบ้านสักสองขวด ฮ่าๆ)

หลังจากดำเนินการเช็คอินเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีพนักงานพาเราไปยังห้องพัก และพนักงานจะทำการแนะนำส่วนต่างๆของห้องพัก วิธีการเปิด-ปิดไฟแต่ละส่วน น้ำร้อน น้ำเย็นอะไรก็ว่ากันไป เรามีภาพบรรยากาศมาฝากกันนิดๆหน่อยๆจ้า




**เอาจริงๆเราว่าของจริงสวยกว่านี้อะ แต่เราถ่ายรูปห่วย กลัวรีสอร์ทเค้ามาด่าเอาจัง

สำหรับห้องพักจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอยู่ข้างๆ มีอ่างอาบน้ำแบบ OPEN AIR มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำแบบฝักบัวอยู่ด้านใน และทางรีสอร์ทได้จัดเตรียม COMPLIMENTARY ไว้ให้เยอะมากกกที่จำได้คร่าวๆก็จะมีสบู่ แชมพู แปรงสัฟัน ยาสีฟัน เสื้อคลุม รองเท้าแตะ ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ไดร์เป่าผม ตู้เซฟ และมีมินิบาร์ด้วย ซึ่งเราคิดว่า โอ้โห มาแต่ตัวทัวร์ยกแก๊งได้เลยนะคะเนี่ย


บรรยากาศริมชายหาด ฝนพึ่งหยุดตกก็เลยจะฉ่ำๆ ไม่ค่อยสวยเท่าไร


17:00 น. หลังจากที่เช็คอินเสร็จเรียบร้อย เราก็ได้เวลาออกไปตามล่าหาของกิน คือพอดีว่าตอนที่นั่งรถสองแถวจากหมู่บ้านอ่าวสลัดมาที่รีสอร์ทนั้น มีพี่คนท้องถิ่นเค้านั่งรถมาด้วย ด้วยความที่เราอัธยาศัยดี (เหรอ) ก็เลยไปชวนเค้าคุย พี่เค้าแนะนำดีมาก บอกว่าให้ไปเที่ยวที่ไหน กินข้าวที่ไหน ตรงไหนถูกตรงไหนดี พี่เค้าแนะนำละเอียดอย่างกับไกด์พาลูกทัวร์เที่ยว 5555 ซึ่งร้านอาหารที่พี่เค้าแนะนำให้ไปกินก็คือ “ร้านระเบียงไม้” นั่นเอง


พี่คนแนะนำเล่าว่าร้านนี้เป็นพี่สองคน สามี-ภรรยา มาเปิดร้านทำกันแค่ 2 คน ช่วง HI-SEASON ใครอยากกินร้านนี้ต้องรอกันจนไส้กิ่วแน่นอน เพราะคนเยอะมาก แต่พอดีว่าเรามาช่วง LOW-SEASON เพราะฉะนั้น บรรยากาศเลยไพรเวทสุดๆ
บรรยากาศที่ร้าน

มีบาร์เครื่องดื่มด้วยนะ

อาหารที่สั่ง
ยำวุ้นเส้นปลาหมึก

ต้มยำทะเลรวม

กุ้งเผา

ปลาหมึกผัดไข่เค็ม

เครื่องดื่ม ไหมไทย (เข้มสุด เมาสุด โอ้โห เรานี่ชิมได้จื้ดเดียว ไม่กล้ากินต่อเลยจ้า 555 กลัวขี่รถกลับไม่ได้)

พี่เค้าให้เยอะมาก สำหรับรสชาติถูกปากเรามากๆเลยกุ้ง หมึก ปลา สดหวาน เนื้อกรอบเด้ง ไม่มีความคาว การปรุงรวชาติอาหารปรุงได้กลมกล่อม หวาน เปรี้ยว เค็ม เผ็ดกำลังดี โดยเฉพาะน้ำจิ้มซีฟู้ดที่มากับกุ้งเผานั้น เด็ดสะระตี่เลย 10 10 10 ไปเลยค่า และสำหรับค่าเสียหายมื้อนี้คือ 1070 บาท ถามว่าถูกหรือแพง เราไม่แน่ใจ แต่ถ้าถามว่าคุ้มค่าไหม เราว่าคุ้ม เพราะเราคิดว่ามันอร่อย แต่ยกเว้นกุ้งเผา เรารู้สึกว่าแพงไปนิดนึง 5 ตัว 300 บาท หรือว่านี่เป็นราคามาตรฐานเราก็ไม่ว่ากัน ถ้าใครได้ไปเกาะกูดแล้ว อย่าลืมไปลองกินดูนะคะ แล้วมาเม้าท์กันว่าชอบหรือไม่ชอบยังไง หรือใครไปกินมาแล้วมาเม้าท์กันหน่อยค่า

หลังจากที่อิ่มท้องตอนแรกตั้งใจว่าจะไปสำรวจเกาะเลย แต่ด้วยความที่ฝนตกบวกกับที่เราเดินทางกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อยก็เลยต้องเปลี่ยนแผนกันนิดหน่อย สำหรับข้อมูลในวันถัดไปจะมาต่อให้ในคอมเม้นนะคะ
ชื่อสินค้า:   Koh Kood
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่