คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
1.ถ้าพูดถึงความปลอดภัย
ไมโครชิพจะปลอดภัยกว่า เพราะถ้าเป็นม่านตา ลายนิ้วมือ หรือเอกลักษณ์ประจำตัว
หากบุคคลนั่นเป็นคนสำคัญๆ ไม่โดนควักลูกตา หรือ โดนตัดนิ้วเป็นว่าเล่นเลยหรอ
2.ส่วนเรื่องการพัฒนา
ไมโครชิพ หลักๆนั่นมันสามารถที่จะเก็บข้อมูลได้ไม่ค่อยมาก และ ยุ่งยากหากนำไปใช้จริงในโลกที่เราไม่ต้องเดินไปอัพเดท
หรือเอาข้อมือไปสแกนเพื่ออัพเดท แต่เราอยู่ในยุคที่ Smartphone ทำอะไรได้หลายอย่าง ทั้งเป็นเครื่องประจำตัว ระบุตัวตน
หรือจ่ายของซื้อของ รวมถึงการโอนเงิน และทำธุรกรรมต่างๆ
3.แล้วมันจะเอาไปทำไรได้ หาก smartphone คือสิ่งที่ดีกว่า
ไมคโครชิพทำงานด้วยระบบ นำความร้อนจากร่างกายแปลงเป็นพลังงานอ่อนๆ ในระดับ ไม่เกิน 0.3v
กระแสอาจจะกินไม่ถึง 0.01 Watt หรือเผลอๆอาจจะเป็นแผ่นชิพเปล่าๆเลยก็ได้ โดยอาศัยเครื่องปลายทางส่งไฟฟ้ามาโดนชิพแทน ฉะนั้น
4.สิ่งที่มันควรเป็นคือ
1.เครื่องระบุตัวตน ชื่อ นามสกุล หมายเลขประชาชน ระบุสัญชาติ หรือข้อมูลทั่วไปที่คล้ายกับบัตรประชาชน
2.เครื่องตรวจความ บริสุทธิ์ หากคุณเป็นนักโทษ ไมคโครก็จะจัดว่าคุณเป็นนักโทษ หากคุณเป็นคนดีก็จะจัดว่าคุณเป็นคนดี
เรื่องนี่จะช่วยได้มาก ในสนามบิน เช่นหากคนนี้เป็นนักโทษหลบนี้ก็สามารถตรวจและจับกุมได้ หรือหากคนนี้ไม่มีไมโครชิพติดตัว
ก็ไม่สามารถเข้าออกสนามบินได้
3.เครื่องยืนยันตัวตนในองค์กรระดับโลก หรือ ระดับกลาง เช่นการเข้าประตู หรือ การเข้าถึงเป็นต้น
4.เครื่องบ่งบอกถึง ลายละเอียดทางการแพทย์ระดับย่อย
แต่สิ่งที่มันจะไม่เป็นและไม่ควรคือ
1.การนำมาใช้เป็น ธนาคารเคลื่อนที่ แบบในหนังที่คุณจะซื้อของแล้วชำระโดยการยืนมือไป เพราะแบบนั่นจะถูกดักการใช้งานแบบง่ายๆ
2.นำไปใช้ทำธุรกรรมต่างๆ เพราะหากบุคคลนั่นเป็นคนสำคัญ นั่นหมายถึงคนๆนั่นมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะโดนลักพาตัว
หลักๆก็แค่นี้ที่คิดออก ฉะนั้นจำไว้ว่าเหรียญมีสองด้าน
ด้านหนึ่งมองดูเหมือนจะสะสวกสบาย แต่ในแง่หนึ่ง
มันก็นำมาซึ่งความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตของเราเอง
ไมโครชิพจะปลอดภัยกว่า เพราะถ้าเป็นม่านตา ลายนิ้วมือ หรือเอกลักษณ์ประจำตัว
หากบุคคลนั่นเป็นคนสำคัญๆ ไม่โดนควักลูกตา หรือ โดนตัดนิ้วเป็นว่าเล่นเลยหรอ
2.ส่วนเรื่องการพัฒนา
ไมโครชิพ หลักๆนั่นมันสามารถที่จะเก็บข้อมูลได้ไม่ค่อยมาก และ ยุ่งยากหากนำไปใช้จริงในโลกที่เราไม่ต้องเดินไปอัพเดท
หรือเอาข้อมือไปสแกนเพื่ออัพเดท แต่เราอยู่ในยุคที่ Smartphone ทำอะไรได้หลายอย่าง ทั้งเป็นเครื่องประจำตัว ระบุตัวตน
หรือจ่ายของซื้อของ รวมถึงการโอนเงิน และทำธุรกรรมต่างๆ
3.แล้วมันจะเอาไปทำไรได้ หาก smartphone คือสิ่งที่ดีกว่า
ไมคโครชิพทำงานด้วยระบบ นำความร้อนจากร่างกายแปลงเป็นพลังงานอ่อนๆ ในระดับ ไม่เกิน 0.3v
กระแสอาจจะกินไม่ถึง 0.01 Watt หรือเผลอๆอาจจะเป็นแผ่นชิพเปล่าๆเลยก็ได้ โดยอาศัยเครื่องปลายทางส่งไฟฟ้ามาโดนชิพแทน ฉะนั้น
4.สิ่งที่มันควรเป็นคือ
1.เครื่องระบุตัวตน ชื่อ นามสกุล หมายเลขประชาชน ระบุสัญชาติ หรือข้อมูลทั่วไปที่คล้ายกับบัตรประชาชน
2.เครื่องตรวจความ บริสุทธิ์ หากคุณเป็นนักโทษ ไมคโครก็จะจัดว่าคุณเป็นนักโทษ หากคุณเป็นคนดีก็จะจัดว่าคุณเป็นคนดี
เรื่องนี่จะช่วยได้มาก ในสนามบิน เช่นหากคนนี้เป็นนักโทษหลบนี้ก็สามารถตรวจและจับกุมได้ หรือหากคนนี้ไม่มีไมโครชิพติดตัว
ก็ไม่สามารถเข้าออกสนามบินได้
3.เครื่องยืนยันตัวตนในองค์กรระดับโลก หรือ ระดับกลาง เช่นการเข้าประตู หรือ การเข้าถึงเป็นต้น
4.เครื่องบ่งบอกถึง ลายละเอียดทางการแพทย์ระดับย่อย
แต่สิ่งที่มันจะไม่เป็นและไม่ควรคือ
1.การนำมาใช้เป็น ธนาคารเคลื่อนที่ แบบในหนังที่คุณจะซื้อของแล้วชำระโดยการยืนมือไป เพราะแบบนั่นจะถูกดักการใช้งานแบบง่ายๆ
2.นำไปใช้ทำธุรกรรมต่างๆ เพราะหากบุคคลนั่นเป็นคนสำคัญ นั่นหมายถึงคนๆนั่นมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะโดนลักพาตัว
หลักๆก็แค่นี้ที่คิดออก ฉะนั้นจำไว้ว่าเหรียญมีสองด้าน
ด้านหนึ่งมองดูเหมือนจะสะสวกสบาย แต่ในแง่หนึ่ง
มันก็นำมาซึ่งความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตของเราเอง
แสดงความคิดเห็น
สงสัยเรื่องการฝังไมโครชิพในร่างกายมนุษย์
ทำไมถึงไม่พัฒนาเรื่องเอกลักษณ์ประจำตัวบุคคล เช่น ลายนิ้วมือ ม่านตา อะไรทำนองนั้น ต้นทุนต่ำกว่าแน่นอน ป้องกันการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานได้ดีกว่า โอกาสเกิดปัญหาจากอุปกรณ์ก็น้อยกว่าด้วย ทำไมไม่ทำ อ้อ ยกเว้นใช้ทางการแพทย์นะ อันนั้นเห็นด้วยมากอยู่
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ