ทางทฤษฎี ณ วันที่ 10 ก.ค. สถานการณ์ตลาดทุนไทยที่เข้าสู่ช่วง Late Cycle (ความเชื่อส่วนตัวผู้เขียน) ถือว่าเราอยู่ในช่วงระดับพีคสุดของรอบวงจรเศรษฐกิจ ...ในความเห็นของกองทุน Fidelity ให้มุมมองไว้ว่า
"Towards the end
The sustained growth in economic activity will tend to mature and slow toward the end of the economic cycle. Inflationary pressures may build in these phases, which can lead to outperformance from companies in the energy and basic materials sectors. As investors begin to see signs of an economic slowdown, defense-oriented sectors (such as health care, consumer staples, and utilities) have the potential to outperform the market.
Information technology and consumer discretionary stocks tend to lag behind the broader market in these environments, as investors shy away from economically sensitive areas."
ส่วนที่ขีดเส้นใต้ได้รวมถึงกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์... ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจช่วงขาลงอย่างมาก
กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
มีความน่าสนใจทางลบในช่วง Trade War โดย Us มีการขึ้นกำแพงภาษีไปแล้ว 25% ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา และมีนักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการลง(Downgrade) ...อ้างอิง ASP

มาดูเรื่องค่าเงิน ปัจจัยส่งผลกระทบต่อกำไรของกลุ่ม Export พบว่าปีก่อน ค่าเงินบาทแข็งค่าจากช่วง 36 > 31 บาท นอกจากเหตุผลเรื่อง FDI แล้ว นักลงทุนต่างชาติมีการซื้อตราสารหนี้ไทยมูลค่าถึง 2.2 แสนล้านบาท (ส่วนตราสารทุนไม่ต้องลุ้นเพราะขายเอากลับบ้านอย่างเดียว)
เรื่องค่าเงิน + Trade War ส่งผลอะไรกับหุ้นกลุ่มนี้ DELTA จาก 80-90 ราคาหุ้นลงมาซื้อขายแถวๆ 50-60, KCE จาก 50-60 ลงมาซื้อขาย 30-40, HANA จาก 40-50 ลงมาซื้อขายแถวๆ 30-40, SVI 5-6 ลงมาซื้อขาย 4-4.5 ...คำถามก็คือ แล้วในช่วงนี้เป็นจุดพอที่จะลงทุนได้หรือไม่?
พอเหลือบมองตัวเลขแบบห่ามๆ ...พบว่า แต่ละบริษัทมีหนี้สินไม่ถึง 1 เท่า
DELTA P/E 16-17, P/BV 2.3, ปันผล 3-4%
KCE P/E 19, P/BV 4, ปันผล 3%
HANA P/E 10-11, P/BV 1.3-1.4, ปันผล 5-6%*
SVI P/E 23-24, P/BV 3+, ปันผล 2%
สำหรับ HANA นั้นไม่ฮาแน่ ที่เป็นบริษัทซึ่งถูกมองข้ามอย่างแรง ...ว่าแล้วก็เลยไปตรวจเช็ครายชื่อผู้ถือหุ้น ก็พบว่าคุณอนันต์ ระวีแสงสูรย์ เริ่มเก็บมาตั้งแต่ Update รายชื่อผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ปีก่อนประมาณ 5 ล้านหุ้น ปัจจุบันล่าสุดปิดบุ๊ค 15 มี.ค. เก็บเพิ่มอีกนิด 4 แสนหุ้น ...ทำให้พออุ่นใจได้หน่อยว่าเรายังพอได้ต้นทุนที่ไม่สูงนักเมื่อเทียบกับเขา
ภาพรวมอุตสาหกรรมปัจจุบันเป็นอย่างไร อ้างอิงกรุงศรี
https://www.krungsri.com/bank/getmedia/b29dd4f2-a5af-4698-809b-c5d50a464961/Snapshot_IC.pdf.aspx ในภาพจะเห็นว่ากลุ่ม IC แผงวงจร ยกฐานขึ้นเรื่อยๆมาหลายปีจากความต้องการอุปกรณ์อิเล็กฯซึ่งเป็นหัวใจหลักของเครื่องกลทั้งหลายที่ใช้ไฟฟ้า ...คิดว่าธุรกิจนี้ยังเป็นอนาคตทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเองก็ต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีสมองกลยิ่งยวดขึ้นไปเรื่อยๆ

มุมมองส่วนตัว สำหรับ HANA ...ผมเชื่อว่าถ้าใครเข้าไปศึกษาธุรกิจให้ดี จะพบว่าเธอก็มีเสน่ห์ เพราะหนี้ที่เห็นส่วนใหญ่เป็นเจ้าหนี้ทางการค้า ธุรกิจยังเป็น Net Cash ที่มีเงินสด,รายการเทียบเท่าในมือราวๆ 1 หมื่นล้าน ในขณะที่ธุรกิจมีการขยายไซต์งานที่ลำพูนที่จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิต มีฐานผลิตที่อยุธยา กัมพูชา จีน หรือแม้แต่ในสหรัฐเองก็มีโรงงานด้วยเช่นกัน ระดับธรรมาภิบาลก็ไม่เป็นรองใคร ...รวมถึงความเชี่ยวชาญในฐานะที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนในระดับต้นๆของประเทศ Margin ของธุรกิจ 10-15% ถือว่าทำได้ไม่แย่เลยเมื่อเทียบกับอุตสหกรรมอื่นๆ
ปล. ด้วยราคาปัจจุบันผมเข้าไปแล้วช่วง 32-33 ใครตามระวังเจ็บตัวครับ
HANA <Trade War&Currency Impact>
"Towards the end
The sustained growth in economic activity will tend to mature and slow toward the end of the economic cycle. Inflationary pressures may build in these phases, which can lead to outperformance from companies in the energy and basic materials sectors. As investors begin to see signs of an economic slowdown, defense-oriented sectors (such as health care, consumer staples, and utilities) have the potential to outperform the market.
Information technology and consumer discretionary stocks tend to lag behind the broader market in these environments, as investors shy away from economically sensitive areas."
ส่วนที่ขีดเส้นใต้ได้รวมถึงกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์... ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจช่วงขาลงอย่างมาก
กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีความน่าสนใจทางลบในช่วง Trade War โดย Us มีการขึ้นกำแพงภาษีไปแล้ว 25% ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา และมีนักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการลง(Downgrade) ...อ้างอิง ASP
มาดูเรื่องค่าเงิน ปัจจัยส่งผลกระทบต่อกำไรของกลุ่ม Export พบว่าปีก่อน ค่าเงินบาทแข็งค่าจากช่วง 36 > 31 บาท นอกจากเหตุผลเรื่อง FDI แล้ว นักลงทุนต่างชาติมีการซื้อตราสารหนี้ไทยมูลค่าถึง 2.2 แสนล้านบาท (ส่วนตราสารทุนไม่ต้องลุ้นเพราะขายเอากลับบ้านอย่างเดียว)
เรื่องค่าเงิน + Trade War ส่งผลอะไรกับหุ้นกลุ่มนี้ DELTA จาก 80-90 ราคาหุ้นลงมาซื้อขายแถวๆ 50-60, KCE จาก 50-60 ลงมาซื้อขาย 30-40, HANA จาก 40-50 ลงมาซื้อขายแถวๆ 30-40, SVI 5-6 ลงมาซื้อขาย 4-4.5 ...คำถามก็คือ แล้วในช่วงนี้เป็นจุดพอที่จะลงทุนได้หรือไม่?
พอเหลือบมองตัวเลขแบบห่ามๆ ...พบว่า แต่ละบริษัทมีหนี้สินไม่ถึง 1 เท่า
DELTA P/E 16-17, P/BV 2.3, ปันผล 3-4%
KCE P/E 19, P/BV 4, ปันผล 3%
HANA P/E 10-11, P/BV 1.3-1.4, ปันผล 5-6%*
SVI P/E 23-24, P/BV 3+, ปันผล 2%
สำหรับ HANA นั้นไม่ฮาแน่ ที่เป็นบริษัทซึ่งถูกมองข้ามอย่างแรง ...ว่าแล้วก็เลยไปตรวจเช็ครายชื่อผู้ถือหุ้น ก็พบว่าคุณอนันต์ ระวีแสงสูรย์ เริ่มเก็บมาตั้งแต่ Update รายชื่อผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ปีก่อนประมาณ 5 ล้านหุ้น ปัจจุบันล่าสุดปิดบุ๊ค 15 มี.ค. เก็บเพิ่มอีกนิด 4 แสนหุ้น ...ทำให้พออุ่นใจได้หน่อยว่าเรายังพอได้ต้นทุนที่ไม่สูงนักเมื่อเทียบกับเขา
ภาพรวมอุตสาหกรรมปัจจุบันเป็นอย่างไร อ้างอิงกรุงศรี https://www.krungsri.com/bank/getmedia/b29dd4f2-a5af-4698-809b-c5d50a464961/Snapshot_IC.pdf.aspx ในภาพจะเห็นว่ากลุ่ม IC แผงวงจร ยกฐานขึ้นเรื่อยๆมาหลายปีจากความต้องการอุปกรณ์อิเล็กฯซึ่งเป็นหัวใจหลักของเครื่องกลทั้งหลายที่ใช้ไฟฟ้า ...คิดว่าธุรกิจนี้ยังเป็นอนาคตทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเองก็ต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีสมองกลยิ่งยวดขึ้นไปเรื่อยๆ
มุมมองส่วนตัว สำหรับ HANA ...ผมเชื่อว่าถ้าใครเข้าไปศึกษาธุรกิจให้ดี จะพบว่าเธอก็มีเสน่ห์ เพราะหนี้ที่เห็นส่วนใหญ่เป็นเจ้าหนี้ทางการค้า ธุรกิจยังเป็น Net Cash ที่มีเงินสด,รายการเทียบเท่าในมือราวๆ 1 หมื่นล้าน ในขณะที่ธุรกิจมีการขยายไซต์งานที่ลำพูนที่จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิต มีฐานผลิตที่อยุธยา กัมพูชา จีน หรือแม้แต่ในสหรัฐเองก็มีโรงงานด้วยเช่นกัน ระดับธรรมาภิบาลก็ไม่เป็นรองใคร ...รวมถึงความเชี่ยวชาญในฐานะที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนในระดับต้นๆของประเทศ Margin ของธุรกิจ 10-15% ถือว่าทำได้ไม่แย่เลยเมื่อเทียบกับอุตสหกรรมอื่นๆ
ปล. ด้วยราคาปัจจุบันผมเข้าไปแล้วช่วง 32-33 ใครตามระวังเจ็บตัวครับ